|
Post by GreyTear on Jul 18, 2017 18:08:21 GMT
RMAS Secret Story #1 'ก่อนจะมาเป็นพี่สาวที่แสนดี...' วันหนึ่ง... ณ ห้องสันธนาการที่ 14 ชั้น 3 {ห้องของยูนิตที่ 14} ซูซาโนะ โอนิมารุ ...นี่ก็เป็นวันสบายๆอีกวันของยูนิตที่ 14...
ฉอก.... เสียงของน้ำชากระทบลงกับถ้วยเซรามิค... สาวน้อยผมทรงทวินเทลม้วนโรลกำลังรินน้ำชาที่เธอชงด้วยตัวเองอยู่... วันนี้เธออยู่ในชุดเดรสสั้นแขนกุด กระโปรงไม่ยาวคลุมลงจนไปถึงข้อเท้าแบบทุกๆวัน โดยมีลักษณะเป็นจีบกว้างโชว์ให้เห็นขาอ่อนเล็กน้อย ที่ไหล่มีผ้าคลุมบ่าสีดำปกคลุมอยู่ การแต่งตัวของโรเซ่นในวันนี้ดูสบายตากว่าเดิมมากๆ คงจะเป็นเพราะคราวก่อนเคยแนะนำเรื่องการแต่งตัวไปว่าใส่ชุดเดรสสีดำกระโปรงยาวมิดชิดซะขนาดนั้นออกจะดูให้บรรยากาศที่เคร่งเครียดเกินไป...มาวันนี้การแต่งตัวของเธอจึงดูซอฟท์ลงกว่าเดิมหลายเท่า... ดูสมวัยและเผยให้เห็นความน่ารักของเด็กสาววัยใสๆขึ้นมาเป็นกอง... แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงสไตล์ของ 'โกธิค โลลิต้า' อยู่ไม่มีเปลี่ยน... คงจะชอบมากเป็นชีวิตจิตใจเลยสินะอีสไตล์อย่างนี้น่ะ...
ทางด้านหัวโต๊ะมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งซึ่งมีผมสีทองเปล่งประกาย บนหัวมีจุกผมเล็กๆขึ้นห้อยเป็นจะงอยอยู่เล็กน้อยแต่ก็ดูน่ารักดี... ทรงผมหางม้าที่ได้รับการรวบและมัดอย่างเป็นระเบียบราวกับกุลสตรี... หญิงสาวแววตาสีเขียวอ่อนที่มาพร้อมกับร้อยยิ้มที่ดูอบอุ่นดูราวกับเป็นพี่สาวที่แสนดีคนนี้คือลีดเดอร์ประจำยูนิตของเรา...
'เทเรเซีย เอลฟรอนด์' เธอหยิบถ้วยน้ำชาของเธอขึ้นมาจิบด้วยท่วงท่าที่สง่างาม...
ตั้งแต่อยู่ยูนิตนี้มาได้เดือนกว่าๆ ผมก็มีความรู้สึกเสมอว่า... ผู้หญิงคนนี้ช่างให้ความรู้สึกที่อบอุ่นเสียเหลือเกิน... ซึ่งผมไม่ค่อยได้รับมันมากนักยามที่ผมยังคงเป็นเด็ก... เนื่องจากแม่ของผมก็เป็นหนึ่งในชนเผ่าแม่มด ซึ่งในเรื่องด้านที่อบอุ่นนั้นแม่ของผมก็ไม่ได้มีมากเท่าไหร่... แต่อย่าพึ่งเข้าใจผิดว่าผมไม่รักแม่ที่แม่เป็นอย่างนั้นนะ !
ก็จริงอยู่ที่ท่านอาจจะไม่ค่อยมีด้านที่นุ่มนวลมากนัก... แต่เรียกได้ว่าเป็นแม่คนที่ดีที่สุดในโลกคนนึงเลยล่ะ... เพราะว่าแม่เป็นคนที่ชอบความตื่นเต้น ความสนุกสนาน เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่บ้าบิ่นสุดๆคนนึง... ท่านจะคอยมีเรื่องราวต่างๆนาๆมาเล่าให้ฟังเป็นนิทานก่อนนอนอยู่เสมอ แถมยังมีความรู้เรื่องพิธีกรรมน่าสนใจต่างๆมากมายอีกด้วย... ถามว่าถ้าจะมีผู้หญิงคนไหนที่ทำให้ผมนึกถึงแม่ขึ้นมาก็คงเป็นผู้หญิงที่กำลังยืนรินน้ำชาอยู่ตอนนี้นั่นแหละนะ...
กลับมาที่พี่สาวที่แสนดีของยูนิตของเรากัน...
หลายครั้งเหลือเกินที่ผมได้เห็นรอยยิ้มอันอบอุ่นของเทเรเซีย มันก็ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากรอยยิ้มๆนั้น ถ้าหากมันเลือนหายไป มันจะยากต่อการทำใจขนาดไหน... ผมคิดมาตลอดว่าอยากที่จะรักษารอยยิ้มของใครไว้หลายๆคน ซึ่งรอยยิ้มของเทเรเซียก็เป็นหนึ่งในนั้น... ผมกลัวเหลือเกินว่าซักวันจะรักษามันไว้ไม่ได้และทำให้มันเลือนหายไป เหมือนกับที่ผมมักจะเผลอทำอย่างนั้นกับทุกๆคนที่ผมพบเจอหรือเคยเห็นหน้า...
วันนี้สมาชิกของยูนิตเราอยู่ครบกัน 5 คน...
"นี่... ฟราน... สมาชิกอยู่รวมกันครบ 5 คนทั้งที อย่าเอาแต่เล่นเกมอยู่คนเดียวอย่างนั้นสิ..." เสียงพูดจากเทเรเซีย ในขณะเดียวกันเธอก็พลางดื่มน้ำชาไปด้วย...
"อย่ามายุ่งกับฉันน่าา... เทเรเซีย... ฉันก็เป็นอย่างนี้ทุกๆวันอยู่แล้ว..." เสียงตอบรับแบบเด็กวัยรุ่นจากฟราน เบรุส ชายหนุ่มผมสีเทาซึ่งฟูเหมือนเปลวไฟที่กำลังจะมอด เจ้าหมอนั่นกำลังเล่นเกมด้วยเครื่อง Playable Station อยู่
"หึ หึ หึ... แย่หน่อยน่าา สเตปฟานี่... ยูนิตของพวกเราก็มีแต่คนอย่างงี้อยู่นั่นแหละ หึ หึ หึ" เทเรเซียหันไปยิ้มกับสเตปฟานี่ อัสติน สาวผมบลอนด์ที่ปกติจะประจำอยู่ในเซ็คชั่นการแพทย์ของเธอ... ซึ่งวันนี้เหมือนจะว่างงานจากทางนั้นทำให้มีเวลามาใช้ร่วมกันกับยูนิตของพวกเรา...
"อ๋ออ... แหะๆๆ เรื่องนั้นน่ะไม่เป็นไรหรอกคุณเทเรเซีย... ที่เซ็คชั่นการแพทย์ของฉันมีแต่คนน่าเบื่อทั้งนั้น... การที่ได้เห็นว่ายูนิตที่ฉันอยู่มีสีสันขนาดนี้นับว่าเกินคาดเลยล่ะ ฮะ ฮะ ฮ่าา..." สเตปฟานี่หัวเราะแห้งๆออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะพูดออกมาตามนั้น... ก็ถือว่าโล่งอกไปเปราะนึงเหมือนกันที่ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจอะไรกับการที่ต้องอยู่ร่วมกับคนแปลกๆอย่างพวกเรา...
"หุ หุ หุ... ฉันดีใจที่เธอคิดอย่างนั้นนะ... ต่อจากนี้ก็พยายามหาเวลามาอยู่กับพวกเราให้มากๆล่ะ... แต่ก็เข้าใจอะนะว่างานทางนั้นมันแสนสาหัสขนาดไหน... ต่อจากนี้ก็ขอให้พยายามละกัน... : ) "
"จร้าาา"
ผมอดคิดไม่ได้จริงๆ... ว่าถ้าวันนึงเทเรเซียกลายเป็นคนที่หน้านิ่วคิ้วขมวด... เป็นคนเคร่งกฎระเบียบ ซีเรียสจริงจังกับเพื่อนร่วมทีมขึ้นมาแล้วจะเป็นยังไง... มันคงน่าหดหู่ไม่หน่อยถ้าเกิดวันหนึ่งรอยยิ้มที่อบอุ่นของพี่สาวที่แสนดีคนนี้เกิดจางหายไป...
พวกเราทุกๆคน ทั้งผม ฟรานและโรเซ่น...แล้วอาจจะรวมไปถึงสเตปฟานี่ที่กำลังยืนอยู่ในตอนนี้... พวกเราคงคิดเหมือนๆกันว่า เทเรเซียเป็นพี่สาวที่ใจดีและพึ่งพาได้เสมอมา... ถึงตอนนี้ผมจะไม่มีแม่อยู่กับผมด้วยแล้ว... แต่เทเรเซียก็ทำให้ผมรู้สึกว่าบางครั้งเธอก็เผลอทำหน้าที่เหมือนกับเป็นแม่ของผมอีกคนนึงเลยก็ว่าได้นะ...หึๆๆ แต่ถึงอย่างนั้นแม่ของผมตอนที่กำลังสาวๆอยู่ คงไม่ได้มีลักษณะเป็นแบบนี้ซักเท่าไหร่...
"ซูซาโนะ... เอ้านี่... น้ำชา..."
"โอ๊ะ... ขอบคุณ"
"ระวังร้อนนะ..."
ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลประการใด... วันนี้โรเซ่นดูเหมือนจะทำตัวปกติมากเป็นพิเศษ... ทั้งไม่ออกอาการประสาทเพี้ยน จูนิเบียวเหมือนเด็กเป็นโรค... ไม่บ้าทำพิธีกรรม... แต่กลับชงชาอย่างเงียบๆ แถมยังยื่นแก้วกระดาษที่ด้านในมีน้ำชามาให้ผมอย่างนุ่มนวลซะด้วย...
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ล่ะก็... "คุคุคุ ! จงดื่มน้ำอมฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์นี่เข้าไปซะสิ ! หึหึหึ ! มันจะช่วยส่งเสริมพลังเวทย์ให้กับตัวเจ้า ! คุคุคุ !"
...
เสร็จสิ้นจากการพบปะ Meeting อย่างเป็นทางการกันของยูนิต-14
พวกเรา 4 ต่างพากันร่ำลาพร้อมกับแยกทางกับทางด้านสเตปฟานี่กันเรียบร้อยเนื่องจากเธอพักอยู่ที่หอพักของทางโรงพยาบาล... ผมให้เทเรเซียกับคนอื่นๆมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์หอพักนักเรียนก่อน... เนื่องจากตอนนี้ก็ยังไม่เย็นมาก กะว่าจะไปขอยืมหนังสือที่ห้องสมุดมาอ่านซักแปป...
...
"พวกเธอไปก่อนเลยละกัน... เดี๋ยวฉันจะขอไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดซักแปป โชคดีนะ..."
"อ่าา โชคดีบาย" ฟรานโบกมือบ๊ายบายผม
"อืมม... โชคดีนะ... ปีศาจของฉัน... หุหุหุ" (ถึงจะเป็นคำพูดที่ดูแปลกๆนิดหน่อยของโรเซ่น... แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังพูดด้วยอาการที่ปกติ)
"อ่าา... ไปล่ะ"
ผมกำลังจะเดินแยกออกไป...
"เน้ ! ซูซาโนะ !" ทว่าเสียงเรียกจากเทเรเซียได้หยุดรั้งผมไว้ซักพัก... ผม "หืมม์ ?" กลับไปมอง
"อย่าไปทำให้ใครเค้าแตกตื่นภายในห้องสมุดละกันนะ หุ หุ หุ ไปล่ะ ! บ๊าย บาย..."
หึๆ ยังคงมีอารมณ์ขันแบบนี้ได้ตลอดเวลาเลยสินะเทเรเซีย...
...
ผมเดินแยกจากเพื่อน 3 คนนั้นไป... ระหว่างทางก็รู้สึกว่าเหมือนมีสายตาคู่แปลกๆคอยตามติด คอยจดๆจ้องๆ คอยเฝ้ามองอยู่เหมือนเคย... ซึ่งผมค่อนข้างรู้สึกชินชากับสายตาแปลกๆของสตอล์คเกอร์คนนี้เสียแล้ว... ไม่ว่าจะพยายามยังไงก็แก้ไม่ตกจริงๆ... ยังหาตัวคนร้ายไม่ได้...
เจ้าสตอล์คเกอร์คนนั้น... เหมือนจะมีฝีมือในการแอบสอดแนมชาวบ้านมากเลยทีเดียว... ช่างมันเหอะ... คิดๆอยู่ว่าซักวันคงต้องแจ้งกับสภานักเรียนเสียหน่อยแล้ว...
...
ที่ห้องสมุด... แม้ว่าจะเป็นห้องสมุดแต่ผมก็ยังรู้สึกว่ามีพลังงานบางอย่างคอยติดตามอยู่ตลอดเวลา... ถ้าหากลองนึกลองหลับตาดูดีๆ จะสัมผัสได้ถึง ดวงตาสีแดงคู่หนึ่งของหญิงสาว... ไม่ผิดแน่ ถ้าหากอิงจากเซ้นสัมผัสของผม... ถึงอย่างนั้นก็คิดไม่ออกอยู่ดีว่านั่นเป็นแววตาของใคร... เท่าที่นึกออกผู้หญิงที่มีนัยน์ตาสีแดงก็จะมีแต่โรเซ่นซึ่ง แววตาที่ผมสัมผัสได้ไม่ใช่ของโรเซ่นแน่นอน... แล้วก็... ประธานนักเรียนหญิงคนนั้นหรอ... ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้อยู่ดีที่ประธานนักเรียนที่ดูเป็นหญิงสาวที่สุขุม ดูดี เรียบร้อย ดูมีชาติตระกูลคนนั้นจะลดตัวลงมาทำเรื่องแย่ๆ โดยการแอบละเมิดสิทธิส่วนบุคคลด้วยการสตอล์คคนอื่นแบบนี้...
ในตอนนี้ผมกำลังมองหาหนังสือที่ต้องการจะยืมมาอ่านซึ่งอยู่บนชั้นหนังสือ...
[ไวเวิร์นสีฟ้า] [รวมเหล่าอมตะฝ่าวิกฤตแวมไพร] [แวมไพรออฟเดอะลัวร์ : ฤดูกาลทมิฬ !] อ่าา ! ในที่สุดก็เจอ...
ระหว่างที่ผมกำลังเดินออกมาจากชั้นวางหนังสือหลังจากที่หยิบเล่มที่ต้องการได้แล้วนั้นเอง...
ผละ !!
จู่ๆก็มาเดินชนกับหญิงสาวคนหนึ่งเสียได้ !
หนังสือประมาณ 10 กว่าเล่มวางกองระเนระนาดตกพื้นเต็มไปหมด...!
"ขอโทษครับ ! พอดีไม่ได้มองดูทางน่ะ !"
"อ...โอ้ยย... ทีหลังก็หัดระมัดระวังหน่อยสิยะ ! หาาา ?!" เสียงจากผู้หญิงผมสีม่วงคนนั้น...
"หาาา ??!! นี่นายเป็นเจ้าเด็กนักเรียนที่เกเรคนนั้นสิเนี่ย ! เจ้าแยงกี้ปีศาจจากยูนิตที่ 14 คนนั้นเอง ! แย่แล้ว ! นี่นายตั้งใจจะมาขืนใจฉันใช่ไหมถึงมาเดินชนกันอย่างนี้ ! ไม่นะ ! ฉันต้องรีบแจ้งประธานนักเรียนแล้ว ! อย่านะ ! ถ่อยออกไป !"
.............เพี้ยนได้โล่ห์โผล่มาอีกคนนึงแล้ว..............
"เดี๋ยวก่อนสิครับ ! นี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ! อ๊ะะ !!" ฉิ.บ... ฉิ.บหายแล้ว เผลอทำเสียงขู่แบบปีศาจออกไปซะได้ ! "วร้าายยยยย !!!" ปัดโถ่ววว !! อย่ากรี๊ดสิยัยนี่ !! ห้องสมุดเค้าห้ามเสียงดังนะรู้มั้ยยย !!
ทันใดนั้นเอง... สายตานับ 10 คู่ก็จ้องมองมาทางผม !
"อะไรกันเนี่ย เอ้ออ มาเสียงดังอยู่ได้... อยู่ในห้องสมุดแท้ๆ !"
"หูยย นั่น ! แยงกี้หนุ่มกำลังจะขืนใจเด็กนักเรียนสาวด้วยล่ะ !"
"นั่นมันเจ้าแยงกี้ที่มีนิสัยเลืองลือคนนั้นนี่นา !"
"เจ้าหมอนั่นกำลังข่มขู่หญิงสาวหน้าตาดี ! ไม่ได้การซะแล้ว !"
............
............
............
หลังจากที่ผมปลอบปะโลมยัยนั่นจนเสร็จ... พร้อมกับออกค่าทำขวัญ (เรื่องแค่นี้ถึงกับต้องออกค่าทำขวัญเลยหรอฟ่ะ !) ให้เรียบร้อย... ก็ดูเหมือนว่าเธอคนนี้จะยังไม่จบแค่นั้น... เธอบังคับให้ผมเดินมากับเธอที่ม้านั่งข้างสนามฟุตบอล... พร้อมบอกกับผมว่า ผมต้องเลี้ยงอาหารเย็นเธอเพื่อเป็นการไถ่โทษขั้นสุดท้าย... มิเช่นนั้นเธอจะแจ้งเรื่องที่ผมข่มขู่เธอกลางห้องสมุดกับสภานักเรียน... แถมยังขู่ผมด้วยว่ามีพยานรู้เห็นเป็นสิบๆคนในห้องสมุด (ทั้งๆที่เป็นเรื่องเข้าใจผิดเนี่ยนะ ! นี่ฉันคนนี้ทำอะไรก็ผิดไปหมดเลยใช่ม้าายยย ย้าากกก !!)ผมที่ช่วงนี้ช็อตเรื่องการเงินเล็กน้อย... จึงให้เธอได้แค่แฮมเบอร์เกอร์ร้านประจำเท่านั้น... พร้อมกับน้ำอัดลม... แล้วก็เฟรนไฟรส์... แล้วเป็นผมที่ต้องอดข้าวเย็นตัวเองแล้วก็ต้องมานั่งมองเธอกิน... อยากจะถอนหายใจเห้ออ ออกมาแบบฟราน เบรุส..."เอาล่ะ... นี่" ผมยื่นของกำนัลถวายให้กับเธอ...
"หะ ?! จะให้กินแต่ของเสียสุขภาพแบบนี้เนี่ยนะ ?!" (ปัดโถ่วว เอ้ย ! นางนี่ ! ยังจะเรื่องมากอีก !)
"นี่ฉันไม่เหลือเงินอีกแล้วนะ... ให้อะไรก็รีบๆยัดเข้าปากไปนั่นแหละน่าา !!" ผมชักจะเริ่มไม่พอใจเลยชักสีหน้าพร้อมกับตวาดใส่ยัยนี่ไปซะ...
"เฮืออก !!!!" ดูเหมือนว่าการตวาดของผมจะทำให้ออร่าปีศาจภายในแผ่ออกมาไม่น้อย... แย่แล้ว ! ดันเผลอลืมตัวอีกซะได้ ! สาวผมม่วงที่อยู่ต่อหน้าผมคนนี้ถึงกับออกอาการผวาออกมา !
"ข...ขอโทษครับ...!" ผมก้มหัวขอโทษ
"นี่นาย ! พูดจากับผู้หญิงได้น่ารังเกียจขนาดนี้ได้ยังไง ! เชอะ !" จะอารมณ์ไหนกันแน่เนี่ยคนนี้ !
"ก็เอาเป็นว่า... ผมได้ไถ่โทษไปแล้วด้วยการเลี้ยงอาหารเย็น... เพราะงั้นผมขอตัวกลับก่อนละกันนะครับ..." ผมพยายามพูดอย่างสุภาพที่สุดเพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยง หลีกตัว ปลีกตัวหนีจากผู้หญิงคนนี้ไปให้ได้โดยเร็วที่สุด... โอ้ยย ประสาทจากกิน...
"ยังก่อน !"
"เฮืออก !" คราวนี้เป็นฝ่ายผมที่ต้องผวาแทน...
"นายต้องมานั่งเป็นเพื่อนฉันที่ม้านั่งนี่ด้วย ! ฉันมีอะไรจะพูดกับนาย...!" เธอพูดออกมาเสียงแข็ง แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่มีเวลามากนักหรอกนะ ! ผมกำลังเอ่ยปากปฏิเสธเธอไปแต่ทว่าทันใดนั้นเอง !
"เรื่องของลีดเดอร์ยูนิตของนาย... 'เทเรเซีย เอลฟรอนด์' !"
...
เมื่อเป็นเรื่องของผู้หญิงคนนั้นแล้ว... กลับทำให้ผมต้องถึงกับหยุดชะงักลง... เอ๊ะ ?? สาวผมม่วงคนนี้จะสนใจเรื่องพี่สาวที่แสนดีของยูนิตผมไปเพื่ออะไร...
"เอ๊ะ ? เรื่องของเทเรเซียงั้นน่ะหรอ" ผมเอ่ยปากถามซ้ำ
"ใช่ ! เทเรเซีย เอลฟรอนด์... หญิงสาวผมสีทองเป็นประกายคนนั้นนั่นแหละ... อยากจะถามว่า... ทำไมช่วงนี้เธอคนนั้นดูร่าเริงผิดปกติจัง..."
คำถามในใจของผม... 1.) ผู้หญิงคนนี้เป็นพวกขี้เผือกเรื่องชาวบ้านหรือยังไงกัน ?! ทำไมต้องมายุ่งวุ่นวายเรื่องเทเรเซียด้วย 2.) คำถามที่ว่า 'ทำไมช่วงนี้เทเรเซียดูร่าเริงผิดปกติจัง ?' คำถามนี้มันมีอะไรแปลกๆอยู่นะ ??
ผมพูดไปตามที่ใจผมนึกว่า...
"เอ๊ะ ? เทเรเซียหรอ... เธอก็เป็นคนยิ้มแย้ม ร่าเริงสดใสแบบนี้มาตั้งนานแล้วนี่นาา ? หมายความว่ายังไงน่ะที่บอกว่า 'ผิดปกติ' น่ะ ?"
"เทเรเซีย เอลฟรอนด์คนนั้นน่ะ... ปกติไม่ใช่คนที่ยิ้มแย้มหรืออบอุ่นตลอดเวลาแบบนี้หรอกนะ ! เธอคนนั้นออกจะเป็นพวกเงียบขรึม ไร้อารมณ์ขัน ไม่ค่อยชอบยิ้ม พูดง่ายๆว่าแทบจะไม่คุยกับคนอื่นๆมาโดยตลอดซะด้วยซ้ำ !"
"เอ๊ะะ !!"
|
|
|
Post by GreyTear on Jul 18, 2017 18:11:04 GMT
----------------------------------------------------------------
2 ปีที่แล้ว
Date / Month / Years of Republic : 05 / 12 / 1021
ภารกิจของเรียล์มระดับคลาสที่ 2 ยูนิตที่ 85 {ลีดเดอร์ยูนิต : เทเรเซีย เอลฟรอนด์}
สถานที่ : ภูเขาไฟแบนเนอร์ เมืองทรานซ์ ดาวเคราะห์จูรัน "นี่ลีดเดอร์ ! ยูริกำลังตกอยู่ในอันตรายนะ ! เราย้อนกลับไปช่วยเธอก่อนไหม !" (เสียงจากสมาชิกยูนิตที่ 85 คนหนึ่งกำลังพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนก)
"ไม่ได้ ! รองหัวหน้าชาร์ล... ในตอนนี้ความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบสำคัญกว่า ! ภารกิจของเราคือช่วยกันอพยบพวกเขาออกไปให้เร็วที่สุดให้จงได้ ! จงประจำตำแหน่งของตัวเองซะรองหัวหน้าชาร์ล ! ยูริน่ะมีพลังเวทย์แขนงพิเศษอยู่ นั่นก็คือพลังน้ำแข็ง ! เธอบอกกับพวกเราเองว่าเธอจะเป็นคนลงไปยังปากของปล่องภูเขาไฟแล้วจะวางระเบิดเยือกแข็งแบบตั้งเวลาเพื่อหยุดการปะทุของภูเขาไฟให้จงได้ ! ไม่ต้องห่วงหรอก ! เธอคนนั้นเอาอยู่ !"
เสียงพูดที่หนักแน่น ถึงจะดูด้านชา เรียบเฉียบแต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของหัวหน้ายูนิต... [ลีดเดอร์ : เทเรเซีย เอลฟรอนด์]
ขณะนี้กำลังเกิดวิกฤตจากมหันตภัยทางธรรมชาติ ! ภูเขาไฟกำลังจะปะทุ... ซึ่งเรียล์มยูนิตระดับคลาสที่ 2 ได้รับมอบหมายให้ไปช่วยเหลือผู้คนที่อยู่ในระแวกนั้น...
สมาชิกคนหนึ่งภายในทีมอาสาที่จะลงไปเยือกแข็งปากปล่องภูเขาไฟเพื่อยับยั้งการปะทุ... แต่ที่เห็นกลับมีแต่เขม่าภูเขาไฟที่คุกรุ่นออกมามากกว่าเดิมเรื่อยๆ
"นี่ลีดเดอร์ ! ยูริไม่ยอมตอบกลับมาเลยนะ ! ระบบสื่อสารของเธอขัดข้องหรือเปล่า ! พวกเราควรไปดูนะ !"
"ยังก่อน ! สมาชิกฮองนา ! เรายังอพยบประชาชนได้ไม่ถึงครึ่งเลย ! ภารกิจสำคัญที่สุดอย่าลืมซะสิ !"
ลีดเดอร์เทเรเซียยังคงเสียงแข็งไม่ยอมทำตามคำแนะนำของเพื่อนร่วมทีม ! พรุ่บบบบ !! ลูกไฟลูกหนึ่งพุ่งปะทุออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟ !
"นี่ลีดเดอร์ ! มีลูกไฟปะทุออกมาแล้วนะ ! ไม่ออกไปดูทางด้านของยูริหน่อยหรอ !"
"หะ !! ลูกไฟปะทุออกมาแล้วงั้นหรอ.....!! ก็เพราะอย่างนั้นไงเราถึงต้องรีบอพยบผู้คนให้เร็วยิ่งขึ้น !! ภูเขาไฟมันจะปะทุแล้ว !!"
"ใช่ !! ภูเขาไฟมันจะปะทุแล้ว !! แต่เทเรเซีย !! เพื่อนของเรายังอยู่ในนั้นนะ !!"
"กรุณาเรียกฉันว่า 'ลีดเดอร์ !' " พรุ่บบบบ !! "ล...ลูกไฟ... ลูกไฟเริ่มพุ่งถี่ขึ้นเรื่อยๆแล้ว..." สมาชิกอีกคนหนึ่งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นระรัวไปหมด !พรึ่บบบ ฟิ้ววว !! ทันใดนั้นเองเทเรเซียจึงจุดไอพ่นชุดเกราะของเธอพร้อมกับออกบินไปยังปากปล่องภูเขาไฟในทันที !
"พวกเธอ 3 คน ! รีบอพยบผู้คนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ! ฉันจะไปช่วยยูริเอง !" เธอออกคำสั่งกับสมาชิกที่เหลือของเธอ...
ที่ปากปล่องภูเขาไฟ...
