BATTLE OF GUNFICTION UNIVERSE!! (นิยายตลกดมกาว REBOOT!)
Jul 28, 2017 16:56:18 GMT
GreyTear likes this
Post by jussaateen on Jul 28, 2017 16:56:18 GMT
Date / Month / Years of Republic: XX/XX/XXXX
ดาวเคราะห์: ?
"ที่นี่สินะ... หามาโคตรนานเลย" เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาอย่างภาคภูมิก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะขบขันอันดีใจและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขถึงการค้นพบอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ของเขา
ชายคนนั้นค่อย ๆ ขยับชุดสูทสีดำของเขาก้าวเดินออกมาจากเงามืดและมาหยุดอยู่ที่เบื้องหน้าของหลุมศพอันเก่าแก่แห่งหนึ่ง เขายิ้มหัวเราะออกมาก่อนจะดึงบุหรี่ออกจากปากของเขาและเป่าลมควันออกมาในขณะที่จรดสายตาอ่านตัวอักษรบนโลงศพนี้
"หลุมศพของราชินีแห่งเอลลาส.." เขาอ่านมันขึ้นมาอย่างแผ่วเบาและติด ๆ ขัด ๆ เล็กน้อยราวกับกำลังแปลภาษานั้นอยู่ในหัวของเขา
"นาระ... เมอร์ซิอ้อส.." ดวงตาภายใต้หมวกสีดำของเขาสื่อแววตาของผู้ชนะ เมื่อนั้นเขาจัดการเปิดโลงศพนั้นขึ้นมาในทันที
ครืดดดด !!
"...." ชายคนนั้นเงียบลงไป รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มค่อย ๆ หายไปราวกับเขารู้สึกถึงบางอย่าง นอกจากตรงหน้าของเขานั้นจะไร้ซึ่งศพของหญิงสาวที่เขาคาดการณ์ไว้แต่มันกลับมีความรู้สึกเหมือนบางอย่างอยู่ด้านหลังเขา ก่อนที่เขาจะรีบคว้าตัวหันกลับมามองด้านหลังของเขาในทันทีพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งคว้าปืนออกจากกระเป๋ากางเกง
"หยุดอยู๋ตรงนั้นแหละ มิสเตอร์เฟียร์ .. ปาปืนลงและอย่าคิดตุกติกเชียวนะ" ชายผมสีแดงพูดขึ้นพร้อมกับถือไพ่จ่อไปที่ชายนามมิสเตอร์เฟียร์ก่อนที่มิสเตอร์เฟียร์จะได้ทันดึงกระบอกปืนออกจากกางเกงแล้วหันเข้าใส่ชายผมสีแดงด้วยซ้ำไป เมื่อมิสเตอร์เฟียร์ได้ยินดัวนั้นก็หัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะดึงมือออกจากกระเป๋ากางเกง
มิสเตอร์เฟียร์: ... (มองไปที่ไพ่บนมือชายผมสีแดง)
มิสเตอร์เฟียร์: ไอหนุ่ม แกจะใช้คิงโพแดงฆ่าฉันเหรอ ฮ่า ๆๆๆ
ชายผมสีแดงเมื่อได้ยินดังนั้นก็แสยะยิ้มออกมา เขาจัดการโยนไพ่ขึ้นมาอยู๋ในระดับสายตาเล็กน้อยในทันทีทันใดทั้งรอยยิ้มบนใบหน้าและสายตาจรดมองไปที่มิสเตอร์เฟียร์ราวกับมีแผนการอยู๋ในหัว ในขณะที่มิสเตอร์เฟียร์กำลังคิดคำนวญว่าชายตรงหน้าเขาคิดจะทำอะไร
ไพ่ค่อย ๆ ตกกลับลงมาที่มือของชายผมสีแดง ทันใดนั้นเองชั่วพริบตาเดียวชายผมสีแดงคว้าไพ่และสะบัดออก มันแปรเปลี่ยนกลายเป็นปืนสีแดงฉานพร้อมสัญลักษณ์ของไพ่ คิง ข้างกระบอกปืนอย่างสวยงาม
ชายผมสีแดง: ด้วยเจ้านี่ต่างหาก.. เอาล่ะ ค่อย ๆ หันกลังกลับไปเหมือนเดิม มือเหนือศรีษะและคุกเข่าลงซะถ้าไม่เป็นการรบกวน
มิสเตอร์เฟียร์: (มองกลับไปอย่างพินิจคิด) ... ถ้าไม่จะยิงเรอะ
ปังง !!
