Post by Deleted on Jun 29, 2018 6:56:31 GMT
แมรี่ ซู...ตัวการแห่งหายนะของ Fiction [พร้อมแบบทดสอบ]
1. แมรี่ ซู คืออะไร?
“แมรี่ ซู” เป็นศัพท์คำหนึ่งในการวิจารณ์วรรณกรรม มักปรากฏอยู่ในวรรณกรรมประเภท Fiction (วรรณกรรมที่เป็นเรื่องแต่ง) แม้สำหรับคนไทยส่วนใหญ่คำ ๆนี้อาจจะเป็นคำที่ฟังไม่คุ้นหู แต่แมรี่ ซูนั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทีเดียวในแวดวงวรรณกรรมของต่างประเทศ
แมรี่ ซู หมายถึง ตัวละครที่มีลักษณะอุดมคติ กล่าวคือ เป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเติมเต็มความรู้สึก ความฝัน หรือจินตนาการบางอย่างของผู้เขียนและผู้อ่าน โดยไม่คำนึงถึงหลักเหตุผลและความเป็นจริงหลายประการ พูดให้ง่ายคือ ตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นตามที่ผู้เขียนต้องการ โดยที่ผู้เขียนไม่ได้คำนึงว่าลักษณะหรือนิสัยหลาย ๆอย่างของตัวละครที่ตนสร้างขึ้นนั้นควรจะมีข้อจำกัด หรือขัดกับหลักความเป็นจริงอย่างไร
ดังนั้น ตัวละครแมรี่ ซู จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Fiction เรื่องหนึ่ง ๆขาดความสมจริง เนื่องจากเมื่อนักเขียนแต่งให้ตัวละครเป็นอย่างหนึ่งหรือทำอย่างหนึ่งเพียงเพราะว่าตนต้องการเช่นนั้น แต่กลับไม่สามารถหาเหตุผลมารองรับได้ ก็จะทำให้คาแร็คเตอร์ของตัวละครหรือเรื่องราวขัดกันเอง และที่ร้ายกว่านั้น ตัวละครแมรี่ ซูมักจะขาดความเป็น “มนุษย์” กล่าวคือ เป็นตัวละครที่มีอยู่จริงได้ก็แต่ในจินตนาการเท่านั้น ไม่สามารถเป็นจริงได้ในโลกจริง ๆ ทำให้ผู้อ่านไม่รู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ในตัวละครตัวนั้น เนื่องจากตัวละครนั้นไม่มีข้อจำกัดบางประการที่สมควรจะมีหากเขาหรือหล่อนเป็นมนุษย์จริง ๆนั่นเอง
และบางครั้ง ตัวละครที่ผู้แต่งพยายามสร้างให้เลิศเลอเพอร์เฟ็คที่สุด เพื่อหวังจะให้ผู้อ่านเกิดความชื่นชอบในตัวละครตัวนั้น แต่ผลที่ได้รับกลับออกมาในทางตรงกันข้าม กล่าวคือ แทนที่ผู้อ่านจะรู้สึกชอบ กลับกลายเป็นว่าผู้อ่านกลับรู้สึกหมั่นไส้ตัวละครตัวนั้นแทนซะงั้น...
แมรี่ ซูนี่จึงถือเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสพอสมควรในแวดวงการวิจารณ์วรรณกรรม เพราะการจะวิจารณ์ว่าตัวละครใดเป็นแมรี่ ซูนั้นต้องอาศัยการพิจารณาอย่างรอบคอบที่สุด และไม่ใช่เพียงอ่านแค่ตอนเดียวก็ตัดสินแล้วว่าตัวละครนั้นเป็นแมรี่ ซู แต่จะต้องอาศัยการค่อย ๆอ่าน ค่อย ๆทำความรู้จักกับตัวละครนั้นไปเรื่อย ๆ แล้วเมื่อได้ข้อมูลมากพอแล้วก็จะสามารถพิจารณาได้ค่ะว่าตัวละครตัวนั้นจัดว่าเป็นแมรี่ ซูหรือไม่
แต่พูดมาเพียงเท่านี้อาจจะทำให้ไม่เห็นภาพของแมรี่ ซู ได้ชัดเจนนัก ในหัวข้อต่อไปเราจะกล่าวถึงตัวละครแมรี่ ซูหลาย ๆลักษณะค่ะ หวังว่าจะทำให้เห็นภาพตามได้มากขึ้น
2. ตัวอย่างตัวละครแบบแมรี่ ซู
ความจริงแล้ว ลักษณะที่เป็นแมรี่ ซู มีมากมายหลายลักษณะ และตัวละครที่เป็นแมรี่ ซูนั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีครบทุกลักษณะของแมรี่ ซู นะคะ แต่แค่ลักษณะเพียงไม่กี่ประการก็ทำให้ตัวละครตัวนั้นสามารถกลายเป็นแมรี่ ซูได้ค่ะ
อนึ่ง ตัวอย่างข้างล่างนี้เพียงแต่ยกแมรี่ ซูที่เด่น ๆและมักจะพบบ่อยมาให้เห็นเป็นตัวอย่างเท่านั้น นอกจากนี้ ไม่ได้หมายความว่าตัวละครจะต้องมีลักษณะแบบนี้เป๊ะ ๆ อาจจะมีตรงบ้างเล็กน้อย หรืออาจจะมีลักษณะตรงกับหลายข้อรวมกันได้ เช่น มีลักษณะแบบข้อ 2.1 นิดหน่อยและ ข้อ 2.3 อีกนิดนึง เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็นแมรี่ ซูแล้วค่ะ
2.1 เทพจุติ
ตัวละครแบบนี้จะเป็นตัวละครที่สวย หล่อ เก่ง ฉลาด สมบูรณ์พร้อม เรียกว่าได้เขาหรือหล่อนเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ฟ้าประทานเลยทีเดียว ถ้าเป็นผู้ชายมันก็จะหล่อมาก อาจจะเป็นหนุ่มป๊อปของโรงเรียน หรือเป็นแวมไพร์หนุ่มรูปหล่อที่ใครเห็นก็ต้องหลงใหลแต่แรกพบ แถมยังเก่งมาก อาจจะเรียนเก่งติดท็อป 1 ของชั้นตลอด แถมยังเป็นนักกีฬาโรงเรียนอีก เรียกว่าพี่แกเก่งเพอร์เฟ็คสุดยิดไปซะทุกด้านจริง ๆน่าเอามาทำพันธุ์โคตร ๆ หรือถ้าเป็นผู้หญิงก็ในทำนองเดียวกันค่ะ อาจจะสวย เลิศ ไม่มีข้อตำหนิ ไม่ว่าใครเป็นอันต้องละลายตายไปเลยเมื่อได้เห็นชี
นอกจากนี้ถ้าเป็นแนวบู๊ ๆหรือนิยายแฟนตาซีที่ต้องมีฉากสู้รบตบมือกัน เขาหรือหล่อนจะเก่งมาก อาจจะได้รับการยกย่องให้เป็น จตุรเทพแห่งยุค แห่งโลก แห่งจักรวาล อะไรก็ว่าไป ปัญหาคือบทมันจะเสียท่าก็เสียท่าง่ายจนงง บทจะพลิกกลับมาชนะก็ชนะแบบคนอ่านงงเหมือนกัน(ว่าทำไมคู่ต่อสู้ที่ตะกี้มันเก่ง ๆอยู่ดี ๆกลับอ่อนไปแบบปัจจุบันทันด่วนซะงั้น หรือไม่งั้นก็อยู่ดีๆ เขาหรือหล่อนสามารถปลุกพลังที่หลบซ่อนอยู่จนตื่น แล้วใช้พลังอันมหาศาลนั้นพัดคู่ต่อสู้จนปลิวไปหรือง่อยกระรอกหมดสภาพ(เออ พลังอะไรหนอมันช่างรู้งาน ตื่นมาได้จังหวะทู๊กที)
2.2 กากบรม แต่!!