"สมาชิกยูริ ! เธอยังอยู่ดีไหม ! เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไม่ยอมติดต่อกลับมา !" เทเรเซียในชุดเกราะไอพ่นกันความร้อนสูงตะโกนเข้าไปยังปากของปล่องภูเขาไฟ
"ล...ลีดเดอร์ ! ช่วยฉันด้วย ! ขาของฉันติดกับแมกม่า ! จู่มันก็เพิ่มระดับขึ้นมา ! ฉันพยายามใช้พลังน้ำแข็งจัดการมัน ! แต่ว่ามันหนืดมากมันเลยรั้งขาของฉันไว้ !" สมาชิกยูริตะโกนกลับออกมา เธอหวังพึ่งลีดเดอร์ของยูนิตอย่างเทเรเซียมากที่สุดแล้วในตอนนี้... สีหน้าของเธอไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นแววตาของเธอก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังพร้อมกับความเชื่อมั่นในตัวลีดเดอร์ของเธอ...!
"เอาล่ะ สมาชิกยูริ ! ช้าก่อน ! ฉันกำลังจะลงไปช่วย ! ชุดเกราะกันความร้อนของเธอยังทำงานได้ปกติดีใช่ไหม !" เทเรเซียพยายามใจเย็นพร้อมกับค่อยๆปีนลงปากปล่องภูเขาไฟลงไป
"ใช่ค่ะ ! แต่ไอพ่นของฉันทำงานไม่ได้แล้ว ฉันต้องการคุณช่วยค่ะลีดเดอร์ !"
เทเรเซียค่อยๆปีนลงปากปล่องภูเขาไฟลงไป... สีงที่อยู่ด้านล่างของเทเรเซียในตอนนี้คือบ่อแมกม่า เดือดปุดๆ ขนาดใหญ่ ราวกับเป็นนรกที่กำลังจะแตกและปะทุออกมาเลยก็ว่าได้ ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ได้มีอาการหวั่นเกรงหรือกลัวขุมนรกที่กำลังอยู่ต่อหน้าเธอเลยแม้แต่น้อย... หญิงสาวไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับลาวาสีแดงฉาน เฉกเช่นเดียวกับที่เธอไม่เคยเกรงกลัวต่อปีศาจ ! ภายในหัวของเธอตอนนี้มีเพียงสิ่งๆเดียวนั่นก็คือการช่วยเหลือสมาชิกร่วมยูนิตของเธอให้ได้เท่านั้น !
"สมาชิกยูริ ฉันกำลังจะถึงแล้ว ! ช่วยบอกทีว่าคุณตั้งเวลาระเบิดเยือกแข็งแล้วหรือยัง ! ถ้าหากยังไม่จุดฉันแนะนำว่าให้จุดเลยเดี๋ยวนี้ ! เพราะภูเขาไฟใกล้จะปะทุเต็มทีแล้ว !"
"จุดแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังนับถอยหลัง 30 วิ !"
"ไม่มีปัญหา ! ฉันลงมาถึงแล้ว !"
พรึ่บบ !! เทเรเซียกระโดดลงมาจากปากปล่องภูเขาไฟ เธอลงมาเยียบบนพื้นหินหนืดที่เตรียมพร้อมกำลังจะปะทุ ! สิ่งที่เธอต้องทำมีเพียงแค่เอื้อมมือไปจับตัวของสมาชิกยูริเอาไว้พร้อมกับจุดระเบิดไอพ่นชุดเกราะของตัวเองพร้อมกับพากันบินหนีออกไปจากตรงนี้...
สมาชิกร่วมยูนิตของเธออยู่เพียงแค่เอื้อมแต่ทว่า....!ปุด ปุด ปุด ปุด ปุด พรุ่บบบบบบบ !! ลูกไฟภายในบ่อแมกม่าปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ! มันพุ่งขึ้นมาแทรกตรงกลางระหว่างเทเรเซียกับสมาชิกยูริ ! ตัวของเทเรเซียกระเด็นออกไปจากสมาชิกยูริ ! "ลีดเดอร์ !" สมาชิกยูริร้องออกมา !"ไม่... ไม่เป็นไร... ไม่เป็นไรสมาชิกยูริ ! ฉันยังไหวอยู่ เวลาก็ยังพอมี ! ฉันจะช่วยเธอให้ได้ !"
เทเรเซียไม่หวาดหวั่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น... เธอตั้งหลักขึ้นมาอีกครั้ง... ในขณะที่รอบตัวของเธอเต็มไปด้วยแมกม่าที่กำลังเดือดพร้อมที่จะปะทุ แต่ภายในจิตใจของหญิงสาวผู้นี้กลับแน่นิ่งไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใดเลยแม้แต่น้อย... เธอเอื้อมมือออกไปอีกครั้งเพื่อที่จะคว้าตัวสมาชิกยูริ ! พรุ่บบ !! พรุ่บบ !! พรุ่บบ !! พรุ่บบ !! พรุ่บบ !! พรุ่บบ !! ตู้มมมม !! ...ภูเขาไฟเริ่มปะทุออกมาแล้ว...
แรงระเบิดขั้นรุนแรงทำให้ไอพ่นฉุกเฉินของชุดเกราะเทเรเซียทำงาน ! เธอถูกดึงตัวออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟด้วยแรงของไอพ่น ! ทว่าที่กำลังอยู่ด้านล่างคือสมาชิกยูริที่กำลังดื้นรนทุรนทุราย ตัวของหญิงสาวกำลังจะจมผืนแมกม่าลงไป ! ร่างของเรียล์มสาวถูกรายล้อมไปด้วยลูกไฟที่กำลังลุกซู่ขึ้นรอบตัว ! ราวกับกำลังถูกพิพากษาโดยตัวแทนแห่งอเวจีที่มาจากนรก !
สาวน้อยพยายามใช้พลังน้ำแข็งของตัวเองพยายามหยุดยั้งเพลิงนรกเหล่านั้นไม่ให้กลืนกลินมอดไหม้ตัวของเธอไปได้ แต่ทว่านั่นมันก็เปล่าประโยชน์ !
เทเรเซีย ! รีบพุ่งเข้าไปในปากปล่องภูเขาไฟอีกครั้งอย่างไม่คิดชีวิต !
สิ่งที่จะคร่าชีวิตของสมาชิกยูริไม่ใช่การปะทุของภูเขาไฟ... แต่มันคือสัญญาณของระเบิดเวลาที่บอกอยู่ว่ากำลังนับถอยหลัง 5 วิ !
เมื่อระเบิดเวลาทำงานมันจะเยือกแข็งภูเขาไฟนี้ทั้งหมด อนุภาคของมันสามารถหยุดยั้งการปะทุของภูเขาไฟให้แช่แข็งหยุดนิ่งไปได้ในพริบตาเดียว ! เช่นเดียวกับชีวิตของสมาชิกยูริที่จะถูกเยือกแข็งให้จบสิ้นลงไปด้วย !
5.....4.....3.....2.....1 !
"ฉันมาแล้ว ! สมาชิกยูริ !"
"ลีดเดอร์คะ ! ช่วยด้ว-------------!!" ปี๊ด บึ้มมมม !! . . . . . . "กระผมขอลาออกจากยูนิตนี้ครับ... ลีดเดอร์เทเรเซีย..." (เสียงจากรองหัวหน้าชาร์ล)
"ฮึก...ฮึก...ฮึก...ฮึก... ฉะ...ฉัน...ฮึ่ยยย !! เป็นเพราะเธอนั่นแหละ !! ถ้าเธอ...!! ถ้าเธอรีบเข้าไปช่วยยูริให้เร็วกว่านี้ ยูริก็คงไม่ตาย !! ฮึก ฮึก ฮึกก !!" (เสียงสะอึกสะอื้นของสมาชิกฮองนา)
"งั้นก็คงไม่มีอะไรตกค้างแล้วล่ะเนอะ... งั้นกระผมและสมาชิกฮองนา... พวกเรา 2 คนขอลาออกจากยูนิต-85 อย่างเป็นทางการละกันนะครับ..."
.
.
.
"หูยย... ดูนั่นสิ นั่นเทเรเซีย เอลฟรอนด์ล่ะ..." (เสียงซุบซิบนินทา)
"ใช่ๆๆๆ เห็นมีข่าวว่า สมาชิกร่วมยูนิตของยัยนั่นน่ะ ตายย !! ในวิกฤตการณ์ภูเขาไฟที่เมืองทรานซ์ด้วยนะ !!" (เสียงซุบซิบนินทา)
"เฮ๋ ?? แต่ภารกิจในตอนนั้นที่ยูนิต 85 ทำก็บรรลุผลสำเร็จไปได้ด้วยดีนิ ประชาชนรอดตายกันหมด พบผู้เสียชีวิตแค่คนเดียว" (เสียงซุบซิบนินทา)
"แล้วไม่สงสัยเลยหรอว่า 1 คนนั้นมันคือใครกันน่ะ ! เค้าว่ากันว่ายัยนั่นน่ะ ! บ้าผลลัพธ์ของภารกิจซะจนหน้ามืดตามัว ! ปล่อยให้เพื่อนที่ไปวางระเบิดแช่แข็งภูเขาไฟถูกไฟบรรลัยกันจากภูเขาไฟครอกตายอยู่ภายในปากปล่องเลยน่ะ !" (เสียงซุบซิบนินทา)
"หะ ?!! ตายคาปากปล่องภูเขาไฟอย่างงั้นเลยน่ะหรอ !! น่าเวทนาชะมัด !! นั่นมันแย่สุดๆเลยนะแค่จินตนาการก็สยองแล้ว !!" (เสียงซุบซิบนินทา)
"ใช่ !! ลองนึกสภาพดูสิ !! ถูกดูดลงบ่อแมกม่าลงไป !! ราวกับถูกขุมนรกกลืนกินลงไปทั้งตัวเลยน่ะ !! น่าสยดสยองที่สุด !!" (เสียงซุบซิบนินทา)
"แล้วเทเรเซียก็ปล่อยให้ลูกทีมคนนั้นตายอนา.ถ อย่างนั้นเนี่ยนะ !! คนอะไรจะด้านชา แล้วก็ใจดำได้ขนาดนั้นกันน่ะ !!" (เสียงซุบซิบนินทา)
"นี่ๆๆ เห็นเค้าลือๆกันว่า เธอคนเนี่ย !! เวลาอยู่ในยูนิตก็จะชอบเจ้ากี้เจ้าการ !! เป็นพวกตายด้าน อารมณ์ขี้เย็นชา !! ไร้อารมณ์ขัน !! วันๆเอาแต่หน้านิ่วคิ้วขมวดไม่ใส่ใจใครด้วยนะ !!" (เสียงซุบซิบนินทา)
"เคยได้ยินคนเค้าเม้าท์มาว่า... นางน่ะ !! เวลาอยู่ในยูนิตต้องให้เรียกว่า 'ลีดเดอร์' ด้วยนะ ห้ามเรียกชื่อต้น !! เห็นว่ากันว่าสมาชิกยูนิตอีก 2 คนก็ขอลาออก ทิ้งนางไปแล้วเนื่องจากทนอยู่กับนางไม่ไหว !!" (เสียงซุบซิบนินทา)
"อี้ !! เป็นฉันก็คงอยู่ด้วยไม่ได้อะย่ะ คนอย่างงั้น !!""นี่ !! จะนินทาคนอื่นก็ให้มันเบาๆ ไม่ได้หรือยังไง !! กลัวคนถูกนินทาไม่ได้ยินหรอ !! แล้วอีกอย่าง...! เรื่องที่พูดมามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นซักหน่อยนึงอะ !" (ชายหนุ่มผมสีขาวคนหนึ่ง... ตะวาดใส่คนกลุ่มนั้นไป... ชายคนนั้นเป็นสมาชิกที่เหลืออยู่อีกคนนึงของยูนิตที่ 85) "อุ๊ย ต๊าย ตายย... ไปก่อนล่ะ..." กลุ่มนักเรียนที่เอาแต่ซุบซิบนินทาเทเรเซียค่อยๆพากันเดินหนีออกไป......."ขอบคุณที่คอยอยู่เคียงข้างฉันมาตลอดนะ..." น้ำเสียงอันนิ่งเงียบที่ส่งผ่านออกมาจากภายในลำคอของหญิงสาวผมทอง..."อ๋ออ... เรื่องนั้นน่ะ... ไม่ต้องขอบคุณฉันก็ได้นะ... เทเรเซีย" ชายผมขาวที่ทรงผมมีลักษณะฟูขึ้นมาเล็กน้อยคล้ายๆกับเปลวไฟที่ใกล้จะมอด..."เธอเองก็คอยอยู่เคียงข้างฉันมาตลอดเหมือนกันไม่ใช่หรอเทเรเซีย... ตั้งแต่ครั้งที่ฉันยังเป็นเด็ก โดนคนอื่นกลั่นแกล้ง... พวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เราเคยสัญญากันแล้วนิ" ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มพร้อมกับหันไปมองหน้าเทเรเซีย... หวังที่จะนำรอยยิ้มของเทเรเซีย... รอยยิ้มของเพื่อนของเค้ากลับมา... "ฉันเป็นคนทำทุกอย่างพังเองนั่นแหละ... ตัวของฉัน สิ่งที่เป็นฉัน... ทุกๆอย่างที่เป็นฉันมันทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมามันเป็นอย่างงี้...""มันไม่ใช่ความผิดของเธอเพียงคนเดียวซักหน่อย ต่อให้เธอไปเร็วกว่านี้... เธอก็อาจที่จะช่วยยูริไม่ได้---""อย่าพูดอย่างนั้น !" "นายน่ะ... ไม่จำเป็นต้องอยู่เคียงข้างฉันอีกต่อไปก็ได้... ฉันมันเป็นลีดเดอร์ที่ล้มเหลว... ผู้นำที่ล้มเหลว...""....""ขอบใจทุกช่วงเวลาที่ผ่านมานะ... ฟราน" และแล้ว... หยดน้ำตาแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้นก็ได้ไหลรินลงสู่พื้นกระเบื้องที่ถูกปูทับไว้ด้วยพรม...และนั่นก็เป็นเรื่องราวในอดีต... ของพี่สาวที่แสนดี...
{END}
|
|
|
Post by GreyTear on Jul 27, 2017 10:55:52 GMT
...ณ บริเวณใจกลางแมพ M@gic Verse ที่ถูกสร้างหรือถูก Generate ขึ้นมาเพื่อใช้ในการแข่งขัน Unit-King จะเป็นที่ตั้งของวิหารขนาดยักษ์ที่สูงชลูดจนเกือบจะบดบังแสงจากดวงจันทร์ในยามค่ำคืนได้
ภายในวิหารหินแห่งนี้เป็นที่ซ่อนของศาสตราวุธแห่งเวทย์ต่างๆที่ถูก Generate ขึ้นมาโดยเหล่า Entity เช่นเดียวกับตัวของแมพ.. ซึ่งเรียล์มทุกๆคนที่อยู่ในการแข่งขัน จำเป็นต้องเข้ามาหยิบศาสตราวุธที่อยู่ภายในวิหารแห่งนี้พร้อมกับนำมันออกไปใช้ทำลายคริสตัลประจำปราสาทของยูนิตอื่นๆ ถ้าหากปราศจากอาวุธมหาเวทย์จากภายในวิหารหินแห่งนี้ แล้วก็จะไม่สามารถทำลายคริสตัลประจำฐานของยูนิตอื่นและปราสาทของศัตรูก็จะยังไม่ถูกทำลายลง...
เพราะฉนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในการแข่งขัน นั่นก็คือเรียล์มแต่ละยูนิตต้องคอยจัดสรรหรือแบ่งหน้าที่ให้กับสมาชิกแต่ละคนภายในยูนิต ว่าใครจะทำหน้าที่คอยเฝ้าปราสาทหรือพูดง่ายๆก็คือคอยอยู่เฝ้าฐานส่วนคนที่เหลือใครจะออกไปชิงอาวุธจากวิหารหินออกมา
ก่อนจะทำการบุกโจมตีปราสาทหรือฐานของคนอื่นจำเป็นที่จะต้องมีศาสตราวุธแห่งเวทย์อยู่ในมือก่อนเสมอ มิเช่นนั้นการบุกโจมตีครั้งนั้นก็จะเปล่าประโยชน์โดยสิ้นเชิง ทั้งเปลืองแรง เปลืองพลังเวทย์ อีกทั้งยังเสี่ยงที่จะถูกฆ่าตาย (ในโลกเสมือนจริง) โดยไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมาเลยเนื่องจากถ้าหากไร้อาวุธก็จะไม่สามารถทำลายคริสตัลได้...
.
.
.
.
.
.
.
สำหรับยูนิตทั่วไป... ถ้าหากสมาชิกแต่ละคนไม่ได้มีความสามารถเฉพาะตัวอะไรโดดเด่นมากมายนัก ก็มักจะแบ่งสมาชิกออกเป็น 2 กลุ่ม นั่นก็คือ 2+3 หรือ 3+2 กลุ่มนึงทำหน้าที่เฝ้าฐานส่วนอีกกลุ่มทำหน้าที่ออกไปชิงศาสตราวุธแห่งเวทย์จากวิหารหินออกมา เมื่อชิงศาสตราวุธแห่งเวทย์ออกมาได้จากวิหารแล้วส่วนมากก็มักจะมุ่งหน้ากลับฐานเพื่อไปทำการ Regroup และ Heal กันก่อน ก่อนที่จะเริ่มทำการเดินหน้าบุกหาปราสาทของคู่ต่อสู้... สำหรับขั้นตอนๆนี้ จัดได้ว่าเป็นวิธีพื้นฐานสำหรับยูนิตทั่วๆไปที่ไม่ได้มีความโดดเด่นอะไรมากนัก... แต่ทว่า...
ถ้าหากเป็นยูนิตที่สมาชิกบางคนมีพรสวรรค์หรือความสามารถโดดเด่นเป็นพิเศษ อาจจะแบ่งทีมเป็น 1+1+3 โดยให้ 1 คนที่เก่งที่สุดทำหน้าที่เป็นตัวแบกคอยเฝ้าฐานทัพอยู่เพียงแค่คนเดียว เป็นปราการด่านเดียวและด่านสุดท้ายซึ่งต้องเป็นคนที่มากความสามารถ แข็งแกร่ง อึดถึกทนที่สุดจริงๆถึงจะสามารถรับหน้าที่หนักหนาสาหัสแบบนั้นได้เพราะเรียกได้ว่าเป็นคนที่แบกความหวังของเพื่อนร่วมทีมอีกทั้ง 4 คนเอาไว้...
ส่วนสมาชิก 3 คนที่รวมทีมกันเป็นกลุ่มก้อนจะทำหน้าที่ไปช่วงชิงอาวุธมหาเวทย์กลับมาเหมือนกับยูนิตอื่นๆ และสมาชิกอีก 1 คนที่เหลือจะเป็นคนที่จะคอยสร้างความแตกต่างนั่นก็คือจะทำหน้าที่ในการสำรวจแมพซึ่งเขาจะสามารถพบแหล่งในการฟาร์มไอเทมหรือเพื่อเพิ่มค่า Overall ให้กับทีม โดยคนๆนี้จะต้องมีความฉลาดหลักแหลม มีไหวพริบในการเอาตัวรอดสูงเนื่องจากต้องคอยฉายเดี่ยวอยู่ตลอดเวลาเพียงคนเดียว...
เมื่อเริ่มต้นการแข่งขันยูนิตแต่ละยูนิตจะได้รับแผนที่เวทมนตร์มา 1 แผ่น ซึ่งบนแผนที่จะปรากฏเพียงแค่ตำแหน่งของปราสาทที่พวกเขาอยู่และตำแหน่งของวิหารหินใจกลางแมพเท่านั้น นอกเหนือจะสิ่งเหล่านั้นแล้วบนแผนที่จะปรากฎเพียงแค่เงาสีดำ... ภาพต่างๆภายในแผนที่จะปรากฏออกมามากขึ้นก็ต่อเมื่อเราทำการสำรวจแมพ เพราะฉนั้นเมื่อเริ่มการแข่งขัน สมาชิกแต่ละคนก็ควรที่จะกระจายตัวออกไปสำรวจบริเวณรอบๆปราสาทหรือรอบๆฐาน เพื่อหาทางหนีทีไล่และคอยคาดเดาเส้นทางที่ศัตรูจะใช้ในการบุกโจมตีเข้ามา...
ทุกๆที่ที่เหล่าสมาชิกแต่ละคนเดินไป ภาพบนแผนที่ก็จะสว่างขึ้นตามที่เรียล์มแต่ละคนได้ทำการสำรวจ...
แต่ถ้าหากสมาชิกแต่ละคนไม่ยอมสำรวจพื้นที่โดยรอบในช่วงเริ่มเกม... และปล่อยให้ภาพบนแผนที่ยังคงปรากฏแต่เพียงเงาสีดำอยู่อย่างนั้น เมื่อครั้นที่ศัตรูบุกเข้ามาประชิดหน้าด่านก็จะไม่สามารถรับรู้หรือทราบตำแหน่งของพวกเขาได้ และเมื่อเขาบุกเข้ามาภายในฐานแล้ว เมื่อนั้นเราอาจจะทราบตำแหน่งของผู้บุกรุกแต่มันก็อาจจะสายเกินไป... ที่จะป้องกันคริสตัลประจำปราสาทเอาไว้ได้ทัน...
และปราสาทขนาดใหญ่ยักษ์ก็จะถูกทำลายลงมา... ในชั่วพริบตา...
----------------------------------------------------------------To be continue... in Chapter 10
|
|
|
Post by GreyTear on Aug 1, 2017 5:57:57 GMT
INTRO... 10 กว่าปีที่แล้ว... "ปีศาจมา ! ปีศาจมา ! ปีศาจมาแล้ว !! พวกเราหนีมันเร็ว !!" เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กผู้ชายตัวจ้อยคนหนึ่งที่กำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่างที่กำลังเดินตามหลังเขามาบริเวณทางเดินกลับบ้าน...
"ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ !! ระวังให้ดีนะเดี๋ยวจะติดโรคร้ายจากปีศาจเอา !!" เสียงเจี๊ยวจ๊าวเหล่านั้นมิได้เป็นเสียงของเด็กน้อยผู้ที่กำลังหวาดกลัว... หากแต่เป็นน้ำเสียงที่ปนไปด้วยเสียงหัวเราะ และคำพูดที่ดูจะออกไปในทางของเชิงขบขันค่อนไปทางกลั่นแกล้งเสียมากกว่า... เด็กชายตัวน้อยอีกคนหัวเราะออกมาพร้อมกับชี้นิ้วไปยังสิ่งที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังของเค้า...
"พวกปีศาจนี่น่ากลัวมากๆเลยอะ !! หนีเร็ว !!" เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักผมสีเหลืองอ่อนคนหนึ่งก็วิ่งตามเด็กผู้ชายกลุ่มนั้นไป แต่ดูเหมือนว่าเธอคนนี้จะเชื่อว่าสิ่งที่อยู่ด้านหลังของเธอคือปีศาจตัวเป็นๆจริงๆ เด็กน้อยจึงมีสีหน้าที่หวาดกลัวและมีหยดน้ำตาที่คลอออกมา...
"..."
"รีบๆเร็ว ! 'แซนนี่ !' เดี๋ยวจะโดนปีศาจหลอกจับไปกินเอา ! ฮะฮะฮะฮะ !" เด็กชายผมดำที่ดูเหมือนจะเป็นหัวโจกพูดเสริมออกมาจนทำให้เด็กหญิงตัวน้อยต้องรีบเร่งฝีเท้าคู่เล็กๆของตนให้เร็วยิ่งขึ้นเพื่อที่จะหนีให้พ้นจากสิ่งที่อยู่ด้านหลัง...
"ย...หยุด...หยุดพูดแบบนั้นได้แล้วนะ ! ฉ....ฉัน ฉันน่ะ... ไม่ใช่ปีศาจ !" สิ่งที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังตะโกนลั่นออกมาด้วยน้ำเสียงของเด็กน้อย... ทว่าเสียงของเขากลับทุ้มต่ำและมีความดังกึกก้องยิ่งกว่าน้ำเสียงโดยปกติของเด็กประถมต้นเป็นอย่างมาก...
เด็กชายผู้ถูกเพื่อนรอบข้างพากันรุมรังเกียจ... เขาพูดออกมาเสียงดังลั่นพร้อมกับมีหยดน้ำตาที่กำลังคลอเบ้า... ทว่าความดังกึกก้องที่ปะทุออกมาราวกับภูเขาไฟนั้น... มิได้แสดงให้เห็นถึงความน้อยใจหรือความเศร้าหมองที่เกิดจากการถูกมองว่าเป็นตัวอัปลัก.ษณ์เลยแม้แต่น้อย... มันกลับกลายเป็นท่าทีของคนที่กำลังกริ้วโกรธา... ใบหน้าที่แดงก่ำ น้ำเสียงที่แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายและออร่ารัศมีแห่งการข่มขวัญ... หยดน้ำตามิได้สร้างความอ่อนโยน บอบบางหรือสร้างความรู้สึกน่าสงสารเลยแม้แต่นิดเดียว...
"ต...แต่... แต่แม่ของฉันบอกกับฉันว่า พวกปีศาจจะมีหูที่ยาว เขี้ยวฟันที่แหลมคม แววตาที่ดูโหดร้ายและน้ำเสียงที่ดังก้องน่าผะวาดผวาแบบนี้... ซึ่งนั่นมันก็คือซูซาโนะทั้งหมดเลยไม่ใช่หรอ..." เด็กผู้หญิงตัวน้อยที่กำลังอยู่รั้งท้ายเพื่อนชี้นิ้วไปที่ลูกครึ่งปีศาจตนหนึ่งพร้อมกับสาธยายลักษณะของปีศาจที่คุณแม่เคยเล่าให้ฟังเป็นนิทานก่อนนอนเสมอมา... เด็กน้อยยังคงมีท่าทีที่หวาดกลัวสิ่งที่กำลังอยู่ตรงหน้า เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนจะใสซื่อ...
"ม...ไม่ใช่ซักหน่อย-----" ลูกครึ่งปีศาจพยายามพูดปฏิเสธออกมาแต่ทว่า...
"ใช่แล้วแซนนี่ ! อย่าไปฟังเจ้าหมอนั่นพูดเลย ! อีกอย่าง... เจ้าหมอนั่นคงจะไม่เคยได้ยินเรื่องเล่าแบบที่แซนนี่เคยได้ยินแน่ๆ เพราะแม่ของเจ้าหมอนั่นมันเป็น แม่มด ! พวกแม่มดน่ะ ! ชอบพูดจาโป้ปดโกหกหลอกลวงแล้วก็ยังเป็นพวกที่ชั่วร้ายมากๆเลยด้วย !"
"นายน่ะ ! มันไอ้ลูกของแม่มดจอมลวงโลก !"
"ช่าย...ไอ้พวกสิ่งชั่วร้าย ! ลูกก็เป็นปีศาจ ! ส่วนแม่ก็เป็นแม่มด ! เผลอๆที่ไม่มีพ่อก็เพราะว่าพ่อเป็นปีศาจแล้วก็ถูกฆ่าตายไปแล้วแน่ๆเลย !"
"ไอ้เด็กลูกไม่มีพ่อ !" "กรรรรรรรรรรรจจ !!" .... .... .... .... ….. ….. ฉอกกก... เสียงผู้หญิงรินน้ำชากระทบกับถ้วยแก้วเซรามิคบางๆ เธอยื่นถ้วยน้ำชาที่พึ่งรินจนเกือบจะล้นไปให้กับเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนโต๊ะไม้กลมด้านหน้า
เด็กชายคนนั้นมีรอยฟกช้ำดำเขียวเล็กน้อยอยู่บนใบหน้า... หญิงสาววัยยี่สิบปลายๆย่างสามสิบพึ่งพาลูกชายกลับมาจากโรงเรียนประถมแทบชนบทของดาวเคราะห์ที่ซึ่งเป็นดาวหลวงของสาธารณรัฐจูเรีย...
