|
Post by wildrose on Jan 6, 2020 3:57:10 GMT
กระทู้นี้จะเป็นกระทู้ที่เอาไว้ใช้รวบรวมข้อมูลในการเล่นบอร์ดเกม Dungeon and Dragon : Ragnarok World ผมขอความกรุณาใช้พื้นที่ภายในบอร์ดนี้เล็กน้อยเพื่อที่จะฝากข้อความเอาไว้สำหรับผู้ที่ต้องการเล่นนะครับ (ซึ่งมันก็มีไม่กี่คนหรอกผมว่า) ดังนั้นหากใครที่ไม่ใช่ผู้ที่ต้องการจะเข้ามาอ่านข้อมูลปิดกระทู้นี้ได้เลยนะครับมันไม่มีสาระอะไรสำหรับคุณหรอก เชื่อผมสิ
Citizenship (ชาวเมือง) ภายใน Midgard ประกอบไปด้วยเมืองมากมายซึ่งแต่ละเมืองนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนกัน ตัวละครของคุณสามารถที่จะเลือกเกิดในเมืองใดก็ได้ แต่ละเมืองนั้นจะทำให้ตัวละครของคุณมีลักษณะที่แตกต่างกันดังนี้ Prontera : เมืองที่ใหญ่ที่สุดตั้งอยู่ใจกลางของ Midgard ประชาชนของเมืองนี้มีลักษณะที่หลากหลายแต่ส่วนมากแล้วพวกเรานั้นจะได้รับการศึกษาที่ดี ทำให้พวกเขานั้นมักจะทำงานเป็นทหารหรือไม่ก็ช่างฝีมือ มีบางส่วนน้อยที่จะเป็นพ่อค้า (พ่อค้ามากมายที่เห็นภายในเมืองส่วนมากมักจะเดินทางมาจากเมืองอื่นเพื่อค้าขาย) อีกทั้งเมือง Prontera ยังมีโบสถ์ของ เทพเจ้าโอดิน ที่ใหญ่ที่สุดภายใน midgard อีกด้วย Ability Score (เลือกได้ 1 ข้อ)Int+1Wis +1 Cha +1Proficiency (เลือกได้ 1 ข้อ)+1 Religion (ความรู้เกี่ยวกับทางด้านศาสนาและความเชื่อ,ความรู้เกี่ยวกับเทพและพิธีกรรมต่างๆ)+1 History (ความเชิงประวัติศาสตร์,ความรู้รอบตัว)+1 Persuasion (ความสามารถในการเจรจาโน้มน้าว,การชักชวน,การต่อรอง) Izlude : Izlude เป็นเมืองท่าขนาดเล็กซึ่งอยู่ไม่ห่างไกลจากเมือง Prontera ที่นี่เป็นที่ตั้งของสมาคมนักดาบ ที่ใหญ่ที่สุดภายใน midgard อีกทั้งยังเป็นเมืองท่าเรือที่สำคัญของ Prontera ประชาชนที่นี่ค่อนข้างจะมีความรู้เนื่องจากว่าพวกเขานั้นได้ไปรับการศึกษาภายในเมือง Prontera เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่พวกเขานั้นมักจะมีอาชีพเป็นนักดาบ หรือไม่ก็เป็นพ่อค้าที่ค้าขายกับเรือเดินสมุทร
Ability Score (เลือกได้ 1 ข้อ) Str+1 Int+1 Proficiency (เลือกได้ 1 ข้อ) +1 Athletics (ความสามารถด้านกรีฑา,กิจกรรมที่ต้องใช้พลังกาย) +1 Persuasion (ความสามารถในการเจรจาโน้มน้าว,การชักชวน,การต่อรอง) +1 History (ความเชิงประวัติศาสตร์,ความรู้รอบตัว)
Payon : เมืองทางทิศตะวันออกของ midgard เป็นเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้อันเขียวขจี ผู้คนภายในเมืองมีวัฒนธรรมเฉพาะตัว พวกเขานั้นเชี่ยวชาญในการล่าสัตว์ และการยิงธนู อีกทั้งพวกเขานั้นยังมีความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติที่น่าทึ่ง พวกเขาส่วนใหญ่นับถือเทพเจ้าของตนเองโดยที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่แห่งนอร์ส สำหรับผู้ที่นับถือเทพเจ้านอร์ส ชาวเมือง Payon จัดว่าเป็นพวกคนเถื่อนนอกรีด
Ability Score (เลือกได้ 1 ข้อ) Dex+1 Wis+1 Con+1 Proficiency (เลือกได้ 1 ข้อ) +1 Animal Handling (การจัดการกับสัตว์เลี้ยง,การดูแลสัตว์,การฝึกสัตว์,การควบคุมสัตว์) +1 Survival (ความสามารถในการเอาชีวิตรอด,ความสามารถในการหาอาหาร) +1 Nature (ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ,ความเข้าใจในธรรมชาติ)
Geffen : เมืองแห่งเวทมนตร์ที่อยู่ทางทิศตะวันตกของ midgard เมืองแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่รวบรวมความรู้เกี่ยวกับเวทย์มนต์เอาไว้มากมาย ประชาชนส่วนใหญ่ในเมืองนี้จึงมีอาชีพเป็นจอมเวทย์ หรือไม่ก็พ่อค้าที่ขายอุปกรณ์เกี่ยวกับเวทมนต์ ชาวเมือง Geffen ส่วนมากแล้วนับถือเทพ เฟรย์ (Frey) และบางส่วนก็นับถือเทพโอดิน แต่ถึงอย่างนั้นสำหรับพวกเขาแล้วการนับถือเทพเป็นเรื่องรองแต่ความรู้ทางด้านเวทมนต์นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
Ability Score (เลือกได้ 1 ข้อ) Int +1 Wis +1 Cha +1 Proficiency (เลือกได้ 1 ข้อ) +1 Arcana (ความสามารถด้านเวทมนต์,ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเวทมนตร์และศาสตร์ลึกลับ) +1 History (ความเชิงประวัติศาสตร์,ความรู้รอบตัว) +1 Medicine (ความรู้เรื่องยาและสมุนไพร,ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์,ความรู้เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ)
Alberta : เมืองท่าค้าขายที่ใหญ่ที่สุดของ midgard มันเป็นเมืองท่าที่อยู่ทางตะวันออกสุดของทวีป มีท่าเรือที่สามารถจะเดินทางไปที่เกาะน้อยใหญ่ภายในทะเลได้มากมาย จึงทำให้เมืองนี้มากมายไปด้วยพ่อค้าจากทั่วทุกสารทิศ อีกทั้งภายในเมืองนี้ยังมีคนที่ต้องการเดินทางเพื่อที่จะแสวงโชคด้วย เนื่องจากความหลากหลายของผู้คนทำให้ชาวเมืองแห่งนี้นับถือเทพเจ้าที่หลากหลายมากและประกอบอาชีพที่หลากหลายด้วย น้อยคนนักที่จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นชาวเมือง Alberta โดยกำเนิด
Ability Score (เลือกได้ 1 ข้อ) Cha+1 Wis+1 Str+1 Proficiency (เลือกได้ 1 ข้อ) +1 Persuasion (ความสามารถในการเจรจาโน้มน้าว,การชักชวน,การต่อรอง) +1 Deception (ความสามารถในการโกหกและหลอกลวง,ความสามารถในการใช้กลโกงต่างๆ) +1 Performance (ความสามารถในการแสดงและการขับร้อง,ความสามารถในการสวมบทบาท)
Morroc : เมืองที่อยู่กลางทะเลทราย Sograt Desert อันแห้งแล้ง เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่โดยมีโอเอซิสขนาดใหญ่อยู่กลางเมือง มันจึงเป็นแหล่งรวมของพ่อค้าที่มาค้าขายในเมืองทะเลทรายแห่งนี้ ชาวเมืองแห่งนี้นับถือเทพโลกิ เสียเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งเมืองนี้ยังเป็นแหล่งรวมของอารยธรรมโบราณมากมายที่เคยตั้งอยู่ในทะเลทรายจึงทำให้เป็นที่สนใจของนักวิชาการและนักเดินทางให้มาเยี่ยมชม แต่เมืองนี้ก็ยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีความอันตรายมากทีเดียว
Ability Score (เลือกได้ 1 ข้อ) Dex +1 Str +1 Cha +1 Proficiency (เลือกได้ 1 ข้อ) +1 Sleight of Hand (ความคล่องแคล่วว่องไวในการใช้มือ,มือเบา,ความชำนาญในการหยิบฉวย) +1 History (ความเชิงประวัติศาสตร์,ความรู้รอบตัว) +1 Intimidation (ความสามารถในการข่มขู่,ความสามารถในการทำให้หวาดกลัว) +1 Athletics (ความสามารถด้านกรีฑา,กิจกรรมที่ต้องใช้พลังกาย)
|
|
|
Post by wildrose on Jan 7, 2020 13:49:46 GMT
Swordman Class
Swordman : นักดาบ อาชีพที่จําเป็นและขาดไม่ได้ของปาร์ตี้นักผจญภัย เขาคือผู้ที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดหรือไม่ก็คอยระวังหลังให้กับเพื่อน อาวุธคู่กายของเขาคือดาบ ที่สามารถจะฟาดฟันศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าของเขาได้อย่างมั่นคงและทรงพลัง Hit Points 20 + 1d20 + Constitution modifierHit Points at Higher Levels 1d12 + Constitution modifierเมื่อทำการ Short Rest (1 - 3 hr) 1d20 + Constitution modifier ฟื้นฟูค่า Hit Points Class Move Speed 5 ช่องProficiency Bonus +2Weapons : มีด , ดาบ , หอก , ดาบสองมือ , ขวาน , ขวานสองมือ , กระบอง , หน้าไม้Armor : ชุดผ้า , ชุดเกราะเบา , ชุดเกราะหนัก , โล่Saving Throws : Strength , ConstitutionProficiency (เลือกได้ 2 อย่าง)+1 Acrobatics (การแสดงผาดโผน,ความพริ้วไหวของร่างกาย,ความอ่อนตัวของร่างกาย)+1 Athletics (ความสามารถด้านกรีฑา,กิจกรรมที่ต้องใช้พลังกาย)+1 Perception (ความสามารถในการสังเกต,ความสามารถในการวิเคราะห์สิ่งต่างๆ)+1 Animal Handling (การจัดการกับสัตว์เลี้ยง,การดูแลสัตว์,การฝึกสัตว์,การควบคุมสัตว์)+1 Intimidation (ความสามารถในการข่มขู่,ความสามารถในการทำให้หวาดกลัว)+1 Persuasion (ความสามารถในการเจรจาโน้มน้าว,การชักชวน,การต่อรอง)Spell Slot Level Level 1 S1[1]Level 2 S1[2]Level 3 S1[3]Level 4 S1[3] S2[1]Level 5 S1[4] S2[1]Level 6 S1[5] S2[2]Level 7 S1[5] S2[3]Level 8 S1[6] S2[3]Level 9 S1[7] S2[3]Level 10 S1[8] S2[4]