แมรี่ ซูนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นตัวละครที่เก่ง สวย หล่อ สมบูรณ์แบบเสมอไป พวกนางเอกนิยายรักหลายเรื่องที่คนแต่งบรรยายซะจนไม่มีอะไรดีเล้ย สวยก็ไม่สวย เรียนก็โหลยโท่ย ซุ่มซ่ามก็ซุ่มซ่าม พ่อไม่เอา แม่ไม่สน เพื่อนไม่คบ เรียกว่าชีวิตไม่มีอะไรดีสักอย่างเลย แต่อยู่ดี ๆราวกับบุญจากสวรรค์ชั้นไหนไม่รู้หล่นทับ ถึงได้มีหนุ่มสุดหล่อหน้าใสกิ๊งมาตกหลุมรักซะนี่ ที่สำคัญคือ ไอ้หนุ่มสุดหล่อลากดินราวเทพบุตรนั่นมันจะไม่ได้มาหลงรักชีแค่คนเดียวน่ะซี้ มันจะมากันเป็นแบบแพ็คเกจเลยทีเดียว ทำนองว่า กลุ่มจตุรเทพหนุ่มป๊อปแห่งโรงเรียน อยู่ดี ๆก็เกิดแจ็คพ็อตมาตกหลุมรักสาวคนเดียวกัน จนถึงกับเกิดศึกชิงนางขึ้น (แหม ถ้ามีหนุ่มรูปหล่อมาหลงรักแค่นายเดียว นางเอกของเราก็เลือกง่ายสิคะ เรื่องจะจบเร็วเกินไป ผู้แต่งหลายคนเห็นจะไม่งามจึงต้องหามารหัวใจ มารหัวขน มือที่สาม มาทำให้ความรักนั้นมีอุปสรรคเสียหน่อย ให้มีตุ้ม ๆต่อม ๆลุ้น ๆกันบ้าง)
และบางครั้งแมรี่ ซูประเภทนี้จะต้องมีเพื่อนสนิทหรือรุ่นพี่แสนดีที่แอบหลงรักชีข้างเดียวมานานแล้ว แทคแคร์ ดูแล ใส่ใจทุกอย่าง แต่แค่เห็นก็รู้แล้วว่าพวกเอ็งน่ะราศีพระเอกไม่จับ พระเอกตัวจริงน่ะมันต้องมาทีหลัง เขาต้องเป็นหนุ่มเพลย์บอย สุดหล่อ สุดป๊อบ ที่มาแง่ง ๆกับนางเอกในตอนแรก แต่ตอนหลังความเกลียดได้งอกงามกลายเป็นความรัก ทำให้นางเอกทิ้งเพื่อนหรือพี่ชายผู้แสนดีไปรักกับพระเอกเฮี้ย ๆแต่หล่อเริ่ดในตอนจบ (จึงเกิดคำถามโลกแตกทุกวันนี้ว่า หรือผู้หญิงจะชอบคนเลว?)
หรือในนิยายต่อสู้และการ์ตูนหลาย ๆเรื่อง ตัวละครบางตัวที่ไม่ค่อยเก่งหรือติดไปในทางอ่อนด้วยซ้ำ สมมุติว่ามีพลังลมปราณระดับ 10 แทบจะเทียบเท่าคนธรรมดา แต่มีเหตุให้ต้องต่อสู้กับตัวละครระดับเทพ มีพลังลมปราณระดับ 99999999 ชั้นบรรยากาศ คนอ่านก็ลุ้นสิคะงานนี้ว่าตัวเอกของเราจะไปรอดหรือ แต่กระนั้น ตัวเอกก็ยังสามารถเอาชนะไอ้ตัวละครเทพนั่นได้ อาจจะใช้พลังมิตรภาพเข้าสู้ พลังเฮือกสุดท้าย พลังตอนใกล้ตาย อะไรก็ว่าป๊าย...
2.3 สกิลนี้ท่านได้รับแต่ใดมา?
ตัวละครแมรี่ ซูหลายตัวจะมีความสามารถบางอย่างที่ไม่น่าจะมีได้ หากพิจารณาตามหลักความเป็นจริง เช่นพระเอกที่โคตรจะคุณหนู รูปหล่อพ่อรวย ขนาดบ้านทรายทองยังใหญ่ไม่เท่าห้องน้ำบ้านมัน จะไปไหนก็มีรถสุดหรูไปรับไปส่งตลอด จะเอาอะไรก็มีคนใช้ประเคนให้ทุกอย่างแค่กระดิกนิ้วสั่ง เรียกได้ว่าอะไรจะงอมืองอตีนได้ปานนั้น แต่อยู่ดี ๆ เกิดเหตุนางเอกถูกแก๊งค์มาเฟียลักพาตัวไป พระเอกของเราก็ต้องรีบไปช่วยตามสเต็ป แต่เอ่อ...แทนที่มันจะถูกลูกกระจ๊อกมาเฟียยิงตายตั้งแต่ยังไม่ถึงประตูทางเข้า แต่ไหงอยู่ ๆมันก็เก่งบู๊ขึ้นมาประหนึ่งไปฝึกที่สำนักวัดเส้าหลิน กระโดดต่อยตีเตะคนร้ายจนง่อยกระรอกหมดยกแก๊งค์
ลักษณะนี้ไม่ได้หมายถึงแต่ลักษณะทางด้านร่างกายเท่านั้น ยังหมายรวมถึงความสามารถด้านอื่น ๆที่ไม่รู้ว่าเขาหรือหล่อนมีขึ้นมาได้อย่างไร เช่นเรียนสายศิลป์แต่เก่งฟิสิกส์ระดับเทพขนาดสายวิทย์ยังอาย หรือเด็กอายุ 12 ที่ฉลาดยิ่งกว่านักเรียนปริญญาเอก เป็นต้น
** ความจริงลักษณะของแมรี่ ซูยังมีอีกมาก ไม่สามารถจะเอามาตั้งเป็นตัวอย่างได้ทั้งหมด แต่เราคิดว่าแบบทดสอบแมรี่ ซูที่แนบมาในตอนท้ายนี้จะช่วยให้คุณรู้จักแมรี่ ซูดีขึ้น(น่าจะดีกว่าให้เรายกตัวอย่างด้วยซ้ำ) เพราะในแบบทดสอบก็รวมทุกลักษณะของแมรี่ ซูไว้อยู่แล้ว เราจึงค่อนข้างแน่ใจว่าถ้าได้ลองทำ ก็จะเข้าใจลักษณะของแมรี่ ซูได้มากขึ้นค่ะ
3. ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่น่าเป็นไปได้!
หลาย ๆคนอาจจะมองว่าถึงหลาย ๆอย่างในตัวละครอาจจะดูเว่อร์และไม่สมจริง ตัวอย่างเช่น ตัวละครอายุน้อยแต่จีเนียสระดับไอส์ไตน์ แน่นอนลักษณะนี้เป็นลักษณะของแมรี่ ซู แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่อัจฉริยะระดับนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ๆบนโลก กระนั้น การที่ตัวละครมีลักษณะที่ “ไม่น่าจะเป็นไปได้” ในมนุษย์ทั่วไปนั่นเอง ที่ทำให้ตัวละครตัวนั้นมีลักษณะแบบแมรี่ ซู เนื่องจากแมรี่ ซูคือตัวละครที่ถูกสร้างให้มีความโดดเด่น หรือมีความพิเศษ แตกต่างจากคนทั่วไป แม้จะไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้ แต่ยิ่งความเป็นไปได้มีน้อยเท่าไหร่ ความเป็นแมรี่ ซูก็จะยิ่งขยับสูงขึ้นเท่านั้น
จากที่กล่าวไว้แล้วว่า แมรี่ ซูต้องอาศัยการพิจารณาจากหลาย ๆด้าน หลาย ๆลักษณะของตัวละครประกอบกัน จึงจะตัดสินได้ว่าตัวละครนั้นเป็นแมรี่ ซูหรือไม่ ดังนั้นลักษณะทุกประการที่ฟังดูแล้ว “ไม่น่าเป็นไปได้” จะถูก “บวก”คะแนนแมรี่ ซูเข้าไปก่อนเสมอค่ะ แต่หากตัวละครตัวนั้นมีลักษณะอื่นที่ “ติดลบแมรี่ ซู” คะแนนที่ถูกบวกก็จะถูกดึงลงมาเองด้วยประการฉะนี้
4. ทำอย่างไรจึงจะทำให้ตัวละครไม่กลายเป็นแมรี่ ซู?