เนื่องจากว่าวันนี้เธอได้รับรายงานจากฝ่ายปกครองว่าลูกชายของเธอไปมีเหตุชกต่อยกับนักเรียนคนอื่นๆ โดยมีคุณครูไปพบเห็นเข้าระหว่างทางที่เด็กนักเรียนกำลังเดินกลับบ้าน...
"...แม่..." เด็กตัวน้อยพยายามเอ่ยปากส่งเสียงพูดออกมาทว่ามันกลับแผ่วเบาและไม่ยอมเปล่งออกมาจากภายในลำคอ...
"หึหึหึ... ไม่ต้องบอกก็รู้... วันนี้ไปมีเรื่องชกกับใครเค้าอีกล่ะสิ ? คราวนี้เป็นใครกันล่ะ 'โตโด้' หรอ ? หึ หึ หึ หึ... ไม่ต้องคิดมากหรอกนะเรื่องนั้น... เด็กๆวัยประถมก็อย่างงี้นี่แหละ มีเรื่องกลั่นแกล้งกันบ้างเป็นธรรมดา เรื่องเล็กน้อยน่ะลูก... ของพวกนี้น่ะจะทำให้ลูกแข็งแกร่งขึ้นและสามารถโตขึ้นไปเผชิญกับโลกภายนอกได้ดีกว่าคนอื่นยังไงล่ะ..."
หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเชิงให้กำลังใจลูก... ถึงแม้จะเป็นคำสอนที่ผู้ปกครองทั่วไปมักไม่ค่อยจะพูดในแนวนี้ก็ตาม...
ติก ติก ติก... เสียงช้อนกระทบเข้ากับถ้วยแก้ว... เธอกำลังชงน้ำชาเพิ่ม
"...แม่..." ผู้เป็นลูกดูเหมือนจะพยายามพูดอะไรบางอย่าง... ภายในหัวของคงเต็มไปด้วยคำถาม... ไม่สิ... อาจจะมีแค่คำถามๆหนึ่งหรืออาจจะมีเพียงซักหนึ่งถึงสองคำถามก็ได้...
"แต่ก็นะ... ซูซาโนะ... ที่แม่สอนลูกแบบนี้น่ะ... ไม่ใช่ว่าจะสนับสนุนให้ลูกนิยมใช้ความรุนแรงแต่อย่างใดนะ... การต่อสู้ การใช้ความรุนแรง การพุ่งเข้าปะทะกัน... ไม่ใช่ทางออกของทุกสิ่ง... แต่การป้องกันตัวก็เป็นสิ่งที่แม่ยอมรับได้... การป้องกันตัวน่ะเป็นสิ่งสำคัญนะ ลูกควรที่จะเรียนรู้เอาไว้... แต่การใช้ความรุนแรงเพื่อเข้าทำร้ายผู้อื่นน่ะ... เป็นสิ่งที่แม่จัดไว้ว่าต้องห้าม... ใช่ว่าทั้งชีวิตนี้ลูกจะไม่สามารถทำร้ายใครเค้าก่อนได้แต่ ณ ตอนๆนี้ลูกมิควรที่จะใช้พละกำลังเข้าไปมุ่งทำร้ายใครก่อน...
หึหึหึ... เห็นความหมายแตกต่างกันขนาดนี้แต่ความจริงแล้วมีแค่เส้นบางๆกั้นอยู่เท่านั้นเองนะ ระหว่างการป้องกันตัวกับการมุ่งทำร้ายผู้อื่นน่ะ..."
"...แม่..." (เสียงของเด็กน้อยก็ยังคงส่งไปไม่ถึง...)
"เอาเป็นว่า... สำหรับการเทศนาในวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้แหละนะ... หึหึหึ สำหรับลูกน่ะ... ใครๆก็รู้ว่ามีร่างกายที่โตเร็วกว่าคนอื่น ทั้งหัวสมอง ความคิดความอ่านก็โตเร็วไม่แพ้กัน... คงเป็นเพราะว่ามีแม่ที่ดีล่ะมั้ง คึกคึกคึก... มานี่มา...เดี๋ยวแม่ทำแผลให้..."
หญิงสาวผมสีเทาเข้มค่อยๆเดินเข้าไปทำแผลให้กับลูกของเธอเมื่อเห็นว่าเขาดื่มน้ำชาจนหมดแก้วแล้ว... เธอเดินเข้ามาพร้อมกับสำลีชุบยาแก้ฟกช้ำและแผ่นปลาสเตอร์ภายในมือ...
เด็กน้อยลูกครึ่งที่เหมือนจะพยายามพูดอะไรบางอย่าง อ้ำอึ้งๆอยู่ในลำคอมาตั้งแต่เมื่อตะกี้นี้แล้ว... เมื่อนั้นเอง... ในที่สุดเขาก็พูดออกมาได้ซักทีว่า
"แม่ครับ ! แม่มดนี่ชั่วร้ายจริงๆหรอ ! แล้วผม...ผมเป็นปีศาจจริงๆใช่ไหม !" เด็กตัวกระจ้อยพูดพลางบีบน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นออกจากเบ้า...
หญิงสาวผิวซีดจางเมื่อได้ยินดังนั้นจึงนิ่งซะงัดไปชั่วขณะนึง... ถึงอย่างนั้นเธอก็ ยังคงยิ้มด้วยรอยยิ้มอย่างอบอุ่นออกมาราวกับนางฟ้าพร้อมกับปลอบปะโลมลูกชายของเค้า...
"คึกคึกคึก... วัยเด็กนี่ตลกดีจริงๆเลยนะ หึหึหึ... แม่น่ะไม่ใช่คนที่ดีหรือเพียบพร้อมร้อยเปอร์เซ็นหรอกนะ... คนเรามันก็มีด้านที่ไม่ดีอยู่ในตัวเองด้วยกันทั้งหมดนั่นแหละ... บางทีแม่อาจจะแอบเป็นคนที่ร้ายนิดๆ...หรือป่าว...ก็ไม่รู้ได้หรอกนะ คึกคึกคึก... แต่สำหรับแม่นะ... สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่การที่เราเป็นคนดีหรือคนไม่ดี... คนดีในโลกชีวิตจริงอาจจะไม่ได้มีชีวิตที่น่ายินดีเสมอไปหรอกนะ... ส่วนคนไม่ดีก็ใช่ว่าจะมีจุดจบที่ย่ำแย่ซะเสมอไป... แต่เรื่องพวกนั้นมันคงจะเร็วเกินไปสำหรับลูก เดี๋ยวซักวันลูกก็คงจะได้เรียนรู้เอง แม่แค่เกริ่นนำมันไว้เฉยๆ... แต่มีอีกสิ่งนึงนะที่แม่สามารถบอกให้ลูกได้รับรู้ในตอนนี้ได้เลยก็คือ... ถึงแม้ว่าเราจะเป็นคนที่ดีหรือคนที่ไม่ดีก็ตาม... แต่สิ่งที่ถูกต้องที่สุดเสมอมานั่นก็คือ... เราต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตของเราเสมอนะลูก... นั่นก็คือสิ่งที่เรารัก...
อย่าได้ทรยศสิ่งที่เรารัก อย่าได้ทรยศสิ่งที่เราเลือกที่จะอยู่เคียงข้าง เว้นแต่สิ่งๆนั้นมันจะกลับกลายมาเป็นสิ่งที่ทำร้ายตัวลูก... สิ่งที่มันทำร้ายตัวลูกน่ะนั่นแหละคือสิ่งที่ชั่วร้าย... สิ่งที่ไม่ดีกับสิ่งที่ชั่วร้ายนั้นแตกต่างกัน... และที่สำคัญที่สุดอีกอย่างนั่นก็คือ... จงอย่าได้ทรยศและทอดทิ้งสิ่งที่เป็นตัวเอง
เหมือนกับที่แม่คอยอยู่เคียงข้างลูกเสมอมา... นั่นก็บอกได้เป็นนัยๆนึงแล้วว่าแม่ไม่ใช่สิ่งที่ชั่วร้าย... คำว่าแม่มดน่ะ... จะชั่วร้ายหรือไม่ชั่วร้ายแม่ไม่สามารถบอกได้หรอกนะ... เพียงแต่สิ่งที่แม่บอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำก็เลยคือ... แม่ของลูกคนนี้ไม่ใช่สิ่งชั่วร้ายแน่นอน... คึกคึกคึก"
หญิงสาวใช้คำพูดที่แลดูอ้อมค้อมไปซักนิดๆแต่ก็ไม่ยากเกินกว่าที่เด็กชายลูกครึ่งปีศาจจะพอจับใจความสำคัญของมันได้... คำพูดและวาจาที่สื่อออกมาจากแม่ของเขาทำให้เด็กตัวน้อยรู้สึกว่าการเป็นปีศาจก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายอะไรขนาดนั้น...
แต่...เด็กน้อยก็มีความสงสัยอีกข้อหนึ่ง
"แล้ว... ที่ว่าผมเป็นปีศาจนั่นน่ะ... จริงหรือป่าว..." เด็กชายยังคงใจจดใจจ่อกับคำพูดที่กำลังจะออกมาจากปากของแม่ของเขา...
สาวผมเทานิ่งไปอีกซักพัก...เพื่อกลั่นกรองคำพูดที่อยู่ภายในจิตใจ... นี่คือหน้าที่อันใหญ่หลวงและสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ... การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวนั้นไม่ใช่อะไรที่จะเป็นกันง่ายๆ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยหวาดหวั่นหรือรู้สึกท้อถ่อยเลยแม้แต่น้อยกับความรับผิดชอบที่ไม่ง่ายแบบนี้
"ถ้าสมมุติว่าลูกเป็นปีศาจจริงๆ ปีศาจ... ก็ไม่เห็นจะดูแย่ตรงไหนเลยนิ... หึหึหึ ออกจะเท่ห์กว่าคนอื่นซะด้วยซ้ำ... โดดเด่นกว่าใคร มีน้ำเสียงที่ทุ้มลึกดูองอาจ แววตาที่ดูมีอำนาจ... สิ่งที่สำคัญไม่ใช่ว่าลูกคือใครหรือเป็นอะไร... แต่มันคือการที่ลูกเลือกว่าจะทำสิ่งใดในชีวิตมากกว่า... ต่อให้ลูกเป็นปีศาจที่มีแววตาที่น่ากลัว ดูดุร้าย แต่ลูกก็จะไม่มีทางเป็นปีศาจที่ชั่วร้าย... เพราะว่าลูกเลือกได้ที่จะไม่เป็น... คนเราน่ะไม่ได้หวั่นเกรงปีศาจที่มีความน่ากลัวหรอกนะ... เอ๊ะ ไม่สิ... ก็อาจจะมีหวาดกลัวอยู่บ้างเพราะสิ่งที่เห็นจากภายนอกเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้... แต่ถึงยังไงซะ... ท้ายที่สุดคนก็จะกลัวสิ่งที่ชั่วร้ายมากกว่าสิ่งที่ดูน่ากลัวกว่าอยู่ดี... เพราะสิ่งที่น่ากลัว... ถึงแม้จะแลดูร้ายไปบ้าง... แต่ท้ายที่สุดแล้วก็มีโอกาสพิสูจน์ได้ว่าเค้าไม่ใช่สิ่งที่ชั่วร้าย
จงภูมิใจ...ในความเป็นตัวของตัวเองซะ... เอาล่ะ... ถึงเวลาตอบคำถามลูกแล้วล่ะนะ... ที่ถามมาก็คือว่า 'ลูกเป็นปีศาจจริงๆไหม ถ้าเกิดสมมุติคำว่าปีศาจของลูกหมายถึงสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์หนึ่งที่มีพละกำลังและความเกรี้ยวกราดที่มากกว่ามนุษย์แม่ขอตอบว่า 'ใช่.... แค่ครึ่งเดียว' "
"เฮืออกก !" เด็กชายถึงกับสะดุ้งออกมาเมื่อพบกับคำตอบดังนั้น...
"จะตกใจไปทำไมกัน... คุณลุงอีซัล ชเอเดอร์ก็เคยบอกแล้วไงว่าลูกน่ะเป็นลูกครึ่งปีศาจ มียีนที่แสดงถึงลักษณะของพวกเผ่าพันธุ์ปีศาจปรากฏอยู่ครึ่งนึง..."
"แต่ผมไม่อยากเป็นปีศาจนิ เพื่อนๆที่โรงเรียนเค้ากลัว เค้าบอกว่าเค้าไม่ชอบพวกปีศาจ..."
"แหม่... ถ้าอย่างงั้นอยากจะฟังคำตอบที่มาจากความหมายของคำว่า 'ปีศาจ' ในอีกนัยนึงของแม่ดูไหมล่ะ..."
เด็กชายตั้งใจฟัง...
"ถ้าสมมุติคำว่า 'ปีศาจ' น่ะ... หมายถึงสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความชั่วช้า ต่ำทรา.ม หรือพูดรวมๆกันว่า 'สิ่งที่ชั่วร้าย' แล้วล่ะก็... 'ลูกไม่มีวันที่จะเป็นปีศาจในสายตาของแม่และคนอื่นๆที่อาศัยอยู่ในจักรวาลๆนี้...' "
เด็กตัวน้อยพอใจกับคำตอบของผู้ที่เป็นแม่ของเค้า... เมื่อนั้นเอง... แม่มดสาวก็ได้โผลเข้าไปโอบกอดแห่งไออุ่นกับร่างของลูกชาย... หญิงสาวหยอกล้อเล่นกับลูกชายตัวเองอย่างสนุกสนาน... ช่างเป็นภาพที่ดูอบอุ่น น่าเอ็นดู... ภาพของหญิงสาวผู้เป็นแม่มดกำลังหยอกเล่นกับบุตรที่เป็นลูกครึ่งปีศาจ...
ความรักของแม่ที่มีให้กับลูก... ความรักของเธอมันได้ปกปิดภาพลักษณ์ของการแม่มดซะเกือบจะหมดสิ้น... ความอบอุ่นบนรอยยิ้มที่อยู่บนหน้าของเธอ มันย้อมและฉาบตัวเธอให้เปล่งประกายราวกับนางฟ้า...
ถ้าหากจะพูดว่ามีแสงสว่างเปล่งประกายอยู่ล้อมรอบตัวของแม่มดผู้ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังเวทย์เอเลเมนท์แห่งความมืดก็ไม่ผิดนัก...
"คึกคึกคึกคึก... เอาเข้าจริงๆแล้ว แม่มีคำตอบที่มาจากความหมายของคำว่า 'ปีศาจ' ในอีกนัยนึงนะ ฮะฮะฮ่าา !"
"คืออะไรหรอครับ ?"
"ในอีกนัยนึงน่ะ... สำหรับแม่... ลูกก็คือ 'ปีศาจ' "
"เอ๋ ??"
"เป็นปีศาจตัวน้อยที่น่ารักและน่าเอ็นดูของแม่ยังไงล่ะ... คึกคึกคึก"------------------------------------------------------------------ The 'Half-Demon' The WitchThe Another Witch ...And The Lunatic Bad B.I.T.C.H....
|
|
|
Post by GreyTear on Aug 4, 2017 14:59:10 GMT
Chapter 10 Part 1 'ปฐมบทศึกแห่งโลกจำลอง ! วิหารหินศาสตราวุธ ! ตอนที่ 1' M@GIC Verse ---โลกเวทมนตร์เสมือนจริง--- สถานที่ : ณ วิหารหินใจกลางแมพ แหล่งรวมศาสตราวุธแห่งเวทย์
ค่ายเทคกิ้งมี อเวย์ {Taking Me Away}
Date / Month / Years of republic : 20 / 05 / 1023
กราาดดด !!
เสียงกระสุนรัวออกมาไม่หยุดจากปากปืนกลกระบอกยักษ์ ! ประกายไฟสีส้มกระพริบออกมาจนแทบจะทำให้โถงทางเดินในชั้นใต้ดินของวิหารหินเกิดความสว่างขึ้นมาทั้งๆที่ด้านในนี้ไม่มีช่องหรือรูใดๆเลยที่จะมีแสงสว่างจากภายนอกส่องเข้ามาได้...
เรียล์มสายเครื่องจักรประมาณ 3 คนจากยูนิตหนึ่งกำลังผนึกกำลังรวมกันเพื่อป้องกันตัวเองจากเจ้าฝูงสัตว์ประหลาดที่ชื่อว่า 'คราสท์' {KRATZ}
สัตว์เดรัจฉา.นจำพวกนี้ไม่ค่อยมีมันสมองมากนัก สิ่งที่ทำได้และทำเป็นอยู่อย่างเดียวกันนั่นก็คือการโจมตีและการทำลายล้าง มักพบอยู่ในบริเวณที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นป่าดงดิบบริเวณทางตอนใต้ของภาคพื้นทวีปดาวเคราะห์จูรัน... ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์หลาดหรือสิ่งมีชีวิตด้อยสติปัญญาแน่นอนว่าจะต้องโดดเด่นในเรื่องของความว่องไว ดุดันและความโหดร้ายป่าเถื่อน จัดว่าเป็นสิ่งมีชีวิตผิดกฎหมายห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ครอบครองและห้ามมิให้ทำการเพาะพันธุ์เพื่อสร้างกองทัพ !
ทว่าภายในโลกเวทมนตร์จำลองซึ่งไม่มีกฎเกณฑ์... ผู้สร้างแมพจึงได้ทำการ Spawn เจ้าสัตว์ประหลาดกลุ่มนี้ไว้เพื่อใช้เป็น Mob ที่จะคอยสร้างอุปสรรคและความยากเข็ญแก่เรียล์มที่มาเข้าแข่งขัน ! ที่สำคัญคือพวก Mob ประเภทนี้จะมีจำนวนมากเป็นพิเศษภายในวิหารหินศาสตราวุธแห่งเวทย์ !
มักจะมีคำกล่าวจากเรียล์มรุ่นพี่คลาส 3 อยู่บ่อยๆว่า ส่วนมากพวกที่ตายในโลกจำลองน่ะ ไม่ได้ตายด้วยน้ำมือของเรียล์มด้วยกันเองหรอกแต่มักจะตายกันก็เพราะพวก Mob ที่น่ารำคาญพวกนี้นี่แหละ !
แน่นอนว่ามีเรียล์ม 3 คนจากอีกยูนิตหนึ่งที่กำลังเผชิญชะตากรรมร่วมกับเรียล์มที่พึ่งกล่าวไว้ข้างต้น... นั่นก็คือ...
...
"เวทมนตร์ปีศาจ ! เพลิงมารสายฟ้า ! ย้าาากกก !" วงเวทย์สีฟ้าปรากฏขึ้นมาล้อมรอบตัวของซูซาโนะก่อนที่ดวงตาของเขาจู่ๆก็เกิดเปลวไฟสีฟ้าขึ้นมา !
ชายหนุ่มในเครื่องแบบนักเรียนอ้าปากพร้อมกับพ่นไฟบรรลัยกัลป์สีฟ้าออกมา ! ทั้งๆที่ออกมาแข่งขันต้องเผชิญกับสัตว์ประหลาดอันแสนดุร้ายอย่างงี้ทั้งทีแต่กลับแต่งตัวไม่เอาฤกษ์เอาชัยเสียเลย !
แต่ทว่าดูเหมือนเรื่องเสื้อผ้าจะไม่ได้ส่งผลต่อความร้ายกาจภายในตัวลูกครึ่งปีศาจคนนี้ซักเท่าไหร่ ! เหล่าสัตว์ร้ายถูกเปลวเพลิงจากซูซาโนะเผาร่างซะจนแหลกไม่เป็นชิ้นดีก่อนจะถูกช็อตร่างด้วยสายฟ้าที่ซ่อนอยู่ภายในเปลวไฟอีกด้วย !
พรึ่บบ !
แต่เมื่อนั้นเอง คราสท์ตัวหนึ่งบินลงมาประจันหน้ากับซูซาโนะ ! มันใช้ปีกอันแข็งกระด้างราวกับโลหะของมันโบกสะบัดหมายจะตัดคอของชายหนุ่มให้หลุดออกมาจากบ่าให้จงได้ !
ชวิ้ง !
ซูซาโนะชักดาบออกมาจากฝักพร้อมกับบรรเลงเพลงดาบฟันฉับ ! สวนการโจมตีของเจ้าตัวร้ายอย่างทันท่วงที ! เสียงดาบกับเสียงของปีกเหล็กกระทบกระทั้งฟาดฟันกันไปมา !
เจ้าสัตว์ประหลาดเปลี่ยนจากการจู่โจมด้วยปีกมาใช้กรงเล็บบนมือของมันพุ่งเข้าหาซูซาโนะแทน ! ลูกครึ่งปีศาจกระโดดถอยออกมาจากคมเล็บอันยาวเฟื้อยของเจ้าสัตว์ประหลาด ! พร้อมกับกระโดดพุ่งสวนเข้าไปพร้อมกับดาบในมือก่อนที่จะฝ่ากรงเล็บและแทงทะลุตัวของเจ้าสัตว์ร้าย เท่านั้นยังไม่พอเขายังเสริมแรงพุ่งตัวเข้าไปทั้งตัวทะลุร่างของเจ้าตัวประหลาดจนร่างของมันแหลกและแยกสิ้นส่วนออกจากกันในทันทีที่ตัวของซูซาโนะทะลุผ่านร่างของตัวมันออกมาอีกด้านหนึ่ง !
เขาคลำดูที่เสื้อผ้าของเขาเล็กน้อย พบว่ามีรอยขาด ชิ้นส่วนเครื่องในของเจ้าตัวคราสท์ที่ติดมาและรอยแผลที่เกิดจากกรงเล็บซึ่งมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย... แต่ทว่าซูซาโนะหาได้เกิดความเจ็บปวดไม่ เนื่องจากว่าร่างกายของเขามันสุดแสนจะทนทายาดอีกทั้งยังสามารถเยียวยาตัวเองได้ในระดับหนึ่ง บาดแผลแค่นี้ไม่ทำให้ลูกครึ่งปีศาจต้องถึงกับออกอาการเจ็บปวด !
...
ในขณะเดียวกัน... เรียล์มคนหนึ่งจากยูนิตอื่นที่ไม่ใช่ยูนิต-18 ก็ถูกสัตว์ประหลาดบินโฉบตัวของเขาขึ้นเพดานไป ! ก่อนที่จะโดนเพื่อนฝูงของมันบินเข้ามารุมแยกชิ้นส่วนของเรียล์มคนนั้นออกมา ! แขน ขา และหัวของชายคนนั้นถูกแยกออกจากลำตัวภายในชั่วพริบตา ! เรียล์มหนุ่มคนนั้นต้องออกจากโลกเวทมนตร์ไปรอเพื่อนๆอยู่ในโลกแห่งความจริงล่วงหน้าก่อนซะแล้ว...
...
อีกทางด้านหนึ่งหญิงสาวผมบลอนด์ผิวขาวเนียนอีกคนหนึ่งก็กำลังต่อกรกะเจ้าฝูงคราสท์ที่กำลังบินอยู่รอบๆด้วยอาวุธคู่บุญสุดที่รักของเธออย่างไม้เบสบอล !
'สเตปฟานี่ อัสติน' เรียล์มจากเซ็คชั่นการแพทย์ที่ปกติแล้วหน้าที่ของเธอคือการฮีลให้กับเพื่อนร่วมทีมแต่ทว่าสถานการณ์ในตอนนี้บังคับให้เธอต้องลงไม้ลงมือต่อสู้ด้วยตัวเองบ้างแล้ว !
สาวร่างเพรียวถือไม้เบสบอลของเธอด้วยท่าทางราวกับกำลังถือปืน ! เธอจับมันแนบชิดเข้ากับแก้มของเธอ ดวงตากำลังจ้องมองไปยังด้านปลายของไม้เบสบอลนั่น ราวกับว่าเธอกำลังจะเล็งเจ้าฝูงสัตว์ประหลาดแล้วหวังที่จะสอยพวกมันให้ล่วงลงมาจากเพดานให้ได้ยังไงอย่างงั้น !
แต่ทว่า...! บึ้มม !
ลำแสงประหลาดสีฟ้าที่ถูกล้อมรอบไปด้วยรังสีสีชมพูพุ่งเข้าใส่ตัวคราสท์ที่ลอยอยู่ด้านบนตัวหนึ่งล่วงลงมา !
บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้มๆๆๆ !
บีมสีฉูดฉาดยิงรัวๆออกมาจากปลายไม้เบสบอลเรื่อยๆ ! หรือว่านี่จะคืออาวุธลับของไม้เบสบอลที่มีชื่อว่า 'Little Miss' ของเธอ ! ดูเหมือนว่าสเตปฟานี่จะอัดพลังเวทย์ใส่เข้าไปในของคู่กายของเธอไม่น้อยจึงทำให้มันมีประสิทธิภาพในการทำลายมากขนาดนี้ !
สัตว์ประหลาดหลายตัวถูกสอยล่วงลงมาจากด้านบน ก่อนที่จะล่วงตกลงมาหน้ากระแทกกับพื้นจนร่างแหลกและมีเครื่องในกระเด็นออกมา ! บ้างก็ถูกยิงจนปีกพรุนก่อนที่จะเสียหลักและพุ่งดิ่งลงมาโดนหวดเข้าด้วยไม้เบสบอลจากสาวผมบลอนด์อีกที !
พรึ่บบ !
คราสท์ตัวหนึ่งพุ่งลงมายืนอยู่ด้านหลังของสเตปฟานี่ ! ทว่าขณะนั้นเองก็มีคราสท์อีกตัวนึงกำลังบินโฉบมาอีกทาง !
แต่เสตปมิได้แสดงอาการหวั่นไหวตื่นตระหนกแต่อย่างใด ! เธอใช้มือข้างหนึ่งถือไม้เบสบอลพร้อมกับยิงบีมทะลุตัวของเจ้าสัตว์ประลาดที่พุ่งเข้ามา ! ร่างของเจ้าคราสท์ตัวนั้นขาดออกเป็น 3 ท่อน ! เธอวิ่งเข้าไปจับส่วนท่อนที่มีปีกที่แหลมคมและแข็งกระด้างของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้นออกมา ! พร้อมกับหันกลับไปเหวี่ยงเศษซากชิ้นนี้พุ่งเข้าไปใส่ตัวของเจ้าสัตว์ประหลาดอีกตัว !
เฉืออกก ! เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้นตั้งหลักไว้ได้ก่อนที่จะสะบัดปีกของมันชำแหละซากของคราสท์ที่สเตปฟานี่เหวี่ยงเข้ามาทิ้ง ! เมือกจากเศษซากของสัตว์ประหลาดพุ่งกระจายไปทั่ว !
สัตว์ประหลาดค่อยๆเดินเข้ามาพร้อมกับกรงเล็บอันน่าสะพรึง ! มันพยายามพุ่งเข้าโจมตีสเตปฟานี่ด้วยกรงเล็บและส่วนที่แหลมคม ! สาวน้อยใช้ความคล่องตัวเอี่ยวหลบการเข้าทำพวกนั้นได้ ! กรงเล็บพุ่งเข้ามาที่ใบหน้า ! สเตปฟานี่ล้มตัวลงหลบด้วยท่าสะพานโค้ง ! เข้าทางของเจ้าสัตว์ประหลาดมันใช้อุ้งเท้าเหยียบขย้ำลงมายังลำตัวของหญิงสาวหวังจะฉีกร่างออกมาเป็นชิ้นๆ ! ทว่าเธอยังคงสปริงตัวหมุนเกรียวออกมาด้านข้างได้ ! สัตว์ประหลาดยังไม่ล้มเลิกความพยายาม มันพุ่งเข้ามาพร้อมกับสะบัดปีกเหล็กของมันรอบทิศทาง หวังจะตัดคอของสเตปฟานี่ให้ได้ !
ทว่าเจอสาวผมบลอนด์ใช้ความอ่อนตัวตีลังกาม้วนสามตลบถอยหนีการโจมตีนั้นไปได้จนในที่สุดก็ทิ้งระยะห่างจากเจ้าตัวคราสท์นั้นได้มากพอที่จะตั้งหลัก !