มิสเตอร์เฟียร์: อ้า !!! ไอ[BEEP] เอ้ย !!!
ชายผมสีแดง: เตือนแล้ว.. ทีนี้ก็คุกเข่าลงซะ !!
มิสเตอร์เฟียร์ถูกชายผมสีแดงยิงเข้าไปที่กลางตีน ทำให้มิสเตอร์เฟียร์สูญเสียการทรงตัวและสบถด่าออกมา โชคดีที่นิยายเรื่องนี้เหมาะกับทุกเพศทุกวัยจึงมีเซ็นเซอร์คำหยาบอัตโนมัตินั่นเอง !
มิสเตอร์เฟียร์หันกลับไปและคุกเข่าลงพร้อมมือกุมศรีษะ เมื่อชายผมสีแดงเห็นดังนั้นก็จัดการจ่อปืนไปที่หลังหัวของมิสเตอร์เฟียร์และลั่นวาจาต่อในทันที
"ทีนี้ นายจะต้องส่งอัญมณีนั่นให้ฉัน" ชายผมสีแดงลั่นวาจาขึ้น มิสเตอร์เฟียร์ที่ได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นกวนตีนออกมา
มิสเตอร์เฟียร์: มือเหนือหัวจะหยิบอัญมณีของแกยังไงเหรอครับ ขอถามได้มั้ย?
ชายผมสีแดง: ... เออ จริงของแก บอกฉันมา มันอยู่ตรงไหน
มิสเตอร์เฟียร์: ในตูดของฉันเองน่ะ ลองค้นดูสิ
ป่าปป !!
ชายผมสีแดง: จริงจังหน่อย จริงจังหน่อย !!
มิสเตอร์เฟียร์ที่โดนกระบอกปืนตบหน้าคว่ำเหมือนหมาไป ก็ร้องแอ๋ง ๆ เบาเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ชี้นิ้วลงไปที่กระเป๋ากางเกงด้านซ้ายของเขาแล้วคว้ามือกลับขึ้นมาเหนือศรีษะดังเดิม ชายผมสีแดงที่ได้ยินดังนั้นก็รีบก้มลงไปค้นหาอัญมณีที่ว่านั่นในทันที
ชายผมสีแดง: ... ได้ละ
ชายผมสีแดงลุกขึ้นมาดังเดิม พร้อมมือข้างหนึ่งถืออัญมณีสีส้มนภายามรุ่งสาง เมื่อเขาลุกขึ้นยืนสุดตัวแล้วก็ค่อย ๆ ก้าวขาถอยออกมาในทันทีทันใด ส่วนมิสเตอร์เฟียร์ยังคงคุกเข่าแบะยกมือเหนือหัวอยู่ในท่าเดิม
ชายผมสีแดง: ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ
มิสเตอร์เฟียร์: ฉันไม่รู้หรอกนะว่าแกเป็นใคร ไอหนุ่ม.. แต่ฉันจะตามหาแก.. และฆ่าแกทิ้งซะ
ชายผมสีแดง: ...
"Good luck"
เมื่อสิ้นวาจา ชายผมสีแดงรีบวิ่งหนีออกไปในทันที ทว่าทันใดนั้นเองมิสเตอร์เฟียร์ดึงกระบอกปืนพลาสม่าขึ้นมาโดยไม่ลังเลและหันไปยิงใส่ชายผมสีแดงในทันที
ปังงง !! ปังงงง !!!