Skills (เมื่อสร้างตัวละครทุกตัวละครจะได้รับ 3 skill Point และ เมื่อตัวละครเลเวลเพิ่มขึ้น จะได้รับ 2 skill Point ต่อ 1 เลเวล) Sword Mastery : ทักษะนี้เป็นทักษะที่จะทำให้ตัวละครของคุณสามารถที่จะใช้ดาบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละครหรือเลือกเป็นซับคลาสLevel 1 - เมื่อทำดาเมจจากอาวุธประเภทดาบ +1 ดาเมจสุดท้ายLevel 2 - เมื่อทำดาเมจจากอาวุธประเภทดาบ +3 ดาเมจสุดท้ายLevel 3 - เมื่อทำดาเมจจากอาวุธประเภทดาบ +5 ดาเมจสุดท้าย Increase HP Recovery : ทักษะนี้ จะช่วยให้ตัวละครของคุณสามารถที่จะฟื้นฟู Hit Points ในระหว่างการต่อสู้ได้ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละคร Swordman (ในกรณีที่เลือกเป็นซับคลาสจะไม่ได้ทักษะนี้)Level 1 - เมื่อเริ่มต้น Turn ของคุณ สามารถใช้ Action ทอยลูกเต๋า 1d4 + Constitution modifier เพื่อฟื้นฟูค่า HPLevel 2 - เมื่อเริ่มต้น Turn ของคุณ สามารถใช้ Action ทอยลูกเต๋า 1d6 + Constitution modifier เพื่อฟื้นฟูค่า HPLevel 3 - เมื่อเริ่มต้น Turn ของคุณ สามารถใช้ Action ทอยลูกเต๋า 1d12 + Constitution modifier เพื่อฟื้นฟูค่า HPTwo Handed Sword Mastery : ทักษะนี้ จะช่วยทำให้ตัวละครของคุณสามารถใช้ดาบสองมือได้อย่างมีประสิทธิภาพและรุนแรงมากขึ้น ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละครหรือเลือกเป็นซับคลาสLevel 1 - เมื่อทำดาเมจจากอาวุธประเภทดาบสองมือ +1 ดาเมจสุดท้ายLevel 2 - เมื่อทำดาเมจจากอาวุธประเภทดาบสองมือ +3 ดาเมจสุดท้ายLevel 3 - เมื่อทำดาเมจจากอาวุธประเภทดาบสองมือ +5 ดาเมจสุดท้ายBash : คุณสามารถสร้างการโจมตีที่รุนแรงได้จากกล้ามเนื้อแขนที่ทรงพลังของคุณ มันทำให้คุณนั้นสามารถที่จะฟาดดาบลงได้ด้วยพลังอันมหาศาล ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 1 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น)ระยะการโจมตี : เท่ากับระยะการโจมตีของอาวุธที่ตัวละครใช้โจมตี (อาวุธระยะประชิดเท่านั้น)Spell Slot Level : S1 เท่านั้นAbility Score Minimum : Str 12Level 1 - X2 ดาเมจสุดท้าย Level 2 - X3 ดาเมจสุดท้าย Level 3 - X4 ดาเมจสุดท้าย , ตอน Hit Check +2 Point จากแต้มของลูกเต๋า
Fatal Blow : นอกจากการโจมตีฟาดฟันที่รุนแรงแล้วนักดาบที่ดีอย่างต้องรู้จักการโจมตีให้โดนจุดตายของศัตรูซึ่งเป็นสำคัญที่อยู่บนศัตรูแต่ละประเภท นักดาบที่ได้รับการฝึกฝนแล้วจะสามารถโจมตีใส่ชุดตายของศัตรูได้อย่างแม่นยำและทำให้ศัตรูนั้นตกอยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่ได้ ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 2 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) Skill Type : Passive Skill ระยะการโจมตี : เท่ากับระยะการโจมตีของอาวุธที่ตัวละครใช้โจมตี (อาวุธระยะประชิดเท่านั้น) Ability Score Minimum : Str 12 Level 1 - เมื่อใช้ Bash ในการโจมตี ทำการทอยลูกเต๋า 1d10 หากสำเร็จ จะทำให้ศัตรูติดสถานะ “บาดแผลที่มีเลือดออก” Level 2 - เมื่อใช้ Bash ในการโจมตี ทำการทอยลูกเต๋า 1d12 หากสำเร็จ จะทำให้ศัตรูติดสถานะ “ตาบอด” Level 3 - เมื่อใช้ Bash ในการโจมตี ทำการทอยลูกเต๋า 1d20 หากสำเร็จ จะทำให้ศัตรูติดสถานะ “มึนงง” Provoke : ความสามารถในการยั่วยุศัตรูให้เข้ามาทำการโจมตีตัวละครของคุณ สามารถใช้กับศัตรูที่มีอารมณ์ ชีวิตจิตใจ และสามารถรับรู้ถึงการกระทำของคุณได้เท่านั้นความต้องการ : ตัวละครเลเวล 1 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น)ระยะการโจมตี : 5 ช่องSpell Slot Level : S1 เท่านั้นAbility Score Minimum : Cha 10Level 1 - ทอยลูกเต๋า 1d6 เพื่อดูค่าสำเร็จLevel 2 - ทอยลูกเต๋า 1d10 เพื่อดูค่าสำเร็จLevel 3 - ทอยลูกเต๋า 1d20 เพื่อดูค่าสำเร็จMagnum Break : รวบรวมพลังไฟแห่งความโกรธเอาไว้ที่ดาบ แล้วทำการฟาดลง เพื่อทำให้เกิดคลื่นความร้อน สร้างความเสียหาย Fire Element รอบๆตัว แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่ชำนาญทักษะนี้อาจจะสร้างบาดแผลให้กับตนเองได้ด้วย (ทักษะนี้สร้างความเสียหายให้กับเพื่อนร่วมทีมด้วย , Dmg / 2 เมื่อมีเพื่อนร่วมทีมอยู่ในระยะ) ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 2 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น)Spell Slot Level : S2 หรือมากกว่าAbility Score Minimum : Str 12 , Int 10Level 1 - 1X1 Cell รอบตัว คำนวณดาเมจโดย 1d6 + Dmg Bonus , เสีย HP 10 PointLevel 2 - 3X3 Cell รอบตัว คำนวณดาเมจโดย 1d10 + Dmg Bonus , เสีย HP 6 PointLevel 3 - 5X5 Cell รอบตัว คำนวณดาเมจโดย 1d20 + Dmg Bonus , เสีย HP 2 Point
Charge Attack : ระยะห่างของคุณกับผู้ต่อสู้ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ด้วยทักษะที่เฉียบคม คุณสามารถที่จะเข้าไปประชิดตัวศัตรูของคุณและสร้างความเสียหายให้กับพวกมันได้อย่างทันที ในช่วงพริบตา ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 2, มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) Skill Type : Offensive (ใช้ Action) Spell Slot Level : Cantrip ระยะการโจมตี : ตามเลเวลของทักษะ Ability Score Minimum : Str 12 Level 1 - ระยะโจมตี 2 ช่อง , +1 ดาเมจเมื่อทำการทอย Damage Check Level 2 - ระยะโจมตี 2 ช่อง , +2 ดาเมจเมื่อทำการทอย Damage Check Level 3 - ระยะโจมตี 3 ช่อง , +3 ดาเมจเมื่อทำการทอย Damage Check
|
|
|
Post by wildrose on Jan 8, 2020 4:49:23 GMT
Thief Class
Thief Class : โจรคืออาชีพหนึ่งที่นักผจญภัยนะเลือกที่จะเป็น เนื่องจากความคล่องตัวที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น การโจมตีที่พริ้วไหวและเต็มไปด้วยลูกเล่น และทักษะการขโมยที่เรียกได้ว่านักผจญภัยสามารถจะนำไปใช้ได้ทั้งทางดีและทางร้าย
Hit Points 16 + 1d16 + Constitution modifier Hit Points at Higher Levels 1d10 + Constitution modifier เมื่อทำการ Short Rest (1 - 3 hr) 1d12 + Constitution modifier ฟื้นฟูค่า Hit Points Class Move Speed 5 ช่อง
Proficiency Bonus +2 Weapons : มีด , ดาบ , หน้าไม้ , ธนู Armor : ชุดผ้า , ชุดเกราะเบา , สนับแขน Tool : อุปกรณ์สะเดาะกุญแจ , ยาพิษ
Saving Throws : Str , Dex
Proficiency (เลือกได้ 2 อย่าง) +1 Sleight of Hand (ความคล่องแคล่วว่องไวในการใช้มือ,มือเบา,ความชำนาญในการหยิบฉวย) +1 Intimidation (ความสามารถในการข่มขู่,ความสามารถในการทำให้หวาดกลัว) +1 Acrobatics (การแสดงผาดโผน,ความพริ้วไหวของร่างกาย,ความอ่อนตัวของร่างกาย) +1 Stealth (ความสามารถในการหลบซ่อนตัว,ความสามารถในการหลบการตรวจจับ) +1 Deception (ความสามารถในการโกหกและหลอกลวง,ความสามารถในการใช้กลโกงต่างๆ)
Spell Slot Level Level 1 S1[1] Level 2 S1[2] Level 3 S1[2] Level 4 S1[3] Level 5 S1[3] S2[1] Level 6 S1[4] S2[1] Level 7 S1[5] S2[2] Level 8 S1[5] S2[3] Level 9 S1[6] S2[3] Level 10 S1[7] S2[3]
Skills (เมื่อสร้างตัวละครทุกตัวละครจะได้รับ 3 skill Point และ เมื่อตัวละครเลเวลเพิ่มขึ้น จะได้รับ 2 skill Point ต่อ 1 เลเวล)
Improve Dodge : ด้วยทักษะนี้ทำให้ความสามารถในการหลบหลีกของคุณเพิ่มขึ้น คุณสามารถมองเห็นการโจมตีของศัตรูและสามารถจะหลบมันได้อย่างง่ายดายมากขึ้น ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละครหรือเลือกเป็นซับคลาส Level 1 - เมื่อตัวละครของคุณสวมใส่ชุดผ้า Armor Class +1 Level 2 - เมื่อตัวละครของคุณสวมใส่ชุดผ้า Armor Class +3 Level 3 - เมื่อตัวละครของคุณสวมใส่ชุดผ้า Armor Class +5
Double Attack : คุณได้ฝึกทำการโจมตีอย่างรวดเร็ว จนทำให้ภายในบางครั้งคุณใช้เวลาในช่วงพริบตาทำการโจมตีไปแล้วถึง 2 ครั้ง อย่างต่อเนื่อง ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละครหรือเลือกเป็นซับคลาส Level 1 - เมื่อทำการคำนวณดาเมจ ให้ทอยลูกเต๋า 1d6 หากได้ค่าลูกเต๋าออกมาเป็น 1 DmgX2 Level 2 - เมื่อทำการคำนวณดาเมจ ให้ทอยลูกเต๋า 1d4 หากได้ค่าลูกเต๋าออกมาเป็น 1 DmgX2 Level 3 - เมื่อทำการคำนวณดาเมจ ให้ทอยลูกเต๋า 1d2 หากได้ค่าลูกเต๋าออกมาเป็น 1 DmgX2
Steal : ทักษะนี้จะช่วยทำให้ความสามารถในการขโมยของคุณเพิ่มขึ้นเมื่อคุณได้ทำการขโมยสิ่งของจากผู้เล่นด้วยกัน NPC หรือว่า Monster ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละครหรือเลือกเป็นซับคลาส Level 1 - แต้มของลูกเต๋าเมื่อทำการขโมย +1 Point Level 2 - แต้มของลูกเต๋าเมื่อทำการขโมย +2 Point Level 3 - แต้มของลูกเต๋าเมื่อทำการขโมย +3 Point