หญิงสาวถกเสื้อแจ๊คเก็ทสีสันของเธอออกมาเผยให้เห็นอาวุธเครื่องไม้เครื่องมือในการทำหัตถการอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก ! หญิงสาวยิ้มขึ้นมาอย่างจิตๆเล็กน้อยก่อนที่จะ...
หยิบเลื่อยหั่นกระดูกของเธอออกมาพร้อมกับเล็งต่ำแล้วพุ่งฝ่าปีกอันแหลมคมเข้าไปกระชากข้อเท้าของเจ้าสัตว์ประหลาดออกมา ! สัตว์ประหลาดทรุดลงไปกับพื้นก่อนที่สเตปฟานี่จะกระโจนเข้าไปเกาะหลังของมันไว้แล้วคว้ามีดผ่าตัดเบอร์ใหญ่ที่สุดขึ้นมาก่อนที่จะทำการกรีดปีกของเจ้าสัตว์ประหลาดให้ขาดหลุดรุย ! เจ้าตัวร้ายถึงกับร้องอย่างทุรนทุรานก่อนที่จะสิ้นเสียงลงไปเมื่อโดนสเตปฟานี่ปิดท้ายด้วยการใช้เลื่อยผ่าหัว !
เมือกสีใสๆพุ่งทะลักออกมาจากลำตัวที่ไร้ศีรษะของมันราวกับเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่กำลังเดือดปุดๆ ! ร่างของมันเริ่มที่จะสั่งการตัวเองไม่ได้ก่อนที่จะย่อยสลายตัวเองลงไปภายในชั่วพริบตา ! ช่างเป็นภาพที่น่าขยะแขยงและน่าสยดสยองในเวลาเดียวกัน !
ควับบ !
ทันใดนั้นเอง ! ตัวคราสท์อีกตัวโฉบเข้ามาขย้ำไหล่ของสาวน้อยพร้อมกับพาร่างของเธอพุ่งขึ้นฟ้าไปพร้อมๆกัน ! สเตปฟานี่พยายามดิ้นเธอกำลังจะใช้ไม้เบสบอลของเธอยิงบีมทะลุช่วงล่างของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้น ! แต่ทว่า...!
กา กา กา กา กา กา กา กา กา กา กา กา !! พลั่บๆๆๆๆๆ !!
ฝูงอีกาจากไหนไม่รู้พุ่งเข้ามาจิกร่างของเจ้าสัตว์ประหลาด ! เมื่อมองดูดีๆแล้วจะเห็นว่าปากของมันแวววับ ! ใช่แล้ว ! พวกนี้เป็นฝูงอีกาปากเหล็ก มันพุ่งเข้าจิกร่างของเจ้าคราสท์จนในที่สุดมันก็ต้องยอมปล่อยตัวของสเตปฟานี่ลงกับพื้น ! ฝูงอีกาดำปากเหล็กเมื่อผนึกกำลังรวมกันเป็นฝูงแล้วมีแรงมากกว่าเจ้าสัตว์ประหลาดเพียงตัวเดียว ! มันดันตัวของเจ้าสัตว์ประหลาดที่กำลังบินอยู่จนพุ่งเข้าไปกระแทกกับสัตว์ประหลาดอีกตัวที่กำลังบินอยู่เหนือพื้นด้วยความเร็วสูง ! เมื่อเจ้าตัวร้ายทั้งสองตัวพุ่งเข้าปะทะกัน ! จึงเกิดเสียง แผละ ! ออกมา !
เป็นเศษเสี้ยวนับสิบยี่สิบชิ้นที่กระจายออกมาเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเต็มพื้นไปหมด !
เมื่อมองไปยังด้านล่างก็พบเป็นคัมภีร์เวทย์ของแม่มดวางอยู่เล่มหนึ่ง ! บนหน้ากระดาษหน้านั้นมีสัญลักษณ์ของวงเวทย์ที่ถูกเขียนไว้ด้วยหมึกสีดำ ! ราวกับเป็นวงเวทย์ที่ผนึกอะไรเอาไว้บางอย่างแต่ก็ดูเหมือนว่าตอนนี้ผนึกของมันกำลังคลายอยู่และก็มีอีกาบินออกมาจากภายในสัญลักษณ์แห่งวงเวทย์อันนั้นเรื่อยๆ !
ผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมฝูงอีกาปากเหล็กนั้นอยู่ก็คือ...แม่มดสาวผมเทาในชุดเดรสสั้นสีม่วง ! เธอในวันนี้ดูแปลกตาไปเนื่องจากใส่ชุดที่ดูเปิดเผยมากขึ้น โดยเป็นเดรสสั้นไม่มีแขน ผ้าแนบอก ถึงจะเป็นชุดเดรสแต่ทว่าทำจากผ้าที่ยืดหยุ่นและรัดรูปจนทำให้โรเซ่น ซาลินเบิร์กในวันนี้มีความคล่องตัวมากกว่าเดิมหลายเท่า !
แม่มดสาวใช้ร่มที่มีปลายแหลมเป็นหอกที่แข็งแกร่งแล้วคอยใช้ทิ่มแทงทะลุร่างของเจ้าสัตว์ประหลาดให้ตายไปทีละตัวๆ !
เธอมีความว่องไวเหนือความคาดหมายมาก ! เธอพุ่งเข้าใส่ พุ่งเข้าใส่ พุ่งเข้าใส่กับเจ้าสัตว์ประหลาดอย่างไม่บันยะบันยัง ! แต่ทว่าเป็นการพุ่งเข้าใส่ที่ตรงจุดและใช้เวลาน้อยมากๆ ! หญิงสาวพุ่งไปพุ่งมาด้วยความเร็วจนพวกฝูงสัตว์ประหลาดถึงกับสับสนเนื่องจากมิสามารถจับสายตาดูการเคลื่อนไหวของสาวน้อยแม่มดผู้ปราดเปรียวได้ทัน !
เมื่อรู้สึกตัวร่างของเจ้าคราสท์ก็ถูกควักหัวใจออกไปแล้ว ! เมือกสีใสๆเปรอะเปื้อนเต็มร่มของโรเซ่นไปหมด แต่ทว่าผิวพรรณและร่างกายของเธอรวมไปถึงชุดเสื้อผ้ายังคงดูสะอาดสะอ้านถ้าหากเอาไปเทียบกับซูซาโนะ... ทางนั้นได้ไล่ขวิด ไล่ฟัน เน้นความรุนแรงถึงลูกถึงคนใส่พวกฝูงคราสท์ไปทั่ว จนชิ้นเนื้อ ส่วนต่างๆที่ดูไม่เป็นบุญตากระจัดกระจายติดอยู่เต็มตัวของซูซาโนะไปหมดแล้ว ! ในตอนนี้มีไส้ของเจ้าสัตว์ประหลาดกำลังคล้องคอของลูกครึ่งปีศาจอยู่ได้ยังไงก็ไม่รู้ ! สงสัยจะมันส์มือมากไปหน่อย !
...
ถึงแม้ว่าเรียล์มประมาณเกือบสิบคนที่อยู่ภายในห้องๆนี้ จะสามารถต้านทานเจ้าพวกฝูงสัตว์ประหลาดเอาไว้ได้พร้อมกับใช้ความสามารถเฉพาะตัวต่อสู้กับเจ้าตัวร้ายและเอาตัวรอดไปมา...
แต่มันก็เริ่มกินเวลานานขึ้นเรื่อยๆ จนเรียล์มบางคนเริ่มที่จะเหนื่อยล้าและตกเป็นเหยื่อให้กับเจ้าสัตว์ร้ายด้วยวิธีการที่น่าสยดสยองและแลดูโหดร้าย !
มวับบ !!
"อ้าากกก !! ช่วยฉันด้ว-----"
ร่างของเรียล์มหนุ่มคนหนึ่งถูกคราสท์ตัวหนึ่งกระโจนเข้าใส่ก่อนที่ตัวของเขาจะถูกละเลงด้วยอุ้งเท้าของสัตว์ประหลาดจนร่างแยกออกเป็นสองท่อนจนเห็นลำไส้และเครื่องในชิ้นอื่นๆอันแหลกเละถูกเปิดออกมา !
เฉือออกกก !! แผละ !!
"อร้ายยยยย !!"
เรียล์มผู้หญิงคนหนึ่งถูกฝูงสัตว์ประหลาดบินโฉบจับขึ้นไปจนได้ ! ก่อนที่ร่างของเธอจะถูกรุมบดขยี้กลางอากาศจนไม่เหลือชิ้นส่วนที่สามารถแยกออกได้ว่าเป็นส่วนไหนของร่างกายมนุษย์ !
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ เฉืออกกก !!
เรียล์มอีกคนหนึ่งกำลังประจันหน้ากับเจ้าสัตว์ประหลาดและกำลังดวลการต่อสู้ระยะประชิดกันกับเจ้าสัตว์เดรั.จฉ.าน ! แต่กลับพลาดท่าโดยการถูกสัตว์ประหลาดหั่นร่างด้วยปีกเหล็ก ! ร่างของเขาถูกแยกชิ้นส่วนออกเป็นสี่ท่อนพร้อมกับค่อยๆไหลลงสู่พื้นทีละชิ้นๆ !
จนในที่สุดก็เหลือแต่สมาชิกเรียล์มจากยูนิตที่ 14 นั่นก็คือ ซูซาโนะ โรเซ่น สเตปฟานี่ ! สาเหตุที่พวกเขาทั้งสามต้องเข้ามาติดอยู่ในดงของสิ่งมีชีวิตที่แสนโหดร้ายอย่างงี้ก็คือ...
"ฉันบอกแล้วว่าทางเข้าตรงนี้มันดูง่ายเกินไป ! ไม่มีทั้งกับดักหรือ Mob คอยดักอยู่ระหว่างทางเลย !" สเตปฟานี่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงของคนที่ทำผิดพลาดพลางงัดกำลังกับเจ้าสัตว์ประหลาด เธอใช้มีดของเธอผ่าปีกของเจ้าสัตว์ประหลาดจนขาดลงไปได้แล้วแต่ในตอนนี้กำลังรับมือกับพละกำลังอันมหาศาลจากร่างกายส่วนที่เหลือของมันอยู่ !
"พูดง่ายๆว่าที่นี่ 'มันเป็นกับดัก' อย่างงั้นสินะ !" ซูซาโนะที่กำลังรัวเพลงดาบผ่าร่างของเจ้าสัตว์ประลาดอย่างเมามันส์พูดเสริมขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่ตอนนี้สเตปฟานี่และโรเซ่นต่างแสดงทีท่าของคนที่อ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด ! เสตปฟานี่เริ่มที่จะหมดมุกและเริ่มที่จะรับมือกับสัตว์ประหลาดที่พุ่งเข้ามาทุกทิศทางไม่ไหว ! ส่วนโรเซ่นเริ่มที่จะอ่อนล้าและความเร็วในการพุ่งเข้าโจมตีใส่เจ้าสัตว์ประหลาดก็ลดน้อยลงทุกที !
ท่าวัดกันตรงที่ใครสามารถเก็บ Kill จาก Mob ได้มากที่สุดก็คงจะเป็นซูซาโนะที่ยอด Kill จาก Mob ในตอนนี้สูงลิบลิ่วอยู่ที่ 35 ตัว (นับตั้งแต่เดินทางมาจากปราสาทตัวเอง) ส่วนของโรเซ่นและสเตปฟานี่กลับเท่ากันโดยบังเอิญอยู่ที่เพียง 17 ตัวเท่านั้น (เรียกได้ว่าห่างกันมากกว่าเท่าตัว !)
แต่นั่นไม่ใช่เวลาที่จะมานับแต้มของตัวเอง !
"ก็วงศ์วารของข้า (หมายถึงพวกสิงสาลาสัตว์อยากเช่นฝูงค้างคาวถ้ำ) ได้สื่อจิตมาถึงข้าว่าศาสตราวุธแห่งมนตราที่ใกล้ที่สุดอยู่แถวๆนี้นี่นาา ! แต่....โอ้ยย ! (เบี่ยงตัวหลบจากคราสท์ที่พุ่งเข้ามา) แต่ ! คุคุคุ ! (ยังจะเก๊กเสียง) ข้าก็ไม่รู้... ว่ามันจะมาเจอกับกับดักแบบนี้ได้นี่นาา !" โรเซ่นพูดออกมาพลางรับมือกับเจ้าพวกสัตว์ประหลาด โดยน้ำเสียงของเธอถึงแม้จะดูจูนิเบียวอยู่แต่กลับกะท่อนกะแท่นมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด !
มวับบ !!
"เฮืออกก !! เฮ้ยย !! ทุกคนช่วยฉันด้วย !!" เสียงร้องจากสาวผมบลอนด์
สเตปฟานี่เริ่มที่จะอ่อนล้าจนเผลอเหม่อลอย ! ขาของเธอถูกคว้าโดยกรงเล็บของสัตว์ประหลาดจนเสียหลักล่วงลงไป ! ร่างของเธอถูกดึงออกไปอย่างรวดเร็ว !
ทันใดนั้นเองซูซาโนะจึงรีบวิ่งมาคว้ามือของสเตปฟานี่เอาไว้ ! ในขณะเดียวกันก็ใช้มืออีกข้างหันไปละเลงหัวของเจ้าสัตว์ประหลาดที่พุ่งมาอีกด้าน !
โรเซ่นขว้างร่มของเธอพุ่งไปเสียบใส่พวกฝูงสัตว์ประหลาดที่กำลังจะพุ่งเข้ามารุมบดขยี้ร่างของหญิงสาวผมบลอนด์ ! ในขณะเดียวกันก็สั่งการให้ฝูงอีการุมจิกร่างของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ ที่จะพุ่งเข้ามาอีกทาง ! ชวับบ ! ซูซาโนะใช้ดาบคาตานะตัดมือของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้นทิ้ง ! พร้อมกับช่วยพยุงร่างของสเตปฟานี่ให้ลุกขึ้นมา !
ขณะเดียวกันนั้นเอง ! โรเซ่นก็พบว่าตัวเองไม่มีร่มคู่ใจคอยเป็นเกราะกำบังให้ !
"ป....ปีศาจของข้า ! ไม้คถาของข้าอยู่ไหน !" โรเซ่นพูดเสียงระส่ำออกมาพร้อมกับยื่นมือไปรับไม้คถา (ร่ม) ของตน !
ซูซาโนะบอก "นี่เป็นฉันอีกแล้วหรอ !"
"ไม้... ไม้คถาของข้า ! เอามา มันจะพุ่งเข้ามาแล้ว โว้ยยย !!" โรเซ่นตาเหลือกพร้อมกับออกท่าทีที่ลนลานออกมา ช่างเป็นอาการที่ไม่มีให้เห็นได้บ่อยๆของแม่มดจอมเพี้ยนผู้ที่เชื่อว่าตนเองเคยเป็นนางฟ้าตกสวรรค์คนนี้...
"แปปนึงโรเซ่น ! ฉันก็กำลังยุ่งอยู่กับทางนี้อยู่ !" ซูซาโนะตะโกนออกมาพร้อมกับพ่นเพลิงปีศาจใส่ฝูงสัตว์ประหลาดที่พุ่งเข้ามาด้านหน้า !
"คิวแน่นเอี๊ยดเลยจร้าา !" สเตปฟานี่ที่ตั้งหลักขึ้นมาได้ก็กำลังติดธุระกับการไล่หวดสัตวืประหลาดเรียงตัวอยู่ !
"เอาไม้มา !!!!" โรเซ่นยังคงตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก ในขณะเดียวกันเธอก็กำลังใช้กริชแม่มดแก้ขัดใช้ป้องกันตัวไปก่อน !
"อยู่ไหนล่ะน่ะฉันยังไม่รู้เลย ไอ้พวกบ้านี่มันบินว่อนทั่วไปหมดจนมองอะไรแทบจะไม่เห็นแล้วว !!"
"มองไปทางไหนก็เจอแต่ตัวคราสท์ ! นี่ฉันต้องมาตายอยู่ในวิหารใต้ดินเน่าๆอย่างนี้หรอเนี่ยย !!"
"เออว่าแต่โรเซ่น ! แล้วศาสตราวุธแห่งเวทย์ของเธอมันอยู่แถวไหนกันแน่ล่ะเนี่ย ! ไม่เห็นจะมีวี่แววเลย !!"
"ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ! ต้องถามวงศ์วานข้า !"
"ฉันคุยกับอีการู้เรื่องซะที่ไหนเล่าา !"
"งั้นลองถามค้างคาว ! แงๆๆๆ" โรเซ่นเริ่มที่จะไปไม่รอด ! ขบวนท่าในการป้องกันตัวเองของเธอดูค่อนข้างไร้ทิศทาง ! ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เธอโชว์ความรวดเร็วในการพุ่งเข้าจู่โจมอย่างน่าเหลือเชื่อ ! แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นอยู่แค่ท่าเดียวซะงั้น ! นอกจากการใช้ความเร็วและความแม่นยำพุ่งปรี่เข้าไปจู่โจมให้ตรงเป้าเพียงอย่างเดียวแล้ว ! ทักษะการต่อสู้ระยะประชิดอื่นๆของแม่มดคนนี้ก็จัดอยู่ในระดับที่ง่อยเปลี้ยมากเลยทีเดียว !
"หรือไม่แน่ว่าที่นี่อาจจะมีช่องทางลับ ! เพราะช่องทางที่โรเซ่นพาเรามาก็แทบจะไม่มีใครรู้ว่ามีอยู่ ! แต่ก็แน่อยู่แล้วล่ะนะที่ว่าทางลับแบบนี้จะต้องเจอกับฝูงสัตว์ประหลาดแบบนี้แหละ ! โวยยย ! มองไม่เห็นอะไรเลยโวยยย !" สเตปฟานี่เริ่มที่จะออกอาการควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ !
"วงศ์วานของข้า ! ช่วยปกป้องข้าที !" โรเซ่นพูดกับอีกาดำของตัวเอง แต่ทว่าในตอนนี้ฝูงอีกาดำต่างพากันล้มตาย มีเศษซากที่ไม่น่ามองของมันล่วงหล่นอยู่เต็มพื้น ! ขนสีดำของมันขาดหลุดรุยปลิวไปทั่ว !
พวกสัตว์ประหลาดตีวงแคบเข้ามาเรื่อยๆ พวกมันเข้าใกล้ที่จะได้บดขยี้และชิมเนื้อหนังของเรียล์มหนุ่มสาวที่เหลืออยู่เข้าไปทุกทีๆ !
ปึกกก !
ตัวของเจ้าสัตว์ประหลาดเป็นฝ่ายพุ่งปรี่เข้ามาหาโรเซ่นบ้าง ! แม่มดน้อยตั้งหลักไม่ทันเธอจึงใช้กริชรับแรงกระแทกของเจ้าสัตว์ประหลาดอย่างไม่เป็นทรง ! แน่นอนว่าแรงปะทะทำให้เธอกระเด็นลอยไปชนกับเพื่อนร่วมทีมอีกสองคนจนล่วงลงไปนอนกองด้วยกันทั้งหมด !
"โอ้ยย..."
"โอ้ยยย ! ตายแน่ !"
"อึก....!" (เสียงจุกของโรเซ่น !)
"ลุกขึ้นเร็วๆ !! ต้านมันไว้มันจะพุ่งเข้ามารุมพวกเราแล้ว !!" ซูซาโนะรีบกระชากแขนของเพื่อนร่วมทีมให้รีบยืนขึ้น !
"อ...โอ้ย...ฉันไม่ได้แข็งแรงเหมือนกับนายนะพ่อลูกครึ่งปีศาจเอ่ยย !" สเตปฟานี่พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบายตัว !
"อึกก..." โรเซ่นยังคงลุกไม่ขึ้น !
ซูซาโนะที่กำลังใช้ดาบคาตานะฟันใส่พวกฝูงปีศาจอยู่ก็เหลือบหันไปมองโรเซ่นที่กำลังลุกไม่ขึ้น... ที่ท้องของเธอมีแผลเหวอะหวะและมีเลือดไหลออกมา ! คงจะเป็นเพราะจากการปะทะเข้ากับเขาของเจ้าสัตว์ประหลาดเมื่อตะกี้ !
"แย่แล้ว โรเซ่น !" สเตปฟานี่ที่เหลือบไปเห็นแผลของโรเซ่นก็ถึงกับออกสีหน้าเหวอออกมา !
"อึกกก... ล...เลือดด...!"
โรเซ่นใช้มือกดไปที่แผลของตัวเองพร้อมกับมองมือที่เปื้อนเลือดด้วยแววตาที่หวาดกลัว !
"โรเซ่นกดแผลไว้นะ ! ฉันจะต้านไว้ให้มากเท่าที่จะมากได้ ! สเตป ! เธอฮีลโรเซ่นให้ได้ไหม !" ซูซาโนะตะโกนออกมา !
"ตอนนี้ฉันยังไม่ว่างฮีลแต่พวกเครื่องไม้เครื่องมือของฉันอาจช่วยเธอได้ !" สาวผมบลอนด์ตอบกลับ !
"ไม่มีเธอมาหยิบจับมันแล้วจะเย็บแผลได้ยังไง ! ให้มันเดินออกมาเองหรอ !" ซูซาโนะร้องถาม !
"ใช่ ! สุดยอดมากเดาได้ไงเนี่ย !"
"อะไรนะ !" (หน้าเหวอ !)
...
ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ! กุ๊ง กิ๊ง ! กุ๊ง กิ๊ง ! กุ๊ง กิ๊ง ! จึก ! จึก ! จึก !
อุปกรณ์ทำแผลของสเตปฟานี่จู่ๆก็เดินออกมาจากเสื้อของเธอ ! มันเดินได้ราวกับว่ามันมีขาที่มองไม่เห็น ! เจ้าเครื่องมือชิ้นเล็กชิ้นน้อย ! มันค่อยๆเดินดุกดิกๆเข้ามาอย่างน่ารักเพื่อมาทำแผลให้กับแม่มดน้อยที่กำลังนอนกุมท้องอยู่ ! ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ !
"อะไรน่ะ ! เวทมนตร์บ้าอะไรเนี่ย ! นี่ถ้าเป็นตอนกลางคืนนี่นึกว่าผีหลอกได้เลยนะเนี่ย !" ซูซาโนะตะโกนลั่นออกมาโดยไม่เชื่อสายตาตัวเอง !
"คุคุคุ ! พลังเวทย์เจ้าช่างแกร่งกล้ายิ่งนัก... อึกๆ"
"ถ้าพวกเธอรู้จักที่จะใส่ใจข้าวของเครื่องใช้ของเธอ คอยดูแลรักษาทำความสะอาด เก็บมันไว้เป็นอย่างดี คอยพูดคุยกับมัน ถามสาระทุกสุขดิบกับมัน เดี๋ยวซักวันมันก็จะมีชีวิตขึ้นมาคอยช่วยเหลือพวกเธอในยามที่พวกเธอตกยากแบบนี้นั่นแหละ ! เค้าเรียกว่า 'การใส่ใจเหมือนกับการให้ชีวิตแก่ข้าวของเครื่องใช้ที่มีประโยชน์' ยังไงล่ะ !"
"ให้ชีวิตกันขนาดนี้ ! น่าขนลุกเกินไปแล้วว !!"
ดุกดิกๆๆๆๆๆ
เข็มฉีดยาชาค่อยๆเดินเข้ามาก่อนที่จะพุ่งหัวของมัน (ส่วนของเข็ม) เข้าที่ไขสันหลังของโรเซ่น !
"อึกก !!" ร่างของแม่มดสาวขยับไม่ได้เนื่องจากโดนบล็อคหลัง ! ขวดฆ่าเชื้อค่อยๆเดินเข้ามาพร้อมกับเปิดหัวจุกของตัวมันเองก่อนที่จะก้มลงราดน้ำยาลงไปที่แผลของโรเซ่น !
ด้ายเย็บแผลชนิดไหมละลายได้สอดตัวเองเข้ากับเข็มทำแผล ! พร้อมกับสอดตัวเองเข้าไปที่ท้องของโรเซ่นพร้อมกับม้วนไปม้วนมาจนปากแผลเริ่มที่จะปิดเข้าหากัน !
แม็กเย็บแผลพร้อมกับผ้าก็อชวิ่งเข้ามาปิดท้ายอย่างน่ารัก ! พวกมันมากันอย่างเป็นขบวนการ ! จนในที่สุดแผลของโรเซ่นก็ได้ปิดสนิท ! พร้อมที่จะลุกขึ้นมาบู้กับสัตว์ประหลาดต่อได้ ! แต่ทว่า...
ปี๊ดดดดด !!
ฟู่วววว !!
ในตอนนี้ร่างของซูซาโนะและสเตปฟานี่ต่างก็เข้ามาเบียดตัวของโรเซ่นจนทั้งสามคนแทบจะตัวติดกันเป็นปลากระป๋องเสียแล้ว ! เนื่องจากว่าการไล่หวดไล่ฟันสัตว์ประหลาดเฉยๆเริ่มที่จะต้านจำนวนที่มากกว่าของมันไว้ไม่อยู่ ! ทั้งสองจึงหันมาปล่อยพลังต้านฝูงของพวกมันเอาไว้แต่ดูเหมือนว่าก็ใกล้ที่จะเสร็จพวกมันเต็มทีแล้ว ! "ว้ากกกก !!!!!" ซูซาโนะกำลังพ่นเพลิงไฟฟ้า"ย่าาาห์ !!!!!" สเตปฟานี่กำลังใช้ไม้เบสบอลยิงบีม ! ถึงตอนนี้อภินิหารอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือมีชีวิตก็มิได้ช่วยอะไรแล้ว !
"เวทมนตร์อัญเชิญปีศาจ ! Little Demon !" โรเซ่นเปิดสมุดเวทย์ของเธอขึ้นมาพร้อมกับงัดไม้เด็ดนั่นก็คือเวทมนตร์อัญเชิญ !
และแล้วประตูมิติก็เปิดออกมาจริงๆ ! ไวเวิร์นสีน้ำเงินที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมือนปีศาจซักเท่าไหร่ค่อยๆพุ่งออกมาจากประตูมิติ ! ก่อนที่จะ....!
เฉือออกกก !!
พุ่งออกมาโดนเหล่าอสูรกายเจ้าถิ่นรุมขย้ำและฉีกร่างออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในระยะเวลาไม่ถึงสามสิบวินาที ! ก่อนที่ประตูมิติจะปิดไป ! เรียกได้ว่าสไตล์การต่อสู้แบบแม่มดของโรเซ่นในวันนี้แทบจะใช้การไม่ได้เลยเมื่อต้องเจอกับฝูงศัตรูเป็นสิบๆตัว !
"แง...! ทำไมเป็นเยี่ยงนั้นไปได้ล่ะ !"
"ไวเวิร์นแค่ตัวเดียวคงทำอะไรไม่ได้มากหรอกนะ..." ซูซาโนะพูดด้วยน้ำเสียงแลดูสิ้นหวัง...
"ใช่... ดูหน่อมแหน่มไปซะด้วยซ้ำไวเวิร์นน่ะ !" สเตปฟานี่พูดเสริม !
"แต่เค้าเคยอ่านในนิยายนะ ! เรื่องที่มันมีไวเวิร์นเหล็กห้าตัวน่ะ !" โรเซ่นร้องออกมา !
"ก็นั่นมันในนิยายแค่ไวเวิร์นฟ้า ! เอ้ยไวเวิร์นน้ำเงินจะไปสู้อะไรได้ !"
"ทำไมไม่อัญเชิญมังกรออกมากันล่ะ ! ถ้าทำได้ขนาดนั้น !"
"ถ้าเค้าทำได้ป่านนี้คงไม่ต้องลำบากกันเล่าาา !" เมื่อถึงในสถานการณ์ที่คับขันจนถึงขีดสุด ดูเหมือนว่าโรเซ่นจะไม่มีเวลาในการประมวลผลเพื่อกลั่นกรองคำพูดอันสวยหรูของตนออกมา... พูดก็พูดเถอะในตอนนี้การพูดการจาของเธอดูเป็นปกติที่สุดแล้ว... !