กระสุนปืนเข้าเฉี่ยวกับผนังกำแพง แต่ไม่โดนชายผมสีแดงที่วิ่งหนีไปได้ทัน เมื่อนั้นมิสเตอร์เฟียร์จัดการดึงวิทยุติดต่อสื่อสารขึ้นมาและแจ้งหาคนของเขาในทันที
"พวกแก ได้ยินฉันมั้ย !? มีชายผมสีแดงหนีออกไปได้พร้อมอัญมณี และ-"
"ช้าไปค่ะ" เสียงของหญิงสาวที่เขาไม่รู้จักตอบกลับไปแทน ทันใดนั้นมิสเตอร์เฟียร์กัดฟันของเขาด้วยความเกรี้ยวโกรธในทันที ก่อนจะโยนวิทยุทิ้งไปในทันทีทันใด
"[BEEP]เอ้ย !!!" มิสเตอร์เฟียร์สบถขึ้นมา ทว่าทันใดนั้นเองมิสเตอร์เฟียร์ได้ยินเสียงบางอย่างเคลื่อนไหวด้านหลังเขา
"... แกคือ?" มิสเตอร์เฟียร์ที่เมื่อหันมาด้านหลังถึงกับต้องตกตะลึง
มันเป็นภาพของตัวเขาเองยืนยิ้มอยู่อย่างทะเล้ทะลั่นเยี่ยงคนเสียสติ สายตาจรดมองมาหาตัวเขาเองอย่างน่าหวาดกลัว
"ข้าคือผู้สร้างของเจ้า" เขาพูดขึ้นมาแก่มิสเตอร์เฟียร์
มิสเตอร์เฟียร์: ... wut?
"ข้าคือจัซซาตีน ผู้สร้างของเจ้า จูเลียส อัล์สเตอร์ และข้ามีข้อเสนอมายื่นให้เจ้า"
ควั่บ
ชั่วพริบตาเดียว ทันใดนั้นเองรอบตัวของมิสเตอร์เฟียร์และชายที่เรียกตนเองว่าจัซซาตีนก็กลายเป็นความว่างเปล่าสีขาวโพลน เมื่อมิสเตอร์เฟียร์เห็นดังนั้นก็เป็นอันต้องตกใจในทันทีทันใด ในขณะที่จัซซาตีนยังคงยืนนิ่งราวกับมันมิได้พิเศษหรือประหลาดตาเลยสำหรับเขา
"ก.. เกิดอะไรขึ้น?-"
"ข้าเป็นดังพระเจ้าในโลกแห่งนี้ เพราะข้ากุมพลังที่สามารถควบคุมพลังอันทรงพลังที่สุดขนานนามว่า 'การบิดเบือนพล็อต' ได้" จัซซาตีนลั่นวาจาขึ้นพร้อมมือข้างหนึ่งถือถุงกาวขึ้นมาอย่างเด่นชัดทำให้มิสเตอร์เฟียร์ต้องเอะใจเบา ๆ
"ด้วยพลังนี้ข้าสามารถเปิดช่องว่างระหว่างพล็อตและสร้างสิ่งใดก็ได้ขึ้นมาโดยไร้หลักการ.. นี่คือพลังของข้า และบังเอิญข้าก็กำลัง.."
"บ.. เบื่อก็ไม่ใช่ว่ะ.. ต้องเรียกว่าอินดี้.. ตอนนี้ข้ากำลังอินดี้อยู่พอดีจึงต้องการจะยื่นข้อเสนอบางอย่างให้เจ้า
มิสเตอร์เฟียร์: ข-.. ข้อเสนอ เหรอ ?
"ใช่แล้ว จูเลียสของข้า.. ข้าจะเปิดช่องว่างระหว่างพล็อตให้กับเจ้า.. ให้เจ้าได้ไปร่วมหาพลพันธมิตรเป็นหนึ่งและโจมีพวกจักรวรรดิเยี่ยว ยูเรีย จูเรียนั่นซะ !"
มิสเตอร์เฟียร์ยังคงฟังอย่างจดจ่อ
"สถานที่แรกที่เจ้าจะได้ไป.. คือแดนแห่งแวมไพร์"
"ที่นั้นนั้น เจ้าต้องระวังตัว เพราะผู้ถือพลังแห่งพล็อตในโลกนั้น มีนามว่า นาระลาสท์เทียร์ .. และยังมีผู้ช่วยนาม คาตาวาระ โดกิ อีกด้วย"จัซซาตีนอธิบายความอันตรายของแผนการนั้น
มิสเตอร์เฟียร์: จะให้ผมไปตามหาใครล่ะ?
