Final Fantasy XIV : Little Legends of Eorzea (10/XX)
May 16, 2019 14:55:10 GMT
astradoren likes this
Post by wildrose on May 16, 2019 14:55:10 GMT
Episode 1: Another World
“โอ๊ย…..นี่ฉันอยู่ที่ไหนกันเนี่ย เพดานแบบนี้ไม่คุ้นตามาก่อนเลย…. สงสัยเมื่อคืนนี้เราจะดื่มหนักไปหน่อยสินะ ถึงได้ปวดหัวไปหมดแบบนี้ วันนี้เป็นวันหยุดงั้นเหรอ….ทำไมเสียงนาฬิกาปลุกเราถึงไม่ดังนะ แต่ก็เอาเถอะ ลุกขึ้นมานั่งซะหน่อยดีกว่ารู้สึกไม่สบายตัวเลย“
“นี่มันอะไรกันเนี่ย แบบนี้ไม่ปกติแล้ว เสื้อผ้าของเราหายไปไหนหมด มือถือก็หาย ทุกอย่างเลย แม้แต่กระทั่งความทรงจำ ยังดีนะที่เรายังพอจำชื่อตัวเองได้ เอาละต่อจากนี้ไปจะทำยังไงดี”
“แสงสว่างที่ส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง…...ตอนนี้คงจะกลางวันอยู่ล่ะสินะ บรรยากาศข้างนอกสงบสุขจัง อากาศก็ดีไม่เหมือนกับในเมืองหลวงเลย นี่เราอยู่ที่ไหนกันแน่เนี่ย ?”
“ภายในห้องนี้หรูหราน่าดู เหมือนกับโรงแรมหรือว่าอะไรบางอย่าง จัดการตกแต่งแบบนี้มันจะไม่ร่วมสมัยไปหน่อยเหรอ หรือว่าเราถูกใครสักคนพามาที่นี้ ที่นี่ต้องไม่ใช่บ้านของเราแน่ๆเลย…..”
“เราทรงตัวยืนได้ตามปกติ ร่างกายของเราไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนนี่นา ค่อยยังชั่วหน่อย เอาล่ะก่อนอื่นเราต้องออกไปจากห้องนี้และหาคนที่พอจะบอกอะไรบางอย่างกับเราได้ ไปกันเลยดีกว่า”
“โอ๊ย ….. ทำไมมันถึงได้ปวดหัวแบบนี้ ความทรงจำของเรามากมายสูญหายไป ถึงจะบอกไม่ได้ว่าเราลืมอะไรไปบ้างแต่ก็บอกได้แน่นอนว่าเราได้สูญเสียความทรงจำส่วนมากไปอย่างแน่นอน ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลยแหะ” หลังจากที่กุมขมับอยู่ไม่นานนัก อาการปวดศีรษะทุเลาลง โชคดีที่ดูเหมือนว่าอาการนี้จะไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมายนัก
“โย่ ! ตื่นแล้วเหรอ ? โชคดีจังเลยนะที่คุณไม่เป็นอะไร เมื่อวานนี้มีคนพบกันที่ด้านนอกเมือง เข้าพบคุณในสภาพที่ไม่มีอะไรเลย คุณคงจะถูกโจรปล้นหรือไม่ก็คงจะถูกสัตว์ประหลาดทำร้ายนั่นแหละ แต่โชคดีนะที่ตามร่างกายของคุณไม่มีบาดแผลอะไรสาหัส เขาพาคุณมาส่งที่โรงแรมแล้วหลังจากนั้นเขาก็เป็นคนออกค่าใช้จ่ายค่าที่พักเรียบร้อยแล้วนะไม่ต้องเป็นห่วงนะ ทำตัวตามสบายได้เลย” พนักงานของโรงแรมซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งบอกกับผมแบบนั้น ผมสามารถที่จะเข้าใจภาษาพูดของเขาได้อย่างน่าประหลาด ผมได้แต่พยักหน้าแทนคำตอบให้กับเขาซึ่งเขาก็ยิ้มตอบรับให้ผม การแต่งตัวของเขานั้นดูแปลกๆ นี่คงจะเป็นสไตล์การแต่งตัวของคนในเมืองหรือไงนะ