ทันใดนั้นเอง !บึ้มม !! ผลักก !!"โอ้ยย เจ็บฉิ.บหาย !"
"ใครน่ะ !"
อยู่ดีๆก็มีชายหนุ่มผมยาวพุ่งทะลุกำแพงเข้ามาดื้อๆ ! แต่อย่าได้เข้าใจผิดไป... เขามิได้พุ่งเข้ามาช่วยเหลือพวกยูนิต-14 ในยามคับขันแบบที่พวกพระเอกชอบทำ ! ชายหนุ่มในชุดผ้าคลุมนินจากระเด็นทะลุกำแพงเข้ามาด้วยสภาพที่ดูสะบักสบอมราวกับพึ่งถูกรถบรรทุกชน ! ถึงอย่างนั้นเค้าก็เอื้อมมือไปคว้าดาบคาตานะของเขาขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยออกมาว่า...
"ที่นี่มันที่ไหน... แล้วไอ้พวกฝูงงี่เง่า (พวกฝูงคราสท์) นี่มันคืออะไรกัน..." ชายปริศนาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอิดโรย
"น...นี่นาย..." ซูซาโนะพูดขึ้นมา
"จิโดโตะ โทรสไตร์ป !"
ทันใดนั้นเองเมื่อฝูงสัตว์ประหลาดเห็นว่ามีเหยื่ออีกรายหนึ่งพุ่งเข้ามา พวกมันจึงแบ่งกำลังแยกตัวออกไปเพื่อรุมกินโต๊ะชายหนุ่มคนนั้น ! จิโดโตะค่อยๆตั้งสติและพยุงร่างที่บอบช้ำของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับหันหน้าไปยังเจ้าพวกสัตว์ประหลาด !
จนแล้วจนรอด... อาวุธลับไม้ตายสุดท้ายก็ถูกเปิดผนึกออกมา... ขีดจำกัดสายเลือดแห่งตระกูลนินจาอวกาศของเขา..."เนตรสีฟ้า ! {BURUGAN !}" ชวิ้ง !!------------------------------------------------------------
|
|
|
Post by GreyTear on Aug 4, 2017 15:04:33 GMT
อีกทางด้านหนึ่ง... ณ ปราสาทประจำฐานของยูนิต-18
ภายในโลกเวทมนตร์นั้นไม่มีคลื่นสัญญาณโทรศัพท์เพราะฉนั้นการจะติดต่อสื่อสารกัน เรียล์มแต่ละคนต้องประดิษฐ์เครื่องมือสื่อสารขึ้นมากันเอง... หรือไม่ก็ใช้เวทมนตร์จำแลงวิหคส่งสารขึ้นมาซึ่งเรียกได้ว่าเป็นวิธีที่มีมาตั้งแต่โบร่ำโบราณและอาจจะง่ายกว่าซะด้วยซ้ำ...
เทเรเซีย เอลฟรอนด์กำลังนั่งจิบน้ำชาอยู่บนยอดหอคอยยอดหนึ่ง... ชุดน้ำชาที่โรเซ่นทิ้งเอาไว้ช่วยผ่อนคลายและสร้างบรรยากาศแก้เบื่อให้แก่สาวผมทองได้ไม่เบา... สำหรับตัวปราสาทของทางด้านยูนิตที่ 14 ค่อนข้างที่จะเป็นปราสาทที่มีขนาดเล็ก โครงสร้างไม่ซับซ้อน...
มีลักษณะเป็นหอนาฬิกาที่มียอดหอคอยเอาไว้สำหรับสังเกตการณ์อยู่ถึง 7 หอคอย... แม้จะดูมากเกินความจำเป็นและอาจจะก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการแบ่งโซนรับผิดชอบกัน... แต่ลีดเดอร์แห่งยูนิต-14 ก็แก้ไขปัญหาด้วยการเดินวนรอบ เปลี่ยนหอคอยสังเกตการณ์ทุกๆ 20 นาที หมุนรอบเป็นวงกลมทวนเข็มนาฬิกา ซึ่งนอกจากเธอแล้วก็ยังมีฟราน เบรุสคอยช่วยเหลืออีกคน...
ภายในปราสาทมีชั้นใต้ดินซึ่งเป็นที่ซ่อนของคริสตัลประจำฐานอยู่...
เธอยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบ ความร้อนของน้ำชาช่างดูสมจริงลวกลิ้นซะยิ่งกว่าอยู่ในโลกปกติเสียอีก... เทเรเซียมองไปยังท้องฟ้าและผืนป่าสนที่อยู่ด้านล่างพร้อมกับบ่นพึมพำๆออกมากับตัวเองว่า... "น่าเบื่อจริงๆเลยนะ... ผ่านมาจะวันนึงแล้วยังไม่มีศัตรูมาบุกเลย..."
พรึ่บ พรั่บ พรึ่บ พรั่บ...
เสียงของนกพิราบเก้าตัวกำลังบินผ่านเหนือน่านฟ้าไป... ทางด้านของฟราน เบรุสเมื่อเหลือบไปเห็นวิหคสีขาวที่บินผ่านไปแล้ว... มันก็ทำให้เขาระลึกถึงเรื่องราวอะไรบางอย่างขึ้นมาได้... ชายหนุ่มผมสีขาวหันหลังพร้อมกับมองไปยังเพื่อนสนิทของเขา... เส้นผมสีทองกำลังปลิวไปในทิศทางเดียวกับสายลม... เขาชูมือทั้งสองข้างของเขาขึ้นมาพร้อมกับจ้องมองไปที่มัน...
ในอดีตเคยมีคำกล่าวของใครซักคนเอาไว้ว่า...
"มือทั้งสองข้างเมื่อสอดประสานเข้าด้วยกันแล้ว... เมื่อเราจับมือและเดินไปด้วยกัน... สายสัมพันธ์นั้นมันช่างแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าปีกของนกที่กำลังโผบินอีก..."
------------------------------------------------------------
ยูอิ ไอสาวะ
ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก... ณ บริเวณทางเข้าของวิหารหิน !
ระหว่างที่ฉันกับโตโด้กำลังแอบลอบเข้าตัววิหารผ่านช่องทางลับอยู่นั้นเอง... จู่ๆก็มีพวก...
"เฮ้ ! ไอ้น้อง ! มาทำอะไรแถวนี้เนี่ย ! นี่มันทางเข้าลับไม่ใช่หรอ แปลว่าคงต้องรู้อะไรดีๆมาน่ะสินะถึงมาที่นี่ได้น่ะ หุ หุ หุ หุ หุ หุ !"
แก๊งค์อันธพาลกลุ่มหนึ่งซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเรียล์มคลาสแรกที่ซ้ำชั้นอยู่นานจนป่านนี้คงจะอายุปาเข้าไป 22 ได้แล้วมั้งถ้าหากดูจากใบหน้า... แต่ที่น่าแปลกคือว่ามันมากันเป็นสิบกว่าคน ! แถมแต่ละคนนี่รูปร่างอ้วนยังพวกนักมวยปล้ำรุ่นเฮฟวี่เวท ! นี่มันแก๊งค์บ้าบออะไรกันเนี่ย พวกยูนิตเกเรมันนัดรวมกำลังกันเพื่อที่จะฮุบชัยชนะหรือยังไง ! อารมณ์แบบประมาณฮั้วกันสินะ !
ฉันใจตุ้มๆต่อมๆเล็กน้อยเมื่อพบว่ามีแก๊งค์อันธพาลมาล้อมรอบตัวฉันกับโตโด้ไว้มากขนาดนี้... ถึงอย่างนั้นโตโด้ก็ยังคงนิ่งดั่งภูผา เค้าใจดีสู้เสือก่อนที่จะพูดออกไปว่า...
"เกะกะน่า... พวกนายน่ะ... อย่ามาขวางทางฉันเสียจะดีกว่านะ นี่คือทางเข้าลับของวิหารหิน ไม่พวกที่รู้ข่าววงไหนว่าจะมีทางเข้าลับอยู่ที่ไหนก็เป็นพวกที่มีวิชามองทะลุกำแพงเท่านั้นแหละถึงจะสามารถรู้ได้... ซึ่งสำหรับฉันน่ะเป็นอย่างหลัง และพวกนายดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว ก็คงเป็นแค่พวกเศษขยะก็เท่านั้น... (ดูถูกคนอื่นอีกละ...) แล้วนี่ไปรู้เรื่องทางลับมาได้ยังไงล่ะเนี่ย... เป็นแค่พวกชั้นต่ำแท้ๆ"
แบบนี้ไม่เรียกว่าใจดีสู้เสือแล้วลีดเดอร์ ! นี่มันวอนบาทาชัดๆ ! ฉันถึงกับตื่นตระหนกขึ้นมาเพื่อเห็นว่าโตโด้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสุดแสนจะเย็นชาและคำพูดอันเป็นที่สุดแห่งการดูถูกเหยียดหยามขนาดนั้น !
"จ...ใจเย็นก่อนก็ได้นะ...จิโด----"
"ไม่ต้องไปกลัวมันหรอกยูอิ... มากับฉันซะอย่าง เจ้าพวกนี้มันอ่อนหัดซะยิ่งกว่าหมูสามชั้นที่อยู่ในแกงมัสมั่นซะอีก !"
"หนอยแน่แก ! จะดูถูกกันเกินไปแล้วนะ !"
"งั้นก็พิสูจน์ซะสิว่าฉันประเมินพวกแกต่ำไป... เข้ามาพร้อมๆกันทั้งสิบคนเลย !" มวับบบ ! "หาา ! มาซากะ !" ปังงง ตู้มมมม ! วินาทีนั้นเองฉันถึงกับช็อคตาค้าง ! เมื่อเห็นว่าโตโด้ถูกชายรูปร่างกำยำอีกคนนึงที่แอบอยู่หลังเสาที่อยู่ด้านหลังพุ่งเข้ามาคว้าตัวก่อนที่จะจับร่างของลีดเดอร์ของฉันโยนเหวี่ยงทะลุกำแพงกระเด็นไปหลายชั้น ! ภาพที่อยู่ข้างหน้าคือรูโบ๋ของกำแพงที่ซึ่งเกิดจากร่างของหัวหน้าของฉันลอยทะลุผ่านไป !
"นี่พวกนาย !!"
ฉันชักดาบคาตานะของฉันออกมา ! เพื่อที่จะใช้ต่อสู้กับเหล่าชายหนุ่มร่างยักษ์ทั้งสิบกว่าคน !
"โฮะ โฮะ โฮะ ! สาวน้อย... นี่แอบโกงอายุเข้ามาเรียนหรือป่าวเนี่ย หุ หุ หุ !"
"เฮ้ยยย ! อย่าไปล้อมันให้มากนัก ! ยัยเด็กคนนี้น่ะเป็นถึงน้องสาวของแม่อัจฉริยะที่ชื่อ 'ริเอะ ไอสาวะ' ด้วยนะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮ่าาา !"
"ว่าแต่ยัยนี่จะได้ซักกี่เสี้ยวของยัยผมเขียวคนนั้นกัน !"
"ดูท่าก็น่าจะอ่อนปวกเปียกไม่แพ้กันหรอก ทั้งพี่ทั้งน้องน่ะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮ่าาาา !"
หนอยพวกแก ! พวกแกคิดว่าแกเป็นใครกันน่ะ !
"เอเลเมนท์แห่งไฟ ! เวทมนตร์ทำลายล้าง-----!"
มวับบ !
อึกกก ! ระหว่างที่กำลังร่ายเวทย์อยู่นั่นเอง ! ฉันก็โดนล็อคแขนเอาไว้จากด้านหลัง !
"อึกๆๆๆๆ ย้าากกก ! ปล่อยนะ !"
"ดิ้นไปเหอะนังหนู... บังอาจมาลองดีกับแก๊งค์ 'มาซิก้า' {MASIKA} ของพวกฉันก็ต้องเจอดีอย่างงี้นี่แหละ"
"อ....อะไรของพวกแกน่ะ ! แก๊งค์อะไรไม่เห็นเคยได้ยิน..."
"เหอะ ! บ้านนอกเสียจริงๆ ชื่อ มาซิก้า {MASIKA} นั่นก็มาจากคำว่า มาซก์ MASK ไม่สังเกตหน่อยหรอว่า พวกฉันทุกๆคนใส่หน้ากา.กด้วยกันทั้งนั้น !"
"พอดีหน้าตาของพวกนายมันอุบา.ทว์ซะจนแยกไม่ออกน่ะว่าอันไหนหน้าจริงหรืออันไหนหน้าก.าก !"
"หนอยย ทำเป็นปากดีนะยัยนี่ คิดว่าตัวแค่นี้จะมาสู้อะไรกับพวกฉันได้ ! หัวหน้าครับ ! จะจัดการกับยัยนี่ยังไงดี !"
"หึ หึ หึ... ปากดีขนาดนี้สงสัยต้องสั่งสอนแบบจัดหนักจัดเต็มซะหน่อยแล้ว... 'โพซิตรอน' ฉันจะขอให้นาย.... ลงทัณฑ์ยัยนี่ด้วยการจับมัน SPEAR อัดกับกำแพงทะลุไปห้าชั้นซะ !"
ฮะ...หะ !! อะไรน่ะ ชื่อท่ามวยปล้ำแบบนะ...นั้น !!
"ย้าากกก !! ปล่อยนะ !!" ฉันพยายามดิ้นอย่างสุดขีด ฉันลงทุนกัดแขนที่มีขนขึ้นรุรังของพวกมัน ! อี๋ ! แหวะที่สุด !
"ปล่าวประโยชน์น่า !! เธอทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก !!"
"อ้าาากกก !! ทำไมกัน !! ทำไมถึงดิ้นไม่ได้ !!"
"เพราะพวกเราคือ มาซิก้า !!"
"จงรับรู้ถึงการเป็นเรียล์มที่แท้จริงซะ !! เรียล์มที่แท้จริงต้องใช้ท่ามวยปล้ำ !!"
"ย้ากกกกกกก !!" ปึง ปึง ปึง ปึง ------------------------------------------------------------ ปึง !! ร่างของหญิงสาวพุ่งทะลุกำแพงตามเข้ามาอีก ! ทว่าคราวนี้มีร่างของชายที่ลักษณะคล้ายๆนักมวยปล้ำตามเข้ามาด้วยอีกคน !
หญิงสาวผมแดงคนนั้นมีร่างกายที่บอบช้ำไม่แพ้ลีดเดอร์ของเธอ... สภาพเหมือนกับถูกรถสิบล้อชนมา...
ยูอิพยายามพยุงร่างกายของเธอให้ลุกขึ้นเธอใช้มือกุมท้องของเธอพร้อมกับลุกขึ้นมาพร้อมกับพบว่า... !!ฝ่ออออออ !! มีตัวคราสท์ตัวหนึ่งพุ่งมาเข้ามาชนร่างของเธอจนล้ม ! พร้อมกับเหยียบร่างของเธอไว้ !
"ฮะ...ฮึก ! งึก ! อึกกก !"
เด็กสาวกระสับกระส่ายไปมา เธอพยายามดิ้นให้หลุดอีกรอบ ! แต่ดูเหมือนว่าความพยายามในวันนี้ของเธอมันช่างเปล่าประโยชน์หมดซะทุกครั้งเลย !
"อึกกก ! ทำไมกัน !"
"ยื้อเอาไว้ก่อนยูอิเดี๋ยวฉันจะไปช่วย !" จิโดโตะตะโกนขึ้นมา
"อะไรกันเนี่ย ! ทำไมฉันถึงจู่ๆก็มาโผล่ในถ้ำของตัวคราสท์แบบนี้ได้ !" ชายสวมหน้ากากมวยปล้ำคนนั้นพูดขึ้นมา ทั้งๆที่กำลังงงๆอยู่กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นไวมาก !
"ฮึ่ยย ! ไม่ได้การแล้วต้องยืดเส้นยืดสายกันซะหน่อยไม่งั้นถูกไอ้พวกน่ารังเกีย.จพวกนี้จับเอาไปกินแน่ !" ชายร่างยักษ์พึมพำกับตัวเองออกมาไม่หยุดก่อนที่เขาจะย่อตัวลง ราวกับกำลังชาร์จกำลัง !
ทันใดนั้นเองเมื่อมีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาจากด้านบนเพดาน ! เขาก็กระโดดขึ้นไปหาพร้อมกับกำปั้นภายในมือและตะโกนออกมาว่า...!"ย้าากกก ! SUPERMAN PUNCH !"
เฉือออกก !
SUPERMAN PUNCH โดนสวนด้วยท่าควงสว่านจากเจ้าสัตว์ประหลาดกลางอากาศ ! ชายผู้มีความคลั่งไคล้ในมวยปล้ำนามว่าโพซิตรอนเนื้อหนังบิดเบี้ยวราวกับร่างกายถูกหลุมดำดูดเข้าไปแต่ยังไม่หมด ! ก่อนที่เศษซากชิ้นส่วนของเขาจะลอยตกลงมาจากกลางอากาศกระแทกพื้นจนทุกอย่างไม่เหลือชิ้นดี... มีเพียงแต่หน้ากากที่ลอยล่วงหล่นลงมาโดยไม่มีรอยขาดหรือรอยถูกทำลายแต่อย่างใด...
จิโดโตะกำลังจะวิ่งไปช่วยลูกทีมของเขาแต่ทันใดนั้นเอง... เขาก็ถูกสัตว์ประหลาดบินโฉบมาจับตัวเอาไว้ได้ ! เมื่อนั้นชายหนุ่มจึงใช้ดาบอันคบกริบตัดขาทั้งสองข้างของสัตว์ประหลาดออก ! ร่างของเขาล่วงลงสู่พื้นแต่นินจาหนุ่มยังคงตั้งหลักได้ ! เขาประสานอินอย่างรวดเร็วพร้อมกับ...."คาถานินจา ! มังกรพระพายวาโย !" ทันใดนั้นเองลมพายุที่มีลักษณะคล้ายมังกรก็พุ่งออกมาจากปากของจิโดโตะ ! มันพุ่งเข้าไปหาสัตว์ประหลาดที่กำลังเล่นงานยูอิอยู่นั่นเอง ! แต่ทันใดนั้น.....! "เอเลเมนท์แห่งเปลวไฟ ! เวทมนตร์ทำลายล้าง ! ลูกบอลเพลิงสลาตัน !" ทันใดนั้นเองลูกไฟสีแดงฉานก็พุ่งออกมาจากปากของสาวน้อยตัวเล็ก ! วงเวทย์สีแดงปรากฏออกมา ! เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้นกระเด็นลอยออกมาผิวหนังของมันไหม้เกรียมไปด้วยเปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามาเผาทำลายตัวของมัน !
ยิ่งไปกว่านั้นมังกรพายุจากจิโดโตะเมื่อรวมเข้ากับลูกบอลเพลิงจากยูอิแล้ว ! เมื่อคาถานินจาสายลมและพลังเวทย์แห่งไฟมารวมกัน ! สิ่งที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็น...FIRE TORNADO DRAGON ! ตู้มมมม ! มังกรเพลิงพุ่งเข้าเผาผลาญทำลายฝูงของเจ้าพวกปีศาจซะจนหมดสิ้น ! ก่อนที่มันจะกระจายตัวพุ่งขึ้นเพดาน ! พร้อมกับพุ่งทะลุออกไปจนถึงชั้นบนสุดและพุ่งขึ้นฟ้า !
...
ทางด้านนอกของตัววิหาร...
อลัน : นั่นมันอะไรกันน่ะ...
ซากุระ : นั่นมันมังกรเพลิง... ใครไปทำอะไรอีทาไหนล่ะเนี่ย... เอ๊ะ ! ว่าแต่นั่น...! ทิศมันพุ่งออกมาจากตำแหน่งห้องเก็บศาสตราวุธลับ !
...
เมื่อมังกรเพลิงสลายหายไป... เวทมนตร์ของยูอิเริ่มที่จะหมดฤทธิ์และอยู่ในสถานะคูลดาวน์... จิโดโตะก็ทรุดตัวลงไปนั่งด้วยความหมดแรง... เขาเหลือบไปเห็นกลุ่มคนอีกสามคนกำลังยืนนิ่งกอดกันเกรียวอยู่ตรงกลางห้อง...
ชายหนุ่มหน้าตาน่ากลัวที่อยู่ตรงกลางทำให้เค้ารู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาไม่มากก็น้อย... เมื่อนั้นเอง...
ซูซาโนะจึงพูดออกมาว่า...
"นี่นาย... จิโดโตะ โทรสไตร์ปจากยูนิตที่ 7 สินะ...!" สีหน้าของเขายังอยู่ในอาการที่กำลังตกตะลึงเมื่อเห็นคาถานินจาขั้นสุดยอดของจิโดโตะ...
"เออ... ฉันเองแหละจิโดโตะโอ้ยย... ปวดหลังชะมัด !" (เอามือกุมไปที่หลังเนื่องจากพึ่งโดนจับเหวี่ยงทะลุกำแพงมา)
"ส่วนพวกนายเป็นใครฉันไม่รู้หรอกนะ ไม่ใช่เรื่องของฉัน...!" (ยังคงหยิ่งยโสโอหังไม่มีเปลี่ยน...)
โคร่มมมม !
"""เว้ยยย !!"""
จู่ๆเพดานด้านบนก็ถล่มลงมา เกิดแรงกระแทกจนทำให้พื้นสั่นสะเทือนเป็นอย่างมาก ! เมื่อฝุ่นจางลง ! จู่ๆก็มีเสียงกลไกบางอย่างทำงาน !
แกรก แกรก แกรก แกรก ฟึบ ฟับ ฟึบ ฟับ !
โคร่มมม !!
"""""ว้ากกกกกกก !"""""
พื้นของห้องจู่ๆก็เคลื่อนตัวลงไป ราวกับว่าห้องๆนี้เปรียบเสมือนลิฟท์ที่มีขนาดกว้างมากซึ่งตอนๆนี้ดูเหมือนว่ามันกำลังพาพวกเขาทั้ง 5 คนลงไปยังชั้นใต้ดินที่ลึกยิ่งกว่าเก่า !
ฟรึ่บบ !
ลิฟท์หยุดลงเมื่อถึงชั้นล่างสุด ! เรียล์มทั้งห้าค่อยๆเดินไปตามทางที่มีทางให้ไป... ลักษณะทางเดินค่อนข้างคล้ายๆกับโพลงถ้ำที่ซึ่ง ณ เวลานี้เหมือนจะได้กลิ่นของแม็กมาและชั้นหินหนืดที่อยู่ใต้ดินหลายกิโลเมตร !
จนในที่สุด...{RAIDEN EXCALIBUR LEGENDARY SWORD !}
เมื่อนั้น ! ในที่สุดพวกเขาทั้งห้าก็เดินไปพบกับผนังของถ้ำที่มีรอยหินสลักเอาไว้ซึ่งเป็นชื่อของศาสตราวุธแห่งเทพในตำนาน ! นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาใฝ่หามานาน ! ในที่สุดก็มาถึง !
"คุ คุ คุ ! ธาตุแห่งอนธการ ! เวทมนตร์แม่มด... หมอกแห่งม่านลวงตา ! คุ คุ คุ !"
ฟู่ววว !
โรเซ่นที่ได้รับการฮีลจากสเตปฟานี่เรียบร้อยแล้ว... ตอนนี้เธอกลับมาใช้เวทมนตร์ได้อีกครั้ง ! วงเวทย์สีม่วงปรากฏขึ้นรอบตัวเธอ... ทันใดนั้นเองเธอก็พ่นหมอกควันสีม่วงจางๆออกมาล้อมรอบตัว ! เมื่อนั้นทั้งยูอิและจิโดโตะก็ตกอยู่ในภวังค์แห่งม่านลวงตา ! พวกเขาทั้งสองยืนนิ่งอยู่กับพื้น ใบหน้าและดวงตาไม่มีการกระพริบ !
เรียล์มทั้งสองติดอยู่ในห้วงแห่งมายาของโรเซ่นโดยสิ้นเชิง ! แม่มดผู้นี้เป็นผู้ที่มากวิชาและเชี่ยวชาญยิ่งนักในเรื่องของเวทมนตร์ภาพมายา...!
"ทั้งๆที่พวกเค้าช่วยพวกเราไว้เนี่ยนะ... เหอะๆๆ เธอนี่ร้ายจริงๆเลยโรเซ่น...!" ซูซาโนะพูดออกมา ถึงแม้ว่าคำพูดจะมีลักษณะคล้ายๆกับคนที่กำลังเอือมระอาแต่น้ำเสียงและใบหน้าไม่ได้สื่อออกมาอย่างนั้นเลยซักนิด เขาดูเหมือนกำลังจะชื่นชมโรเซ่นอยู่
"คุ คุ คุ ! แม่มดผู้เปี่ยมไปด้วยพลังเวทย์ผู้นี้เป็นมิตรสหายกับภาพมายาอยู่แล้ว ! คุ คุ คุ ! จงอย่าหลงกลให้กับแม่มดเนื่องจากว่าพวกเรามีพลังเวทย์แห่งความชั่วร้าย หุ หุ หุ หุ !"
"เหอะๆๆ อย่าพูดให้มันดูแย่ซะสิ ไม่ได้ชั่วร้ายซักหน่อย...."
"คุ คุ คุ ! แล้วเจ้าต้องการที่จะใช้คำว่าอะไรปีศาจของข้า...."
"การที่ใช้คำว่าชั่วร้ายมันสื่อถึงการที่สิ่งเหล่านั้นมันย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองด้วยนะไม่ใช่แค่ทำร้ายผู้อื่นแต่อย่างเดียว..."
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ... ก่อนที่ทั้งสามคนจะเดินผ่านบานประตูหินเข้าไปซึ่งเป็นที่ซ่อนของศาสตราวุธแห่งเวทย์ ! กุญแจสู่ชัยชนะของยูนิต-14 กำลังอยู่เพียงแค่เอื้อม...!
ทิ้งให้ยูอิและจิโดโตะจมอยู่ในห้วงแห่งภาพลวงตา !
.
.
.
.
.
.
7 วินาทีต่อมา !
"คลายพันธนาการแห่งเวทย์ ! ปลดผนึกภาพลวงตา !" โรเซ่นรีบวิ่งออกมาจากห้องๆนั้นเป็นคนแรก ! มันเกิดอะไรขึ้น !?
"เฮือออกก ! หาา ?! เฮ้ยย !! อะไรกันเมื่อตะกี้นี้ฉันยังไปอยู่ในดินแดนอีกดินแดนนึงอยู่เลย ! หรือว่า...! นี่เธอ ! ใช้เวทมนตร์ภาพลวงตาอย่างงั้นหรอกหรอ ! ถึงว่าล่ะ !" จิโดโตะพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าของคนที่กำลังโกรธ !
"ถ...ถูกต้องแล้ว ! แต่ว่าข้ากำลังต้องการสหายอย่างพวกเจ้าเข้ามาช่วยเป็นพันธมิตรด้วย ! คุ คุ คุ !"
"พูดจาอะไรของเธอน่ะ ไม่เห็นจะรู้เรื่อง แล้วนี่เวทมนตร์อะไรของเธอกัน ! จู่ๆก็พาฉันไปพบกับพวกซุปเปอร์ฮีโร่หน้าตาแปลกๆ !" ยูอิพูดออกมาบ้างด้วยน้ำเสียงของเด็กที่กำลังโวยวาย ง้องแง้งๆ
"ไม่มีเวลาเหลืออีกแล้ว ! พวกเจ้าต้องมาช่วยพวกข้าร่วมรบเดี๋ยวนี้ !" โรเซ่นพูดด้วยท่าทีของคนที่กำลังลนจนถึงขีดสุดเธอเอื้อมไปกระชากแขนของจิโดโตะมา ! ก่อนที่จะลากชายหนุ่มคนนั้นมาพร้อมกับยูอิเพื่อที่จะพาเข้าห้องไป !