เมื่อจัซซาตีนได้ยินคำถามนั้นเขาก็มองกลับไปที่มิสเตอร์เฟียร์ด้วยสายตาอันเต็มไปด้วยความสนุก
"พวกเนเวียธาน.. เจ้าต้องสนุกมากแน่"
ริเอะ: แล้วนี่.. นี่น่ะเหรอ คือสิ่งที่พวกเราวุ่นตามหามาทั้งวันน่ะ
มาจิ (ชายผมสีแดง): ใช่.. จากที่เจ้าทอมมี่ดักฟังแกะสัญญาณมา.. เนี่ยน่ะแหละ สิ่งที่สามารถหยุดสงครามของพวกเราได้
ฟรานซิส: หมายถึงซากโคตรงกระดูกเก่า ๆ กับอัญมณีอะไรก็ไม่รู้เนี่ยอ่ะนะ !?
ริเอะ: แล้วต้องทำยังไงกับมันล่ะ ?
มาจิ: ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน มีไอเดียมั้ย ฟรานซิส?
ฟรานซิส: คิดว่ามี..
มาจิ: นายมีเหรอ ฟรานซิส !!??
ทอมมี่: ทอมมี่ ไอ[BEEP] !!!
ทอมมี่ ริเอะ และมาจิ สามคนกำลังวุ่นอยู่กับการพยายามถกเถียงถึงสิ่งลึกลับโบราญตรงหน้าของพวกเขา ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลยแม้แต่น้อย เมื่อนั้นตัวทอมมี่ค่อย ๆ ก้าวออกมาและจัดการคว้าอัญมณีขึ้นมาอย่างเบา ๆ พร้อมกับพยายามพินิจอ่านดูว่าอะไรมีอะไรอยู่ภายในอัญมณีนั้นมั้ย
ทอมมี่: ดูจะเป็นภาษาโบราญ.. โบราญมากเลยล่ะ
มาจิ: พอจะอ่านได้มั้ย ?
ทอมมี่: คิดว่าได้ .. ถ้าไม่ได้ก็นำกลับไปให้อาจารย์ใหญ่ช่วยแปลก็ได้ น่าจะมีในฐานข้อมูลอยู่หน่อยนึงแหละ
"ฝากด้วยนะ ทอมมี่ ความหวังอยู่ที่นายแล้ว"
มาจิพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เชื่อมั่นในทอมมี่ เพื่อนชายของเขาพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้สื่อแววมอบกำลังใจ ในขณะที่ริเอะกอดอกยืนมองอยู่ข้าง ๆ พร้อมสีหน้าที่กำลังคิดแปลก ๆ ถึงวาจานั้น ว่ามันแอบสื่ออะไรแอบแฝงรึเปล่า ซึ่งจริง ๆ ก็คงไม่ได้สื่ออะไร นางคงจะเมากาวมาไปเองนั่นแหละ ไม่ก็คนเขียนบทเมากาว เอาป็นว่าข้าม ๆ ไป ไอหำ
"อ่า" ทอมมี่อ้าปากตอบกลับไปแต่มิได้หันมามอง เขากำลังพยายามเพ่งสมาธิมองดูอัญมณีนั้นเมื่อเขาจับจังหวะได้แล้วว่ามันมีตัวอักษรเขียนอยู๋
"ถ้าให้ผมเดา มันก็จะอ่านว่า.."
"หยดน้ำตาสุดท้าย.." ทอมมี่พูดขึ้นมา ทว่าเมื่อเขาอ่านออกแล้วมันกลับตึงเครียดกว่าเดิมเนื่องจากคำว่า หยดน้ำตาสุดท้ายนั้นจะหมายความเช่นไรกัน?
"หรือว่า !?" ริเอะที่นึกขึ้นได้จึงจัดการรีบดึงอัญมณีนั้นออกจากมือของทอมมี่อย่างรวดเร็ว
"เฮ้! คิดจะทำอะไรของเธอ ริเอะ!" ทอมมี่หันมาตะคอกถาม
ริเอะจัดการใช้ปืนของนางเล็งไปที่อัญมณีนั้นและจัดการลั่นไกโดยไม่ลังเล
ปังงง !!!