คำตอบนั้นมีเพียงคำตอบเดียวค่ะ นั่นคือสิ่งทีเป็น “ข้อจำกัด” หรือ “จุดด้อย” ของตัวละครตัวนั้น และข้อจำกัดนั้นต้องเป็นข้อจำกัดที่ทำให้ตัวละครเดือดร้อนจริง ๆนะคะ ถ้าอย่างนางเอกที่สวย เก่ง ฉลาด แต่ห่วยศิลปะบรม แบบนี้ไม่ถือว่าเป็น “ติดลบแมรี่ ซู” ค่ะ เพราะว่าถึงชีจะห่วยศิลปะแค่ไหน ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของชีตกต่ำลงอะไรมากมาย
ข้อเสียในที่นี้รวมถึงลักษณะที่ทำให้ตัวละครดูแย่หรือน่ารังเกียจในสายตาของคนทั่วไปด้วย อย่างเช่น นางเอกที่สวยมากแต่ประกอบอาชีพเป็นโสเภณี ตัวละครก็จะได้รับการติดลบแมรี่ ซูค่ะ เพราะสำหรับคนทั่ว ๆไปมองว่าโสเภณีเป็นอะไรที่ออกจะน่ารังเกียจเสียด้วยซ้ำ แถมคนปกติก็คงไม่มีใครตั้งสเป็คว่าอยากได้โสเภณีมาเป็นแฟนหรอกมั้ง และน้อยเรื่องนักที่จะนำผู้หญิงที่เป็นโสเภณีมาเป็นตัวละครหลักของเรื่อง (แต่ในทางกลับกัน ตัวละครชายประเภทเพลย์บอยไม่นับว่าเป็นติดลบแมรี่ ซูนะคะ เพราะว่าตัวละครประเภทนี้ถูกสร้างให้มีลักษณะที่น่าหลงใหลเสียด้วยซ้ำ เป็นลักษณะที่ผู้หญิงหลายต่อหลายคนใฝ่ฝันและรุมตอมอยากจะได้มาครอบครอง ดังนั้น ตัวละครประเภทเพลย์บอยจึงกลับกลายเป็นว่าเป็นแมรี่ ซูไปเสียค่ะ)
ถ้าให้ยกตัวอย่างแบบเห็นชัด ๆเลย ก็คือคนบางคนที่เก่งฉลาด จีเนียสในด้านใดด้านหนึ่งมาก ๆ เรียกได้ว่าเป็นอัจฉะริยะแต่กำเนิด เช่นคนที่เก่งคอมพิวเตอร์มาก ๆระดับอัจฉริยะ หรือสามารถคำนวณเลขที่แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ยังต้องใช้เวลาเป็นวันในหัวได้ แต่ปัญหาคือ คนประเภทนี้มักจะเป็นออทิสติกอ่อน ๆค่ะ เพราะพวกออทิสติกอ่อน ๆนี้จะมีลักษณะที่เก่งไปในทางด้านใดด้านหนึ่งมาก ๆ เรียกได้ว่าเก่งระดับอัจฉริยะของอัจฉริยะ แต่กระนั้น คนประเภทนี้จะบกพร่องอย่างรุนแรงในด้านอื่น ๆ เช่นการสื่อสาร การใช้ชีวิตประจำวัน หรือทักษะพื้นฐานในด้านอื่น ๆที่คนทั่วไปมีกัน ดังนั้นเขาจึงต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เพราะไม่สามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติได้นั่นเอง
ดังนั้น การจะทำให้ตัวละครไม่เป็นแมรี่ ซู ขั้นแรกคือเราจะต้องพิจารณาถึงหลักเหตุผลและหลักความเป็นจริงเสมอก่อนจะสร้างตัวละครใด ๆขึ้นมา และเนื่องจากแมรี่ ซูเป็นตัวละครแบบอุดมคติ ตัวละครเช่นนี้จึงมักจะลืมนึกถึงข้อจำกัดแบบมนุษย์ไป ดังนั้น หากผู้แต่งคนใดสร้างข้อจำกัดของตัวละครขึ้นมา และยิ่งข้อจำกัดนั้นทำให้ตัวละครเดือดร้อนหรือดูแย่ลงเพียงใด ตัวละครตัวนั้นก็จะได้ติดลบแมรี่ ซูมากขึ้น เหมือนกับตัวอย่างที่ยกไปข้างบน หากตัวละครจีเนียสแต่เป็นออทิสติกอ่อน ๆ แม้ความจีเนียสขนาดนั้นจะต้องได้รับการบวกคะแนนแมรี่ซูเข้าไปอย่างแน่นอน แต่กระนั้นความที่ตัวละครเป็นออทิสติก ก็สามารถทำให้คะแนนที่ได้รับการบวกถูกติดลบออกมา และส่งผลให้ตัวละครมีความพอดี ไม่กลายเป็นแมรี่ ซูในที่สุด
พูดให้ง่ายขึ้นก็คือ ยิ่งตัวละครมีความสมจริงและเป็นมนุษย์เพียงใด ตัวละครตัวนั้นก็จะปลอดภัยจากความเป็นแมรี่ ซูมากขึ้นเพียงนั้นค่ะ
ขอยกอีกตัวอย่างสำหรับเรื่องเกี่ยวกับการต่อสู้ ถ้าพระเอกหรือนางเอกมีความสามารถในด้านใดด้านหนึ่ง เช่น มีพลังเรียกสายฟ้าฟาดอันทรงพลานุภาพได้ แต่จะสามารถใช้พลังนี้ได้ก็ต่อเมื่อมีเมฆครึ้มหรือฝนตกเท่านั้น ถ้าฟ้าสว่างไร้เมฆ ตัวละครตัวนี้ก็จะอ่อนด๋อยไปในบัดดล เป็นต้น ข้อจำกัดทางความสามารถเหล่านี้เองที่ทำให้ตัวละครลดความเป็นแมรี่ ซูลงได้ค่ะ
5. การแสดงความสามารถของตัวละคร
ตัวละครแมรี่ ซูส่วนใหญ่เกิดจากการที่ผู้แต่งมักจะบรรยายตัวละครตัวนั้นไว้ว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ยกตัวอย่างเช่น บรรยายว่าตัวละครสวย เก่ง ฉลาด อัจฉริยะ สอบได้ที่หนึ่ง หรือปราบข้าศึกศัตรูมานับพันนับหมื่น แต่กระนั้น หากอ่านไปเรื่อย ๆ คนอ่านกลับไม่รู้สึกว่าตัวละครเคยแสดงความฉลาดออกมาอย่างไรและตอนไหน กล่าวคือ ถ้าคนแต่งไม่บรรยายว่ามันเก่ง ตูก็ไม่รู้ว่ามันเก่งเลยนะเนี่ย อะไรทำนองนั้นค่ะ หรือพระเอกที่ฉลาดมาก ไอคิวสูงเทียมฟ้า เรียนเก่งเป็นที่หนึ่งระดับประเทศ ทำให้ผู้อ่านรู้ว่าตัวละครฉลาด แต่หากตัดคำบรรยายดังกล่าวนี้ออกไป กลายเป็นว่าคนอ่านจะไม่รู้เลยว่าตัวละครตัวนี้ฉลาด แบบนี้ถือเป็นการทำให้ตัวละครมีความสามารถโดยใช้การบรรยายค่ะ
หนังสือดัง ๆหลายเรื่อง ไม่ได้แต่งให้ผู้อ่านรู้สึกว่าตัวละครตัวนั้นเก่งโดยการบรรยายลงไปในเนื้อเรื่อง(การบรรยายในที่นี้หมายรวมถึงบทสนทนาของตัวละครด้วย เช่น A บอก B ว่าพระเอกน่ะเก่งมากเลยนะ มีพลังระดับ 99 ชั้นบรรยากาศ แถมตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครเอาชนะมันได้เลยสักคนด้วย เทพโคตร ๆ) แต่นักเขียนอาชีพหลาย ๆคนจะแสดงให้ผู้อ่านเห็นได้เองว่าตัวละครตัวนั้นเก่งหรือไม่ เช่น เวลาต่อสู้ ตัวละครตัวนั้นสามารถเอาชนะศัตรูได้ด้วยไหวพริบปฏิภาณของตัวเองล้วน ๆ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าเออ ตัวละครตัวนี้มันฉลาดดีแฮะ โดยที่คนเขียนไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงความฉลาดของตัวละครเลยแม้แต่คำเดียว
6. ตัวละครที่ดีคือตัวละครที่มีความเป็นแมรี่ ซูอ่อน ๆ!