"เดี๋ยวก่อน ! ฉันไม่เข้าไปหรอก ! บอกมาก่อนว่าด้านในนั้นมีอะไรกันแน่ ! ในนั้นไม่ใช่ศาสตราวุธแห่งเวทย์หรอกหรอ !" จิโดโตะเริ่มออกอาการสีหน้าไม่เชื่อใจเขาจึงเอ่ยปากถามออกมา !
"ใช่สิ ! ใช่แน่ๆ ! ด้านในนั้นมีศาสตราวุธแห่งเวทย์อยู่ข้าสาบานได้"
"งั้นบอกมาสิ๊ว่าหน้าตาเป็นยังไง !"
"ก็... ดาบเล่มยาวแสนงดงามฝังด้วยหินเวทย์หลากสีและถูกฉาบไปด้วยเปลวเพลิงสีอัมพร !"
"แล้วทำไมถึงได้หนีออกมาล่ะ !" ยูอิยังคงเอ่ยปากซักไซ้ไถ่ถามโรเซ่นอย่างไม่หยุด...!
"น...นั่นก็เพราะ....นั่นก็เพราะ !"
"เพราะอะไร !"
"ฮืออออๆๆๆๆ" วราาาาดด !! เสียงคำรามอันน่าสะพรึงดังก้องออกมาจากภายในห้องๆนั้น ! จิโดโตะนิ่งไปชั่วขณะพร้อมกับยืนอึ้ง ! ยูอิที่ทำอะไรไม่ถูกก็ได้แต่นิ่งรอฟังคำสั่งจากลีดเดอร์ด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน !
"บ้าน่าา ! นี่พวกอาจารย์เล่นหนักเกินไปแล้ว ! มี Monster Boss คอยเฝ้าห้องเก็บอาวุธด้วยหรอเนี่ย !"
"หมายความว่ายังไงน่ะจิโดโตะ !"
"เสียงแบบนั้นมัน... เจ้าตัว Blackill Hydranoid 3 หัวชัดๆ ! ยูอิฉันว่าพวกเราอย่าเสี่ยงเลยดีกว่าถอยกลับไปแล้วไปหาอาวุธจากที่อื่นกัน !"
"ข้าไม่ให้ไป !" แกร็บบบ !
"อ้าากกกก ! อย่าเล่นสกปรกสิโว้ยย !" จิโดโตะกำลังจะหันหลังกลับแต่ทว่าโดนแม่มดใช้เล็บสีม่วงยาวจิกไปที่แขนพร้อมกับใช้ปากงับคอของชายหนุ่ม ! พร้อมกับโอบรัดร่างของนินจาหนุ่มเอาไว้ !
"ย้ากกกก ! ปล่อยฉันไป !" ส่วนทางด้านของยูอิก็ถูกฝูงค้างคาวถ้ำบินมาจากไหนไม่รู้พุ่งมารุมเกาะร่างของเธอจนเธอขยับไปไหนไม่ได้ ! ร่างของเธอถูกดึงลอยขึ้นพร้อมกับลอยเข้าไปในห้องของศาสตราวุธแห่งเวทย์ที่มีเจ้าตัวฮิวดร้าสามหัวรออยู่ !
"ปล่อยฉันไปนะยัยแม่มด ! ถ้าไม่ปล่อยฉันจะขอแช่งให้ในคืนวันงานเต้นรำไม่มีใครอยากเต้นรำคู่กับเธอ ! พวกแม่มดน่ะชื่นชอบงานเต้นรำในยามค่ำคืนอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ ! ปล่อยนะปล่อย !" จิโดโตะพยายามร้องลั่นออกมาแต่ก็มิสามารถทำอะไรได้ เนื่องจากร่างของเขาถูกสกัดจุดโดยนางแม่มดผู้แสบสันอย่างโรเซ่น ซาลินเบิร์ก !
"คุ คุ คุ ! ข้าน่ะมีคู่ดวงวิญญาณของข้ามารอคอยข้าอยู่แล้ว ! เจ้านั่นแหละที่ต้องมาช่วยสหายของข้าทำศึกประหัตถ์ประหารกับเจ้ามังกรทมิฬก่อน !"
"ฮิวดร้าโว้ยยย !"
...
...
...
...To be continue in Chapter 10 Part 2 'ปฐมบทศึกแห่งโลกจำลอง ! วิหารหินศาสตราวุธ ! ตอนที่ 2'
|
|
|
Post by GreyTear on Aug 8, 2017 15:42:38 GMT
Chapter 10 Part 2 'ปฐมบทศึกแห่งโลกจำลอง ! วิหารหินศาสตราวุธ ! ตอนที่ 2' ซูซาโนะ โอนิมารุ
"~วายะพัดแกว่ง เวลาฟ้ามัว~ ~นภาสลัว เจ้ากลัวใช่ไหม~ ~มาเถิดหมาป่า ฟ้ามืดมาแต่ไกล~ ~ยามไร้แสงตะวัน เขาเรียกสนธยา~"
...
...
...
ดั่งเช่นที่บทเพลงขับกล่อมของแม่มดสาวเอื้อนเอ่ย... ในตอนนี้ท้องนภาด้านบนกำลังมืดและกลายเป็นสีดำ...
กา กา กา กา...
เสียงฝูงกระแอกทมิฬกำลังบินผ่านต้นไม้ใหญ่ที่มีใบไม้สีน้ำตาลแลดูกำลังล่วงโรย... ทว่าเมื่ออยู่ท่ามกลางท้องทุ่งสีเหลืองทอง มันกลับแลดูยิ่งใหญ่... ถึงแม้ว่าตอนนี้ประตูแห่งผืนนภากำลังจะปิดตัวลง... ในขณะที่พื้นดินและทุ่งหญ้ากำลังจะถูกย้อมไปด้วยสีน้ำตาล...
"~ราตรีนี้มิใช่ รัตติมืด~ ~อย่าสั่นครืด อย่ากลัวเสียงของสิงสา~ ~แม่สัญญา จะปกปักษ์คุ้มกะลา~ ~จะออกล่าพวกพรายพรา พรากพิษภัย~"
เสียงขับกล่อมเด็กน้อยยังคงดังอย่างต่อเนื่องอยู่ภายในหัวของผม... ภาพที่อยู่ตรงหน้าคือเด็กน้อยคนหนึ่ง... เขากำลังวิ่งเล่นอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าในช่วงเวลาโพล้เพล้...
เท่าที่ดู เหมือนว่าเด็กคนนั้นจะมีผมสั้น... ฉะนั้นจึงน่าจะเป็นเด็กผู้ชาย... เด็กผู้ชายตัวน้อยกำลังใช้มือของเขาผายกวาดออกไปสัมผัสกับทุ่งหญ้า... ที่ใกล้ๆกับตัวของเด็กชายคนนั้นมีต้นไม้เก่าแก่ขนาดยักษ์ขึ้นอยู่...
"กลับเข้าบ้านได้แล้วลูก...หึหึหึ กำลังจะมืดแล้ว" หญิงสาวผมสีน้ำตาลอ่อนคนหนึ่งในชุดเดรสสีดำส่งเสียงหวานเรียกลูกชายของเธอให้กลับมาเข้าบ้าน...
"แป็ปเดียวครับ แม่... ผมอยากอยู่เล่นต่ออีกซักนิดหน่อย ฮะฮะฮะ" เด็กน้อยดูเหมือนจะชอบวิ่งเล่นไปกับทุ่งหญ้าเป็นพิเศษเขาจึงมิยอมเดินกลับมาที่บ้านตามที่ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยปากบอก...
หญิงสาวผู้เป็นแม่... เมื่อเห็นว่าท้องฟ้าวันนี้ดูผิดแปลกไปจากเดิม... ทั้งๆที่เป็นแค่เพียงช่วงโพล้เพล้แต่ท้องฟ้ากลับดูมีสีดำทะมึน ราวกับว่ารัตติกาลมาเยือนเร็วกว่าเดิม... เธอคาดเดาว่ามันคงจะเป็นเมฆฝน ซึ่งคืนนี้อาจจะเกิดพายุก็เป็นได้... ผู้เป็นแม่เห็นดังนั้นจึงคิดออกอุบายขึ้นมา...
"คึกคึกคึก... ระวังนะลูก ช่วงโพล้เพล้ๆแบบนี้น่ะ พวกภูตผีอสูรกายมักจะตื่นออกมาหากินนะ... คึก คึก คึก..."
เมื่อเด็กผู้ไร้เดียงสาได้ยินดังนั้นเขาจึงเกิดสีหน้าที่หวาดกลัวขึ้นมาในทันทีพร้อมกับรีบวิ่งเข้าไปโอบกอดที่กระโปรงอันยาวเฟื้อยของแม่ที่พึ่งพาได้ของเค้า...
"~แม่อาจเปรียบ ดั่งเช่นอสรพิษ~ ~มีฤทธา แม้นนารายังมอดไหม้~ ~แต่แม่นั้นวิวิธต่าง จากผู้ใด~ ~เป็นงูพิษแต่จิตใจ ไม่คดโกง~"
เสียงขับกล่อมของแม่มดสาวก็ยังคงดังต่อเนื่องไม่ยอมหยุด... มันเหมือนกับว่าเสียงๆนั้นถูกบรรเลงขึ้น... ซ้ำไปซ้ำมา... เป็นท่วงทำนอง เสียงประกอบให้กับภาพหรือเหตุการณ์ที่กำลังเดินอยู่ต่อหน้าของผมในเวลานี้...
"แม่... พวกภูตผีนี่มีจริงหรือป่าวครับ..." เด็กน้อยกล่าวกับแม่ของตนด้วยน้ำเสียงและสีหน้าไม่ค่อยสบายใจ
"มีจริงสิลูก...คิกคิกคิก" หญิงสาวตอบตามตรงพร้อมกับหัวเราะคิกๆเสียงแหลมๆออกมาเล็กน้อย...
เสียงหัวเราะของหญิงสาวในชุดสีดำคนนี้ช่างฟังดูแหลมเล็ก บาดแก้วหูและสามารถหยั่งลึกเข้าไปหลอกหลอนอยู่ในโสดประสาท เหมือนกับว่าเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน... ผมหยุดคิดอยู่ชั่วขณะหนึ่ง... ก่อนที่จะนึกได้...
ใช่... เสียงหัวเราะของแม่มด...
"ในยามค่ำคืนน่ะ... ถ้าอยู่ตามป่าตามเขา... ตามบึงแม่น้ำลำธาร หรือแม้กระทั่งตามทุ่งหญ้าโล่งที่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ตรงกลางแบบที่พวกเรากำลังอยู่ๆตอนนี้... มันมักจะมีพวกอสูรกายหรือภูตผีวิญญาณร้ายออกมาหากินในยามค่ำคืนอยู่เสมอนั่นแหละ หึหึหึ" หญิงสาวเริ่มที่จะเล่าเรื่องที่ฟังดูน่ากลัวสำหรับเด็กขึ้นมา...
"น่า... น่ากลัวจัง ล...แล้วพวกภูตผีนี่หน้าตาเป็นยังไงอะครับ..." เด็กชายคว้าผ้าห่มมาโอบรัดตัวเองไว้อย่างแน่น...
"พวกภูตผีก็มีหลายแบบนั่นแหละนะ... เช่นพวกผีปอป... ผีพรายน้ำ... ผีโขมด... ผีบ้านผีเรือน แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือพวกผีเงา... พวกนี้มีลักษณะเป็นควันสีดำ ดวงตาของมันเป็นสีแดง แม่ว่ามันน่ากลัวมากๆ พวกผีควันน่ะจะแตกต่างจากพวกภูตผีตัวอื่นๆ" หญิงสาวเล่าเรื่องของภูตผีหรือสิ่งเร้นลับขึ้นมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันทำให้ลูกชายของเธอรู้สึกกลัวๆหวั่นๆก็จริง แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกเกิดความสนใจอยากฟังเรื่องเล่าต่อไปเรื่อยๆ
"ล...แล้ว พวกผีควันแตกต่างจากผีตัวอื่นๆยังไงครับ..." เด็กตัวน้อยเอ่ยปากถามพร้อมกับกอดตุ๊กตารูปอีกาดำอย่างแน่น
"พวกผีควันน่ะ... ไม่ได้ออกมาเพื่อตามล่าเด็กตัวเล็กๆหรือเพื่อมากัดกินเลือดเนื้อของสิ่งมีชีวิตทั่วๆไป... แต่ว่าพวกผีควัน... มักจะปรากฏตัวออกมากลางดึกและมาเพื่อลักพาตัวสิ่งที่มีพิษภัยเช่นเดียวกับตัวมันกลับไปยังไงล่ะ คึกคึกคึก..."
"หมายความว่ายังไงหรอครับ..."
"สิ่งที่มีพิษภัยก็อย่างเช่น... สัตว์ร้าย, สัตว์ประหลาด, ภูต, สัตว์สถิตร่าง, ปีศาจ และ แม่มด... ยังไงล่ะ... พูดง่ายๆก็คือ ผีควันพวกนี้น่ะมีฤทธิเดชมากกว่าพวกผีตัวอื่นๆ พวกมันสามารถออกตามล่าและเอาชนะสิ่งที่น่ากลัวเหมือนกับตัวมันได้ ต่างจากผีตัวอื่นๆที่เอาแต่ไล่ล่ามนุษย์ธรรมดาหรือสัตว์ปกติซึ่งไม่ได้มีผิดภัยเหมือนกับตัวมัน..."
เมื่อเด็กน้อยได้ยินดังนั้น... เขาจึงเอ่ยถามออกมาอีกว่า...
"ถ้าอย่างนั้น... แล้วพวกมันจะออกมาตามล่าตัวผมกับแม่หรือป่าวครับ... มีวิธีที่จะหนีจากผีควันหรือผีเงาได้ไหมครับ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่กำลังสั่นเครือ... ทว่าจากคำพูดที่พึ่งออกมาจากปากของเขา... ใช่แล้ว เด็กผู้ชายคนนี้เป็นลูกครึ่งปีศาจ เหมือนกับตัวผม...
"หึ หึ หึ... ผีควันกับผีเงาน่ะ จะไม่ชอบอยู่ในที่ที่มีแสงสว่าง สถานที่ที่แม้ในยามค่ำคืนแต่ก็ยังสว่างไสว ทอแสงเปล่งประกายท่ามกลางความมืดมิด... สถานที่เหล่านั้นนั่นแหละที่พวกผีควันจะตามพวกเราไปไม่ถึง..." หญิงสาวผู้เป็นแม่ยังคงตอบคำถามลูกชายของเธอด้วยน้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น...
"แต่ตอนนี้เรากำลังอยู่ในกระท่อมกลางทุ่งโล่งนะแม่ ไม่มีแสงไฟหรือแสงสว่างเลยซะนิดเดียวอะ ! แล้วแบบนี้มันจะไม่ตามพวกเราเจอหรอ !" ทว่าเด็กชายเริ่มที่จะหวาดกลัวมากขึ้นและเริ่มส่งเสียงดังออกมา ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นแต่ผู้เป็นแม่ก็ยังคงใจเย็นแล้วค่อยๆกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความวิตกกังวลเลยแม้แต่น้อย...
"หึ หึ หึ... ลูกไม่เห็นจะต้องกลัวเลยนี่นาา... คึกคึกคึก... อย่าลืมนะว่าลูกมีแม่อยู่ด้วยทั้งคนน่ะ... ไม่ว่าจะมีภัยร้ายตัวไหนย่างกรายเข้ามา... ตราบใดที่แม่ยังคงมีชีวิตอยู่กับลูก... แม่จะไม่ยอมให้สิ่งชั่วร้ายนั้นเข้ามาทำร้ายตัวลูกได้โดยเด็ดขาด... แม่ของลูกน่ะ... ร้ายไม่เบาเลยนะจะบอกให้ คิกคิกคิก..." คำพูดของหญิงสาวอาจจะดูแฝงไปด้วยความติดตลก... ถึงอย่างนั้น มันก็ทำให้ลูกชายของเธอมั่นใจในตัวเธอยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด... เด็กน้อยคนนั้นรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้นเมื่อได้อยู่ในอ้อมกอดแห่งไอรักจากแม่มดคนนี้...
"มานี่... เดี๋ยวแม่จะร้องเพลงกล่อมให้..."
เพลงกล่อมเด็กของแม่มด... ที่ขับร้องเพื่อให้เด็กผู้ซึ่งเป็นถึงลูกครึ่งปีศาจ มีจิตที่โหดร้ายซ่อนเร้นอยู่ภายในสายเลือด... เนื้อหาของเพลงขับกล่อมจึงมิได้ดูสดใสหรือน่าเอ็นดูเหมือนกับเพลงกล่อมเด็กตามธรรมดาปกติทั่วไปนัก...
เด็กชายตัวน้อยค่อยๆเริ่มที่จะหลับใหล... เขาเอนตัวลงไป... หนังตาเริ่มที่จะหย่อยคล้อย ทุกๆอย่างเริ่มที่จะกลายเป็นสีดำไปอย่างช้าๆ สิ่งรอบตัวดูช้าลง... จนในที่สุด เด็กผู้ชายคนนั้นก็เข้าสู่ห้วงแห่งนิทรา...
"~ราตรีนี้เจ้าจงหลับ พับนิทราเถิด~ ~มันเตลิดเข้าพนา ไปหาโพง~ ~ธารานี้ นครานี้แม่จรรโลง~ ~ช่วยขับกล่อม ปีศาจน้อยหลับฝันดี~
เด็กผู้ชายคนนั้น... ลูกครึ่งปีศาจคนนั้น... คือตัวผมเอง... (ในอดีต...)
...
...
...
ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งจู่ๆก็พบว่าสถานที่ถูกเปลี่ยนไปจากเดิม... จากที่เคยเป็นกระท่อมแม่มดกลางทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่และมีต้นไม้ขึ้นอยู่ตรงกลาง... ในตอนนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็น... โรงพยาบาล...
"ค็อก...แค็ก ! ค็อก...แค็ก !" เสียงไอของหญิงสาวคนหนึ่งดังออกมาจากห้องๆหนึ่งซึ่งอยู่ตรงริมสุดของโถงทางเดิน...
"ค็อก...แค็ก ! ค็อก...แค็ก !" โถงทางเดินที่ทอดยาวไปนั้น... ถูกปกคลุมไปด้วยความมืด... ไร้ซึ่งแสงสว่างจากหลอดไฟ... มีเพียงแต่แสงสีแดงที่ส่องออกมาจากภายในห้องที่อยู่ตรงสุดทางเดินเท่านั้น...
"ค็อก...แค็ก ! ค็อก...แค็ก !" เสียงไอยังคงดังออกมาอย่างต่อเนื่อง...
ผมค่อยๆเดินตรงไปยังห้องๆนั้น... สัญชาตญาณของผมมันบอกให้ผมเดินตรงไปเพื่อที่จะไปพบกับอะไรบางอย่าง... เสียงที่อยู่ภายในหัวของเรามันสั่งให้เราเดินตรงไป... เดินตรงไป... เดินตรงไป...
แฉะ.. แฉะ.. แฉะ ! จู่ๆ ก็พบว่าพื้นของโถงทางเดินนั้นอยู่ดีๆก็นองไปด้วยเลือด...!
ผมมิได้สนใจอะไร... ผมค่อยๆเดินตรงต่อไปเรื่อยๆเพื่อหวังที่จะได้รับรู้อะไรบางอย่าง...
แฉะ... แฉะ.. แฉะ... ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ... แอ๊ด... ผมค่อยๆเปิดประตูบานนั้นที่ซึ่งเปรอะไปด้วยรอยเลือด... "แม่ !" !!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเป็นแม่ของผม ! กำลังนอนอยู่บนแท่นบูชา ! ซึ่งตัวของท่านถูกฉาบไปด้วยเลือด ! รอบตัวของแม่มีเทียนไข หนังสือมนต์ดำ ตุ๊กตาซาตาน ถูกวางเรียงกันเต็มไปหมด !
"แม่ๆ ! ทำใจดีๆเอาไว้นะ !" ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ร้อนลน ! ในเวลานี้ ร่างกายของผมมันทำอะไรไม่ถูก ! ทุกๆอย่างมันตอบสนองรวนกันจนมั่วซั่วไปหมด ! ผมก้าวเท้าไม่ออก ! มือไม้สั่น ! ผมทำอะไรไม่ได้เลย ! สติสตังหลุดลอยออกไปจนหมดแล้ว !
ที่กลางอกของแม่มีกริชสีดำเล่มหนึ่งปักไว้อยู่ ! เมื่อผมเหลือบไปเห็นผมก็รู้ทันทีว่านี่มันอาจจะช้าเกินไปแล้ว !
"ไม่นะแม่ ! กลั้นใจเอาไว้ก่อนนะ ! เดี๋ยวผมจะตามคนมาช่วย !" ผมรีบตะโกนออกไปพร้อมกับพุ่งตัววิ่งออกจากห้อง... !
"ค็อก...แค็ก ! ค็อก...แค็ก !" แม่ไอออกมาเป็นเลือด
"ล...ลูก... คึก...คึก...ค่าากกก...! คึก ! มันคือผีเงาลูก...! ผีเงา ! มันหาแม่จนพบ ! คึก ! ค่าาากกก ! คึก ! ลูกต้องอย่ากลัวนะ ! ผีเงามันคือความกลัว ! ลูกต้องอย่ายอมแพ้ให้กับมัน--- ค็อก แค็ก ค็อก แค็ก--- มันคือความกลัว ! ผีเงาคือความกลัว ! ความกลัวของลูกอาจนำพามันมาได้... หนีไปซะ !" เสียงของแม่ช่างดูทุรนทุราย ดูเจ็บปวดลวดราว... เจ็บเจียนตาย นี่มันคือน้ำเสียงของแม่มดที่กำลังจะถูกสาปชัดๆ ! ทันใดนั้นเองเมื่อผมพุ่งตัวออกจากห้อง !
...
หรีด หรีด หรีด หรีด หรีด !
เสียงหรีดหริ่งเรไรในยามค่ำคืน... จู่ๆผมก็กลับมาอยู่ ณ กลางทุ่งหญ้าโล่งที่ซึ่งมีกระท่อมแม่มดตั้งอยู่...
ฟู่ววว... เสียงของสายลมโบกสะบัดต้นไม้ใบหญ้าให้ปลิวไสวไปมา... เมื่อนั้นเองผมจึงเหลือบไปเห็นกับ...
ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีน้ำตาล ! และในวินาทีนั้นเอง !
"หุ หุ หุ วึ วะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮ่าาาาา ! จงโดนสาปไปพร้อมกับแม่ของแกซะ ! ไอ้เจ้าปีศาจ !"
เสียงทุ้มต่ำอันน่าสะพรึงราวกับเสียงของซาตาน ! ดังกึกก้องออกมาตามสายลม ! ทันใดนั้นเอง ! ควันสีดำทมิฬก็ก่อตัวขึ้น ! ปกคลุมทุ่งหญ้าและล้อมรอบตัวของผมไว้ ! สิ่งที่ทำให้ผมถึงกับลูกตาแทบถลนออกมานั่นก็คือ !
"ซูซาโนะ... มาอยู่กับแม่มา... ลูกจะทอดทิ้งแม่ไปอย่างงั้นเหรอะ...! หึหึหึหึ หิหิหิหิหิ ฮะฮะฮะฮะฮะ !!!!" ลูกจะทอดทิ้งแม่คนนี้ไปได้ลงคออย่างงั้นเหรอะ ไอ้ลูกสารเล.ว !! คึกคึกคึกคึกคึก ฮะฮะฮะฮะฮะฮะ !!!! ศพของแม่ลอยออกมาจากกระท่อมๆนั้น ! แต่ทว่านัยน์ของท่านกลับมีเพียงแค่สีขาวโพลน ! ริมฝีปากของแม่แสยะยิ้มสีแดงกว้างจนเกือบจะถึงใบหู ! มีรอยแผลเปื้อนเลือดกรีดขึ้นไปจนถึงแก้มของเธอ ! นั่นไม่ใช่แม่ของผมอีกต่อไปแล้ว ! แม่ของผมไม่ใช่สิ่งที่ชั่วร้ายแบบนี้ !
"มากับแม่ซะ !" สิ่งชั่วร้ายตนนั้นใช้มือทั้งสองข้างจับมาที่ไหล่ของผม ! ถึงแม้ว่าจะพยายามปฏิเสธยังไง... แต่นี่มันก็คือแม่ของผมชัดๆ ! แต่เป็นแม่ของผมที่...'ชั่วร้าย' ! เป็นไปไม่ได้ !
"ตามมาอยู่กับแม่มา !"
ไม่ใช่...! มันเป็นเพียงแค่ความกลัว ! แม่บอกว่ามันคือความกลัว ! แม่บอกให้ผมวิ่งหนีไปซะ !
"ไปเยือนอเวจีด้วยกัน....! เป็นเพื่อนแม่ ! อย่าทอดทิ้งแม่ไป !"
"ไม่... ไม่... ไม่... ม่าาายยยยยย !!!! ย้ากกกกกกก !!!!" ดวงตาของผมเปลี่ยนจากสีฟ้ากลายเป็นสีแดงก่ำ ! กรงเล็บของผมงอกยาวขึ้นมา ! เขี้ยวฟันแหลมคมขึ้น ! จู่ๆก็เกิดจิตสังหาร ! จิตอาฆาตรุนแรง ! จิตวิญญาณแห่งความชั่วร้าย !
ร่างกายของผมมันร้อนขึ้น ! จู่ๆก็มีพลังขึ้น ! ไม่นะ ! นี่มันอะไรกันน่ะ !
ผมเริ่มที่จะจำอะไรไม่ได้ ! ผมลืมแม้แต่กระทั่งชื่อของตัวเอง ! ผมเป็นใครกัน ! แล้วผมมาทำอะไร ! ผมมาทำอะไรที่นี้ ! นี่มันเกิดอะไรขึ้น !
ไม่ ! ไม่ ! ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ ! ทุกๆอย่างกลายเป็นสีเลือด ! ไม่ ! ไม่ ! ม่าายยยยยย !
.
.
.
.
.
.
.
-------------------------------------------------------------------- "กรรรรรรจจจ์ !!" เฉือออกกก !"อ...อึก...อึก !" เสียงของหญิงสาวในชุดนางฟ้าตกสวรรค์สีม่วง !
"เดี๋ยว ! ก่อน ! นะ !" เสียงของนินจาหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนมองด้วยสีหน้าที่กำลังช็อค !
"ซู...ซู...ซูซาโนะ ! นี่นายทำอะไรลงไป !" เสียงอ้ำๆอึ้งๆจากหญิงสาวผมบลอนด์ !
"บ...บท สวดของข้า...ยังไม่สิ้นสุด...." ร่างของโรเซ่นค่อยๆล่วงลงไปนอนกับพื้น ! อกของเธอถูกเสียบปักเข้าไปจนสุดด้วยกรงเล็บปีศาจที่งอกขึ้นมาบนมือของซูซาโนะ !
แม่มดน้อยตาลอย ! ร่างของเธออาบไปด้วยเลือด ! เธอกำลังใช้บทสวดเพลงขับกล่อมปีศาจซึ่งสามารถใช้ได้เช่นกันกับพวกสัตว์ประหลาดหรืออสูรกาย... เธอกะว่าจะใช้มันเพื่อที่จะขับกล่อมให้มังกรทมิฬหรือ Blackill Hydranoid สงบลงก่อนที่จะหลับใหลไป... ทว่ามันกลับไปปลุกสิ่งชั่วร้ายบางอย่างที่ถูกปิดผนึกซ่อนอยู่ภายในตัวของลูกครึ่งปีศาจที่มีนามว่า 'ซูซาโนะ โอนิมารุ' !