Hiding : คุณมีความสามารถในการซ่อนตัว มันจะทำให้คุณสามารถหลบสายตาของผู้คนและศัตรูของคุณได้ แต่ความสามารถนี้ไม่สามารถที่จะหลบการตรวจจับจากสิ่งที่ใช้ประสาทสัมผัสชนิดอื่นยกเว้นสายตาได้ (การดมกลิ่น พลังจิต หรืออื่นๆ สามารถตรวจจับหาคุณได้) ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 1 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) Spell Slot Level : S1 เท่านั้น Ability Score Minimum : Dex 10 Level 1 - ทำการทอยลูกเต๋า 1d4 เพื่อทำการซ่อนตัว หากซ่อนตัวสำเร็จใน Battle map คุณจะอยู่ในฐานะ Stealth 1 Turn (การจะซ่อนตัวใน Battle Map คุณจะต้องไม่ตกเป็นเป้าหมายของคู่ต่อสู้) Level 2 - ทำการทอยลูกเต๋า 1d6 เพื่อทำการซ่อนตัว หากซ่อนตัวสำเร็จใน Battle map คุณจะอยู่ในฐานะ Stealth 2 Turn (การจะซ่อนตัวใน Battle Map คุณจะต้องไม่ตกเป็นเป้าหมายของคู่ต่อสู้) Level 3 - ทำการทอยลูกเต๋า 1d10 เพื่อทำการซ่อนตัว หากซ่อนตัวสำเร็จใน Battle map คุณจะอยู่ในฐานะ Stealth 3 Turn (การจะซ่อนตัวใน Battle Map คุณจะต้องไม่ตกเป็นเป้าหมายของคู่ต่อสู้) Back Slide : คุณสามารถจะกระโดดถอยหลังเพื่อออกจากสถานที่ที่คุณสัมผัสได้ว่ามีอันตรายได้อย่างรวดเร็ว มันคือทักษะเฉพาะตัวของโจร ที่ดูโลดโผนแล้วน่าทึ่ง Skill Type : Defensive (ใช้ Bonus Action) Spell Slot Level : Cantrip ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 1 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) Level 1 - หากทอยลูกเต๋าสำเร็จ ตัวละครของคุณสามารถที่จะกระโดดถอยหลังไปจากจุดที่คุณยืนอยู่ได้ มากที่สุด 2 ช่อง Level 2 - หากทอยลูกเต๋าสำเร็จ ตัวละครของคุณสามารถที่จะกระโดดถอยหลังไปจากจุดที่คุณยืนอยู่ได้ มากที่สุด 4 ช่อง Level 3 - หากทอยลูกเต๋าสำเร็จ ตัวละครของคุณสามารถที่จะกระโดดถอยหลังไปจากจุดที่คุณยืนอยู่ได้ มากที่สุด 6 ช่อง
Envenom : ทักษะในการใช้เข็มเคลือบยาพิษในการโจมตี มันจะทำให้ศัตรูของคุณอ่อนแอลงจากพิษที่ได้รับไป ช่วยให้คุณมีความได้เปรียบในการต่อสู้ ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 1 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) , ต้องใช้เข็มเคลือบยาพิษในการใช้สกิล Spell Slot Level : S1 เท่านั้น Ability Score Minimum : Int 8 Level 1 - ใช้ทอยลูกเต๋า 1d6 เพื่อหาค่าความสำเร็จในการโจมตีด้วยพิษ Level 2 - ใช้ทอยลูกเต๋า 1d10 เพื่อหาค่าความสำเร็จในการโจมตีด้วยพิษ Level 3 - ใช้ทอยลูกเต๋า 1d20 เพื่อหาค่าความสำเร็จในการโจมตีด้วยพิษ
Detoxify : ตัวละครของคุณนั้นรู้จักวิธีการถอนพิษโดยใช้สมุนไพรหรือว่าสิ่งต่างๆ ความรู้เหล่านั้นสามารถที่จะช่วยขจัดพิษให้กับตัวเอง หรือว่าเพื่อนร่วมทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 1 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) , ต้องใช้สมุนไพรหรือว่ายาแก้พิษในการใช้สกิล Spell Slot Level : S1 หรือมากกว่า Ability Score Minimum : Wis 10 Level 1 - สามารถแก้ไขสถานะผิดปกติประเภทพิษ Level 1 ได้ Level 2 - สามารถแก้ไขสถานะผิดปกติประเภทพิษ Level 2 ได้ Level 3 - สามารถแก้ไขสถานะผิดปกติประเภทพิษ Level 3 ได้
|
|
|
Post by wildrose on Jan 8, 2020 6:28:08 GMT
Acolyte Class
Acolyte : นักบวชผู้ซึ่งยึดมั่นในศรัทธา ที่จะขจัดความมืดมิด และนำพาซึ่งแสงสว่างมาสู่ผู้คน พวกเขานั้นอุทิศตนให้กับโบสถ์และเทพเจ้า จึงทำให้พวกเขานั้นมีความสามารถในการต่อกรกับปีศาจร้ายและ undead อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งพวกเขานั้นยังสามารถที่จะรักษาอาการบาดเจ็บของสมาชิกภายในปาร์ตี้ได้ด้วยเวทมนต์รักษาซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพวกเขา
Hit Points 12 + 1d12 + Constitution modifier Hit Points at Higher Levels 1d8 + Constitution modifier เมื่อทำการ Short Rest (1 - 3 hr) 1d12 + Constitution modifier ฟื้นฟูค่า Hit Points Class Move Speed 4 ช่อง
Proficiency Bonus +2 Weapons : กระบอง , ไม้คฑา , หนังสือ , สนับมือ Armor : ชุดผ้า , ชุดคลุมสำหรับนักบวช , โล่
Saving Throws : Con , Wis
Proficiency (เลือกได้ 2 อย่าง) +1 Insight (การหยั่งลึกในจิตใจของผู้อื่น,การสังเกตอารมณ์ผู้อื่น) +1 History (ความเชิงประวัติศาสตร์,ความรู้รอบตัว) +1 Persuasion (ความสามารถในการเจรจาโน้มน้าว,การชักชวน,การต่อรอง) +1 Religion (ความรู้เกี่ยวกับทางด้านศาสนาและความเชื่อ,ความรู้เกี่ยวกับเทพและพิธีกรรมต่างๆ) +1 Medicine (ความรู้เรื่องยาและสมุนไพร,ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์,ความรู้เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ)
Spell Slot Level Level 1 S1[2] Level 2 S1[3] Level 3 S1[4] Level 4 S1[5] S2[1] Level 5 S1[6] S2[2] Level 6 S1[6] S2[3] Level 7 S1[7] S2[3] Level 8 S1[8] S2[4] Level 9 S1[9] S2[4] Level 10 S1[10] S2[5]
Skills (เมื่อสร้างตัวละครทุกตัวละครจะได้รับ 3 skill Point และ เมื่อตัวละครเลเวลเพิ่มขึ้น จะได้รับ 2 skill Point ต่อ 1 เลเวล)
Divine Protection : ความศรัทธาที่มีต่อแสงสว่างและเทพเจ้าผู้สูงส่งของคุณ สามารถช่วยปกป้องคุณจากภยันอันตรายที่เกิดขึ้นจากปีศาจร้ายและ undead ได้เป็นอย่างดี นักบวชที่ได้รับการฝึกมาดีแล้วสามารถที่จะลดค่าความเสียหายจากการโจมตีของปีศาจและ Undead ได้อย่างมาก ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละครหรือเลือกเป็นซับคลาส Level 1 - ลดดาเมจที่ได้รับจากมอนสเตอร์ประเภท ปีศาจ undead จากพลังเวทย์ความมืด และความตาย - 3 point Level 2 - ลดดาเมจที่ได้รับจากมอนสเตอร์ประเภท ปีศาจ undead จากพลังเวทย์ความมืด และความตาย - 6 point Level 3 - ลดดาเมจที่ได้รับจากมอนสเตอร์ประเภท ปีศาจ undead จากพลังเวทย์ความมืด และความตาย - 10 point
Demon Bane : พลังแห่งแสงสว่างและที่พระเจ้าสถิตอยู่ในกายของคุณ คุณสามารถจะเปลี่ยนพลังนั้นให้กลายมาเป็นความเสียหายที่สร้างกับศัตรูที่ชั่วร้ายของคุณได้ ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละครหรือเลือกเป็นซับคลาส Level 1 - เมื่อทำการโจมตีมอนสเตอร์ประเภท ปีศาจ และ undead + 2 Point Dmg. Level 2 - เมื่อทำการโจมตีมอนสเตอร์ประเภท ปีศาจ และ undead + 5 Point Dmg. Level 3 - เมื่อทำการโจมตีมอนสเตอร์ประเภท ปีศาจ และ undead + 8 Point Dmg.
Heal : เวทมนต์รักษา ที่สามารถจะเยียวยาบาดแผลอันแสนสาหัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันคือหนึ่งในเอกลักษณ์ของนักบวช และเป็นที่ต้องการของนักผจญภัยทุกปาร์ตี้ ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละคร Acolyte (ในกรณีที่เลือกเป็นซับคลาสจะไม่ได้ทักษะนี้) Spell Slot Level : S1 หรือมากกว่า Ability Score Minimum : Wis 10 Level 1 - ทอยลูกเต๋า 1d12 + Wis modifier ฟื้นฟูค่า Hit Points ของตัวเองหรือเพื่อนร่วมทีมในระยะ 2 ช่อง (นับรวมช่องยืนของตัวเองด้วย) Level 2 - ทอยลูกเต๋า 2d12 + Wis modifier ฟื้นฟูค่า Hit Points ของตัวเองหรือเพื่อนร่วมทีมในระยะ 3 ช่อง (นับรวมช่องยืนของตัวเองด้วย) Level 3 - ทอยลูกเต๋า 2d20 + Wis modifier ฟื้นฟูค่า Hit Points ของตัวเองหรือเพื่อนร่วมทีมในระยะ 4 ช่อง (นับรวมช่องยืนของตัวเองด้วย)
Increase Agility : สวดมนต์อ้อนวอนเทพเจ้าเพื่อที่จะได้รับพลังในการเพิ่มความเร็วในการต่อสู้ หรือการเดินให้กับตนเองหรือสมาชิกคนใดคนหนึ่งภายในทีม ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละคร Acolyte (ในกรณีที่เลือกเป็นซับคลาสจะไม่ได้ทักษะนี้) Spell Slot Level : S1 หรือมากกว่า Ability Score Minimum : Wis 10 Level 1 - Dex modifier +1 , Move Speed +1 ให้กับตนเองหรือว่าสมาชิกคนใดคนหนึ่งในทีม ภายในระยะรอบตัว 5X5 cell (ใช้ได้เฉพาะใน Battle Map เท่านั้น ผลของสกิลนี้จะอยู่ 2 Turn) Level 2 - Dex modifier +2 , Move Speed +1 ให้กับตนเองหรือว่าสมาชิกคนใดคนหนึ่งในทีม ภายในระยะรอบตัว 5X5 cell (ใช้ได้เฉพาะใน Battle Map เท่านั้น ผลของสกิลนี้จะอยู่ 3 Turn) Level 3 - Dex modifier +2 , Move Speed +2 ให้กับตนเองหรือว่าสมาชิกคนใดคนหนึ่งในทีม ภายในระยะรอบตัว 5X5 cell (ใช้ได้เฉพาะใน Battle Map เท่านั้น ผลของสกิลนี้จะอยู่ 4 Turn)
Blessing : ขอพรกับเทพสงคราม Tyre เพื่อเพิ่มพละกำลังและความแม่นยำให้กับตนเองหรือสมาชิกในทีม ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละคร Acolyte (ในกรณีที่เลือกเป็นซับคลาสจะไม่ได้ทักษะนี้) Spell Slot Level : S1 หรือมากกว่า Ability Score Minimum : Wis 10 Level 1 - ทำให้ตนเองหรือว่าสมาชิกในปาร์ตี้ ภายในระยะรอบตัว 5X5 cell ติดสถานะ Blessing +1 Hit Dice และ +1 Dmg Bonus เป็นระยะเวลา 2 Turn (ใช้ได้เฉพาะใน Battle Map เท่านั้น) Level 2 - ทำให้ตนเองหรือว่าสมาชิกในปาร์ตี้ ภายในระยะรอบตัว 5X5 cell ติดสถานะ Blessing +2 Hit Dice และ +2 Dmg Bonus เป็นระยะเวลา 3 Turn (ใช้ได้เฉพาะใน Battle Map เท่านั้น) Level 3 - ทำให้ตนเองหรือว่าสมาชิกในปาร์ตี้ ภายในระยะรอบตัว 5X5 cell ติดสถานะ Blessing +3 Hit Dice และ +3 Dmg Bonus เป็นระยะเวลา 4 Turn (ใช้ได้เฉพาะใน Battle Map เท่านั้น)