ผมเดินมาที่ข้างโต๊ะอาหารซึ่งมีกลุ่มคนนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ ดูเหมือนว่าพวกเขานั้นจะไม่สนใจผมเลย แต่ว่าผมนั้นรู้สึกแปลกประหลาดกับพวกเขาเป็นอย่างมาก บางคนมีสีผิวที่ดูผิดมนุษย์ มีร่างกายที่ใหญ่โต และบางคนก็มีอวัยวะแปลกๆโผล่ขึ้นมาที่บนหัว พวกเขาทั้ง 3 คนนั้นแต่งตัวดูแปลกประหลาดแต่มันก็ดูเท่และมีสไตล์ดีนะ
ผมมานั่งรับประทานอาหารที่โต๊ะซึ่งทางโรงแรมนั้นจัดมาให้ หลังจากที่รับประทานอาหารหน้าตาไม่คุ้นตาแต่รสชาติอร่อยไม่เลวจนหมดแล้ว เด็กผู้ชายผมสีดำคนหนึ่งก็เดินเข้ามาทักทายผม ผู้ชายคนนี้แต่งตัวเหมือนกับชาวเมืองทั่วไปซึ่งมันก็ดูแปลกตาสำหรับผมอยู่ดี
“สวัสดีดูเหมือนว่าอาการของนายจะดีขึ้นแล้วสินะ เมื่อวานนี้ผมเจอนายสลบอยู่ที่นอกเมือง ก็เลยพามาพักที่โรงแรมนี้ ผมมีชื่อว่าลีโอ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” เด็กผู้ชายคนนั้นกล่าวขึ้นกับผมด้วยคำพูดและท่าทางที่เหมือนกับว่าเขานั้นเป็นผู้ใหญ่ บางทีเด็กคนนี้อาจจะเป็นนักแสดงเด็กที่มากความสามารถก็ได้ เมื่อผมได้ยินดังนั้นผมก็ถามกลับไปทันทีว่า
“อย่างนั้นหรือ หนุ่มน้อยนายเป็นคนช่วยข้าเอาไว้สินะ ข้ามีชื่อว่านาซ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” ผมกล่าวออกไปอย่างนั้นในขณะที่ผมก้มศีรษะลงไปหาเด็กชายคนนั้นและกระซิบเขาอย่างแผ่วเบาว่า
“ขอโทษนะ แต่ว่าผมจำอะไรไม่ได้เลย นี่คงจะเป็นรายการเรียลลิตี้อะไรบางอย่าง ที่สุ่มให้คนเข้ามาอยู่ในสถานการณ์จำลองใช่ไหม ? นายคงจะเป็นทีมงานหรือว่านักแสดงอะไรอย่างนั้นสินะ...ใช่ไหม ?” ผมกระซิบบอกลีโออย่างแผ่วเบาเนื่องจากผมคิดว่าคงจะมีกล้องบางตัวที่ซ่อนอยู่และกำลังจับภาพผมอยู่อย่างแน่นอน แต่ว่าลีโอเมื่อได้ยินสิ่งที่ผมพูดเขาก็กลับขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยท่าทางที่ดูแปลกใจก่อนที่จะส่ายศีรษะเบาๆ เป็นคำตอบซึ่งผมไม่เข้าใจมันเลย