แม้ในขณะนี้แมรี่ ซูจะเป็นที่น่ารังเกียจและได้รับการแอนตี้อย่างมากจากผู้อ่านและนักวิจารณ์วรรณกรรมทั่วโลก แต่กระนั้นทุกคนก็ต้องยอมรับว่าไม่ว่าตัวละครใด ๆก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะไม่มีลักษณะของแมรี่ ซูเลยได้ เพราะแมรี่ ซูคือลักษณะที่ทำให้ตัวละครมีความพิเศษหรือมีความโดดเด่น หากตัวละครนั้นไม่มีลักษณะของแมรี่ ซูเลยแม้แต่ประการเดียว ตัวละครตัวนั้นก็คงจะเป็นตัวละครที่หน้าตาทุเรศ หน้าบวม ปากบาน ผิวดำ อ้วนแผละ น้ำมูกยืด และกากด๋อยไร้ความสามารถใด ๆทั้งสิ้น(ยกตัวอย่างเช่น ซอมบี้ที่แสนน่ารักใน RE นี่แหละค่ะ ที่เป็นตัวละครที่ไม่ใช่แมรี่ ซูแม้แต่นิดเดียว แต่คงไม่มีใครอยากแต่งซอมบี้เป็นพระเอกหรือนางเอกหรอกกระมัง)
ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตัวละครที่เป็นตัวหลักจะต้องมีลักษณะที่ดีหรือพิเศษประการใดประการหนึ่งอยู่แล้ว แต่ตามที่กล่าวไว้ในหัวข้อบน ๆ หากตัวละครตัวนั้นไม่มีข้อจำกัดหรือข้อเสียที่ทำให้ตัวละครดูกากลงหรือแย่ลงได้ ตัวละครตัวนั้นก็จะได้รับการบวกคะแนนแมรี่ ซูไปเรื่อย ๆ แต่หากตัวละครตัวนั้นมีจุดเด่นประการหนึ่ง แต่มีข้อจำกัดสำคัญอีกประการหนึ่ง คะแนนก็จะถูกบวกและติดลบกันจนความเป็นแมรี่ ซูนั้นอ่อนลงไปเอง
สรุปคือ ยิ่งระดับความเป็นแมรี่ ซูอ่อนเท่าไหร่ ตัวละครนั้นก็จะถูกจัดว่ามีความสมจริงและได้รับการยอมรับมากขึ้นเท่านั้นค่ะ
7. ตัดเซียนกันด้วยแมรี่ ซู
ปัจจุบัน แมรี่ ซูถือเป็นหัวข้อที่ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง และเป็นประเด็นแรก ๆที่นักวิจารณ์ระดับเขี้ยว ๆจะยกมาโจมตีหนังสือเรื่องหนึ่ง ๆ และหากหนังสือเรื่องใดถูกโจมตีว่าเป็นแมรี่ ซูมากเท่าไหร่ หนังสือเรื่องนั้นก็จะดูด้อยคุณภาพลงไปมากเท่านั้น เพราะนั่นหมายถึงคนแต่งไม่มีความเป็นมืออาชีพ ไม่สามารถสรรสร้างผลงานที่มีความสมจริงได้ หากเพียงสักแต่แต่งไปเพื่อสนองความต้องการของตนเองเท่านั้น
แมรี่ ซู จึงได้เป็นเรื่องที่นำมาตัดเซียนนักเขียนระดับมืออาชีพมานักต่อนักแล้ว เพราะการที่จะสร้างตัวละครหรือเนื้อเรื่องที่มีความสมเหตุสมผล ไม่ขัดกับหลักความเป็นจริงได้นั้นเป็นเรื่องที่นับว่ายากมากทีเดียว เนื่องจากผู้แต่งจะต้องมีความรู้รอบตัวสูง มีความคิดรอบคอบ และมีความระมัดระวังอย่างยิ่ง(หมายถึงแม้แต่ในเรื่องเล็กน้อยก็ไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดหรือความไม่สมจริงได้ จุดนี้เป็นจุดที่แม้แต่นักเขียนดัง ๆระดับโลกหลายคนก็ยังมีปัญหาค่ะ)
แมรี่ ซู จึงเป็นเครื่องมือที่จะวัดว่านักเขียนคนนั้นมีความสามารถมากน้อยเพียงใด ยกตัวอย่างเช่น นักเขียนสองคนอาจจะแต่งเรื่องที่มีแนวเรื่องคล้าย ๆกันออกมาสองเล่ม แต่นักเขียนคนหนึ่งสามารถแต่งเรื่องได้มีความสมจริงกว่า ผู้อ่านอ่านแล้วไม่รู้สึกติดขัดกับเนื้อเรื่องหรือตัวละคร และสามารถหาเหตุผลมารองรับการกระทำต่าง ๆของตัวละครได้ ในขณะที่ผู้เขียนอีกคนไม่ได้คำนึงถึงในแง่นี้ ผู้เขียนคนแรกก็จะได้รับการยกย่องว่ามีความสามารถจริง และย่อมมีความสามารถมากกว่าผู้เขียนคนที่สองด้วยเหตุนี้เอง
8. ทิ้งท้าย
เรื่องแมรี่ ซูนี้ถือเป็นการวิจารณ์วรรณกรรมในขั้นสูง และเป็นเรื่องที่นับว่าเครียดพอสมควรทีเดียวค่ะ เราจึงไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่ในตอนนี้เราคิดว่า หลาย ๆคนในบอร์ดก็มีความสามารถในการแต่งฟิคระดับหนึ่งแล้ว การจะพัฒนาฝีมือตัวเองแบบก้าวกระโดดนั้นก็มีแต่เรื่องแมรี่ ซูนี่แหละ ที่หากใครสามารถทำได้สำเร็จ(คือทำให้ตัวละครของตัวเองมีความเป็นแมรี่ ซูน้อยที่สุดได้) คน ๆนั้นก็จะถือว่ามีฝีมือในการแต่งนิยายระดับสูงแล้วค่ะ เนื่องจากหากตัวละครของเรามีความสมเหตุสมผล ก็ย่อมจะส่งผลให้เนื้อเรื่องมีความสมเหตุสมผลตามไปด้วย จุดด้อยในนิยายของเราก็จะหายไปมากโขทีเดียว และการที่ตัวละครมีความเป็นแมรี่ ซูอ่อน ๆ กล่าวคือมีทั้งข้อโดดเด่น และข้อจำกัดที่ทำให้ตัวละครเดือดร้อน เมื่อถัว ๆกันแล้วทำให้คนอ่านสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของตัวละคร ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าตัวละครมีข้อเสีย (หรือในกรณีเรื่องเกี่ยวกับการต่อสู้ หากตัวละครมีข้อจำกัดในความสามารถ ก็จะทำให้คนอ่านรู้สึกลุ้นตามตัวละครไปด้วยมากขึ้น นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ตัวละครต้องใช้ไหวพริบในการพลิกสถานการณ์ที่เป็นข้อจำกัดนั้น) ก็ย่อมจะทำให้เรื่องของเรามีสีสันมากขึ้นแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าทุก ๆคนจำเป็นต้องจริงจังกับเรื่องนี้นะคะ เพราะสำหรับหลาย ๆคนในบอร์ดที่แค่อยากจะแต่งฟิคเพื่อความสนุกสนานหรือเพื่อคลายเครียด ไม่ได้อยากจะแต่งฟิคเอาจริงเอาจังชนิดจะส่งสำนักพิมพ์ให้ได้ เราคิดว่าหากมีความสุขกับการแต่ง และคนอ่านมีความสุขที่ได้อ่าน ก็ถือว่าโอเคแล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้องเครียดกับเรื่องนี้มากก็ได้(แค่นี้วัน ๆก็เครียดพอแล้วใช่มั้ย 555+) ส่วนสำหรับคนที่อยากจะพัฒนาฝีมือตัวเองแบบจริงจัง เราคิดว่าเรื่องแมรี่ ซูนี้เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องเก็บไว้พิจารณาอย่างยิ่งค่ะ
และของแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับแนวฟิคแต่ละเรื่องด้วย อย่างฟิคแนวรั่ว ๆหรือตลกโปกฮา อย่างเช่น(ขอยกตัวอย่างนะคะ) เรื่องทรายเล่นหินของพี่เบียร์ เป็นต้น แนวเรื่องประเภทนี้เป็นเรื่องที่เน้นเอามันส์กับเอาฮาเป็นหลักอยู่แล้ว ขืนต้องคิดแต่จะเอาความสมจริง เรื่องก็คงจะเปลี่ยนไปอีกแนวหนึ่งเลยน่ะสิคะ 5555+(อย่าน้า ฮา ๆแบบนี้ดีแล้ว หนูชอบ)
ในทางกลับกัน ฟิคแนวอื่น ๆนอกเหนือจากแนวตลก โดยเฉพาะฟิคที่ต้องอาศัยความสมจริง เช่นเรื่องแนวสืบสวนสอบสวน แนววิทยาศาสตร์ หรือแนวไบโอนี่ก็นับเป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องอาศัยความสมจริงเช่นกัน การจะแต่งเรื่องแนวนี้จึงจำเป็นต้องคิดถึงความเป็นจริงประกอบด้วยเสมอ ๆ เนื่องจากในเมื่อแนวเรื่องเป็นแนวเรื่องที่ต้องอาศัยความสมจริง แต่เนื้อเรื่องขัดกับความเป็นจริง ก็ย่อมจะทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกขัดได้ค่ะ
ถ้าถามเราว่าเรื่องไหนที่ยากที่จะแต่งไม่ให้เป็นแมรี่ ซูที่สุด ก็เห็นจะเป็นเรื่องแฟนตาซีนี่แหละค่ะ เพราะขึ้นชื่อว่าแฟนตาซี ก็ต้องมีความเว่อร์หรือความเหนือจริงบ้างอยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงนับถือคนที่แต่งแนวแฟนตาซีแต่ไม่เป็นแมรี่ ซูได้นะคะ เพราะคนแต่งจะต้องแต่งตัวละครที่มีความเว่อร์เสี่ยงไปในทางแมรี่ ซูมาก ๆ มีความสามารถพิเศษแปลกประหลาดผิดมนุษย์มนา แต่ก็จำเป็นต้องสร้างข้อจำกัดหรือลักษณะหรือบุคลิกนิสัยของตัวละครให้มีความสมเหตุสมผลที่สุด ดังนั้นคนที่ทำแบบนี้ได้เราถือว่าเป็นนักเขียนที่เก่งมากค่ะ
ที่มาบทความ
www.thaibiohazard.com/forum/viewtopic.php?t=16978
1. แมรี่ ซู คืออะไร?