ปีศาจที่ดุร้ายไม่ยอมหยุดอยู่แค่นั้น ! มันกำลังบ้าคลั่งและพยายามที่จะใช้กรงเล็บของมันบดขยี้และขย้ำร่างกายอันแสนบอบบางของแม่มดน้อย ! ผิวขาวซีดของโรเซ่นในตอนนี้ดูย้อมไปด้วยสีแดงของเลือด !
ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก !
"หยุดนะ !"
ปึกก ! เฉืออก !
ทางด้านสเตปฟานี่และยูอิพุ่งเข้ามาพร้อมกับใช้อาวุธที่อยู่ภายในมือแทงทะลุตัวของซูซาโนะพร้อมกับดันตัวของเขาออกไป !
ยูอิใช้ดาบคาตานะแทงทะลุตัวของปีศาจตนนั้น ! สเตปฟานี่ใช้เลื่อยหั่นกระดูกของเธอเข้าจัดการ !
แต่ทว่า...! ซูซาโนะกลับไม่ระแค้นระคาย ! มันผลักตัวของหญิงสาวทั้งสองคนกระเด็นออกไปพร้อมกับหักอาวุธที่แทงทะลุคาตัวของมันอยู่ด้วยมือเปล่าๆเพียงข้างเดียวเท่านั้น !
ทางด้านจิโดโตะเมื่อเห็นท่าไม่ดี... เขาจึงนึกอะไรบางอย่างออก !
ครึม... ครึม ! แต่ทว่าทันใดนั้นเองก็เหมือนมีเสียงหึมๆจากตัวฮิวดร้าดังออกมา...! เจ้าสัตว์ประหลาดร้ายก่อนหน้านี้เกือบที่จะสงบลงได้แล้วด้วยบทเพลงขับกล่อมของแม่มดจากโรเซ่น... แต่ทว่าก็ถูกขัดจังหวะโดยปีศาจที่ชื่อว่าซูซาโนะซะก่อน ! และดูเหมือนว่าตอนนี้มันก็กำลังที่จะตื่นขึ้น !
จิโดโตะเห็นท่าไม่ดีเขาจึงกระโดดตีลังกาคว้าตัวไปหยิบเอาดาบมหาเวทย์ {ดาบสายฟ้าแห่งเทพไรเดนในตำนาน} มาไว้กับตัวก่อน ! พร้อมกับส่งสัญญาณเรียกยูอิที่กำลังเผชิญหน้ารับมือกับซูซาโนะว่า...
"ปิชช ! ยุย ! เราได้ดาบแล้ว ! รีบหนีกันเถอะ ! ทิ้งพวกนั้นไว้ที่นี่แหละ !"
"ต...แต่ ! เดี๋ยว ! เอางี้เลยหรอ ?!" สาวผมแดงมีท่าทางที่ไม่ค่อยสบายใจนัก !
"เฮ้ ! จะทิ้งกันอย่างงี้เลยหรอ !" สเตปฟานี่เมื่อได้ยินคำพูดจากปากของจิโดโตะดังนั้นจึงถึงกับออกอาการฉุนขึ้นมา !
"โลกมันโหดร้ายแบบนี้นี่แหละ อันที่จริงก่อนหน้านี้ฉันก็เป็นคนที่ช่วยยูนิตพวกเธอให้ฝ่าด่านหฤโหดมาได้จนมาเจอดาบนี่ ! เพราะอย่างงั้นถ้าฉันจะเป็นฝ่ายเอาดาบไปก็ถือว่าไม่น่าเกลียดเลยแม้แต่น้อย..." จิโดโตะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาแสดงให้เห็นถึงความคิดที่สุดแสนจะเห็นแก่ตัว !
"หน็อยย !" หญิงผมบลอนด์ได้แต่กัดฟันกรอดๆไม่หยุด ! เธอจ้องมองจิโดโตะด้วยสีหน้าและแววตาที่กำลังเครียดแค้น ! ภายในใจของเธอตอนนี้อยากที่จะพุ่งไปหั่นหน้าของนินจาหนุ่มคนนี้ให้หลุดออกมาเป็นชิ้นๆจนเหลือแต่สมองให้ได้ ! แต่ว่า...
"เธอน่ะฮีลเพื่อนของเธอไปซะ ! ถ้าคิดจะมาขวางฉันแล้วล่ะก็... อาจจะเสียทั้งเพื่อนแล้วก็ชีวิตตัวเองไปเลยก็เป็นได้ขอเตือนเอาไว้ตรงนี้เลย !" คำพูดของจิโดโตะเสียดแทงบาดลึกเข้าไปภายในจิตใจของสเตปฟานี่มาก จนถึงกับทำให้เธอต้องลุกยืนขึ้นพร้อมกับจ้องมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าและแววตาอาฆาตแค้น !
"ไปกันได้แล้วยูอิ ไอสาวะ !" ชายหนุ่มเรียกชื่อจริงของเพื่อนร่วมทีมออกมาเพื่อเป็นการย้ำชัดให้เห็นถึงคำสั่ง ! เมื่อยูอิเห็นดังนั้นแล้วเธอจึงไม่มีทางเลือก !
"อะ...เอ่ออ ง...งั้น....!" หญิงสาวกรอกตาไปมา เธอหันไปมองหน้าสเตปฟานี่ไม่ติด เพราะว่าก็เป็นผู้หญิงเช่นกันค่อนข้างเข้าใจหัวอกด้วยกันดี ! สเตปฟานี่ก็แอบๆส่งสายตามายังยูอิเล็กๆด้วยความแค้น !
ทันใดนั้นเองหญิงสาวผู้ที่ทำอะไรไม่ถูกจึงตัดสินใจ...
"เอเลเมนท์แห่งเปลวเพลิง เวทมนตร์ป้องกัน BURST WALL !"
พรึ่บบ ! เปลวเพลิงสีแดงฉานลุกขึ้นมาจากพื้น ! พร้อมกับก่อตัวขึ้นมาซ้อนกันเป็นกำแพง คอยขวางกั้นระหว่างเธอกับซูซาโนะ ! ไม่ให้ปีศาจตนนั้นก้าวผ่านมาได้ !
ซูซาโนะคำรามออกมาอย่างน่ากลัว !
"ตอนนี้แหละทุกคน ! หนีไปพร้อมๆกัน ! ส่วนเรื่องดาบไว้ค่อยว่ากันทีหลัง !" ยูอิกลับหลังหันพร้อมกับรีบวิ่งออกมาจากกำแพงเพลิงของตน ! เธอรู้ดีว่าพลังเวทย์แค่นั้นมิสามารถป้องกันพลานุภาพแห่งปีศาจได้อยู่แล้ว !
สเตปฟานี่เมื่อเห็นดังนั้นเธอจึงตระหนักได้ว่าเธอไม่สามารถทำอะไรไปได้มากกว่านี้แล้วเธอจึงอุ้มร่างของโรเซ่นขึ้นพร้อมกับรีบวิ่งจากไป ! ทว่า...โรเซ่นที่ได้รับการฮีลจนพ้นขีดอันตรายแล้วเมื่อรู้สึกตัวจึงรีบร้องออกมาว่า...
"ไม่ ! ไม่นะ ! สหายของข้า ! พวกเราจะไม่ทอดทิ้งปีศาจผู้ร่วมเดินทางมากับเรา !" เธอพยายามเอื้อมมือไปหาปีศาจของเธอที่กำลังถูกขวางกั้นไว้ด้วยกำแพงแห่งเปลวเพลิง !
"เราทำอะไรไม่ได้แล้วโรเซ่น ! เราต้องทิ้งเค้าไว้ที่นั่น ! ตอนนี้ภายในตัวของซูซาโนะมีสิ่งชั่วร้ายบางอย่างตื่นขึ้นมา ! เราจำเป็นต้องหนีและทิ้งเค้าไว้ไม่งั้นเราจะตายกันหมด ! ที่สำคัญคือเราจะไม่มีทางได้สัมผัสดาบ !" สเตปฟานี่พูดขึ้นมา... เธอพยายามบอกโรเซ่นให้ทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น...
"ถ้าพวกเจ้าทิ้งสหายของเราให้ถูกปิดกั้นอยู่ภายในขุมนรกขุมนั้น ! ปีศาจที่ยังมิได้ปลดปล่อยพลังมารออกมาจนสมบูรณ์จะถูกความเกรี้ยวกราดจากมังกรร้ายกลืนกิน ! เราต้องไปช่วยปีศาจของข้าออกมาก่อน !"
"ปีศาจตนนั้นมันพึ่งจะขย้ำร่างของเธอจนเธอเกือบจะตายไปแล้วนะรู้ไหม ! ถ้าไม่ได้เวทมนตร์ฮีลลิ่งขั้นสุดยอดของฉันช่วยเอาไว้ ! ป่านนี้เธอออกจากการแข่งขันไปนอนรอพวกเราอยู่ในโลกแห่งความจริงก่อนใครเพื่อนเล่าา !" สเตปฟานี่ตะคอกออกมา ถึงอย่างนั้นแม่มดสาวก็หาได้หวั่นไหวไม่ !
ณ วินาทีนั้นเอง ! โรเซ่นดิ้นจนหลุดออกมาจากมือของสเตปฟานี่ ! เธอวิ่งตรงเข้าไปหาซูซาโนะที่กำลังถูกห้อมล้อมไว้ด้วยทะเลเพลิงสีแดงชาด ! ปีศาจกำลังเกิดอาการบ้าคลั่ง !
ซูซาโนะในตอนนี้กำลังพ่นเพลิงทมิฬออกมาจากปากของเขาเพื่อทำลายให้ห้องเก็บศาสตราวุธห้องนี้พังทลายลงมา ! ในขณะเดียวกันเจ้า Blackill Hydra ก็กำลังที่จะตื่นขึ้น !
โรเซ่นวิ่งเข้าไปยังห้องๆนั้นพร้อมใช้ร่มซึ่งทำหน้าที่เป็นเกราะกำบังฝ่ากำแพงเวทย์ของยูอิเข้าไป !
พร่าางง !!
แม่มดสาวฝ่ากำแพงเพลิงเข้ามาได้ ! เธอยืนอยู่เบื้องหน้าของปีศาจที่มีฤทธิ์และกำลังกริ้วเกรี้ยวโกรธา ! เธอยื่นมือของเธอขึ้นมาเพื่อที่จะสัมผัสไปยังใบหน้าของเจ้าปีศาจตนนั้น !
มวับบ !!
ซูซาโนะใช้มือที่แข็งและใหญ่กว่าเดิมของเขาบีบคอของโรเซ่นไว้ ! พร้อมกับยกร่างของแม่มดสาวลอยขึ้นอยู่เหนือพื้น !
"โรเซ่น !" สเตปฟานี่ตะโกนออกมา เมื่อเห็นดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือก ! สาวผมบลอนด์วิ่งตามเข้าไปผจญกองเพลิงเพื่อที่จะช่วยเพื่อนร่วมทีมให้ออกมาจากเงื้อมมือของปีศาจร้าย !
"ค็อก---แค็ก--- ไม่---ต้อง---ตามเข้ามา ! ข้าจัดการมันได้แล้ว !" โรเซ่นพยายามพูดส่งเสียงห้ามไม่ให้สเตปฟานี่เข้ามา ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะทำอะไรบางอย่างได้แล้ว !
"อะไรนะ !" สเตปฟานี่ร้องออกมาด้วยสีหน้าที่กำลังตกตะลึง !
ทันใดนั้นเองโรเซ่นก็ใช้มือทั้งสองข้างซึ่งมีเล็บสีม่วงยาววาวแวววับของแม่มดสาว จิกเข้าไปที่คอของปีศาจซูซาโนะบ้าง !
"กรรรจจ์ !" ซูซาโนะคำรามออกมา ! พร้อมกับเสียหลักและปล่อยร่างของแม่มดสาวลง !
โรเซ่นใช้จังหวะสุดท้ายด้วยการพุ่งเข้าไปจ้องตาของซูซาโนะ ! แววตาสีแดงก่ำของปีศาจสอดประสานเข้ากับนัยน์ตาสีแดงชาดของแม่มด ! และวินาทีนั้นเอง...!
"เวทมนตร์แม่มด... เขี้ยวผนึกมารคลายสำนึก !"
แกร็บ !
โรเซ่นใช้เขี้ยวแม่มดสาวของเธอกัดแทงทะลุเข้าไปที่ซอกคอของปีศาจร้าย ! ทันใดนั้นเองแววตาสีแดงเลือดของซูซาโนะก็จางลง ! ก่อนที่จะ... เปลี่ยนกลับมาเป็นสีฟ้าน้ำทะเลเหมือนกับเช่นเคย...!
แววตาของปีศาจเหมือนกับจะระลึกได้ว่านัยน์ตาสีแดงที่สอดประสานเข้ามาคู่นั้นมันเป็นของใคร ! ความรู้สึกนึกคิด ! ความทรงจำต่างๆ ! สติสัมปชัญญะและสำนึกทุกอย่างภายในจิตใจของเขามันหลั่งไหลเข้ามาภายในเวลาอันรวดเร็ว ! ราวกับว่าก่อนหน้านี้มันถูกกำไว้อย่างแน่นอยู่ภายในเงื้อมมือของปีศาจร้ายที่อยู่ภายในตัวของเค้า !
ณ เวลานี้... มารร้ายตัวนั้นถูกปิดผนึกลงเรียบร้อยแล้วด้วยเวทมนตร์แม่มดของโรเซ่น...
"ร...โรเซ่น..." ซูซาโนะเอ่ยชื่อของแม่มดที่พึ่งช่วยเค้ากลับมา ! ถึงเขาจะรู้สึกตัวอีกครั้งแต่จิตของเค้าก็ยังคงล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอยู่... เขายังคงตั้งสมาธิให้กลับมาไม่ได้
ทว่า...ทันใดนั้นเอง !
"วราาาาดดดด !!" เจ้ามังกรทมิฬ Blackill Hydra ในที่สุดก็ได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้ว ! มันจ้องมองแม่มดและปีศาจที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของมันด้วยแววตาที่สุดแสนดุร้ายก่อนที่จะ...!ปังง ! ฟู่ววว !พ่นเพลิงโลกันต์สีแดงดำทมิฬออกมา !
เพลิงโลกันต์จากปากของเจ้ามังกรพุ่งเข้ามาเผาทำลายร่างของทั้งโรเซ่นและซูซาโนะ !
-------------------------------------------------------------------------------
|
|
|
Post by GreyTear on Aug 8, 2017 15:46:05 GMT
พรึ่บบ !! "CHALA CURTAIN !" {มนต์ม่านชาลา}
วิ๊งง !!
ม่านแห่งแสงสว่างปลิวลอยขึ้นมาโบกสะบัดปัดเป่าเพลิงแห่งความมืดจนเหือดหายไปได้อย่างทันท่วงที !
เวทมนตร์เอเลเมนท์แห่งแสงสว่างจากสเตปฟานี่หรือที่มีชื่อว่า {มนต์ม่านชาลา} หรือ 'ม่านโคมไฟ' สามารถช่วยลบล้างปัดเป่าเวทมนตร์เอเลเมนท์แห่งความมืดไปได้ ! ทว่าก็ไม่หมดซะทีเดียว !
ลูกไฟสีแดงฉานที่อยู่ภายในเปลวเพลิงทมิฬนั้นยังคงโชดช่วงอยู่และยังไม่เหือดหายไป ! มันยังคงพุ่งไปหาทางด้านของโรเซ่นและซูซาโนะอยู่ !
"WINDY WILL" {สายลมโบกสะบัด}
ฟิ้ววว !!
จู่ๆภายในห้องๆนั้นก็เกิดแรงลมโบกสะบัดพัดแรงขึ้นมา !
เปลวไฟที่หลงเหลืออยู่นั้นถูกสายลมพัดจนปลิวสลายหายไป !
ทุกสายตาต่างพากันจับจ้องไปยังต้นตอของสายลมโบกสะบัดนั้น !
วงเวทย์สีขาวกำลังปรากฏอยู่รอบตัวของจิโดโตะที่กำลังร่ายเวทย์ ! นินจาหนุ่มผู้เห็นแก่ตัวเมื่อก่อนหน้านี้... ในตอนนี้เขาเปลี่ยนใจหันกลับมาช่วยผู้ร่วมเดินทางคนอื่นๆทั้งๆที่พวกเขาไม่ใช่สมาชิกที่อยู่ภายในยูนิตตัวเอง !
ฮิวดรานอยด์ทมิฬเมื่อเห็นต้นตอของสายลมแล้วมันจึงยิ่งแสดงความเกรี้ยวกราดออกมามากขึ้นไปอีก ! มันคำรามเสียงดังออกมา ! ทว่านินจาหนุ่มหาได้เกิดความสั่นไหวใดๆ เขาพูดขึ้นมาท่ามกลางสายลมที่กำลังพัดไหวว่า...!
"ตอนนี้แหละยุย ! ใช้เวทมนตร์ประสานกันอีกครั้ง !"
ยุยเมื่อได้ยินดังนั้นเธอจึงรีบเค้นพลังเวทย์พร้อมที่จะใช้เวทมนตร์อีกครั้ง !
"รอเจ้านั่นมันอ้าปากออกมาก่อนแล้วค่อยอัดพลังไฟเข้าไปในปากของมัน !" จิโดโตะออกคำสั่ง
"รับทราบ !"
"นี่เธอ ! ยัยแม่สาวผมบลอนด์ ! ใช้เอเลเมนท์แห่งแสงใช่ไหม ! ใช้เวทมนตร์แสงหลอกล่อให้ไอ้เจ้าบ้านั่นมันหันมาทางนี้หน่อย ! มันยังไล่ยัยแม่มดกะเจ้าปีศาจนั่นอยู่เลย !" เมื่อถึงยามสถานการณ์คับขัน... ถึงแม้นินจาหนุ่มคนนี้มักจะแสดงท่าทีที่หยาบกระด้าง ดูเย็นช้า ไร้หัวใจไร้ความรู้สึกออกมาอยู่เสมอ...
แต่ถึงกระนั้นเค้าก็มักจะแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของการเป็นผู้นำ การสั่งการ การเป็นลีดเดอร์ ! ชายหนุ่มคนนี้มีสิ่งๆนั้นอยู่ในตัวและมีเงาของเรียล์มมาสเตอร์พี่ชายตัวเองแฝงไว้อยู่ในนั้นจริงๆ !
"งั้นหรอ ! ได้ ! รับทราบ !" สเตปฟานี่เอ่ยปากตอบรับ ! ยามที่สมาชิกยูนิต-14 ไร้ลีดเดอร์อย่างเทเรเซียคอยสั่งการเนื่องจากว่าเธอต้องทำหน้าที่ประจำการอยู่ที่ฐาน... ถึงแม้ว่าพวกเขาจะดูทำงานการอย่างไขว้เขวไร้ทิศทางกันไปบ้าง... แต่ถึงอย่างนั้น... เมื่อได้ผนึกกำลังรวมกับลีดเดอร์แห่งยูนิต-7 แล้ว ลีดเดอร์ทัพผสม 'เซเว่น แอนด์ โฟว์ทีน' ก็กำเนิดขึ้นมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ !
สเตปฟานี่ใช้ไม้เบสบอล Little Miss ของเธอยิงบีมใส่เข้าไปที่หัวของเจ้าอสูรกาย เพื่อเรียกร้องความสนใจ ! เมื่อนั้นเองเจ้าฮิวดรานอยด์ทมิฬก็หันกลับมาจ้องมองทางสเตปฟานี่ ยูอิและจิโดโตะ ! ก่อนที่มันจะคำรามส่งเสียงดังออกมา !
"เอเลเมนท์แห่งแสง ! เวทมนตร์ล้อเป้า ! BRIGHT FLASH !"
วงเวทย์ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับแสงสว่างจ้า ! ราวกับหลอดไฟสีขาวที่อยู่เหนือเตียงผ่าตัด ! เจ้าสัตว์ประหลาดฮิวดรานอยด์ทมิฬถึงกับดวงตาพล่ามัว ! ทัศนวิสัยของมันมองอะไรที่อยู่ด้านหน้าไม่เห็นมันจึงอ้าปากออกมาหวังที่จะพุ่งเข้าไปเขมือบสิ่งที่อยู่ด้านหน้าให้จงได้ !
จังหวะนั้นเองทุกๆอย่างจึงลงล็อคเข้าทางของทางด้านจิโดโตะและยูอิ !
ทั้งสองประสานมือเข้าด้วยกันก่อนที่จะร่ายเวทมนตร์ออกมาดั่งใจอธิษฐานพร้อมๆกันว่า...!
""ฟิวชั่นเอเลเมนท์ !""" {FUSION ELEMENT !}
"สายลม" + "เปลวเพลิง" = ""SEPHIROTH DOUBLE FIRE PHOENIX !"" นกฟินิกซ์สองตัวปรากฏขึ้นมาบินขนาบไปด้วยกันก่อนที่จะรวมร่าง ! นกฟินิกซ์สีแดงเพลิงรวมร่างเข้ากับนกฟินิกซ์สีขาวแห่งสายลม ! พร้อมกับพุ่งตรงเข้าไปข้างในปากของเจ้าฮิวดร้า !
ทางด้านของโรเซ่นและซูซาโนะที่เห็นว่าทั้งคู่นั้นกำลังจะใช้ท่าไม้ตายจึงรีบวิ่งหนีไปหาที่กำบัง !
ทันใดนั้นเอง !ตู้มม !! ลำตัวของเจ้าฮิวดร้านอยด์มอดไหม้ไปด้วยเปลวเพลิง ! ก่อนที่นกฟินิกซ์แฝดทั้งสองตัวนั้นจะบินพุ่งทะลุอีกด้านของเจ้ามังกรทมิฬตัวนั้นออกมา ! ก่อนที่จะสลายหายไป !
มังกรทมิฬส่งเสียง อึกๆ อักๆ แบบสัตว์ร้ายที่กำลังโดนไฟครอกตาย ! ก่อนที่ปากของมันจะระเบิดออก ! ไปพร้อมๆกับลำตัวส่วนที่เหลือของมันที่ระเบิดตามกันไปเรื่อยๆจนเหลือแต่จุล !
จนในที่สุดก็ไม่ลงเหลือเศษซากของเจ้ามังกรทมิฬตนนั้นอยู่อีกเลย ! ทิ้งไว้แต่เพียงเปลวไฟที่ยังค้างคาอยู่จากการต่อสู้เท่านั้น !
จิโดโตะถึงกับต้องนั่งทรุดลงกับพื้นเนื่องจากร่างกายเริ่มตอบสนองแล้วว่าตัวของเค้านั้นใช้พลังเวทย์มากเกินไป ! (ปิดเพลงได้แล้ว...)
"ฮึกก...อ่าา..."
สเตปฟานี่เดินเข้ามาใกล้ๆพร้อมกับเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า... "แล้วจะเอายังไงกับดาบ..."
เมื่อได้ยินดังนั้นนินจาหนุ่มจึงตอบกลับไปว่า... "เหอะ ! ยังไงฉันก็ยังยืนยันคำเดิม ! ดาบสายฟ้าเล่มนี้ยังไงก็ตามกลับปราสาทไปกับฉัน... อย่างที่บอกว่าฉันเป็นคนฝ่ามันเข้ามาคว้ามันได้ด้วยมือของฉันเอง ! เพราะฉะนั้นมันก็ต้องกลับไปพร้อมๆกับฉัน... ที่ฉันยื่นมือเข้ามาช่วยพวกเธอเนี่ย ก็เพราะนึกถึงคำพูดๆนึงของเพื่อนร่วมทีมของฉัน... 'เราจะไม่ทิ้งคนที่ร่วมเดินทางด้วยกันมาไว้ข้างหลัง' ถึงอย่างนั้นก็เถอะ... ยังไงซะ การที่ดาบเล่มนี้ต้องตกเป็นของยูนิต-7 ของพวกฉันแต่พวกผู้เดียวเป็นเรื่องที่ยุติธรรมที่สุดแล้ว..."
ถึงอย่างงั้นจิโดโตะก็ยังคงเป็นจิโดโตะ... เขายังคงพูดออกมาตามเหตุผลและทัศนคติอันเถรตรงของเค้า ! ไม่มีอะไรที่จะสามารถบิดเบือนความมั่นใจหรือทำให้อีโก้ของชายหนุ่มผู้นี้จางหายไปได้เลย...
"รู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าพวกฉันคงไม่ปล่อยดาบนั่นให้หลุดมือไปง่ายๆ" สเตปฟานี่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เริ่มแลดูเป็นนักเลงเล็กน้อย...
ฉึบบ
ยูอิชูดาบคาตานะขึ้นมากั้นระหว่างตัวของจิโดโตะและสเตปฟานี่... เธอแหงนหน้า (เพราะตัวเตี้ย) มองสาวผมบลอนด์พร้อมกับออกปากพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า...
"พอแค่นี้ล่ะ ! อย่างที่ลีดเดอร์ยูนิตฉันบอก ! ที่พวกเราฝ่าด่านเข้ามาถึงห้องลับเก็บศาสตราวุธนี่ได้... ก็เพราะว่า ฉันกับจิโดโตะดันพุ่งทะลุกำแพงเข้ามา... ถึงจะเป็นเพราะว่ามันบังเอิญแต่ถ้าไม่ได้พวกฉันช่วยไว้ พวกเธอทั้งสามคนป่านนี้คงโดนพวกฝูงตัวคราสท์ฉีกร่างเป็นเส้นๆจนกลายเป็นขนมสายไหมไปแล้ว ! นี่พวกเราพูดกันอย่างแฟร์ๆที่สุดแล้วนะ ! ถอยออกไปแล้วไปหาดาบมหาเวทย์จากที่อื่นด้วยตัวเองซะ ! ไม่งั้นฉันกับโตโด้จะใช้ดาบมหาเวทย์เล่มนี้นี่แหละจัดการกับเธอเอง !"
ถึงแม่จะแลดูเป็นคำพูดที่หนักแน่น... แต่เสียงของผู้หญิงตัวเล็กที่สูงเพียงแค่ 140 กว่าเซนติเมตร นี่มันช่างแหลมเล็กและฟังดูน่าตลกขบขันชวนให้จั๊กจี้ไม่น้อย...
"นี่เธอรู้วิธีใช้มันหรอ..." จิโดโตะที่กำลังนั่งอยู่ เพียงแค่หันหน้าเฉยๆเค้าก็สามารถที่จะคุยกับยูอิได้โดยที่อยู่ในระดับสายตา...
"มะ...ไม่รู้ แล้วโตโด้รู้บ้างไหมล่ะ !" เด็กสาวเริ่มที่จะออกอาการโวยวายออกมาแบบเด็กๆ
"โห้ยย... ระดับฉันแล้วเนี่ย---"
ปึงงง !!
ลำแสงสีม่วงจากมังกรทมิฬพุ่งออกมาทะลุกำแพงด้านบน !
...
เปรี๊ยง !!
แม้เรียล์มคนอื่นๆที่อยู่ด้านนอกตัววิหารก็สามารถมองเห็นลำแสงที่พุ่งขึ้นมาสู่ท้องฟ้านั้นได้ !
เรียล์มหญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า..."อลัน... เรารู้ตำแหน่งของมันแล้วล่ะ..."
อลัน : อืม... เอาไงต่อล่ะซากุระ...
...
เมื่อนั้นเอง... ลำแสงเส้นนั้นก็หายไป... สิ่งที่ปรากฏออกมานั่นก็คือ...
{DARK EARTH LEGENDARY SWORD} "ดาบโลกามิฬในตำนาน..." จิโดโตะเมื่อเห็นดาบเล่มนั้นจึงถึงกับเอ่ยชื่อของมันออกมา... แววตาของเขาลุกวาว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะได้เห็นดาบในตำนานอีกเล่ม !
"รู้จักมันด้วยหรอ..." ยูอิถามขึ้นมาบ้าง...