Holy Light : นักบวชที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีสามารถที่จะเปลี่ยนพลังเวทมนต์ของตัวเอง ด้วยสมาธิให้กลายเป็นลำแสงศักดิ์สิทธิ์ไปทำลายล้างศัตรูได้ บ่อยครั้งที่เราจะเห็นว่าการที่พวกเขานั้นจะสามารถทำเช่นนั้นได้เขาจะต้องมีโรซารี่อยู่ภายในมือเพื่อใช้ในการรวบรวมสมาธิ Skill Type : Offensive (ใช้ Action) Spell Slot Level : Cantrip ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 2 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) , ต้องการ Rosary ในการใช้สกิลนี้ Level 1 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 3 cell ด้วยเวทมนตร์ธาตุศักดิ์สิทธิ์ 1d8 + Wis modifier + Dmg Bonus Level 2 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 4 cell ด้วยเวทมนตร์ธาตุศักดิ์สิทธิ์ 1d10 + Wis modifier + Dmg Bonus Level 3 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 5 cell ด้วยเวทมนตร์ธาตุศักดิ์สิทธิ์ 1d12 + Wis modifier + Dmg Bonus
Aqua Benedicta : น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่สำคัญในการต่อสู้กับ Undead การที่จะเปลี่ยนน้ำธรรมดาให้กลายเป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ได้นั้นจำเป็นจะต้องใช้ความตั้งใจของนักบวชและทักษะบางอย่าง เมื่อตัวคุณได้เรียนทักษะนี้ไปแล้ว คุณก็จะสามารถสร้างน้ำมนต์ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 2 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) , ต้องมีภาชนะที่ใส่น้ำ หรือว่ามีภาชนะเปล่าและแหล่งน้ำอยู่ในบริเวณการใช้ทักษะ Spell Slot Level : S1 หรือมากกว่า Skill Type : Craft (ไม่สามารถใช้ในระหว่างการต่อสู้ได้) Ability Score Minimum : Wis 10 Level 1 - ทอยลูกเต๋า 1d4 หากค่าออกมาได้ 1 จะสามารถสร้างน้ำมนต์ได้สำเร็จ 1 ea Level 2 - ทอยลูกเต๋า 1d2 หากค่าออกมาได้ 1 จะสามารถสร้างน้ำมนต์ได้สำเร็จ 1 ea Level 3 - ทำการสร้างน้ำมนต์ 1 ea
Teleportation : นักบวชบางคนนั้นสามารถใช้พลังเวทย์มนต์ของเขาในการเคลื่อนย้ายร่างของตัวเองไปในพริบตา เพื่อที่จะไปโผล่อีกสถานที่หนึ่งได้ แต่การทำแบบนั้นพวกเขาจำเป็นต้องมีจิตใจที่แน่วแน่อย่างมากเลยทีเดียวจึงไม่ใช่ว่านักบวชทุกคนจะสามารถใช้มันได้อย่างอิสระ Skill Type : Support (ใช้แทน Move Action) Spell Slot Level : Cantrip ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 2 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) , Level 1 - ในช่วง Move action ถ้าหากว่าใช้ Skill Teleportation ให้ทำการถอยลูกเต๋า 1d3 และนำผลลัพธ์ที่ได้มาใช้แทนช่องที่จะเดิน (การเดินด้วย Teleportation สามารถที่จะข้ามสิ่งกีดขวางบางประเภทได้) ถ้าหากว่าทอยได้ 1 จะไม่สามารถที่จะเคลื่อนที่ได้ตามที่ต้องการและจะถูกย้ายตัวละครไปในตำแหน่งแบบ Random Level 2 - ในช่วง Move action ถ้าหากว่าใช้ Skill Teleportation ให้ทำการถอยลูกเต๋า 1d6 และนำผลลัพธ์ที่ได้มาใช้แทนช่องที่จะเดิน (การเดินด้วย Teleportation สามารถที่จะข้ามสิ่งกีดขวางบางประเภทได้) ถ้าหากว่าทอยได้ 1 จะไม่สามารถที่จะเคลื่อนที่ได้ตามที่ต้องการและจะถูกย้ายตัวละครไปในตำแหน่งแบบ Random Level 3 - ในช่วง Move action ถ้าหากว่าใช้ Skill Teleportation ให้ทำการถอยลูกเต๋า 1d10 และนำผลลัพธ์ที่ได้มาใช้แทนช่องที่จะเดิน (การเดินด้วย Teleportation สามารถที่จะข้ามสิ่งกีดขวางบางประเภทได้) ถ้าหากว่าทอยได้ 1 จะไม่สามารถที่จะเคลื่อนที่ได้ตามที่ต้องการและจะถูกย้ายตัวละครไปในตำแหน่งแบบ Random
|
|
|
Post by wildrose on Jan 8, 2020 12:01:02 GMT
Archer Class
Archer : นักธนู ผู้ซึ่งมีความแม่นยำในการใช้ลูกศรโจมตีในระยะไกล พวกเขานั้นถือว่าเป็นผู้ที่เป็นกำลังหลักในการโจมตีให้กับปาร์ตี้ในการต่อสู้ได้มากเลยทีเดียว อีกทั้งพวกเขานั้นยังมีความสามารถในการเข้าใจถึงธรรมชาติและความสามารถในการสังเกตการณ์และแกะรอยด้วย
Hit Points 12 + 1d12 + Constitution modifier Hit Points at Higher Levels 1d10 + Constitution modifier เมื่อทำการ Short Rest (1 - 3 hr) 1d10 + Constitution modifier ฟื้นฟูค่า Hit Points Class Move Speed 4 ช่อง
Proficiency Bonus +2 Weapons : มีด , ธนู , ธนูยาว , หน้าไม้ Armor : ชุดผ้า , ชุดเกราะเบา
Saving Throws : Dex , Wis
Proficiency (เลือกได้ 2 อย่าง) +1 Acrobatics (การแสดงผาดโผน,ความพริ้วไหวของร่างกาย,ความอ่อนตัวของร่างกาย) +1 Perception (ความสามารถในการสังเกต,ความสามารถในการวิเคราะห์สิ่งต่างๆ) +1 Stealth (ความสามารถในการหลบซ่อนตัว,ความสามารถในการหลบการตรวจจับ) +1 Performance (ความสามารถในการแสดงและการขับร้อง,ความสามารถในการสวมบทบาท) +1 Nature (ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ,ความเข้าใจในธรรมชาติ) +1 Animal Handling (การจัดการกับสัตว์เลี้ยง,การดูแลสัตว์,การฝึกสัตว์,การควบคุมสัตว์)
Spell Slot Level Level 1 S1[1] Level 2 S1[1] Level 3 S1[2] Level 4 S1[2] Level 5 S1[3] S2[1] Level 6 S1[3] S2[2] Level 7 S1[4] S2[2] Level 8 S1[5] S2[2] Level 9 S1[5] S2[3] Level 10 S1[6] S2[3]
Skills (เมื่อสร้างตัวละครทุกตัวละครจะได้รับ 3 skill Point และ เมื่อตัวละครเลเวลเพิ่มขึ้น จะได้รับ 2 skill Point ต่อ 1 เลเวล)
Owl's Eye : คุณมีดวงตาที่เหมือนกับนกฮูก คุณสามารถมองเห็นในความมืดได้ถึงแม้ว่าภาพที่คุณมองเห็นนั้นจะเป็นภาพขาวดำที่ดูไม่ชัดแต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าความมืดสนิทในยามราตรี ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละครหรือเลือกเป็นซับคลาส Level 1 - ทำให้ตัวละครสามารถมองเห็นในความมืดได้ในระยะ 5 เมตร Level 2 - ทำให้ตัวละครสามารถมองเห็นในความมืดได้ในระยะ 10 เมตร Level 3 - ทำให้ตัวละครสามารถมองเห็นในความมืดได้ในระยะ 15 เมตร , +1 Dex modifier
Vulture's Eye : คุณได้ทำการฝึกฝนสายตาของคุณให้มีความสามารถมากกว่ามนุษย์ปกติ คุณสามารถที่จะมองได้ในระยะไกลมากกว่าคนปกติด้วยทักษะนี้ ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละครหรือเลือกเป็นซับคลาส Level 1 - เพิ่มระยะการมองเห็นของตัวละคร 5 เมตร Level 2 - เพิ่มระยะการมองเห็นของตัวละคร 10 เมตร Level 3 - เพิ่มระยะการมองเห็นของตัวละคร 15 เมตร , +1 Perception
Improve Concentration : ทักษะนี้จะช่วยทำให้คุณสามารถรวบรวมสมาธิได้ในระยะเวลาสั้นๆโดยที่ไม่เลือกสถานที่และเวลา มันสามารถทำให้คุณอยู่ในสถานะได้เปรียบคู่ต่อสู้อย่างมากเลยทีเดียว ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละคร Archer (ในกรณีที่เลือกเป็นซับคลาสจะไม่ได้ทักษะนี้) Spell Slot Level : S1 เท่านั้น Ability Score Minimum : Wis 10
Level 1 - ทำให้ตัวละครของตัวเองติดสถานะ Improve Concentration เมื่อทำการทอยลูกเต๋าจะทำให้อยู่ในสถานะได้เปรียบทุกครั้ง (ยกเว้นถูกหักล้างด้วยสถานะเสียเปรียบ) เป็นระยะเวลา 3 Turn Level 2 - ทำให้ตัวละครของตัวเองติดสถานะ Improve Concentration เมื่อทำการทอยลูกเต๋าจะทำให้อยู่ในสถานะได้เปรียบทุกครั้ง (ยกเว้นถูกหักล้างด้วยสถานะเสียเปรียบ) เป็นระยะเวลา 4 Turn Level 3 - ทำให้ตัวละครของตัวเองติดสถานะ Improve Concentration เมื่อทำการทอยลูกเต๋าจะทำให้อยู่ในสถานะได้เปรียบทุกครั้ง (ยกเว้นถูกหักล้างด้วยสถานะเสียเปรียบ) เป็นระยะเวลา 5 Turn
Double Strafe : ด้วยการฝึกฝนที่แสนยากลำบากทำให้คุณสามารถจะยิงลูกธนูออกไป 2 ดอกได้ในระยะเวลาแทบจะไล่เลี่ยกัน ทักษะนี้สร้างความเสียหายได้มากกับศัตรูที่ตกเป็นเป้า ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 1 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) Spell Slot Level : S1 เท่านั้น Ability Score Minimum : Dex 12 Level 1 - ทำการโจมตีเป้าหมายด้วยลูกธนู 2 ดอกซ้อน Dmg.X1.5 Level 2 - ทำการโจมตีเป้าหมายด้วยลูกธนู 2 ดอกซ้อน Dmg.X2 Level 3 - ทำการโจมตีเป้าหมายด้วยลูกธนู 2 ดอกซ้อน Dmg.X3
Charge Arrow : ด้วยการฝึกฝนทักษะการยิงธนูที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ลูกธนูนั้นจะสามารถผลักศัตรูให้กระเด็นออกไปได้ ทั้งยังเพิ่มพลังโจมตีในการยิงอีกด้วย ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 2 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) Spell Slot Level : Cantrip Skill Type : Offensive (ใช้ Action) Ability Score Minimum : Dex 12 Level 1 - ทำการผลักเป้าหมายให้กระเด็นถอยหลัง 1 cell Level 2 - ทำการผลักเป้าหมายให้กระเด็นถอยหลัง 2 cell , Dmg +1 Level 3 - ทำการผลักเป้าหมายให้กระเด็นถอยหลัง 2 cell , Dmg +2
|
|
|
Post by wildrose on Jan 8, 2020 14:46:41 GMT
Magician Class