"\(O.O)/" ทอมมี่ถึงกับยกมือขึ้นมาในทันทีทันใด
"เอิ่ม.. ริเอะ?" มาจิถามขึ้นมาด้วยความงุนงงถึงกิริยาของนาง
อัญมณีนั้นแตกออกเป็นรอยร้าว เมื่อนั้นเองก็มีของเหลวบางอย่างค่อย ๆ ไหลออกจากรอยร้าวนั้น ริเอะจึงรีบดึงอัญมณีนั้นมาและยกมันเหนือศพโบราญที่พวกเขาขโมยมาก่อนหน้านี้มาไว้ในยานของพวกเขา ณ ตรงนี้ภายในห้องแล็ป อย่าถามทำไมพึ่งบอกเชียวนะ!
หยดของเหลวค่อย ๆ ตกลงไปยังร่างของศพนั้น และหยดลงไปเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ..
ร่างกายเริ่มขยับ !!
"อะไรน่ะ !!??" มาจิถึงกับล้มลงไปเลย
"เป็นไปได้ !!!?"
ศพตัวนั้นวิ่งเข้าไปดึงอัญมณีออกจากมือของริเอะในทันทีทันใด
"กรี๊ด !!" ริเอะกรี๊ดลั่นด้วยความตกใจ มาจิรีบวิ่งเข้าไปบังริเอะในทันทีทันใด ในขณะที่ศพหญิงสาวคนนั้นค่อย ๆ คลานหนีออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับโอบกอดอัญมณีนั้นเอาไว้กับตัวของนาง
ร่างกายของศพที่เหี่ยวย่นเริ่มค่อย ๆ แปรเปลี่ยน มันค่อย ๆ พัฒนให้กลายเป็นผิวหนังมีชีวิตของมนุษย์ดังเดิม สีผิวสีขาวสะอาด ผมสีดำผสมหงอกสีขาวค่อย ๆ กลายเป็นผมสีบลอนด์ ดวงตาทั้งสองข้างของนางค่อย ๆ แปรเปลี่ยนกลับมาเป็นปกติ ร่างกายค่อย ๆ กลับมาดูเป็นเด็กในขณะที่มาจิ ริเอะ และทอมมี่ยังคงยืนตะลึงตกใจอยู่ถึงภาพที่พวกตนเห็น
"มันเป็นไปได้ยังไงวะน่ะ.. ศพมนุษย์นับแสนปีกลับมาเป็นสาว.."
หญิงสาวคนนั้นร่างเปลือย ตัวนางสั่นไปทั้งตัว พร้อมดวงตาสีฟ้ามองตรงไปที่พวกมาจิ
"หน-.. หนาว" นางพูดขึ้น เมื่อนั้นมาจิดึงสรับไพ่ของเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนเขาจะยังมองหญิงสาวปริศนาคนนรี้ที่จู่ ๆ ก็โชว์อภินิหารขึ้นมาให้เห็นว่าเป็นภัยอันตรายอยู่
"มาจิ ทำบ้าอะไรน่ะ !"
"เพื่อความปลอดภัยไง !!" มาจิตะโกนแย้งกลับ
"นางเป็นแค่เด็กนะ !!" ริเอะพูดเสียงดังขึ้นเตือนสติมาจิ
"อ-.. เอลลาสล่ะ.." จู๋ ๆ หญิงสาวก็พูดกับตนเองขึ้นมาในขณะที่นางขยับสายตามองไปรอบ ๆ
"เอลลาสของข้าล่ะ !?" น้ำตาเริ่มผุดออกมาจากดวงตาทั้งสองของหญิงสาวคนนี้
"อ-.. เอลลาสเหรอ.. อย่าบอกนะว่ามันมีจริง" ทอมมี่ที่ได้ยินชื่อของเอลลาสก็ถึงกับตกใจขึ้นมาในทันที เมื่อนั้นมาจิ และริเอะก็ขยับสายตาหันมามองทอมมี่ในทันที
"นายต้องเริ่มอธิบายเหมือนในหนังให้เราฟังแล้วล่ะ" มาจิลั่นวาจาขึ้น
"อืม" ริเอะเห็นตาม
"พวกนายไม่เคยอ่านเหรอ ? ฝ่ามิติสู่แดนแฟนตาซีนั่นน่ะ ?"