“แมรี่ ซู” เป็นศัพท์คำหนึ่งในการวิจารณ์วรรณกรรม มักปรากฏอยู่ในวรรณกรรมประเภท Fiction (วรรณกรรมที่เป็นเรื่องแต่ง) แม้สำหรับคนไทยส่วนใหญ่คำ ๆนี้อาจจะเป็นคำที่ฟังไม่คุ้นหู แต่แมรี่ ซูนั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทีเดียวในแวดวงวรรณกรรมของต่างประเทศ
แมรี่ ซู หมายถึง ตัวละครที่มีลักษณะอุดมคติ กล่าวคือ เป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเติมเต็มความรู้สึก ความฝัน หรือจินตนาการบางอย่างของผู้เขียนและผู้อ่าน โดยไม่คำนึงถึงหลักเหตุผลและความเป็นจริงหลายประการ พูดให้ง่ายคือ ตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นตามที่ผู้เขียนต้องการ โดยที่ผู้เขียนไม่ได้คำนึงว่าลักษณะหรือนิสัยหลาย ๆอย่างของตัวละครที่ตนสร้างขึ้นนั้นควรจะมีข้อจำกัด หรือขัดกับหลักความเป็นจริงอย่างไร
ดังนั้น ตัวละครแมรี่ ซู จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Fiction เรื่องหนึ่ง ๆขาดความสมจริง เนื่องจากเมื่อนักเขียนแต่งให้ตัวละครเป็นอย่างหนึ่งหรือทำอย่างหนึ่งเพียงเพราะว่าตนต้องการเช่นนั้น แต่กลับไม่สามารถหาเหตุผลมารองรับได้ ก็จะทำให้คาแร็คเตอร์ของตัวละครหรือเรื่องราวขัดกันเอง และที่ร้ายกว่านั้น ตัวละครแมรี่ ซูมักจะขาดความเป็น “มนุษย์” กล่าวคือ เป็นตัวละครที่มีอยู่จริงได้ก็แต่ในจินตนาการเท่านั้น ไม่สามารถเป็นจริงได้ในโลกจริง ๆ ทำให้ผู้อ่านไม่รู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ในตัวละครตัวนั้น เนื่องจากตัวละครนั้นไม่มีข้อจำกัดบางประการที่สมควรจะมีหากเขาหรือหล่อนเป็นมนุษย์จริง ๆนั่นเอง
และบางครั้ง ตัวละครที่ผู้แต่งพยายามสร้างให้เลิศเลอเพอร์เฟ็คที่สุด เพื่อหวังจะให้ผู้อ่านเกิดความชื่นชอบในตัวละครตัวนั้น แต่ผลที่ได้รับกลับออกมาในทางตรงกันข้าม กล่าวคือ แทนที่ผู้อ่านจะรู้สึกชอบ กลับกลายเป็นว่าผู้อ่านกลับรู้สึกหมั่นไส้ตัวละครตัวนั้นแทนซะงั้น...
แมรี่ ซูนี่จึงถือเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสพอสมควรในแวดวงการวิจารณ์วรรณกรรม เพราะการจะวิจารณ์ว่าตัวละครใดเป็นแมรี่ ซูนั้นต้องอาศัยการพิจารณาอย่างรอบคอบที่สุด และไม่ใช่เพียงอ่านแค่ตอนเดียวก็ตัดสินแล้วว่าตัวละครนั้นเป็นแมรี่ ซู แต่จะต้องอาศัยการค่อย ๆอ่าน ค่อย ๆทำความรู้จักกับตัวละครนั้นไปเรื่อย ๆ แล้วเมื่อได้ข้อมูลมากพอแล้วก็จะสามารถพิจารณาได้ค่ะว่าตัวละครตัวนั้นจัดว่าเป็นแมรี่ ซูหรือไม่
แต่พูดมาเพียงเท่านี้อาจจะทำให้ไม่เห็นภาพของแมรี่ ซู ได้ชัดเจนนัก ในหัวข้อต่อไปเราจะกล่าวถึงตัวละครแมรี่ ซูหลาย ๆลักษณะค่ะ หวังว่าจะทำให้เห็นภาพตามได้มากขึ้น
2. ตัวอย่างตัวละครแบบแมรี่ ซู
ความจริงแล้ว ลักษณะที่เป็นแมรี่ ซู มีมากมายหลายลักษณะ และตัวละครที่เป็นแมรี่ ซูนั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีครบทุกลักษณะของแมรี่ ซู นะคะ แต่แค่ลักษณะเพียงไม่กี่ประการก็ทำให้ตัวละครตัวนั้นสามารถกลายเป็นแมรี่ ซูได้ค่ะ
อนึ่ง ตัวอย่างข้างล่างนี้เพียงแต่ยกแมรี่ ซูที่เด่น ๆและมักจะพบบ่อยมาให้เห็นเป็นตัวอย่างเท่านั้น นอกจากนี้ ไม่ได้หมายความว่าตัวละครจะต้องมีลักษณะแบบนี้เป๊ะ ๆ อาจจะมีตรงบ้างเล็กน้อย หรืออาจจะมีลักษณะตรงกับหลายข้อรวมกันได้ เช่น มีลักษณะแบบข้อ 2.1 นิดหน่อยและ ข้อ 2.3 อีกนิดนึง เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็นแมรี่ ซูแล้วค่ะ
2.1 เทพจุติ
ตัวละครแบบนี้จะเป็นตัวละครที่สวย หล่อ เก่ง ฉลาด สมบูรณ์พร้อม เรียกว่าได้เขาหรือหล่อนเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ฟ้าประทานเลยทีเดียว ถ้าเป็นผู้ชายมันก็จะหล่อมาก อาจจะเป็นหนุ่มป๊อปของโรงเรียน หรือเป็นแวมไพร์หนุ่มรูปหล่อที่ใครเห็นก็ต้องหลงใหลแต่แรกพบ แถมยังเก่งมาก อาจจะเรียนเก่งติดท็อป 1 ของชั้นตลอด แถมยังเป็นนักกีฬาโรงเรียนอีก เรียกว่าพี่แกเก่งเพอร์เฟ็คสุดยิดไปซะทุกด้านจริง ๆน่าเอามาทำพันธุ์โคตร ๆ หรือถ้าเป็นผู้หญิงก็ในทำนองเดียวกันค่ะ อาจจะสวย เลิศ ไม่มีข้อตำหนิ ไม่ว่าใครเป็นอันต้องละลายตายไปเลยเมื่อได้เห็นชี
นอกจากนี้ถ้าเป็นแนวบู๊ ๆหรือนิยายแฟนตาซีที่ต้องมีฉากสู้รบตบมือกัน เขาหรือหล่อนจะเก่งมาก อาจจะได้รับการยกย่องให้เป็น จตุรเทพแห่งยุค แห่งโลก แห่งจักรวาล อะไรก็ว่าไป ปัญหาคือบทมันจะเสียท่าก็เสียท่าง่ายจนงง บทจะพลิกกลับมาชนะก็ชนะแบบคนอ่านงงเหมือนกัน(ว่าทำไมคู่ต่อสู้ที่ตะกี้มันเก่ง ๆอยู่ดี ๆกลับอ่อนไปแบบปัจจุบันทันด่วนซะงั้น หรือไม่งั้นก็อยู่ดีๆ เขาหรือหล่อนสามารถปลุกพลังที่หลบซ่อนอยู่จนตื่น แล้วใช้พลังอันมหาศาลนั้นพัดคู่ต่อสู้จนปลิวไปหรือง่อยกระรอกหมดสภาพ(เออ พลังอะไรหนอมันช่างรู้งาน ตื่นมาได้จังหวะทู๊กที)
2.2 กากบรม แต่!!