“คุณชื่อว่านาซ สินะ ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรรายการ Reality มันคืออะไรงั้นเหรอ ? แต่ก็ช่างมันเถอะ นักผจญภัยบางคนมักจะมีอาการสับสนหลังจากที่ถูกสัตว์ประหลาดทำร้าย อาการสูญเสียความทรงจำของคุณอาจจะทำให้คุณหนีจากประสบการณ์อันเจ็บปวดก็ได้ ทานข้าวเสร็จแล้วใช่ไหมตามผมมาเถอะ คุณสูญเสียทุกอย่างแล้วนาซ คุณก็จำเป็นที่จะต้องเริ่มต้นใหม่” ลีโอกล่าวขึ้นด้วยท่าทางที่ดูจริงจังตอนที่เขานั้นจะเดินนำหน้าออกจากโรงแรมไป ผมซึ่งไม่มีทางเลือกจึงได้แต่เดินตามเขาไปแต่โดยดี
ในที่สุดพวกเราก็มาถึงที่ด้านหน้าของอาคารแห่งหนึ่ง ที่ด้านบนของประตูนั้นเป็นสัญลักษณ์รูปดาบสองเล่มไขว้กัน ที่ด้านล่างของป้ายนั้นมีตัวอักษรเขียนเอาไว้ว่า สมาคม Gladiator แม้มันจะเป็นตัวอักษรที่ไม่คุ้นตาแต่ผมก็สามารถจะอ่านมันได้อย่างน่าประหลาดใจ
“เข้าไปหาพวกเขานะ แล้วหลังจากนั้นการเริ่มต้นของนายก็จะเริ่มขึ้น ผมขอให้นายโชคดีนะนาซ แล้วพบกันใหม่ ….” ลีโอกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางที่ดูจริงจัง จากนั้นเขาก็โบกมือให้กับผม เพื่อให้ผมเข้าไปภายในสมาคม Gladiator จากที่เรียงลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว ดูเหมือนว่าผมจะถูกใครบางคนลักพาตัวมาเพื่อเล่นเรียลลิตี้โชว์ของรายการทีวีเถื่อนอะไรสักอย่าง แต่ก็คงจะเป็นรายการที่ทุ่มทุนสร้างอลังการน่าดูอยู่เหมือนกันนะ ทั้งสถานที่ทั้งการตกแต่งภายในและนักแสดงทุกคนดูเหมือนกับว่าจะสวมบทบาทใช้ชีวิตอยู่ภายในเมืองแห่งนี้อย่างเป็นธรรมชาติมากๆเลย
“ขอบคุณมากนะลีโอ แล้วเราค่อยพบกันใหม่” ผมนั่งชันเข่าลงเพื่อพูดคุยกับเด็กผู้ชายซึ่งสวมบทบาทเป็นคนที่ช่วยชีวิตของผมได้อย่างแนบเนียน ดูเหมือนว่าตอนนี้ผมจำเป็นจะต้องตีบทแตกไปก่อน ไว้ค่อยหาทางหลอกถามนักแสดงที่อยู่ในฉากว่าตอนนี้ผมอยู่ในรายการเรียลลิตี้แบบไหนทีหลังก็ได้
“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นผมขออวยพรให้คุณนาซ โชคดีนะครับ แล้วไว้เราอาจจะได้พบกันอีก” ลีโอกล่าวอวยพรขึ้นแทนคำร่ำลาก่อนที่เขานั้นจะเดินจากไปอย่างเงียบเชียบ
ในขณะที่นาซกำลังจะเดินเข้าไปภายใน สมาคม Gladiator เขาไม่รู้เลยว่ามีสายตาอันเฉียบคมและเยือกเย็นคู่หนึ่งกำลังมองเขาอยู่อย่างเงียบเชียบ
“ไม่ปกติเลยนะ ไอ้เจ้านั่น…..สายตาของข้าไม่มีวันโกหก !” ชายหนุ่มผู้มีดาบคาตานะอยู่ที่ข้างเอวกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูราบเรียบแต่ก็แฝงไปด้วยความรู้สึกอันลึกลับ สายตาของเขานั้นจับจ้องไปที่นาซซึ่งกำลังเดินผ่านประตู สมาคม Gladiator เข้าไปอย่างเงียบเชียบ
โปรดติดตามตอนต่อไป