Magician : จอมเวทย์ผู้ซึ่งเข้าใจถึงศาสตร์แห่งเวทมนตร์ อาชีพนี้สามารถที่จะใช้เวทมนตร์ได้หลากหลายรูปแบบ และเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์และศัตรูที่เขาจะต้องเผชิญเบื้องหน้า Hit Points 10 + 1d6 + Constitution modifier Hit Points at Higher Levels 1d6 + Constitution modifier เมื่อทำการ Short Rest (1 - 3 hr) 1d6 + Constitution modifier ฟื้นฟูค่า Hit Points Class Move Speed 4 ช่อง
Proficiency Bonus +2 Weapons : ไม้คฑา , มีด , หนังสือ Armor : ชุดผ้า
Saving Throws : Int , Cha
Proficiency (เลือกได้ 2 อย่าง) +1 Arcana (ความสามารถด้านเวทมนต์,ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเวทมนตร์และศาสตร์ลึกลับ) +1 History (ความเชิงประวัติศาสตร์,ความรู้รอบตัว) +1 Nature (ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ,ความเข้าใจในธรรมชาติ) +1 Religion (ความรู้เกี่ยวกับทางด้านศาสนาและความเชื่อ,ความรู้เกี่ยวกับเทพและพิธีกรรมต่างๆ) +1 Persuasion (ความสามารถในการเจรจาโน้มน้าว,การชักชวน,การต่อรอง)
Spell Slot Level Level 1 S1[4] Level 2 S1[5] Level 3 S1[6] Level 4 S1[7] S2[1] Level 5 S1[8] S2[2] Level 6 S1[9] S2[3] Level 7 S1[10] S2[3] Level 8 S1[11] S2[4] Level 9 S1[12] S2[4] Level 10 S1[12] S2[5]
Skills (เมื่อสร้างตัวละครทุกตัวละครจะได้รับ 3 skill Point และ เมื่อตัวละครเลเวลเพิ่มขึ้น จะได้รับ 2 skill Point ต่อ 1 เลเวล)
Increase SP Recovery : ด้วยการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงทำให้พลังเวทย์ของคุณนั้นแข็งแกร่งขึ้น คุณใช้เวลาพักผ่อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็สามารถที่จะฟื้นฟูพลังเวทย์มาได้จำนวนมาก ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละครหรือเลือกเป็นซับคลาส Level 1 - เมื่อทำการ Short Rest จะสามารถฟื้นฟู Spell Slot S1 ได้ 1 ช่อง Level 2 - เมื่อทำการ Short Rest จะสามารถฟื้นฟู Spell Slot S1 ได้ 2 ช่อง Level 3 - เมื่อทำการ Short Rest จะสามารถฟื้นฟู Spell Slot S1 ได้ 1 ช่อง และ S2 ได้ 1 ช่อง Energy Coat : นักเวทย์ทุกคนนั้นรู้ตัวดีว่าร่างกายของพวกเขาอ่อนแอ ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามที่จะหาทางใช้พลังเวทมนตร์ของเขามาเพื่อเสริมจุดด้อยในตรงนี้จึงได้กำเนิดเวทมนตร์ชนิดนี้ขึ้นมา Skill Type : Defensive (ใช้ Action) Spell Slot Level : Cantrip ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 2 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) Level 1 - สร้างเกราะป้องกันการโจมตีทางกายภาพทั้งระยะใกล้และระยะประชิดให้กับตนเองด้วยเวทมนตร์ ค่าความเสียหายสุดท้ายที่ได้รับ -2 point Level 2 - สร้างเกราะป้องกันการโจมตีทางกายภาพทั้งระยะใกล้และระยะประชิดให้กับตนเองด้วยเวทมนตร์ ค่าความเสียหายสุดท้ายที่ได้รับ -3 point Level 3 - สร้างเกราะป้องกันการโจมตีทางกายภาพทั้งระยะใกล้และระยะประชิดให้กับตนเองด้วยเวทมนตร์ ค่าความเสียหายสุดท้ายที่ได้รับ -5 point
Napalm Beat : พลังเวทย์เข้าโจมตีศัตรูมันเป็นการโจมตีด้วยพลังเวทย์ที่เรียบง่ายแต่ก็ได้ผลเสมอ และไม่สิ้นเปลืองพลังเวทย์มากมายนัก ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละครหรือเลือกเป็นซับคลาส Level 1 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 5 cell ด้วยเวทมนตร์ 1d4 + Int modifier + Dmg Bonus Level 2 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 5 cell ด้วยเวทมนตร์ 1d6 + Int modifier + Dmg Bonus Level 3 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 5 cell ด้วยเวทมนตร์ 1d10 + Int modifier + Dmg Bonus Soul Strike : นักเวทย์มนต์สามารถที่จะใช้พลังวิญญาณของตัวเองปลดปล่อยออกไปเพื่อโจมตีศัตรูภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว มันสิ้นเปลืองพลังงานน้อยและสามารถใช้ได้หลายครั้งต่อวัน แต่ว่าพลังโจมตีก็ไม่รุนแรงเท่าไหร่นัก Skill Type : Offensive (ใช้ Action) Spell Slot Level : Cantrip ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 2 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) , จำเป็นต้องมีสกิล Napalm Beat LV 1 ขึ้นไป Level 1 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 5 cell ด้วยเวทมนตร์ธาตุวิญญาณ 1d6 + INT modifier + Dmg Bonus Level 2 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 4 cell ด้วยเวทมนตร์ธาตุวิญญาณ 2d6 + INT modifier + Dmg Bonus Level 3 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 3 cell ด้วยเวทมนตร์ธาตุวิญญาณ 3d6 + INT modifier + Dmg Bonus
Fire Bolt : ใช้พลังเวทย์ทำการจุดลูกศรไฟขึ้นมาพุ่งโจมตีใส่ศัตรู ทักษะนี้มีโอกาสทำให้ศัตรูติดสถานะไฟไหม้และได้รับบาดเจ็บตลอดเวลา ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละคร Magician (ในกรณีที่เลือกเป็นซับคลาสจะไม่ได้ทักษะนี้) Spell Slot Level : S1 หรือมากกว่า Ability Score Minimum : Int 10 Level 1 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 5 cell ด้วยเวทมนตร์ธาตุไฟ 1d8 + Int modifier + Dmg Bonus Level 2 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 5 cell ด้วยเวทมนตร์ธาตุไฟ 2d8 + Int modifier + Dmg Bonus Level 3 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 5 cell ด้วยเวทมนตร์ธาตุไฟ 3d8 + Int modifier + Dmg Bonus , มีโอกาสทำให้ศัตรูติดสถานะไฟไหม้
Fire Ball : ใช้เวทมนตร์อันมหาศาลสร้างลูกบอลเพลิงขนาดใหญ่ขึ้นมาและโจมตีศัตรูในวงกว้างมันสามารถสร้างความเสียหายให้กับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในบริเวณนั้นด้วยพลังของความร้อนและเปลวไฟ Skill Type : Offensive (ใช้ Action) Spell Slot Level : S2 หรือมากกว่า ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 2 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) , จำเป็นต้องมีสกิล Fire Bolt LV 1 ขึ้นไป Level 1 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 5 cell ด้วยเวทมนตร์ธาตุไฟ ที่มีความกว้างรัศมีวงกลมขนาด 3X3 Cell 1d20 + INT modifier + Dmg Bonus Level 2 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 6 cell ด้วยเวทมนตร์ธาตุไฟ ที่มีความกว้างรัศมีวงกลมขนาด 4X4 Cell 1d30 + INT modifier + Dmg Bonus Level 3 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 8 cell ด้วยเวทมนตร์ธาตุไฟ ที่มีความกว้างรัศมีวงกลมขนาด 5X5 Cell 1d40 + INT modifier + Dmg Bonus
Pyromancer : นักเวทย์หลายคนหลงใหลในเปลวเพลิง มันร้อนแรง มันเปลี่ยนแปลงไม่มีที่สิ้นสุด มันทรงพลัง มันสามารถที่จะเผาผลาญทุกอย่างให้กลายเป็นเถ้าธุลี จึงไม่แปลกใจเลยว่ามีนักเวทย์หลายคนที่หลงใหลในการใช้เวทมนต์ไฟ และแน่นอนว่าคุณก็คือหนึ่งในนั้น ใช่ไหมล่ะ ? Skill Type : Passive ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 3 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) , ต้องพกพา Item บางชนิด ทักษะนี้ถึงจะทำงาน Level 1 - เมื่อทำการใช้เวทมนตร์ไฟ ทอยลูกเต๋า 1d4 หากผลที่ได้เป็น 1 การใช้เวทมนตร์ครั้งนั้นจะไม่เสีย Spell Slot Level 2 - เมื่อทำการใช้เวทมนตร์ไฟ ทอยลูกเต๋า 1d3 หากผลที่ได้เป็น 1 การใช้เวทมนตร์ครั้งนั้นจะไม่เสีย Spell Slot Level 3 - เมื่อทำการใช้เวทมนตร์ไฟ ทอยลูกเต๋า 1d2 หากผลที่ได้เป็น 1 การใช้เวทมนตร์ครั้งนั้นจะไม่เสีย Spell Slot ,หากผลทอยลูกเต๋าสำเร็จ Dmg สุดท้ายของเวทมนตร์ไฟนั้นจะรุนแรงขึ้นสองเท่า
Cold Bolt : ใช่พลังเวทย์ของตนทำให้อุณหภูมิของหยดน้ำนั้นกลายเป็นน้ำแข็งและรวมกันกลายเป็นหอกน้ำแข็งที่แหลมคม ทักษะนี้มีโอกาสทำให้ศัตรูติดสถานะแช่แข็ง และบางครั้งผู้ที่ใช้ทักษะนี้ก็จะได้รับพลังเวทย์มนต์คืนมาบางส่วน ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละคร Magician (ในกรณีที่เลือกเป็นซับคลาสจะไม่ได้ทักษะนี้) Spell Slot Level : S1 หรือมากกว่า Ability Score Minimum : Wis 10 Level 1 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 5 cell ด้วยเวทมนต์ธาตุน้ำ 1d6 + Wis modifier + Dmg Bonus , มีโอกาสที่จะไม่ใช้ Spell Slot (ทอยลูกเต๋า 1d10 ได้แต้มมากกว่า 5 จะไม่ต้องเสีย Spell Slot) Level 2 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 5 cell ด้วยเวทมนต์ธาตุน้ำ 2d6 + Wis modifier + Dmg Bonus , มีโอกาสที่จะไม่ใช้ Spell Slot (ทอยลูกเต๋า 1d10 ได้แต้มมากกว่า 5 จะไม่ต้องเสีย Spell Slot) Level 3 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 5 cell ด้วยเวทมนต์ธาตุน้ำ 3d6 + Wis modifier + Dmg Bonus , มีโอกาสที่จะไม่ใช้ Spell Slot (ทอยลูกเต๋า 1d10 ได้แต้มมากกว่า 5 จะไม่ต้องเสีย Spell Slot), มีโอกาสทำให้ศัตรูติดสถานะแช่แข็ง
