A Ghost Story : รีวิวแบบโง่ๆโดยจัซซาตีน (No-Spoiler)
Oct 28, 2017 12:13:17 GMT
❀ Senjumaru ❀ likes this
Post by jussaateen on Oct 28, 2017 12:13:17 GMT
"A Ghost Story (2017)"
Genres: Drama, Romance, Fantasy
Directed by: David Lowery (Pete's Dragon)
Stars: Rooney Mara (The Girl With The Dragon Tattoo, Carol), Casey Affleck (Manchester By The Sea, Gone Baby Gone)
IMDB: 7/10
Rotten Tomatoes: 90%
รีวิวฉบับโง่ ๆ โดย: จัซซาตีนเอง... เศร้า..
_______________________________________________
ตอนดูตัวอย่างที่ออกใหม่ ๆ ตอนแรกนี่ บอกเลยว่าอยากดูมาก เพราะนาน ๆ ทีจะมีหนังที่เล่นเกี่ยวกับภูติผีแบบนี้ มันเลยทำให้ผมคลั่งไคล่รอมาก ยิ่งมีดาราโหด ๆ แบบ Rooney Mara กับ Casey Affleck มาแสดงนำด้วย ก็เลยรอยาว ๆ จนถึงตอนนี้ที่พึ่งได้ดูไป.. (ในเน็ต เพราะยังไม่เห็นเข้าไทย.. T.T)
ถึงแม้จะแปะตัวอย่างก็เถอะ แต่ถ้าอยากจะดู แนะนำว่าไม่ดูตัวอย่างน่าจะได้อารมณ์มากกว่า เพราะเนื้อเรื่องมันโดนเผยในตัวอย่างไปไม่น้อย (ประมาณ 70%) แต่ก็ยังไม่ได้เผยพวกฉากสำคัญ ๆ แบบ Plot Point มากนัก ฉะนั้นจะดูตัวอย่างก่อนดูเรื่องนี้ก็ได้ครับ
ซึ่งหลังจากดูเรื่องนี้แล้ว ผมขอศื่อสัตย์เลยว่าเป็นหนังที่ทำผมต่อมน้ำตาแตกมากที่สุดเท่าที่จะเคยทำได้แล้ว.. เรื่องนี้เศร้ามากครับ น้ำตาผมไหลตั้งแต่ครึ่งเรื่องแล้ว พอช่วงใกล้จะจบนี่คือไหลเป็นน้ำตกเลยทีเดียว
เนื้อเรื่องคร่าว ๆ สั้น ๆ เข้าใจง่าย ๆ ของเรื่องนี้ก็คือ สามีคนหนึ่งที่เมื่อตายไปแล้ว วิญญาณยังคงอยู๋ในบ้าน และทำได้เพียงมองดูภรรยาของตนค่อย ๆ ลืมเขาไป และมองดูบ้านที่เขาอาศัยอยู่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ .. นี่แหละครับ พล็อตง่าย ๆ มาก
ส่วนแรกที่ดูจะดึงดูดความสนใจที่สุดของเรื่องก็คือ ภาพสัดส่วนของเรื่อง ซึ่งทำมาให้ดูเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยหาได้ยากมาก และนานที ๆ จะมีคนทำอย่างนี้ ซึ่งเข้ากับธีมของเรื่องมากที่ แสดงให้เห็นถึงอะไรที่ดูไม่มีตัวตน เช่นเดียวกับสัดส่วนหนังเรื่องนี้ที่แทบไม่ได้มีให้เห็นอีกแล้วในหลายปีมานี้
หนังเรื่องนี้มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และผู้ชมหนังทั่วไปน่าจะไม่ค่อยชอบมันมากนัก (หนังอาร์ต ก็ว่าได้) เพราะช่วงแรกของหนังเรื่องนี้ทำได้อืด และน่าเบื่อมาก ด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการทำให้เราเห็นเหมือนที่พระเอกเห็น เวลาทำอะไรช่วงแรกนี่คือกล้องจะนิ่งตรงนั้นนานมาก แม้แต่ฉากกินอาหารธรรมดา ๆ ยังลากยาวไปได้กว่า 5 นาที ซึ่งตัวหนังนั้นมีความยาวเพียง 90 นาทีเองเสียด้วย ซึ่งแม้จะทำให้เราได้ความรู้สึกโดดเดี่ยวเหงาหงอยได้มาก แต่มันก็ดูอืดเกินไปจนเหมือนกำลังฆ่าเวลา เพิ่มความยาวหนังเสียเปล่ามากกว่า ถือเป็นข้อด้อยอย่างหนึ่งสำหรับเรื่องนี้ แต่หลังจาก 30 นาทีแรกไป หนังเรื่องนี้ก็เริ่มเดินในความเร็วที่ดีขึ้นมาก