แมรี่ ซูนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นตัวละครที่เก่ง สวย หล่อ สมบูรณ์แบบเสมอไป พวกนางเอกนิยายรักหลายเรื่องที่คนแต่งบรรยายซะจนไม่มีอะไรดีเล้ย สวยก็ไม่สวย เรียนก็โหลยโท่ย ซุ่มซ่ามก็ซุ่มซ่าม พ่อไม่เอา แม่ไม่สน เพื่อนไม่คบ เรียกว่าชีวิตไม่มีอะไรดีสักอย่างเลย แต่อยู่ดี ๆราวกับบุญจากสวรรค์ชั้นไหนไม่รู้หล่นทับ ถึงได้มีหนุ่มสุดหล่อหน้าใสกิ๊งมาตกหลุมรักซะนี่ ที่สำคัญคือ ไอ้หนุ่มสุดหล่อลากดินราวเทพบุตรนั่นมันจะไม่ได้มาหลงรักชีแค่คนเดียวน่ะซี้ มันจะมากันเป็นแบบแพ็คเกจเลยทีเดียว ทำนองว่า กลุ่มจตุรเทพหนุ่มป๊อปแห่งโรงเรียน อยู่ดี ๆก็เกิดแจ็คพ็อตมาตกหลุมรักสาวคนเดียวกัน จนถึงกับเกิดศึกชิงนางขึ้น (แหม ถ้ามีหนุ่มรูปหล่อมาหลงรักแค่นายเดียว นางเอกของเราก็เลือกง่ายสิคะ เรื่องจะจบเร็วเกินไป ผู้แต่งหลายคนเห็นจะไม่งามจึงต้องหามารหัวใจ มารหัวขน มือที่สาม มาทำให้ความรักนั้นมีอุปสรรคเสียหน่อย ให้มีตุ้ม ๆต่อม ๆลุ้น ๆกันบ้าง)
และบางครั้งแมรี่ ซูประเภทนี้จะต้องมีเพื่อนสนิทหรือรุ่นพี่แสนดีที่แอบหลงรักชีข้างเดียวมานานแล้ว แทคแคร์ ดูแล ใส่ใจทุกอย่าง แต่แค่เห็นก็รู้แล้วว่าพวกเอ็งน่ะราศีพระเอกไม่จับ พระเอกตัวจริงน่ะมันต้องมาทีหลัง เขาต้องเป็นหนุ่มเพลย์บอย สุดหล่อ สุดป๊อบ ที่มาแง่ง ๆกับนางเอกในตอนแรก แต่ตอนหลังความเกลียดได้งอกงามกลายเป็นความรัก ทำให้นางเอกทิ้งเพื่อนหรือพี่ชายผู้แสนดีไปรักกับพระเอกเฮี้ย ๆแต่หล่อเริ่ดในตอนจบ (จึงเกิดคำถามโลกแตกทุกวันนี้ว่า หรือผู้หญิงจะชอบคนเลว?)
หรือในนิยายต่อสู้และการ์ตูนหลาย ๆเรื่อง ตัวละครบางตัวที่ไม่ค่อยเก่งหรือติดไปในทางอ่อนด้วยซ้ำ สมมุติว่ามีพลังลมปราณระดับ 10 แทบจะเทียบเท่าคนธรรมดา แต่มีเหตุให้ต้องต่อสู้กับตัวละครระดับเทพ มีพลังลมปราณระดับ 99999999 ชั้นบรรยากาศ คนอ่านก็ลุ้นสิคะงานนี้ว่าตัวเอกของเราจะไปรอดหรือ แต่กระนั้น ตัวเอกก็ยังสามารถเอาชนะไอ้ตัวละครเทพนั่นได้ อาจจะใช้พลังมิตรภาพเข้าสู้ พลังเฮือกสุดท้าย พลังตอนใกล้ตาย อะไรก็ว่าป๊าย...
2.3 สกิลนี้ท่านได้รับแต่ใดมา?
ตัวละครแมรี่ ซูหลายตัวจะมีความสามารถบางอย่างที่ไม่น่าจะมีได้ หากพิจารณาตามหลักความเป็นจริง เช่นพระเอกที่โคตรจะคุณหนู รูปหล่อพ่อรวย ขนาดบ้านทรายทองยังใหญ่ไม่เท่าห้องน้ำบ้านมัน จะไปไหนก็มีรถสุดหรูไปรับไปส่งตลอด จะเอาอะไรก็มีคนใช้ประเคนให้ทุกอย่างแค่กระดิกนิ้วสั่ง เรียกได้ว่าอะไรจะงอมืองอตีนได้ปานนั้น แต่อยู่ดี ๆ เกิดเหตุนางเอกถูกแก๊งค์มาเฟียลักพาตัวไป พระเอกของเราก็ต้องรีบไปช่วยตามสเต็ป แต่เอ่อ...แทนที่มันจะถูกลูกกระจ๊อกมาเฟียยิงตายตั้งแต่ยังไม่ถึงประตูทางเข้า แต่ไหงอยู่ ๆมันก็เก่งบู๊ขึ้นมาประหนึ่งไปฝึกที่สำนักวัดเส้าหลิน กระโดดต่อยตีเตะคนร้ายจนง่อยกระรอกหมดยกแก๊งค์
ลักษณะนี้ไม่ได้หมายถึงแต่ลักษณะทางด้านร่างกายเท่านั้น ยังหมายรวมถึงความสามารถด้านอื่น ๆที่ไม่รู้ว่าเขาหรือหล่อนมีขึ้นมาได้อย่างไร เช่นเรียนสายศิลป์แต่เก่งฟิสิกส์ระดับเทพขนาดสายวิทย์ยังอาย หรือเด็กอายุ 12 ที่ฉลาดยิ่งกว่านักเรียนปริญญาเอก เป็นต้น
** ความจริงลักษณะของแมรี่ ซูยังมีอีกมาก ไม่สามารถจะเอามาตั้งเป็นตัวอย่างได้ทั้งหมด แต่เราคิดว่าแบบทดสอบแมรี่ ซูที่แนบมาในตอนท้ายนี้จะช่วยให้คุณรู้จักแมรี่ ซูดีขึ้น(น่าจะดีกว่าให้เรายกตัวอย่างด้วยซ้ำ) เพราะในแบบทดสอบก็รวมทุกลักษณะของแมรี่ ซูไว้อยู่แล้ว เราจึงค่อนข้างแน่ใจว่าถ้าได้ลองทำ ก็จะเข้าใจลักษณะของแมรี่ ซูได้มากขึ้นค่ะ
3. ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่น่าเป็นไปได้!
หลาย ๆคนอาจจะมองว่าถึงหลาย ๆอย่างในตัวละครอาจจะดูเว่อร์และไม่สมจริง ตัวอย่างเช่น ตัวละครอายุน้อยแต่จีเนียสระดับไอส์ไตน์ แน่นอนลักษณะนี้เป็นลักษณะของแมรี่ ซู แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่อัจฉริยะระดับนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ๆบนโลก กระนั้น การที่ตัวละครมีลักษณะที่ “ไม่น่าจะเป็นไปได้” ในมนุษย์ทั่วไปนั่นเอง ที่ทำให้ตัวละครตัวนั้นมีลักษณะแบบแมรี่ ซู เนื่องจากแมรี่ ซูคือตัวละครที่ถูกสร้างให้มีความโดดเด่น หรือมีความพิเศษ แตกต่างจากคนทั่วไป แม้จะไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้ แต่ยิ่งความเป็นไปได้มีน้อยเท่าไหร่ ความเป็นแมรี่ ซูก็จะยิ่งขยับสูงขึ้นเท่านั้น
จากที่กล่าวไว้แล้วว่า แมรี่ ซูต้องอาศัยการพิจารณาจากหลาย ๆด้าน หลาย ๆลักษณะของตัวละครประกอบกัน จึงจะตัดสินได้ว่าตัวละครนั้นเป็นแมรี่ ซูหรือไม่ ดังนั้นลักษณะทุกประการที่ฟังดูแล้ว “ไม่น่าเป็นไปได้” จะถูก “บวก”คะแนนแมรี่ ซูเข้าไปก่อนเสมอค่ะ แต่หากตัวละครตัวนั้นมีลักษณะอื่นที่ “ติดลบแมรี่ ซู” คะแนนที่ถูกบวกก็จะถูกดึงลงมาเองด้วยประการฉะนี้
4. ทำอย่างไรจึงจะทำให้ตัวละครไม่กลายเป็นแมรี่ ซู?