Lightning Bolt : ใช้พลังเวทย์มนต์เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าที่รุนแรงเข้าโจมตีศัตรู ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละคร Magician (ในกรณีที่เลือกเป็นซับคลาสจะไม่ได้ทักษะนี้) Spell Slot Level : S1 หรือมากกว่า Ability Score Minimum : Int 10 Level 1 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 5 cell ด้วยเวทมนต์ธาตุสายฟ้า 1d10 Level 2 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 5 cell ด้วยเวทมนต์ธาตุสายฟ้า 1d20 Level 3 - สร้างความเสียหายให้กับศัตรูในระยะ 5 cell ด้วยเวทมนต์ธาตุสายฟ้า 2d20
|
|
|
Post by wildrose on Jan 8, 2020 15:23:07 GMT
Merchant Class
Merchant : พ่อค้า คืออาชีพที่มีจำนวนมากที่สุดในบรรดานักผจญภัยทั้งหมด แต่ว่าก็น้อยคนนักที่จะมีคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อค้าที่เก่งกาจ พวกเขานั้นมีทั้งความสามารถในการต่อสู้และมีทั้งความสามารถในทางด้านการค้าขายและเจรจา Hit Points 16 + 1d16 + Constitution modifier Hit Points at Higher Levels 1d14 + Constitution modifier เมื่อทำการ Short Rest (1 - 3 hr) 1d16 + Constitution modifier ฟื้นฟูค่า Hit Points Class Move Speed 5 ช่อง
Proficiency Bonus +2 Weapons : ขวาน , ขวานสองมือ , กระบอง , มีด , ดาบ Armor : ชุดผ้า , ชุดเกราะเบา , ชุดเกราะหนัก Tool : รถเข็น , Magnifier (แว่นขยาย)
Saving Throws : Str , Cha
Proficiency (เลือกได้ 2 อย่าง) +1 Athletics (ความสามารถด้านกรีฑา,กิจกรรมที่ต้องใช้พลังกาย) +1 Medicine (ความรู้เรื่องยาและสมุนไพร,ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์,ความรู้เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ) +1 Persuasion (ความสามารถในการเจรจาโน้มน้าว,การชักชวน,การต่อรอง) +1 Deception (ความสามารถในการโกหกและหลอกลวง,ความสามารถในการใช้กลโกงต่างๆ) +1 Insight (การหยั่งลึกในจิตใจของผู้อื่น,การสังเกตอารมณ์ผู้อื่น)
Spell Slot Level Level 1 S1[1] Level 2 S1[2] Level 3 S1[2] Level 4 S1[3] Level 5 S1[3] S2[1] Level 6 S1[4] S2[1] Level 7 S1[5] S2[2] Level 8 S1[5] S2[3] Level 9 S1[6] S2[3] Level 10 S1[7] S2[3]
Skills (เมื่อสร้างตัวละครทุกตัวละครจะได้รับ 3 skill Point และ เมื่อตัวละครเลเวลเพิ่มขึ้น จะได้รับ 2 skill Point ต่อ 1 เลเวล)
Enlarge Weight Limit : คุณได้ฝึกการแบกน้ำหนักมาเป็นระยะเวลายาวนานทำให้ร่างกายของคุณนั้นชินกับการที่จะต้องถือของหนักเป็นระยะเวลานาน ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละครหรือเลือกเป็นซับคลาส Level 1 - ตัวละครสามารถบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น 5 กิโลกรัม Level 2 - ตัวละครสามารถบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น 10 กิโลกรัม Level 3 - ตัวละครสามารถบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น 20 กิโลกรัม
Discount : คุณมีความสามารถในการต่อราคาสินค้าอย่างช่ำชอง แต่แน่นอนว่าบางทีการต่อราคามากเกินไป ก็อาจจะทำให้มีคนไม่พอใจคุณได้นะ ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละครหรือเลือกเป็นซับคลาส Level 1 - เมื่อตัวละครทำการเจรจาขอลดราคาสินค้า +1 Point จากแต้มของลูกเต๋า Level 2 - เมื่อตัวละครทำการเจรจาขอลดราคาสินค้า +2 Point จากแต้มของลูกเต๋า Level 3 - เมื่อตัวละครทำการเจรจาขอลดราคาสินค้า +3 Point จากแต้มของลูกเต๋า
Overcharge : คุณรู้ราคาของสิ่งของที่คุณมีอยู่เป็นอย่างดี และคุณก็รู้ด้วยว่าคุณควรจะต้องขายมันไปในราคาเท่าไหร่ถึงจะสมน้ำสมเนื้อ หรือว่าได้กำไร ความต้องการ : ปลดล็อคเมื่อทำการสร้างตัวละครหรือเลือกเป็นซับคลาส Level 1 - เมื่อตัวละครทำการต่อรองขอเพิ่มราคาสินค้าที่กำลังจะขาย +1 Point จากแต้มของลูกเต๋า Level 2 - เมื่อตัวละครทำการต่อรองขอเพิ่มราคาสินค้าที่กำลังจะขาย +2 Point จากแต้มของลูกเต๋า Level 3 - เมื่อตัวละครทำการต่อรองขอเพิ่มราคาสินค้าที่กำลังจะขาย +3 Point จากแต้มของลูกเต๋า
Item Appraisal : มีสิ่งของมากมายที่เคยผ่านตาคุณมาแล้ว และบางครั้งคุณก็ได้ยินเกี่ยวกับของหายากในตำนานอันแสนจะล้ำค่า คุณสามารถจดจำมันได้ทั้งหมด หรืออย่างน้อยก็เกือบทั้งหมดได้เลย และแน่นอนคุณรู้จักสิ่งที่อยู่ในมือของคุณตอนนี้ด้วย ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 1 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) , ต้องการไอเทม Magnifier (แว่นขยาย) ในการใช้สกิลนี้ Level 1 - สามารถตรวจสอบ Item ระดับ Rare ได้ Level 2 - สามารถตรวจสอบ Item ระดับ Unique ได้ Level 3 - สามารถตรวจสอบ Item ระดับ Legendary ได้
Crazy Uproar : ตะโกนออกมาด้วยเสียงดังเพื่อสร้างกำลังใจให้กับตนเองให้เกิดความฮึกเหิม การกระทำแบบนี้มันช่วยทำให้คุณสามารถที่จะรีดเร้นเอาพลังของกล้ามเนื้อทั้งหมดออกมาใช้ได้ Skill Type : Buff (ใช้ Action) Spell Slot Level : Cantrip ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 2 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) Level 1 - เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพของตนเองเป็นระยะเวลา 2 turn เมื่อทำการโจมตีทางกายภาพดาเมจสุดท้าย +2 Level 2 - เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพของตนเองเป็นระยะเวลา 3 turn เมื่อทำการโจมตีทางกายภาพดาเมจสุดท้าย +3 Level 3 - เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพของตนเองเป็นระยะเวลา 5 turn เมื่อทำการโจมตีทางกายภาพดาเมจสุดท้าย +5
Mammonite : มีคนเคยบอกว่าเงินคือพลังอำนาจ ตัวละครของคุณนี่แหละที่จะพิสูจน์คำกล่าวนั้น ความต้องการ : ตัวละครเลเวล 1 , มีเงื่อนไขในการเรียนรู้ (อ่านจากตำรา , ได้รับการสอนจาก NPC หรือตัวละครอื่น) , ต้องการเซนนี่ ในการใช้สกิลนี้ Spell Slot Level : S1 หรือมากกว่า Ability Score Minimum : Cha 10 Level 1 - เพิ่มพลังโจมตี X2 , ใช้ Zeny 1000 Level 2 - เพิ่มพลังโจมตี X2.5 , ใช้ Zeny 800 Level 3 - เพิ่มพลังโจมตี X3 , ใช้ Zeny 500
|
|
|
Post by wildrose on Jan 9, 2020 11:22:03 GMT
Backgrounds
Acolyte : ก่อนที่คุณจะมาเป็นนักผจญภัย คุณเคยเป็นนักบวชผู้เคร่งครัดในศาสนาเมื่อก่อน แต่ด้วยเหตุผลบางประการทำให้คนนั้นจำเป็นที่จะต้องออกมาผจญภัยและออกไปสู่โลกกว้าง แต่ว่าความสามารถและประสบการณ์ ในสมัยที่คุณยังเคยเป็นนักบวช ก็ยังคงช่วยเหลือคุณได้ในการผจญภัยเบื้องหน้าของคุณ Proficiency (เลือกได้ 1 อย่าง) +1 Religion (ความรู้เกี่ยวกับทางด้านศาสนาและความเชื่อ,ความรู้เกี่ยวกับเทพและพิธีกรรมต่างๆ) +1 Medicine (ความรู้เรื่องยาและสมุนไพร,ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์,ความรู้เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ)
Charlatan : การหลอกลวงเป็นสิ่งที่คุณถนัด คุณเคยเป็นนักต้มตุ๋นที่หลอกลวงชาวบ้านชาวช่องเขามาแล้วนะครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้คุณนั้นต้องออกมาผจญภัยสู่โลกกว้าง แต่ว่าคุณก็ยังคงไม่สามารถที่นิสัยเดิมของคุณได้ แต่บางทีนิสัยเดิมของคุณนั้นอาจจะเป็นประโยชน์ในการต่อสู้กับโลกอันโหดร้ายเบื้องหน้า Proficiency (เลือกได้ 1 อย่าง) +1 Deception (ความสามารถในการโกหกและหลอกลวง,ความสามารถในการใช้กลโกงต่างๆ) +1 Performance (ความสามารถในการแสดงและการขับร้อง,ความสามารถในการสวมบทบาท)
Criminal : ภายในเมืองนั้นเต็มไปด้วยกฎหมาย ซึ่งบางทีมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณชอบใจมันเท่าไหร่นัก แน่นอนว่าคุณก็เคยทำผิดในสิ่งที่เขานั้นสั่งห้าม แต่ใครจะสนใจกันล่ะมันก็เป็นแค่อดีต ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้คุณนั้นเปลี่ยนจากอาชญากรกลายเป็นนักผจญภัย แต่ว่าความสามารถของคุณเมื่อครั้งยังเป็นอาชญากรก็ยังคงฝังรากลึกอยู่ในตัวของคุณ Proficiency (เลือกได้ 1 อย่าง) +1 Sleight of Hand (ความคล่องแคล่วว่องไวในการใช้มือ,มือเบา,ความชำนาญในการหยิบฉวย) +1 Intimidation (ความสามารถในการข่มขู่,ความสามารถในการทำให้หวาดกลัว)
Spy Criminal : บ้านเมืองนั้นเต็มไปด้วยกฎหมาย และแน่นอนว่าคุณเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่อยากจะทำผิดกฎหมายแต่คุณก็ไม่อยากที่จะต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบบางแสนจะบีบคัน แต่คุณนั้นก็ฉลาดพอที่จะเลือกใช้ประโยชน์จากช่องว่างของกฎที่มีอยู่มากมาย คุณเป็นคนที่ฉลาดนะ แต่ว่าด้วยเหตุผลบางอย่างของตัวคุณทำให้คุณนั้นต้องเปลี่ยนจากสิ่งที่คุณเคยทำอยู่กลายมาเป็นนักผจญภัยแต่ว่าเชื่อเถอะสิ่งที่คุณเคยเป็นก็ยังคงไม่จางหายไปจากตัวคุณหรอก Proficiency (เลือกได้ 1 อย่าง) +1 Deception (ความสามารถในการโกหกและหลอกลวง,ความสามารถในการใช้กลโกงต่างๆ) +1 Stealth (ความสามารถในการหลบซ่อนตัว,ความสามารถในการหลบการตรวจจับ)