ในด้านการแสดงนี่ ต้องชม Rooney Mara มาก เพราะหลาย ๆ ฉากของเธอนั้นจะแทบไม่ได้พูดอะไรเลย มีแค่มองกระจกเรื่อยเปื่อย หรือกินพายไป 5-10 นาทีของเรื่อง ซึ่งทำมาได้เหลือเชื่อมากสำหรับผม แค่ฉากนั่งหลับตาฟังเพลงโยกหัวไปมา ก็ทำให้รู้สึกเศร้ตามตัวละครได้แล้วโดยไม่ต้องมีบทพูดด้วยซ้ำไป ส่วนทางด้าน Casey Affleck นั้นก็ค่อนข้างดี แต่ด้วยการที่โผล่มาน้อยมากในเรื่องแบบเห็นหน้าก็เลยพูดได้ไม่มากนัก
ด้านการกำกับนี่คือ.. ชิ้นโบแดงเลยสำหรับผม แม้ตัวผมจะไม่ค่อยชอบ Pete's Dragon ของผกก. คนนี้เท่าไหร่ แต่การกำกับของแกในเรื่องนี้คือดีมาก.. เนื่องด้วยเกือบทั้งหลายที่แทบจะไม่มีบทพูด ทำให้ต้องใช้การกำกับที่ดี จึงจะไม่ทำให้คนดูเบื่อได้.. แม้ช่วงแรกจะทำมาได้ไม่ดีนัก แต่หลังจาก 30 นาทีแรกไป ทุก ๆ ภาพบนหน้าจอถูกกำกับมาได้ดีเยี่ยม ที่ผมชอบมาก ๆ คือฉากฟังเพลง ที่เหมือนเป็นการเล่าเรื่องไปในตัวพร้อม ๆ กัน ทั้งภาพ เสียง และสีหน้าท่าทางการแสดงที่เล่าเรื่องเดียวกันควบคู่ได้อย่างลื่นไหล
นอกจากนี้ก็ยังสามารถกำกับฉากง่าย ๆ แบบเดินออกจากโรงพยาบาล หรือเดินเข้าบ้านได้สวยงามและให้อารมณ์เป็นอย่างมาก หรือฉากที่เราคุ้น ๆ ในหนังผีบ่อย ๆ เมื่อมาอยู่ในเรื่องนี้ ก็กลายเป็นฉากที่ทรงพลังและเศร้าคั้นน้ำตาได้มาก โดยหากคิดจะเข้าไปดูเรื่องนี้เพื่อหลั่นน้ำตาล้วน ๆ และคุณเป็นคนคล้าย ๆ ผม ผมบอกได้เลยว่าหลังครึ่งแรกของเรื่องไป ต้องร้องไห้อย่างน้อยสองครั้งแน่นอน.. (ตัวผมร้องไห้ไปสามรอบ.. )
ทั้งเพลงร้อง และเพลงประกอบของหนังเรื่องนี้คือ.. เพราะและสวยงามมาก และผู้กำกับยังเลือกใช้เพลงเหล่านี้ในเวลาที่เหมาะสมมาก และยังสร้างฉากเงียบ ๆ มีเพียงเสียงธรรมชาติได้ขนลุกพอ ๆ กัน.. ตัวผมอธิบายไม่ถูก ฉะนั้นก็ลองฟังดูได้ครับ
โดยรวมแล้ว หนังเรื่องนี้เป็นหนังอาร์ตที่มีความตัวของตัวเองสูงมาก เน้นฉากลากยาว ๆ สร้างอารมณ์ไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดสูงสุดและหลั่งรีดน้ำตาออกจากร่างคนดูจนหมดไป เล่นซะ ผมไม่มีอารมณ์เขียนนิยาย หรืออ่านนิยายใครแล้วตอนนี้ นั่งฟังเพลงของหนังเรื่องนี้ทั้งวัน จะดูก็ไม่กล้า กลัวหลั่งน้ำตาตายคาคอม //ผิด
ข้อเสียของหนังเรื่องนี้ที่ผมเห็นมีอย่างเดียวคือ การดำเนินเรื่องช่วงแรกที่อืด ช้าไปหน่อย แต่นอกนั้นผมชอบหมดทุกวินาทีเลยครับ
ผมให้หนังเรื่องนี้ 8.5/10