คำตอบนั้นมีเพียงคำตอบเดียวค่ะ นั่นคือสิ่งทีเป็น “ข้อจำกัด” หรือ “จุดด้อย” ของตัวละครตัวนั้น และข้อจำกัดนั้นต้องเป็นข้อจำกัดที่ทำให้ตัวละครเดือดร้อนจริง ๆนะคะ ถ้าอย่างนางเอกที่สวย เก่ง ฉลาด แต่ห่วยศิลปะบรม แบบนี้ไม่ถือว่าเป็น “ติดลบแมรี่ ซู” ค่ะ เพราะว่าถึงชีจะห่วยศิลปะแค่ไหน ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของชีตกต่ำลงอะไรมากมาย
ข้อเสียในที่นี้รวมถึงลักษณะที่ทำให้ตัวละครดูแย่หรือน่ารังเกียจในสายตาของคนทั่วไปด้วย อย่างเช่น นางเอกที่สวยมากแต่ประกอบอาชีพเป็นโสเภณี ตัวละครก็จะได้รับการติดลบแมรี่ ซูค่ะ เพราะสำหรับคนทั่ว ๆไปมองว่าโสเภณีเป็นอะไรที่ออกจะน่ารังเกียจเสียด้วยซ้ำ แถมคนปกติก็คงไม่มีใครตั้งสเป็คว่าอยากได้โสเภณีมาเป็นแฟนหรอกมั้ง และน้อยเรื่องนักที่จะนำผู้หญิงที่เป็นโสเภณีมาเป็นตัวละครหลักของเรื่อง (แต่ในทางกลับกัน ตัวละครชายประเภทเพลย์บอยไม่นับว่าเป็นติดลบแมรี่ ซูนะคะ เพราะว่าตัวละครประเภทนี้ถูกสร้างให้มีลักษณะที่น่าหลงใหลเสียด้วยซ้ำ เป็นลักษณะที่ผู้หญิงหลายต่อหลายคนใฝ่ฝันและรุมตอมอยากจะได้มาครอบครอง ดังนั้น ตัวละครประเภทเพลย์บอยจึงกลับกลายเป็นว่าเป็นแมรี่ ซูไปเสียค่ะ)
ถ้าให้ยกตัวอย่างแบบเห็นชัด ๆเลย ก็คือคนบางคนที่เก่งฉลาด จีเนียสในด้านใดด้านหนึ่งมาก ๆ เรียกได้ว่าเป็นอัจฉะริยะแต่กำเนิด เช่นคนที่เก่งคอมพิวเตอร์มาก ๆระดับอัจฉริยะ หรือสามารถคำนวณเลขที่แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ยังต้องใช้เวลาเป็นวันในหัวได้ แต่ปัญหาคือ คนประเภทนี้มักจะเป็นออทิสติกอ่อน ๆค่ะ เพราะพวกออทิสติกอ่อน ๆนี้จะมีลักษณะที่เก่งไปในทางด้านใดด้านหนึ่งมาก ๆ เรียกได้ว่าเก่งระดับอัจฉริยะของอัจฉริยะ แต่กระนั้น คนประเภทนี้จะบกพร่องอย่างรุนแรงในด้านอื่น ๆ เช่นการสื่อสาร การใช้ชีวิตประจำวัน หรือทักษะพื้นฐานในด้านอื่น ๆที่คนทั่วไปมีกัน ดังนั้นเขาจึงต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เพราะไม่สามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติได้นั่นเอง
ดังนั้น การจะทำให้ตัวละครไม่เป็นแมรี่ ซู ขั้นแรกคือเราจะต้องพิจารณาถึงหลักเหตุผลและหลักความเป็นจริงเสมอก่อนจะสร้างตัวละครใด ๆขึ้นมา และเนื่องจากแมรี่ ซูเป็นตัวละครแบบอุดมคติ ตัวละครเช่นนี้จึงมักจะลืมนึกถึงข้อจำกัดแบบมนุษย์ไป ดังนั้น หากผู้แต่งคนใดสร้างข้อจำกัดของตัวละครขึ้นมา และยิ่งข้อจำกัดนั้นทำให้ตัวละครเดือดร้อนหรือดูแย่ลงเพียงใด ตัวละครตัวนั้นก็จะได้ติดลบแมรี่ ซูมากขึ้น เหมือนกับตัวอย่างที่ยกไปข้างบน หากตัวละครจีเนียสแต่เป็นออทิสติกอ่อน ๆ แม้ความจีเนียสขนาดนั้นจะต้องได้รับการบวกคะแนนแมรี่ซูเข้าไปอย่างแน่นอน แต่กระนั้นความที่ตัวละครเป็นออทิสติก ก็สามารถทำให้คะแนนที่ได้รับการบวกถูกติดลบออกมา และส่งผลให้ตัวละครมีความพอดี ไม่กลายเป็นแมรี่ ซูในที่สุด
พูดให้ง่ายขึ้นก็คือ ยิ่งตัวละครมีความสมจริงและเป็นมนุษย์เพียงใด ตัวละครตัวนั้นก็จะปลอดภัยจากความเป็นแมรี่ ซูมากขึ้นเพียงนั้นค่ะ
ขอยกอีกตัวอย่างสำหรับเรื่องเกี่ยวกับการต่อสู้ ถ้าพระเอกหรือนางเอกมีความสามารถในด้านใดด้านหนึ่ง เช่น มีพลังเรียกสายฟ้าฟาดอันทรงพลานุภาพได้ แต่จะสามารถใช้พลังนี้ได้ก็ต่อเมื่อมีเมฆครึ้มหรือฝนตกเท่านั้น ถ้าฟ้าสว่างไร้เมฆ ตัวละครตัวนี้ก็จะอ่อนด๋อยไปในบัดดล เป็นต้น ข้อจำกัดทางความสามารถเหล่านี้เองที่ทำให้ตัวละครลดความเป็นแมรี่ ซูลงได้ค่ะ
5. การแสดงความสามารถของตัวละคร
ตัวละครแมรี่ ซูส่วนใหญ่เกิดจากการที่ผู้แต่งมักจะบรรยายตัวละครตัวนั้นไว้ว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ยกตัวอย่างเช่น บรรยายว่าตัวละครสวย เก่ง ฉลาด อัจฉริยะ สอบได้ที่หนึ่ง หรือปราบข้าศึกศัตรูมานับพันนับหมื่น แต่กระนั้น หากอ่านไปเรื่อย ๆ คนอ่านกลับไม่รู้สึกว่าตัวละครเคยแสดงความฉลาดออกมาอย่างไรและตอนไหน กล่าวคือ ถ้าคนแต่งไม่บรรยายว่ามันเก่ง ตูก็ไม่รู้ว่ามันเก่งเลยนะเนี่ย อะไรทำนองนั้นค่ะ หรือพระเอกที่ฉลาดมาก ไอคิวสูงเทียมฟ้า เรียนเก่งเป็นที่หนึ่งระดับประเทศ ทำให้ผู้อ่านรู้ว่าตัวละครฉลาด แต่หากตัดคำบรรยายดังกล่าวนี้ออกไป กลายเป็นว่าคนอ่านจะไม่รู้เลยว่าตัวละครตัวนี้ฉลาด แบบนี้ถือเป็นการทำให้ตัวละครมีความสามารถโดยใช้การบรรยายค่ะ
หนังสือดัง ๆหลายเรื่อง ไม่ได้แต่งให้ผู้อ่านรู้สึกว่าตัวละครตัวนั้นเก่งโดยการบรรยายลงไปในเนื้อเรื่อง(การบรรยายในที่นี้หมายรวมถึงบทสนทนาของตัวละครด้วย เช่น A บอก B ว่าพระเอกน่ะเก่งมากเลยนะ มีพลังระดับ 99 ชั้นบรรยากาศ แถมตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครเอาชนะมันได้เลยสักคนด้วย เทพโคตร ๆ) แต่นักเขียนอาชีพหลาย ๆคนจะแสดงให้ผู้อ่านเห็นได้เองว่าตัวละครตัวนั้นเก่งหรือไม่ เช่น เวลาต่อสู้ ตัวละครตัวนั้นสามารถเอาชนะศัตรูได้ด้วยไหวพริบปฏิภาณของตัวเองล้วน ๆ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าเออ ตัวละครตัวนี้มันฉลาดดีแฮะ โดยที่คนเขียนไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงความฉลาดของตัวละครเลยแม้แต่คำเดียว
6. ตัวละครที่ดีคือตัวละครที่มีความเป็นแมรี่ ซูอ่อน ๆ!
