Post by tonklaaaaaawow on Mar 12, 2018 15:06:06 GMT
หนึ่งในหนังที่เข้าชิงออสการ์ปีนี้ ทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม บทดั้งเดิมยอดเยี่ยม และสาขานักแสดงอีก 3 คน หนัง Black Comedy ที่เล่นมุขกับความ Tragic และมีความเข้มข้นน่าติดตาม
เนื้อเรื่องย่อของเรื่องนี้ก็ธรรมดาไม่มีอะไรซับซ้อน "มิลเดรด" นางเอกของเรื่อง เช่าป้ายบิลบอร์ดสามป้ายหน้าถนนเก่า เพื่อประนามกรมตำรวจในเมืองเล็กๆที่ตนอยู่
เนื่องจากไม่สามารถตามจับตัวคนร้ายที่ฆ่าข่มขืนลูกสาวเธอบนถนนเส้นเดียวกันนี้ได้ โดยที่ป้ายนั่น ขึ้นชื่อของ sheriff วิลเลอห์บี ซึ่งทำให้เขาต้องเอาคดีนี้กลับมาสืบอีกครั้ง
วิลเลอห์บีเป็นนายตำรวจดี ดูแลเอาใจใส่ประชาชน ทำให้ที่เป็นที่รักของคนในเมือง จึงทำให้เกิด Conflict และ Consequences มากมายตามมาจาก "บิลบอร์ด" ทั้งสามป้ายนี้
หนังเรื่องนี้มีกลิ่นอายของหนังโคเอนอยู่ ซึ่งผมชอบมาก มีความตลบขบขันในเรื่องที่ประหลาดๆ บทสนทนาที่ลื่นไหล และการแสดงของนักแสดงหลายๆคนในเรื่องที่
เป็นธรรมชาติและเข้ากันมาก ตัวละครหลักทั้งสี่คน มิลเดรด (ฟรานซิส แมคดอรมัน ผู้ชนะออสการ์) คุณแม่สุดโหด หัวแข็ง และเต็มไปด้วยความแค้นและความรักที่มีต่อลูกสาว
นายตำรวจดิกสัน (แซม รอคเวล ออสการ์เช่นกัน) ตำรวจตัวแสบประจำเมือง ขี้เมา เหยียดผิว ไม่ค่อยฉลาด เรียกได้ว่าเอาเรื่องแย่ๆมายัดตัวหมอนี่หมด นายตำรวจวิลเลอห์บี
(วู้ดดี้ ฮาร์เลย์สัน เข้าชิงออสการ์) หัวหน้าตำรวจประจำเมือง เป็นคนดีที่มีผู้คนนับถือ เป็นเหมือนพ่อของกรมตำรวจทั้งหมด เป็นมิตรกับทุกคน และเจ้าของบิลบอร์ด เรด (คาเล็บ โจนส์)
พวกเขาทุกคนต่างก็มี Journey ของตัวเอง แต่ละตัวมี Arc ของตัวเองที่ต้องเผชิญ และผ่าน arc ของแต่ละคนพวกเขาก็เติบโตและมี Character Development ที่ดีมากๆ
มีหนังไม่เยอะที่ใช้เวลาในการพัฒนาตัวละครมากมายแบบนี้
สิ่งที่โดดเด่นมากๆในเรื่องนี้คือเนื้อเรื่อง ความ Unpredictable และความสมจริง คนเรามันมีความซับซ้อน ไม่ได้มีมิติเดียว บางครั้งพวกเขาก็เกลียดชังกัน แต่บางครั้งพวกเขาก็นั่ง
ยิงมุขใส่กัน ช่วยเหลือกัน ความลึกซึ้งของตัวละครพวกนี้ทำให้เนื้องเรื่องมันไม่ดำเนินไปเป็นเส้นตรงๆ การแนะนำตัวละครในเรื่องนี้ทำได้ดีมากๆจาก Dialogue ที่โดดเด่น
ช่วงแรกๆของหนังมันลื่นไหลและเมามันโคตรๆ พอเริ่มดราม่าก็มีดึงอืดๆนิดหน่อย แต่มันเข้มข้นดุเดือดแน่นอน
ทรีบิลบอร์ดเต็มไปด้วยเรื่องราวแย่ๆ การเหยียดผิว การทารุณเด็ก ข่มขืน ความรุนแรง ความหยาบโลน และความตาย แต่การเล่าเรื่องของมัน ทำให้คนดูขำไปกับเรื่องทรามๆพวกนี้ได้
ด้วยการเล่าเรื่อง และเนื้องเรื่องที่ซับซ้อน ทำให้เราเดาทางไม่ถูก ว่าเนื้อเรื่องต่อไปมันจะเป็นยังไง และที่สำคัญผมว่าเรื่องนี้มันมีความเป็น Poetry มากๆ มัน Rhyme กันได้อย่างลงตัว
และสวยงามตัวละครทุกตัวมีความซับซ้อนของตนเอง เหมือนคนจริงๆ ทำให้เราเอาใจช่วยพวกเขา ไม่ว่าจะเลวทรามยังไง เป็นหนังเกี่ยวกับการแก้แค้น ที่แก่นแท้จริงๆแล้วมันไม่เกี่ยว
กับการแก้แค้นเลย มันใช้เวลาปูเนื้อเรื่อง แล้วก็ระเบิดใส่คนดูแบบคาดไม่ถึง ซึ่งมันสุดยอดและยิ่งใหญ่มาก