"อืมม..." จิโดโตะได้แต่อืมโดยไม่พูดอะไรต่อ เขากำลังตกตะลึงกับดาบที่อยู่ตรงหน้า...ในขณะที่คนอื่นๆซึ่งไม่เคยได้อ่านตำราประวัติศาสตร์ดาบศักดิ์สิทธิ์ในตำนานแห่งจักรวาล REALM-29
พวกเขาจึงมิได้มีสีหน้าแบบคนที่กำลังเห็นนางฟ้าตัวเป็นๆเป็นครั้งแรกอย่างจิโดโตะ...
ฟรึ่บบ !! "เธอเอาดาบนี่ไปเลย..." จิโดโตะโยนดาบสายฟ้าแห่งเทพไรเดนในตำนานทิ้งลงไปกับพื้น พร้อมกับค่อยๆเดินเอื้อมไปหยิบดาบโลกาทมิฬอย่างช้าๆ เขาเอ่ยปากพูดกับสเตปฟานี่พร้อมกับทำอย่างกะว่าดาบไรเดนนั่นดูไร้ซึ่งคุณค่าไปเลย...
"อ...เอิ่มม..." สเตปฟานี่เอื้อมลงไปหยิบดาบที่ตกพื้นอยู่แทบเท้าของเธอ... พร้อมกับออกสีหน้าเอิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด...
บึ้มมม !!เพดานหินทะลุลงมา ! อะไรบางอย่างกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง !
ตึงง !!
จิโดโตะถึงกับกระเด็นออกมาเนื่องจากแรงกระแทก !
"โรงมหรศพเปิดม่าน... ฝูงอรพิษ ! ทำงาน !"
ฝ่ออออ ฝ่อออออ !! อสรพิษสีดำทมิฬนับสิบพุ่งออกมาจากทั่วทุกสารทิศ ! มันอ้าปากของมันออกมาหวังที่จะฝังคมเคี้ยวมีพิษของมันเข้าไปในเนื้อมนุษย์ !
ฝ่ออ ฝ่ออ ฝ่ออ ฝ่ออ !!
"อะไรกัน ! ทำไมถึงมีงูออกมาได้ !" ยูอิถึงกับร้องอุทานออกมา !
"นี่มัน...! เหล่าอสรพิษร้ายผู้เป็นพันธมิตรและทำพันธะสัญญากับเหล่าแม่มด !" โรเซ่นที่กำลังพยุงร่างที่สติกำลังเลื่อนลอยอยู่ของซูซาโนะเอ่ยปากพูดขึ้นมา !
"หมายความว่ายังไง ! ทำไมพันธะสัญญากับแม่มด ! แล้วไหงมันถึงยังพุ่งเข้ามาทำร้ายตัวเธอได้ล่ะโรเซ่น !" สเตปฟานี่ร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกพลางใช้เลื่อยหั่นกระดูกผ่าร่างของเหล่ากองทัพงูไปด้วย !
"ให้ตายสิโว้ยย ! จะได้ดาบอีกเล่มแล้วแท้ๆ ! อีกอย่าง...ตูไม่ถูกกับงูโว้ยย !" จิโดโตะถึงกับสาวออกร้องลั่นขึ้นมา ! พร้อมกับปาดาวกระจาย ปามีดคุไนไปทั่ว !
"แม่มดสินะ... เจ้าเป็นใครกัน !" โรเซ่นพูดเสียงดังออกมาเพื่อต้องการให้แม่มดคนนั้นเปิดเผยตัวตน !
ฝุ่นเริ่มจางลง... เงาของหญิงสาวผมดำคนหนึ่งค่อยๆที่จะสว่างขึ้นมา...
หญิงสาวผู้ที่กำลังร่ายเวทมนตร์อัญเชิญฝูงอสรพิษอยู่คนนั้น... ก็คือ 'ซากุระ คามิกิ' ประธานนักเรียนสาวผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแม่มดล่าปีศาจ !
"หึ หึ หึ... ว่ายังไงเหล่ามิตรสหายเรียล์มหนุ่มสาวที่น่ารักทุกๆคนของฉัน... ยกเว้นนายนะไอ้เจ้าลีดเดอร์นินจากิ๊กก๊อกกะโหลกกะลา !"
ประโยคแรกที่พูดออกมาก็คือการกล่าวทักทายพร้อมกับพูดจาเสียดสีดูถูกใส่ จิโดโตะ โทรสไตร์ปก่อนทันที !
"หน็อยย ! เธออีกแล้วหรอ ! ยัยแม่มดตัวร้าย ! ฮึ่ยยย ! เจ็บใจนัก !"
จิโดโตะตะคอกออกมาด้วยน้ำเสียงอันเครียดแค้น !
"ยังไงซะฉันก็จะไม่ยอมปล่อยดาบเล่มนี้ให้กับเธอหรอก !" นินจาหนุ่มกำดาบโลกาทมิฬที่เขาพึ่งหยิบขึ้นมาไว้อย่างแน่น ! ไม่ยอมปล่อยให้นางผู้นั้นได้ไปโดยเด็ดขาด !
"แล้วใครว่าฉันจะมาเพื่อขอหยิบเอาไปจากเธอง่ายๆกันล่ะ !" แม่มดร้ายนัยน์ตาสีแดงผมสีดำพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงยียวน !
ตู้มมม !! เสียงกำแพงถูกบางอย่างกระแทกทะลุออกมา !
มวับบ !! "อะไรกัน !" ชายหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งที่ซึ่งร่างถูกหุ้มไปด้วยกายาหินฝ่ากำแพงหินของห้องๆนี้เข้ามาพร้อมกับคว้าดาบมหาเวทย์ที่อยู่ภายในมือของจิโดโตะออกมาง่ายๆก่อนที่จะวางมันลงกับพื้น !
เขาคืออลัน แกสคอยน์ ! นักเรียนจอมเวทย์คนใหม่ที่ซึ่งพึ่งเข้ามาได้หมาดๆและมาเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้โดยทันที ! แต่ทว่า... ความสามรถด้านเวทมนตร์ของเขานับว่าน่าทึ่งเอาซะมากๆ ! นั่นก็คือความสามารถในการดูดซับพลังเวทย์จากสิ่งต่างๆรอบตัวได้พร้อมกับแปรเปลี่ยนสภาพของมันให้กลายไปเป็นของเหลวและใช้มันห่อหุ้มร่างกายของตัวเอง !
เช่น ถ้าหากดูดซับพลังมาจากผืนดินร่างของเขาก็จะแข็งแกร่งและมีกายาที่ทรงพลังที่สุดแบบนี้ เป็นต้น !
โดยเอเลเมนท์หลักที่เรียล์มหนุ่มคนนี้ใช้ก็คือ เอเลมนท์แห่งสายน้ำ นั่นเอง !
"นี่แก...! เป็นใครกันน่ะ !" จิโดโตะถึงกับออกอาการเหวอขึ้นมา ! ผิดจากบุคลิกปกติของเขาไม่น้อย ! "มาย เนม อีส... 'อลัน แกสคอยน์' " ชายหนุ่มสุดเท่ห์แนะนำชื่อของตัวเองด้วยสำเนียงที่แปลกๆเล็กน้อย ! ก่อนที่จะโอบรัดร่างของนินจาหนุ่มเอาไว้พร้อมกับกระโดดพาร่างของเขาพุ่งทะลุเพดานขึ้นไปด้านบนอย่างหน้าตาเฉย !
เรียกได้ว่าจิโดโตะตอนนี้หายสาบสูญไปกับด้านบนเพดานเลยก็ว่าได้ !
"โตโด้ !!" ยูอิถึงกับตะโกนชื่อของหัวหน้าของเธอออกมา ! ในขณะเดียวกันเธอก็กำลังรับมือกับฝูงอสรพิษเขี้ยวยาวที่กำลังจะเขมือบร่างกายเล็กๆของเธออยู่ !
ฟรึ่บบ ฟรึ่บบ !! ฉับ ฉับ !!
หญิงสาวกัดฟันสู้กับฝูงอสรพิษที่มีจำนวนมากกว่าหลายสิบเท่า ! เธอใช้ดาบผ่าร่างเหล่าสัตว์ร้ายไปทีละตัว ทีละตัว ! พร้อมกับกระโดดเบี่ยงตัวหลบไปมา ! เนื่องจากว่าอสรพิษบางตัวจะใช้วิธีการฉกหรือการพุ่งเข้าโจมตี !
"ฮึ่ยย ย่าห์ ! เอือออกก ! อะ !"
แต่ทว่าจนแล้วจนรอดก็มีงูทมิฬตัวหนึ่งเลื้อยเข้ามาพันขาของเธอไว้ได้ ! ยูอิเสียหลักล้มลงไปนอนกับพื้น ! เหล่างูตัวใหญ่ค่อยๆไหลเลื้อยเข้ามามัดลำตัว แขนขา คอของสาวน้อยผมสีแดงเอาไว้จนตัวของเธอขยับไปไหนไม่ได้ !
แม้แต่เสียงร้องเธอก็ยังมิสามารถส่งเสียงออกมาได้ ! และแล้ว... ทันใดนั้นเอง !
ฝ่ออออ !!
อสรพิษอีกตัวก็พุ่งเข้าไปฉกที่ใบหน้าของเธอ...! เมื่อนั้นเองร่างกายของหญิงสาวก็ถูกสาปให้กลายเป็นหินในที่สุด !
"ไม่นะ ! พวกเราระวังกันไว้ให้ดี ! งูพวกนี้ถ้ามันกัดเราได้พวกเราจะถูกสาปให้กลายเป็นหิน !" สเตปฟานี่พูดบอกเพื่อนๆที่เหลืออยู่อีกสองคนของเธอ !
โรเซ่นกำลังยืนนิ่งอยู่ติดกับผนัง ! ร่างกายของเธอสั่นเทาไปด้วยความกลัว ! ในมืออีกข้างนึงของเธอกำลังพยุงร่างของซูซาโนะอยู่ !
"ข...ข้าเลือกที่จะไม่ทำสัญญากับอสรพิษ... เพราะมันคิดไม่ซื่อ... ด้วยเหตุนี่เองข้าจึงเลือกที่จะทำพันธะสัญญากับเหล่ากระแอกทมิฬ..."
"ฮึ่ยยย ! ย่าห์ !" สเตปฟานี่กวัดแกว่งเลื่อยภายในมือของเธอไปมา ! พร้อมกับพยายามปามีดผ่าตัดที่อยู่ภายในผ้าคลุม !
ถึงอย่างนั้น...!
ฝ่ออออ !! งูตัวสีดำตัวหนึ่งก็พุ่งเข้ามาโอบรัดตัวของเธอไว้ได้ ! สุดท้ายในที่สุดร่างของหญิงสาวผมบลอนด์ก็ถูกสาปให้กลายเป็นหินตามสาวน้อยผมสีแดงไป !
เหลือแต่เพียงโรเซ่นและปีศาจที่อยู่ภายในอ้อมแขนสองตน...!
แม่มดร้ายนามว่าซากุระที่ตอนนี้มีศาสตราวุธมหาเวทย์ ได้แก่ ดาบโลกาทมิฬและดาบสายฟ้าไรเดนอยู่ในมือแล้ว... เอ่ยปากในเชิงเจรจาต่อรองขึ้นมาว่า...
"ส่งปีศาจตัวนั้นมาให้ฉันซะ ! แล้วฉันจะไม่สาปเธอให้กลายเป็นหิน..."
"ค...ใครจะไปยอม ! จงปรากฏตัวออกมาซะสิ เหล่าฝูงกระแอกสหายของข้า !"
โรเซ่นเปล่งเสียงอันดังกึกก้องของเธอออกมา ! วินาทีนั้นเอง ! ฝูงอีกาดำก็บินเข้ามายังห้องเก็บศาสตราวุธที่พวกเขากำลังอยู่ !
"ฝูง...อีกา... อีกาดำอย่างงั้นเหรอะ ! ที่แท้... ก็เลือกทำพันธะสัญญากับอีกาแทนที่จะเป็นอสรพิษร้ายอย่างงั้นรึ !" ซากุระถึงกับออกอาการผวาขึ้นมาเมื่อเห็นฝูงอีกาดำ ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยชื่นชอบสัตว์ปีกซักเท่าไหร่ !
ฝูงอีกาปากเหล็กกำลังต่อสู้กับฝูงอสรพิษร้าย ! เกิดศึกสงครามขึ้นระหว่างสองสรรพสัตว์ที่ทำพันธะสัญญากับแม่มด !
"ฮึ่ยย ! แส้ล่ามาร ! ทำงาน !" ซากุระคว้าเอาแส้เวทมนตร์ของเธอออกมาจากด้านหลัง ! แส้สีดำพุ่งเข้ามามัดตัวของซูซาโนะไว้ ! พร้อมกับชุดกระชากดึงปีศาจตนนั้นให้หลุดลอยออกมาจากอ้อมแขนของโรเซ่น !
"ไม่นะ !"
"มันจบแล้ว ! จงยอมแพ้ซะเถอะ !" ทันใดนั้นเองแม่มดร้ายจอมขมังเวทย์ก็แยกเขี้ยวสีขาวที่อยู่ภายในปากของเธอออกมาก่อนที่จะก้มลงกัดไปที่คอของซูซาโนะ ! ทันใดนั้นเองร่างของปีศาจก็กลายสภาพเป็นหินเช่นเดียวกับคนอื่นๆที่พึ่งโดนไป !
"พลังเวทย์อัญเชิญ... ราชางูยักษ์ 'เรเจมน์ เซอร์เพ้นท์' {REGEM SERPENT}"
เมื่อนั้น... งูยักษ์ตัวสีม่วงอันแสนน่ากลัว ! ก็พุ่งทะลุพื้นขึ้นมา ! ซากุระคว้าตัวของซูซาโนะมาไว้กับตนพร้อมกับกระโดดขึ้นบนเศียรของงูตัวนั้นพร้อมกับสั่งให้มันพาตัวของเธอหนีออกไปจากจุดๆนี้ให้เร็วที่สุด !
งูยักษ์ 'เรเจมน์' พุ่งทะลุเพดานพร้อมกับบินออกไปสู่ฟากฟ้า !
แม่มดน้อยนามว่าโรเซ่นพยายามเอื้อมมือออกไปเพื่อที่จะคว้าตัวของซูซาโนะ แต่ไม่ว่ายังไงก็ทำไม่ได้ ! ไม่ว่าจะทำยังไงมือของแม่มดน้อยก็เอื้อมไปไม่ถึง !
...
บนท้องฟ้า... ซากุระที่ตอนนี้ในมือมีดาบมหาเวทย์อยู่ถึงสองเล่ม... ในตอนนี้เธอกับยูนิตของเธอเรียกได้ว่ากุมความได้เปรียบเหนือทุกๆยูนิตที่ยังอยู่ในการแข่งขันไว้ในกำมือ...
เธอร่ายคาถาเวทย์ขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับนั่งสมาธิ... วงเวทย์ปรากฏรอบๆตัวของเธอ... เธอเอื้อนเอ่ยออกมาว่า...
"เวทมนตร์แห่งแม่มด... เชื่อมต่อกับเอนติตี้... เสียงของสายลม... เสียงของสายน้ำ... เสียงของเครื่องดนตรี..."
"เสียงแห่งพงไพร... เสียงของผืนดิน... เสียงแห่งมังกร... เสียงแห่งความมืด... เสียงแว่วของทุกๆสรรพสิ่งจงเพรียกร้อง... กระซิบกระซาบบอกเพื่อนของข้าว่า..."
"รวมพล...! พวกเราได้ดาบมาแล้ว"
ณ ขณะนั้นเอง... เสียงกระซิบแว่วจากแม่มดร้ายก็ถูกส่งไปให้ลอยปลิวตามสายลม... ไหลไปตามลำธาร... เคลื่อนไหวไปตามใบไม้...
ไอ และ เจซซิก้าที่กำลังทำหน้าที่ไล่ล่าเก็บแต้ม Overall อยู่กลางป่าเมื่อได้ยินดังนั้นจึงหันหลังกลับเพื่อที่จะไป Regroup ตามคำสั่งจากหัวหน้าของเธอ...
อลัน แกสคอยน์ที่กำลังใช้บาทากระทืบใบหน้าของจิโดโตะอยู่บนสะพานหินติดกับตัววิหารแห่งเวทย์... เมื่อได้ยินดังนั้น...
ก็ยังคงรัวฝ่าเท้ากระทืบใส่ร่างของจิโดโตะอยู่...
เนเน่ อูมาอิที่กำลังทำหน้าที่เฝ้าปราสาทประจำฐานอยู่... เมื่อได้ยินดังนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตารอการกลับมาของลีดเดอร์ของเธอ...
แต่ทว่า... ทันใดนั้นเอง !
...
"หยุดซะ ! นางแม่มดร้าย ! ข้าไม่ยอมให้เจ้าเอาเค้าคนนั้นไปดอก !" เสียงของโรเซ่นดังออกมาจากด้านหลังของซากุระ !
เมื่อแม่มดร้ายผมสีดำหันหลังกลับไป... ก็พบกับสาวน้อยแม่มดอีกคนหนึ่งที่ซึ่งตัวของเธอกำลังลอยอยู่เหนือท้องนภา !
ที่แผ่นหลังของโรเซ่นในตอนนี้มีปีกสีม่วงกำลังโบกพัดอยู่ท่ามกลางท้องฟ้า ! เธอชูร่มซึ่งมีลักษณะคล้ายหอกของเธอไปที่ยัยแม่มดร้ายคนนั้นที่กำลังพรากตัวปีศาจของเธอไป !
"อะไรกัน ! บ....บินได้อย่างงั้นเหรอะ ! ฮึ่ยยย ! ตายยากจริงนะ !" ทว่าเมื่อซากุระมองไปยังปีกนกที่งอกออกมาจากแผ่นหลังของโรเซ่น ซึ่งดูงดงามราวกับนางฟ้า... เมื่อเธอเห็นดังนั้นแม่มดร้ายจึงถึงกับกัดฟันกรอดๆ ! พร้อมกับส่งสายตาอาฆาตออกมา !
"ฮึ่ยยย ! ไปตายซะ ! เอเลเมนท์แห่งความมืด ! เวทมนตร์คำสาป ! วงแหวนเวทย์อักขระมาร ! ย้าาากกกกก !" วงเวทย์สีแดงเลือดแห่งความเครียดแค้นปรากฏขึ้นมา ! อยู่ดีๆ ใบหน้าของซากุระก็มีอักขระโบราณพุ่งพล่านออกมา !
ผิวสีขาวนวลของแม่มดผมดำในตอนนี้เหมือนถูกขีดเขียนด้วยสัญลักษณ์อักขระที่มีลักษณะเป็นสีแดงเลือดเต็มตัวไปหมด !
ซากุระกรีดร้องออกมาด้วยเสียงของวิญญาณร้ายที่อยู่ภายในตัวของแม่มด ! เวทมนตร์คำสาปดึกดำบบรพ์เก่าแก่ที่ซากุระกำลังใช้อยู่ในตอนนี้... คือเวทมนตร์ที่จะคอยดูกลืนพลังเวทย์ของทุกๆสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในรัศมีของวงแหวนเวทย์ !
นับว่าเป็นเวทมนตร์โบราณที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น... ของตระกูลแม่มดนักล่าปีศาจโบราณ !
วินาทีนั้นเอง ปีกนางฟ้าสีม่วงอ่อนของโรเซ่นก็สลายหายไปกลายเป็นเพียงแค่ขนนก ! หอกร่มในมือของเธอจู่ๆก็แตกสลายหายไป ! เนื่องจากถูกดูดพลังเวทย์ !
"ม...ไม่จริง ! ไม้คถาของข้า !" สาวน้อยถึงกับลำพึงออกมาด้วยน้ำเสียงของคนที่กำลังเจอในสิ่งที่ไม่คาดฝัน !
"เธอน่ะ... จงล่วงหายไปซะ !"
ผลัก ! ซากุระที่ในตอนนี้นัยน์ตาของเธอมีสีแดงก่ำกำลังโชดช่วง ! เธอเดินเข้าไปพร้อมกับใช้ดาบสายฟ้าดลบันดาลฟ้าผ่าให้ลงมาจากท้องนภาลัย ! เปรี๊ยง !สายฟ้าฟาดพุ่งเข้าใส่ตัวของโรเซ่น ! เมื่อนั้นเอง... ร่างของแม่มดน้อยจึงมอดไหม้ ! ควันสีดำลอยออกมาจากภายในร่างของเธอ !
ดวงตาของเธอยังคงเบิกค้าง ! และแล้ว... ขนของอีกาก็ปลิวไสวลอยไปทั่วท้องฟ้า... ก่อนที่จะค่อยๆล่วงหล่นลงมา !
ร่างของแม่มดสาว ค่อยๆลอยดิ่ง... ล่วงลงมาจากฟากฟ้า
แม่มดร้ายผู้มีนัยน์ตาสีแดง ผมสีดำ ยืนนิ่งอยู่บนเศียรของราชางูยักษ์ทมิฬ ได้แต่มองร่างที่กำลังล่วงโรยลงไปสู่ความตายของศัตรู...
เธอมองร่างของโรเซ่นที่กำลังล่วงหล่นลงไปด้วยแววตาของผู้ชนะ...
แขนข้างขวาของโรเซ่นยังคงกางออกดูเหมือนกำลังจะพยายามเอื้อมไปคว้าอะไรบางอย่าง...
แต่ถึงอย่างนั้น... ณ วินาทีนี้... ดวงตาของเธอค่อยๆปิดลง...
ท้องฟ้าที่อยู่บนหน้าของเธอค่อยๆกลายเป็นสีดำ...
เมื่อนั้น... แววตาของสาวน้อยในตอนนี้ก็มองไม่เห็นอะไรอีกต่อไปแล้ว...
ท้ายที่สุดร่างของเธอก็ค่อยๆล่วงลงดิ่งพสุธา...
ขนอีกาสีดำปลิวไสวลอยว่อนไปทั่วท้องฟ้า...
และแล้วร่างของเธอก็กำลังล่วงลงสู้พื้นดิน ราวกับเป็นร่างของนางฟ้าตกสวรรค์...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ฉึก !! {END Chapter} -------------------------------------------------------------------
|
|
|
Post by GreyTear on Oct 12, 2017 17:13:38 GMT
Previously On RM@S...
Red night broken wings... การแข่งขัน Unit King ดำเนินมาถึงจุดแตกหัก ! เมื่อยูนิตสภานักเรียนหรือยูนิต-18 ได้คว้าศาสตราวุธแห่งเทพมาไว้ในกำมือถึง 2 ชิ้น ! พูดได้เลยว่าพวกเขากุมความได้เปรียบเหนือยูนิตอื่นๆชนิดที่เรียกว่าทำแต้มทิ้งห่างแทบขาดลอย... บนการต่อสู้เหนือน่านฟ้ายามราตรี 'ซากุระ คามิกิ' ได้ใช้คำสาปแม่มดโบราณของเธอเด็ดปีกนางฟ้าของ 'โรเซ่น ซาลินเบิร์ก' ให้ล่วงลงสู่ผืนพสุธา...
ในขณะเดียวกัน... ลูกครึ่งปีศาจ 'ซูซาโนะ โอนิมารุ' ก็เหมือนจะถูกความหลังอันแสนทุรนทุรายปลุกจิตวิญญาณดิบอันเปี่ยมไปด้วยความโหดร้ายให้คลั่งออกมา... และดูเหมือนว่าเขา... จะควบคุมตนเองไม่ได้... ความหลังของเขา... แม่มดผู้ถูกจอมมารกลืนกินวิญญาณ... แม่ของเขา...
เรื่องราวจะไปเป็นยังไงต่อไป... 'เทเรเซีย เอลฟรอนด์' ลีดเดอร์แห่งยูนิต-14 เหมือนจะมองเห็นประกายแสงบางอย่างอยู่ท่ามกลางท้องนภา... เธอกับมิตรสหายของเธอกำลังเดินหน้าเพื่อที่จะมุ่งไป... เช่นเดียวกันกับ 'จิโดโตะ โทรสไตร์ป' ลีดเดอร์แห่งยูนิต-7 ชายผู้เคยทอดทิ้งพวกพ้องคนนี้... จะสามารถนำทีมของตัวเองตีโต้กลับมาได้หรือไม่ ! หรือชัยชนะจะตกเป็นของพวกเหล่าสภานักเรียนผู้ชั่วร้าย !
Facing... HELL !
'ริเอะ' 'มาจิ' และ 'เจมส์ ฟาน เดรอน' หรือเรียกรวมกันว่า 'ยูนิตเอ็กซ์' ระหว่างแยกตัวจากกัปตันจีโน่ โทรสไตร์ปที่ถูกโจรสลัดอวกาศลอบโจมตีและปล้นเรือ ซึ่งถึงตอนนี้ยานอวกาศลำนั้นก็ถูกตอร์ปิโดของเหล่าโจรสลัดฉีกจนเป็นธุลีอวกาศแล้ว... พวกเขาทั้ง 3 ก็ได้ถูกเรือสลัดอวกาศ 2 ลำพุ่งเข้ามาจู่โจมทั้งๆที่กำลังอยู่ใน <Porter-Drive> (เส้นทางการเดินทางข้ามอวกาศผ่านอุโมงค์ความเร็วแสง) และพลัดหลุดออกมาด้วยความเร็วอันมหาศาลก่อนที่จะพุ่งเข้าชนสถานีอวกาศลึกลับและแฉลบเข้าสู่โซนชั้นบรรยากาศ สุดท้ายก็จบด้วยการลงจอดอย่างไม่ค่อยนุ่มนวลเท่าไหร่นักบนดาวเคราะห์รกร้าง ไร้ซึ่งแสงสว่าง... ดาวเคราะห์แห่งความตาย...
เจมส์ที่กำลังอยู่ในบุคลิก 'ฟรานซิส' ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นขาหักแต่ก็ยังพยายามยื้อความเจ็บปวดและแบกร่างของตัวเองเพื่อร่วมเดินทางไปกับเพื่อนอีก 2 คนได้... พวกเขาทั้ง 3 ต้องหาทางออกจากนี้ ! เช่นเดียวกับพวกโจรสลัดอวกาศที่พลัดหลงเข้ามายังดาวนี้ด้วย ! และระหว่างนั้นเองพวกเขาก็ได้พบกับเหล่าฝูงปีศาจทหารม้าฮัสซาร์ ! และได้เกิดการปะทะกัน... การปะทะกันของทั้ง 2 ฝ่ายปลุกให้เทพพระเจ้าแห่งความตาย 'กาลาเวี่ยน' ตื่นขึ้นมา... เสียงก้องกังวาลอันน่าสะพรึงดังขึ้น !
พวกเขา... จะรอดกลับมาหรือไม่...
Where is him... ?
'เดอะเรียล์มมาสเตอร์' 'กัปตัน จิโนชิ จีโน่ โทรสไตร์ป' หายไปไหน !
เนื่องจากว่าร่างของเขาน่าจะระเบิดกลายเป็นซากไปพร้อมๆกับยานท่องอวกาศของเขาแล้ว... แต่ทว่ากลับไม่มีใครพบเห็นศพของนินจาอวกาศผู้มากไปด้วยกลอุบายและวิชาลวงตา ชายผู้ที่มิว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็สามารถหลบหลีกและโกงความตายได้ทุกเมื่อ... ในคราวนี้ความภาคภูมิใจของตระกูลโทรสไตร์ปจะเอาตัวรอดจากพวกโจรสลัดที่นำทัพมาด้วย 'กัปตัน ลำปาง' ได้อย่างไร !
ชายหนุ่มจะงัดไม้ไหนออกมาเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากความตายกลับไปได้ ! ที่สำคัญ... ตอนนี้เค้าอยู่ไหนกัน ! ?
MA-Zhina is coming... Dark machine is coming... Black religion is coming...
มาซิน่ากำลังมา... พวกเหล่าเครื่องจักรกำลังคืบคลานเข้ามา... ศาสนาที่ชั่วร้ายกำลังใกล้เข้ามา...
RM@S_Chapter/11_is_coming_soo_n....
|
|