แม้ในขณะนี้แมรี่ ซูจะเป็นที่น่ารังเกียจและได้รับการแอนตี้อย่างมากจากผู้อ่านและนักวิจารณ์วรรณกรรมทั่วโลก แต่กระนั้นทุกคนก็ต้องยอมรับว่าไม่ว่าตัวละครใด ๆก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะไม่มีลักษณะของแมรี่ ซูเลยได้ เพราะแมรี่ ซูคือลักษณะที่ทำให้ตัวละครมีความพิเศษหรือมีความโดดเด่น หากตัวละครนั้นไม่มีลักษณะของแมรี่ ซูเลยแม้แต่ประการเดียว ตัวละครตัวนั้นก็คงจะเป็นตัวละครที่หน้าตาทุเรศ หน้าบวม ปากบาน ผิวดำ อ้วนแผละ น้ำมูกยืด และกากด๋อยไร้ความสามารถใด ๆทั้งสิ้น(ยกตัวอย่างเช่น ซอมบี้ที่แสนน่ารักใน RE นี่แหละค่ะ ที่เป็นตัวละครที่ไม่ใช่แมรี่ ซูแม้แต่นิดเดียว แต่คงไม่มีใครอยากแต่งซอมบี้เป็นพระเอกหรือนางเอกหรอกกระมัง)
ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตัวละครที่เป็นตัวหลักจะต้องมีลักษณะที่ดีหรือพิเศษประการใดประการหนึ่งอยู่แล้ว แต่ตามที่กล่าวไว้ในหัวข้อบน ๆ หากตัวละครตัวนั้นไม่มีข้อจำกัดหรือข้อเสียที่ทำให้ตัวละครดูกากลงหรือแย่ลงได้ ตัวละครตัวนั้นก็จะได้รับการบวกคะแนนแมรี่ ซูไปเรื่อย ๆ แต่หากตัวละครตัวนั้นมีจุดเด่นประการหนึ่ง แต่มีข้อจำกัดสำคัญอีกประการหนึ่ง คะแนนก็จะถูกบวกและติดลบกันจนความเป็นแมรี่ ซูนั้นอ่อนลงไปเอง
สรุปคือ ยิ่งระดับความเป็นแมรี่ ซูอ่อนเท่าไหร่ ตัวละครนั้นก็จะถูกจัดว่ามีความสมจริงและได้รับการยอมรับมากขึ้นเท่านั้นค่ะ
7. ตัดเซียนกันด้วยแมรี่ ซู
ปัจจุบัน แมรี่ ซูถือเป็นหัวข้อที่ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง และเป็นประเด็นแรก ๆที่นักวิจารณ์ระดับเขี้ยว ๆจะยกมาโจมตีหนังสือเรื่องหนึ่ง ๆ และหากหนังสือเรื่องใดถูกโจมตีว่าเป็นแมรี่ ซูมากเท่าไหร่ หนังสือเรื่องนั้นก็จะดูด้อยคุณภาพลงไปมากเท่านั้น เพราะนั่นหมายถึงคนแต่งไม่มีความเป็นมืออาชีพ ไม่สามารถสรรสร้างผลงานที่มีความสมจริงได้ หากเพียงสักแต่แต่งไปเพื่อสนองความต้องการของตนเองเท่านั้น
แมรี่ ซู จึงได้เป็นเรื่องที่นำมาตัดเซียนนักเขียนระดับมืออาชีพมานักต่อนักแล้ว เพราะการที่จะสร้างตัวละครหรือเนื้อเรื่องที่มีความสมเหตุสมผล ไม่ขัดกับหลักความเป็นจริงได้นั้นเป็นเรื่องที่นับว่ายากมากทีเดียว เนื่องจากผู้แต่งจะต้องมีความรู้รอบตัวสูง มีความคิดรอบคอบ และมีความระมัดระวังอย่างยิ่ง(หมายถึงแม้แต่ในเรื่องเล็กน้อยก็ไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดหรือความไม่สมจริงได้ จุดนี้เป็นจุดที่แม้แต่นักเขียนดัง ๆระดับโลกหลายคนก็ยังมีปัญหาค่ะ)
แมรี่ ซู จึงเป็นเครื่องมือที่จะวัดว่านักเขียนคนนั้นมีความสามารถมากน้อยเพียงใด ยกตัวอย่างเช่น นักเขียนสองคนอาจจะแต่งเรื่องที่มีแนวเรื่องคล้าย ๆกันออกมาสองเล่ม แต่นักเขียนคนหนึ่งสามารถแต่งเรื่องได้มีความสมจริงกว่า ผู้อ่านอ่านแล้วไม่รู้สึกติดขัดกับเนื้อเรื่องหรือตัวละคร และสามารถหาเหตุผลมารองรับการกระทำต่าง ๆของตัวละครได้ ในขณะที่ผู้เขียนอีกคนไม่ได้คำนึงถึงในแง่นี้ ผู้เขียนคนแรกก็จะได้รับการยกย่องว่ามีความสามารถจริง และย่อมมีความสามารถมากกว่าผู้เขียนคนที่สองด้วยเหตุนี้เอง
8. ทิ้งท้าย
เรื่องแมรี่ ซูนี้ถือเป็นการวิจารณ์วรรณกรรมในขั้นสูง และเป็นเรื่องที่นับว่าเครียดพอสมควรทีเดียวค่ะ เราจึงไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่ในตอนนี้เราคิดว่า หลาย ๆคนในบอร์ดก็มีความสามารถในการแต่งฟิคระดับหนึ่งแล้ว การจะพัฒนาฝีมือตัวเองแบบก้าวกระโดดนั้นก็มีแต่เรื่องแมรี่ ซูนี่แหละ ที่หากใครสามารถทำได้สำเร็จ(คือทำให้ตัวละครของตัวเองมีความเป็นแมรี่ ซูน้อยที่สุดได้) คน ๆนั้นก็จะถือว่ามีฝีมือในการแต่งนิยายระดับสูงแล้วค่ะ เนื่องจากหากตัวละครของเรามีความสมเหตุสมผล ก็ย่อมจะส่งผลให้เนื้อเรื่องมีความสมเหตุสมผลตามไปด้วย จุดด้อยในนิยายของเราก็จะหายไปมากโขทีเดียว และการที่ตัวละครมีความเป็นแมรี่ ซูอ่อน ๆ กล่าวคือมีทั้งข้อโดดเด่น และข้อจำกัดที่ทำให้ตัวละครเดือดร้อน เมื่อถัว ๆกันแล้วทำให้คนอ่านสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของตัวละคร ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าตัวละครมีข้อเสีย (หรือในกรณีเรื่องเกี่ยวกับการต่อสู้ หากตัวละครมีข้อจำกัดในความสามารถ ก็จะทำให้คนอ่านรู้สึกลุ้นตามตัวละครไปด้วยมากขึ้น นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ตัวละครต้องใช้ไหวพริบในการพลิกสถานการณ์ที่เป็นข้อจำกัดนั้น) ก็ย่อมจะทำให้เรื่องของเรามีสีสันมากขึ้นแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าทุก ๆคนจำเป็นต้องจริงจังกับเรื่องนี้นะคะ เพราะสำหรับหลาย ๆคนในบอร์ดที่แค่อยากจะแต่งฟิคเพื่อความสนุกสนานหรือเพื่อคลายเครียด ไม่ได้อยากจะแต่งฟิคเอาจริงเอาจังชนิดจะส่งสำนักพิมพ์ให้ได้ เราคิดว่าหากมีความสุขกับการแต่ง และคนอ่านมีความสุขที่ได้อ่าน ก็ถือว่าโอเคแล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้องเครียดกับเรื่องนี้มากก็ได้(แค่นี้วัน ๆก็เครียดพอแล้วใช่มั้ย 555+) ส่วนสำหรับคนที่อยากจะพัฒนาฝีมือตัวเองแบบจริงจัง เราคิดว่าเรื่องแมรี่ ซูนี้เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องเก็บไว้พิจารณาอย่างยิ่งค่ะ
และของแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับแนวฟิคแต่ละเรื่องด้วย อย่างฟิคแนวรั่ว ๆหรือตลกโปกฮา อย่างเช่น(ขอยกตัวอย่างนะคะ) เรื่องทรายเล่นหินของพี่เบียร์ เป็นต้น แนวเรื่องประเภทนี้เป็นเรื่องที่เน้นเอามันส์กับเอาฮาเป็นหลักอยู่แล้ว ขืนต้องคิดแต่จะเอาความสมจริง เรื่องก็คงจะเปลี่ยนไปอีกแนวหนึ่งเลยน่ะสิคะ 5555+(อย่าน้า ฮา ๆแบบนี้ดีแล้ว หนูชอบ)
ในทางกลับกัน ฟิคแนวอื่น ๆนอกเหนือจากแนวตลก โดยเฉพาะฟิคที่ต้องอาศัยความสมจริง เช่นเรื่องแนวสืบสวนสอบสวน แนววิทยาศาสตร์ หรือแนวไบโอนี่ก็นับเป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องอาศัยความสมจริงเช่นกัน การจะแต่งเรื่องแนวนี้จึงจำเป็นต้องคิดถึงความเป็นจริงประกอบด้วยเสมอ ๆ เนื่องจากในเมื่อแนวเรื่องเป็นแนวเรื่องที่ต้องอาศัยความสมจริง แต่เนื้อเรื่องขัดกับความเป็นจริง ก็ย่อมจะทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกขัดได้ค่ะ
ถ้าถามเราว่าเรื่องไหนที่ยากที่จะแต่งไม่ให้เป็นแมรี่ ซูที่สุด ก็เห็นจะเป็นเรื่องแฟนตาซีนี่แหละค่ะ เพราะขึ้นชื่อว่าแฟนตาซี ก็ต้องมีความเว่อร์หรือความเหนือจริงบ้างอยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงนับถือคนที่แต่งแนวแฟนตาซีแต่ไม่เป็นแมรี่ ซูได้นะคะ เพราะคนแต่งจะต้องแต่งตัวละครที่มีความเว่อร์เสี่ยงไปในทางแมรี่ ซูมาก ๆ มีความสามารถพิเศษแปลกประหลาดผิดมนุษย์มนา แต่ก็จำเป็นต้องสร้างข้อจำกัดหรือลักษณะหรือบุคลิกนิสัยของตัวละครให้มีความสมเหตุสมผลที่สุด ดังนั้นคนที่ทำแบบนี้ได้เราถือว่าเป็นนักเขียนที่เก่งมากค่ะ
ที่มาบทความ
www.thaibiohazard.com/forum/viewtopic.php?t=16978