Entertainer : ความบันเทิงเป็นสิ่งที่ทุกคนนั้นถวิลหา คุณเป็นคนสร้างมันขึ้นมาหลายคนบอกว่าคุณเป็นคนที่ทำให้พวกเขารู้สึกพึงพอใจ แต่บางทีคุณก็มีโชคชะตาที่เล่นตลกทำให้คุณต้องเปลี่ยนจากผู้ให้ความบันเทิงมาเป็นนักผจญภัย แต่ว่าทักษะที่ยังคงติดตัวของคุณนั้นก็ไม่ได้หายไปไหนมันยังคงเป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวของคุณ Proficiency (เลือกได้ 1 อย่าง) +1 Performance (ความสามารถในการแสดงและการขับร้อง,ความสามารถในการสวมบทบาท) +1 Acrobatics (การแสดงผาดโผน,ความพริ้วไหวของร่างกาย,ความอ่อนตัวของร่างกาย) (ทำการเลือกเครื่องดนตรี 1 อย่างที่คุณจะเล่นเป็น หรือว่าการแสดง 1 อย่างที่คุณนั้นถนัด)
Entertainer Gladiator : ความบันเทิงไม่ได้มีแต่การดีดสีตีเป่าหรือว่าการเล่นละครหรอกนะ การต่อสู้และความรุนแรงก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยสร้างความบันเทิงได้เหมือนกัน การที่จะมีนักรบสักคนมาต่อสู้ในโคลอสเซียมกับMonster ที่ดุร้าย มันช่วยทำให้อะดรีนาลีนและโดปามีนของผู้ชมพุ่งพล่านได้เหมือนกัน คุณคือคนที่ทำแบบนั้น มาก่อนยังไงล่ะ Proficiency (เลือกได้ 1 อย่าง) +1 Acrobatics (การแสดงผาดโผน,ความพริ้วไหวของร่างกาย,ความอ่อนตัวของร่างกาย) +1 Athletics (ความสามารถด้านกรีฑา,กิจกรรมที่ต้องใช้พลังกาย)
Folk Hero : ภายในหมู่บ้านเล็กๆที่ห่างไกลความเจริญมันไม่เคยมีผู้กล้าคนไหนเข้าไปเยือนที่นั่นหรอกแต่ว่าที่นั่นก็ยังคงมีตำนานของวีรบุรุษที่ต่อสู้กับสัตว์ร้ายอย่างห้าวหาญ ใช่แล้วมันคือเรื่องของคุณยังไงล่ะ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ตำนานที่ยิ่งใหญ่จนกลายเป็นนิทานก่อนนอน แต่มันก็คือเรื่องราวของคุณเมื่อครั้งที่ผ่านมาและคุณก็คือตำนานที่มีชีวิต เพียงแต่เป็นตำนานเล็กๆเท่านั้น Proficiency (เลือกได้ 1 อย่าง) +1 Animal Handling (การจัดการกับสัตว์เลี้ยง,การดูแลสัตว์,การฝึกสัตว์,การควบคุมสัตว์) +1 Survival (ความสามารถในการเอาชีวิตรอด,ความสามารถในการหาอาหาร)
Guild Artisan : ก่อนที่คุณจะมาเป็นนักผจญภัยคุณเคยเป็นช่างฝีมือคนหนึ่งของสมาคม อาจจะเป็นช่างตีเหล็ก ช่างเครื่องหนัง คนตัดเสื้อผ้า หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มันก็เป็นอดีตของคุณ ทักษะเหล่านั้นยังคงติดตัวคุณมาถึงแม้ว่าในตอนนี้คุณจะเป็นนักผจญภัยเต็มตัวแล้วก็ตาม Proficiency (เลือกได้ 1 อย่าง) +1 Persuasion (ความสามารถในการเจรจาโน้มน้าว,การชักชวน,การต่อรอง) +1 Insight (การหยั่งลึกในจิตใจของผู้อื่น,การสังเกตอารมณ์ผู้อื่น)
Hermit : ก่อนที่คุณจะมาเป็นนักผจญภัยคุณคือผู้ที่เร้นกายอยู่ในป่า ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและสัตว์ป่า จนแทบที่ทุกสิ่งทุกอย่างภายในป่ามันจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับตัวคุณ แต่เหมือนว่าโชคชะตาเล่นตลกคุณต้องออกมากลายเป็นนักผจญภัยด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างแต่ความสามารถในตอนช่วงที่คุณอยู่ในป่านั้นมันยังคงอยู่ในจิตวิญญาณที่มุ่งมั่นของคุณ Proficiency (เลือกได้ 1 อย่าง) +1 Nature (ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ,ความเข้าใจในธรรมชาติ) +1 Survival (ความสามารถในการเอาชีวิตรอด,ความสามารถในการหาอาหาร)
Noble : คนเกิดในตระกูลขุนนางที่สูงส่งและเต็มไปด้วยความมั่งคั่ง แต่คนเราชีวิตย่อมพลิกผันได้เสมอในตอนนี้คุณกลายเป็นนักผจญภัยหน้าใหม่ แต่ความสามารถและการศึกษาที่คุณได้รับมาเป็นอย่างดีในช่วงที่คุณเป็นขุนนางทำให้คุณนั้นมีความแตกต่างจากนักผจญภัยทั่วไป Proficiency (เลือกได้ 1 อย่าง) +1 History (ความเชิงประวัติศาสตร์,ความรู้รอบตัว) +1 Persuasion (ความสามารถในการเจรจาโน้มน้าว,การชักชวน,การต่อรอง) (ได้รับเงินเริ่มต้น +1000 zeny)
Noble Knight : ในอดีตคุณเคยเป็นถึงอัศวินที่กล้าหาญของอาณาจักรแห่งหนึ่ง และคุณก็ยังคงมีสายเลือดของขุนนางด้วย มันช่างเป็นอะไรที่พิเศษจริงๆเหมือนกับอยู่ในนิทานเลย แต่ว่าความเป็นจริงแล้วในตอนนี้ชะตาชีวิตของคุณเล่นตลกทำให้คุณกลายมาเป็นนักผจญภัยธรรมดา แต่ว่าอดีตที่ผ่านมาของคุณนั้นทำให้คุณรู้ว่าคุณนั้นไม่ใช่คนธรรมดาเหมือนคนอื่นทั่วไป Proficiency (เลือกได้ 1 อย่าง) +1 Athletics (ความสามารถด้านกรีฑา,กิจกรรมที่ต้องใช้พลังกาย) +1 History (ความเชิงประวัติศาสตร์,ความรู้รอบตัว) (ได้รับเงินเริ่มต้น +1000 zeny)
Outlander : คุณคือคนเถื่อนที่อยู่สุดชายขอบของทวีป ไม่มีใครรู้ว่าหมู่บ้านของคุณนั้นชื่อว่าอะไรเพราะมันไกลเกินไปกว่าที่พวกเขาจะไปถึง คุณใช้ชีวิตอยู่นอกเหนือจากกฎหมายที่เมืองใหญ่นั้นกำหนด แต่นั่นไม่ใช่เพราะว่าคุณมีสิทธิพิเศษหรอกนะ เพียงแต่ว่าคุณอยู่ไกลเกินไปจนสายตาของพวกนั้นมองไม่ถึงเท่านั้นเอง ดังนั้นคุณจึงมีความเป็นอิสระในตัวเองสูงและตอนนี้คุณก็เป็นนักผจญภัยที่มีความคิดแบบนั้น Proficiency (เลือกได้ 1 อย่าง) +1 Survival (ความสามารถในการเอาชีวิตรอด,ความสามารถในการหาอาหาร) +1 Athletics (ความสามารถด้านกรีฑา,กิจกรรมที่ต้องใช้พลังกาย)
Pirate : โจรสลัดได้ยินชื่อนี้แล้วก็คงจะนึกถึงในทางที่ดีไม่ค่อยออกเท่าไหร่นัก แต่ยังไงก็ช่างมันเถอะมันคืออดีตของคุณ ถึงแม้ว่าในสมัยก่อนคุณจะเคยปล้นชิงสินค้ามามากขนาดไหน หรือคุณจะเคยไปทำเรื่องเลวร้ายอะไรมาถ้าเกิดว่าคุณไม่พูดก็ไม่มีใครรู้หรอก ในตอนนี้คุณเป็นนักผจญภัยแล้วและไม่มีใครรู้ถึงอดีตของคุณแต่ว่าอดีตมันก็ยังคงอยู่ไหนลักษณะนิสัยของคุณอยู่ดี Proficiency (เลือกได้ 1 อย่าง) +1 Intimidation (ความสามารถในการข่มขู่,ความสามารถในการทำให้หวาดกลัว) +1 Athletics (ความสามารถด้านกรีฑา,กิจกรรมที่ต้องใช้พลังกาย)
Soldier : คุณเป็นทหารมาก่อน แต่ไม่ใช่ทหารที่รับใช้ชาติด้วยความจงรักภักดีอะไรแบบนั้นหรอกนะ คุณคือทหารรับจ้างที่ทำงานเพื่อเงิน ใครจ่ายมากกว่าคุณก็รบให้คนๆนั้น ภายในสงครามไม่มีมิตรหรือศัตรูหรอกมีแต่เพียงผลประโยชน์ทั้งนั้นแหละ แต่ในตอนนี้คุณได้ละทิ้งชีวิตแบบนั้นไปแล้วคุณกลายเป็นนักผจญภัยแต่ความสามารถในตอนที่คุณยังเป็นทหารมันก็ยังคงหลงเหลืออยู่ในตัวของคุณ Proficiency (เลือกได้ 1 อย่าง) +1 Athletics (ความสามารถด้านกรีฑา,กิจกรรมที่ต้องใช้พลังกาย) +1 Animal Handling (การจัดการกับสัตว์เลี้ยง,การดูแลสัตว์,การฝึกสัตว์,การควบคุมสัตว์)
|
|
|
Post by wildrose on Jan 10, 2020 1:46:21 GMT
Playing Log 09/01/20 (วันที่ 1) Ragnarok World
นักผจญภัยทุกคนเริ่มต้นที่เอเดนกรุ๊ป ภายในเมือง Prontera ทุกคนกำลังยืนดูกระดานบอร์ดภารกิจซึ่งถูกติดเอาไว้ภายในสมาคม ในตอนนั้น Popoto ซึ่งเป็นนักบวชหนุ่มได้เห็นใบประกาศ ภารกิจในการตี poring ซึ่งดูแล้วมันจะเหมาะกับเลเวลของเขาในตอนนี้แต่ว่าใบประกาศที่ถูกติดอยู่บนบอร์ดนั้นอยู่สูงเกินกว่าที่เขาจะหยิบมันมาได้
ในช่วงเวลานั้นเองนักเวทย์หนุ่มผู้มีนามว่า มาคัส ได้ใช้เวทมนตร์ Napalm Beat ของเขาเพื่อที่จะ ทำให้กระดาษใบประกาศนั้นร่วงลงมา แต่ด้วยความที่เขานั้นควบคุมพลังเวทย์ผิดพลาด จึงทำให้เวทย์มนต์ Napalm Beat ระเบิดกระดานภารกิจกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ภายในความตกตะลึง
พ่อค้าหนุ่มผู้มีนามว่า โจทาโร่ ก็ได้เดินเข้ามาต่อว่ามาคัสด้วยท่าทางที่ดูไม่พอใจ คำกล่าวของโจทาโร่ทำให้มาร์คัส รู้สึกสำนึกผิดก่อนที่เขานั้นจะยืนคอตกอยู่ตรงนั้น
ในตอนนั้น Popoto ก็ไม่ละความพยายาม เขาพยายามที่จะค้นหาใบภารกิจที่เขาหมายตาเอาไว้และก็เหมือนกับปาฏิหาริย์เล็กๆเกิดขึ้นเขาล้วงมือลงไปภายในกองซากปรักหักพังและหยิบแผ่นกระดาษขึ้นมาแผ่นนึงมันคือภารกิจที่เขาตามหาอยู่จริงๆ
แต่ในระหว่างความดีใจนั้นโจรหนุ่มผู้มีนามว่าชินโซ ก็ได้เอื้อมมือไปคว้ากระดาษภารกิจภายในมือของ Popoto อย่างไม่ลังเล ทั้งสองคนที่จับกระดาษเอาไว้คนละข้างจึงทำให้กระดาษภารกิจขาดออกเป็น 2 ส่วนทำให้พวกเขาทั้งสองคนนั้นไม่สามารถจะรับภารกิจนี้ได้อีกต่อไป
ภายในกองซากปรักหักพัง เฮเลล นักดาบหนุ่มผู้ร่ำรวย ก็ได้หยิบใบประกาศภารกิจขึ้นมา 1 ใบซึ่งมันคือภารกิจที่ให้ไปกำจัด Rocker ที่อยู่ด้านนอกเมือง Prontera โดยมีชาวบ้านซึ่งทำการปลูกพืชทำเกษตรกรรมอยู่ด้านนอกเมือง Prontera เป็นผู้เขียนคำร้องเนื่องจากว่า Rocker ได้ไปทำลายพืชผลของเขาเป็นจำนวนมากอีกทั้งยังส่งเสียงดังหนวกหูในเวลากลางคืนทำให้ชีวิตประจำวันของพวกเขานั้นเกิดความปั่นป่วน รางวัลในภารกิจครั้งนี้คือ 2000 เซนนี่
เฮเลล รู้สึกพอใจในภารกิจที่เขานั้นคว้าขึ้นมาได้ จึงกำลังจะเดินไปทำการลงทะเบียน ในจังหวะนั้น นักเวทย์หนุ่มมาคัส ที่หายจากอาการรู้สึกสำนึกผิดแล้วก็เดินเข้าไปขอเข้าร่วมปาร์ตี้กับเฮเลลด้วยท่าทางที่ดูเป็นมิตร
Papoto ที่กำลังดูเหตุการณ์อยู่ในตอนนั้นแทนที่เขาจะทะเลาะกับชินโซเขาก็เลือกที่จะเข้าปาร์ตี้ของเฮเลลด้วยเช่นกัน เพราะว่าภารกิจในการตี Rocker สำหรับมือใหม่มันเป็นอะไรที่ยากเย็นเกินกว่าจะทำได้สำเร็จด้วยสมาชิกเพียงแค่ 2-3 คน
พ่อค้าผู้มีนามว่าโจทาโร่ เป็นคนที่ต้องการจะตามหาวัตถุดิบบางอย่างเพื่อความพอใจส่วนตัวของเขาเขาจึงได้ขอเข้าร่วมในภารกิจของเฮเลลด้วยเช่นกัน
ในช่วงนั้นมีนักธนูหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่าปาร์ค มีชื่อเต็มว่า ปาร์ค นำ โพ (ปากน้ำโพ) เขาบอกว่าเขาเป็นนักธนูผู้เดินทางมาจากดินแดนอันไกลทำให้ชื่อของเขานั้นแปลกหน่อย เขาสนทนากับสมาชิกทุกคน ด้วยการเขียนใส่กระดาษ ขนาดเล็กซึ่งเขานั้นมักจะพกติดตัวเนื่องจากว่าเขานั้นไม่สามารถที่จะพูดได้ ด้วยสาเหตุอะไรบางอย่าง แต่ทุกคนก็มองข้ามความพิการส่วนนั้นและยอมรับเขาเข้าเป็นสมาชิกภายในปาร์ตี้เนื่องจากท่าทางที่ดูเอาจริงเอาจังของเขา
ในขณะที่โจรหนุ่มผู้มีนามว่าชินโซ ก็ได้ขอเข้าร่วมปาร์ตี้เป็นคนสุดท้ายเพียงแต่ว่าเขานั้นถูกสายตาของทุกคนมองอย่างหวาดระแวงในตอนแรกเนื่องจากเขาพยายามจะขโมยภารกิจกำจัด Poring ของPapoto แต่ชินโซก็ได้ขอโทษออกมาอย่างจริงใจทำให้สมาชิกทุกคนยอมรับเขาเข้าร่วมปาร์ตี้
ในขณะที่ปาร์ตี้นั้นกำลังก่อตัว หัวหน้าสมาคมเอเดนกรุ๊ปสาขา Prontera เธอเป็นอัศวินสาวผมสีส้มผู้มีนามว่า Boya ได้เดินเข้ามาด้วยท่าทางที่ดูโมโหสุดขีด พร้อมกับกล่าวว่าใครกันที่เป็นคนทำกระดานภารกิจแหลกเป็นผงแบบนี้
ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างเงียบสนิทมีแต่เพียงพ่อค้าผู้มีนามว่าโจทาโร่เท่านั้นที่บอกว่ามาร์คัสเป็นคนทำ Boya เดินเข้าไปหามาคัสอย่างไม่ลังเลพร้อมกับถามเขาว่าเขาเป็นคนทำหรือไม่
มาคัส ยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชายพร้อมกับยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับทางสมาคมเอเดนเป็นเงินจำนวน 1000 เซนนี่ อีกทั้งมาคัสยังปฏิเสธความหวังดีของเฮเลลที่จะจ่ายค่าเสียหายแทนให้ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักกันก็ตาม ดังนั้นการกระทำของมาคัสนั้นจึงทำให้กระเป๋าเงินของเขานั้นไม่เหลือเงินเลยแม้แต่แดงเดียว
หลังจากที่ชดใช้ค่าเสียหายและรวมสมาชิกภายในปาร์ตี้ได้ทั้งหมด 6 คน พวกเขาจึงตัดสินใจจะไปซื้อของเพื่อที่จะเตรียมตัวไปทำภารกิจภายในวันนี้ ในตอนนี้เป็นเวลาประมาณเที่ยงพวกเขานั้นควรจะต้องรีบลงมือก่อนที่มันจะค่ำ เพราะว่าภารกิจนั้นมีระยะเวลาให้ทำเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น
เฮเลล นำกระดาษภารกิจไปประทับตราที่เคาน์เตอร์ของสมาคมก่อนที่เจ้าหน้าที่ของสมาคมนั้นจะพูดเตือนเขาเรื่องเกี่ยวกับการทำภารกิจล้มเหลวว่ามันเป็นสิ่งที่แย่ทำให้พวกเขานั้นมีประวัติที่ไม่ดีดังนั้นพวกเขาควรจะต้องระวังตัวในเรื่องนี้ด้วย
เมื่อได้รับรู้ข้อมูลทุกอย่างสมาชิกทั้ง 6 คนภายในปาร์ตี้จึงตัดสินใจที่จะออกไปซื้อของภายในเมือ Prontera โดยที่ มาคัส เฮเลล และชินโซ เลือกที่จะไปยังร้านอุปกรณ์สวมใส่ ในขณะที่ Papoto โจทาโร่ และท่านปาร์ค เลือกที่จะไปยังร้านขายของจิปาถะ เพื่อที่จะไปเตรียมยาสำหรับฟื้นฟูพลังที่จะต้องใช้ในภารกิจและอาหารอีกเล็กน้อย
ภายในร้านขายอุปกรณ์
เฮเลลเลือกที่จะซื้อ Adventure Suite เพื่อที่จะมาสวมใส่เพื่อจะเพิ่มพลังป้องกันของเขา เนื่องจากว่าในตอนนี้เขาเป็นนักดาบที่ยังไม่มีชุดเกราะใส่เลย ราคาของอุปกรณ์ในตอนนี้ค่อนข้างที่จะแพงจึงทำให้มาร์คัสได้ถามกับเจ้าของร้านว่าทำไมอุปกรณ์ในช่วงนี้มันถึงได้แพงแบบนี้
คำตอบของเจ้าของร้านก็คือในตอนช่วงนี้วัตถุดิบต่างๆนั้นหายากเนื่องจากว่า Monster ออกอาละวาดไปทั่วทั้งทวีป อุปกรณ์ในการตีเหล็กและแร่ที่ใช้ในการตีซึ่งหาได้จากภูเขาโยเนีย ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของเมือง Prontera ได้ถูกเหล่าบรรดา undead เข้าไปยึดครอง ทำให้การผลิตและแร่ลดลงเป็นอย่างมากวัตถุดิบจึงมีราคาแพงและทำให้สินค้ามีราคาแพงตามไปด้วย
ทางด้านร้านขายของจิปาถะ
Papoto ท่านปาร์ค โจทาโร่ เลือกที่จะซื้อของโดยการที่พวกเขานั้นจะนำสิ่งของ ของพวกเขาทั้งสามคนมารวมราคากันและนำไปต่อรองกับแม่ค้าเพื่อที่จะขอลดราคา โดยที่โจทาโร่เป็นคนเจรจา แต่ดูเหมือนว่าโจทาโร่นั้นจะเจรจาไม่สำเร็จแม่ค้าไม่ยอมลดราคาให้แต่เธอก็มีข้อแม้ว่าถ้าหากว่าโจทาโร่ชนะพนันในการเล่นพนันของเธอ เธอจะยอมลดราคาให้โดยมีเงื่อนไขดังนี้
พวกเขาจะทำการโยนหัวก้อยกัน 1 ครั้ง ถ้าหากว่าออกหัว แม่ค้าจะลดราคาของสินค้าให้ แต่ถ้าออกก้อย พวกของโจทาโร่จะต้องจ่ายเงินค่าสินค้า 2 เท่า ด้วยความขี้ขลาดโจทาโร่ไม่รับข้อเสนอ เขาไม่อยากที่จะต้องเสี่ยงในการที่จะจ่ายเงิน 2 เท่า การค้าขายแบบแฟร์ๆจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
Ragnarok World วันที่ 1 จบลง
สมาชิกที่ได้ร่วมเล่นในวันนี้ เฮเลล Papoto โจทาโร่ ชินโซ มาคัส ปาร์ค นำ โพ
|
|
|
Post by wildrose on Jan 10, 2020 5:46:59 GMT
Status and bonus
เมื่อผู้เล่นทำการสร้างตัวละครจะต้องทำการทอยลูกเต๋า 1d6 จำนวน 4 ลูกและนำค่าของลูกเต๋าที่น้อยที่สุดออกไปเพื่อจะใช้ค่าของลูกเต๋าที่เหลืออีก 3 ลูกเป็นค่าสเตตัสของตัวละครโดยทุกๆค่าแต่ละที่เพิ่มขึ้นจะไปเพิ่ม ability โบนัสให้กับตัวละครด้วย โดยจะแบ่งดังนี้
ค่าสเตตัส 0 จะบวกค่า Modify โบนัส -5 ค่าสเตตัส 2 จะบวกค่า Modify โบนัส -4 ค่าสเตตัส 4 จะบวกค่า Modify โบนัส -3 ค่าสเตตัส 6 จะบวกค่า Modify โบนัส -2 ค่าสเตตัส 8 จะบวกค่า Modify โบนัส -1 ค่าสเตตัส 10 จะบวกค่า Modify โบนัส 0 ค่าสเตตัส 12 จะบวกค่า Modify โบนัส 1 ค่าสเตตัส 14 จะบวกค่า Modify โบนัส 2 ค่าสเตตัส 16 จะบวกค่า Modify โบนัส 3 ค่าสเตตัส 18 จะบวกค่า Modify โบนัส 4 ค่าสเตตัส 20 จะบวกค่า Modify โบนัส 5
โดยที่ค่า modifier bonus จะส่งผลต่อค่า Proficiency ที่เกี่ยวข้องกับค่าสเตตัสนั้นโดยตรง โดยค่าสเตตัสต่างๆจะแบ่ง Proficiency ในการส่งผลดังนี้
EX.1 ตัวอย่าง
ตัวละครได้ค่า Str อยู่ที่ 12 เขาจะได้ค่า Modify โบนัสอยู่ที่ 1 จึงทำให้ Skill ที่มีชื่อว่า Athletics ซึ่งเกี่ยวข้องกับค่า Str +1 ไปด้วย และถ้าหากรวมกับค่า Proficiency Bonus +2 ก็จะได้เท่ากับ Athletics +3 และในกรณีที่ค่าสเตตัส Modifier นั้นเป็น เป็นค่าติดลบ ก็จะทำให้ค่า Skill ลดลงไปด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น Str = 8 Modify = -1 ตัวละครนั้นหลังจากที่รวมค่า Proficiency เข้าไปแล้วจะได้ Skill Athletics +1 เท่านั้น
คำอธิบาย Skill มีทั้งหมดดังนี้ Athletics (ความสามารถด้านกรีฑา,กิจกรรมที่ต้องใช้พลังกาย) Acrobatics (การแสดงผาดโผน,ความพริ้วไหวของร่างกาย,ความอ่อนตัวของร่างกาย) Sleight of Hand (ความคล่องแคล่วว่องไวในการใช้มือ,มือเบา,ความชำนาญในการหยิบฉวย) Stealth (ความสามารถในการหลบซ่อนตัว,ความสามารถในการหลบการตรวจจับ) Arcana (ความสามารถด้านเวทมนต์,ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเวทมนตร์และศาสตร์ลึกลับ) History (ความเชิงประวัติศาสตร์,ความรู้รอบตัว) Investigation (ความสามารถในการสืบสวน,ความสามารถในการไขปริศนา) Nature (ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ,ความเข้าใจในธรรมชาติ) Religion (ความรู้เกี่ยวกับทางด้านศาสนาและความเชื่อ,ความรู้เกี่ยวกับเทพและพิธีกรรมต่างๆ) Animal Handling (การจัดการกับสัตว์เลี้ยง,การดูแลสัตว์,การฝึกสัตว์,การควบคุมสัตว์) Insight (การหยั่งลึกในจิตใจของผู้อื่น,การสังเกตอารมณ์ผู้อื่น) Medicine (ความรู้เรื่องยาและสมุนไพร,ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์,ความรู้เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ) Perception (ความสามารถในการสังเกต,ความสามารถในการวิเคราะห์สิ่งต่างๆ) Survival (ความสามารถในการเอาชีวิตรอด,ความสามารถในการหาอาหาร) Deception (ความสามารถในการโกหกและหลอกลวง,ความสามารถในการใช้กลโกงต่างๆ) Intimidation (ความสามารถในการข่มขู่,ความสามารถในการทำให้หวาดกลัว) Performance (ความสามารถในการแสดงและการขับร้อง,ความสามารถในการสวมบทบาท) Persuasion (ความสามารถในการเจรจาโน้มน้าว,การชักชวน,การต่อรอง)
ในส่วนของค่าที่มีชื่อว่า Saving Throws จะมีเอาไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อตัวละครนั้นอยู่ในสภาวะคับขันอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับค่าสเตตัสนั้น ซึ่งค่า Saving Throws อันนี้ก็จะมีผลกับค่าสเตตัส ที่เป็นบวกหรือเป็นลบ ด้วยเช่นกัน
|
|