มาจิ & ริเอะ: yes
"เอาเป็นว่ามันยาวมากอ่ะ คลิกกูแล้วลองอ่านดูละกัน"
"แล้วสรุป.. เอลลาสมีอยู่จริงหรือ..?" ทอมมี่ถามขึ้นมาแก่หญิงสาวคนนั้น
เมื่อหญิงสาวผมสีบลอนด์ได้ยินดังนั้นก็มองไปที่ทอมมี่ในทันทีทันใด แววตาดูกำลังครุ่นสงสัยว่าคนตรงหน้านางเหล่านี้คือผู้ใคจากแห่งใด
"มีสิ..-"
"อ๊าาก !!!" จู่ ๆ หญิงสาวก็ร้องลั่นออกมาก่อนที่ตัวของนางจะสั่นไปทั่วเช่นเดียวกับยานอวกาศยานนี้ ตัวยานสั่นครอนไปทั่วอย่างไร้สาเหตุ ตอนนี้เครื่องก็ไม่ได้บินอยู๋หรืออะไร แต่กำลังหลบซ่อนภายในสักบริเวญแห่งดาวนี้ หากจะบอกว่ามีแผ่นดินไหวก็คงไม่ใช่
"เกิดอะไรขึ้น !"
"ริเอะ !! ไปเช็คดูซิ !!" มาจิลั่นวาจาขึ้น
"โอเค-!!.. อะไรน่ะ" ริเอะที่กำลังจะวิ่งออกไปที่ห้องอื่นเห็นร่างของหญิงสาวคนนั้นลอยขึ้นกลางอากาศ
"ข้าคือ นาระลาสท์เทียร์ !!!" เสียงดุจปีศาจคำรามออกจากร่างของหญิงสาว เมื่อนั้นมาจิ ทอมมี่และริเอะก็ถูกซัดปลิวออกไปร่างติดอยู่ที่ผนังห้องทดลอง
จู่ ๆ ทั้งสามก็กลับมายืนในท่าปกติแต่สถานที่กลับเปลี่ยนไป จากห้องแล็ปทดลองมันกลับแปรเปลี่ยนกลายเป็นกลางอากาศ บนนภาเหนือเมืองขนาดใหญ่อันสวยงาม โดยนอกเหนือจากพวกเขาสามคนก็ยังมีหญิงสาวผมสีบลอนด์คนนั้นยืนอยู่เช่นกัน
"ในที่สุด ! ... ข้าก็สามารถควบคุมร่างนี้อีกครั้งได้เสียที.. ขอบใจพวกเจ้ามาก !!" หญิงสาวคนนั้นพูดขึ้น เสียงยังคงประหลาดไม่เข้ากับหน้าตาของหญิงสาวน่ารัก ๆ เช่นเคย
ทอมมี่: [BEEP]ไรวะ !!
มาจิ: กลับมาแล้วเหรอ ฟรานซิส !?
ฟรานซิส: เออ ดิ[BEEP] !!
"เอาล่ะ ๆ ไหน ๆ ข้าก็ได้ร่างกลับคืนแล้วมายืนอยู๋ต่อหน้าพวกเจ้าแล้ว.. ข้าก็ขอพูดอะไรหน่อยแล้วกัน.."
นาระลาสท์เทียร์ (พูดกะมาจิ) : อย่างแรกเลยนะเว้ยย... โปรของมึงก็ไม่ดี รูปตัวละครมึงก็หายาก... แต่ที่มึงได้บทดีก็เพราะกูหาคนมาเป็นแฟนริเอะไม่ได้อีกแล้ว เรียกได้ว่ามึงมันหนูตกถังข้าวสาร
นาระลาสท์เทียร์ (พูดกะฟรานซิส) : มึงเป็นตัวละครที่โปรดีเกินไป ดีจนยาก ไว้กูแตกฉานก่อนแล้วเดี๋ยวบทจะเด่นเอง
นาระลาสท์เทียร์ (หันมามองริเอะ) : ส่วนมึงไว้ทีหลัง
ริเอะ & มาจิ & ฟรานซิส: ...
นาระลาสท์เทียร์: อ้อ ๆ ลืมแนะนำตัว.. ข้าคือผู้สร้างโลกแห่งนี้ด้วยพลังแห่งพล็อต.. ข้าคือนาระลาสท์เทียร์ ผู้ดูแลโลกแห่ง RE@LMMASTER..
นาระลาสท์เทียร์: ส่วนร่างนี้นั้นเป็นตัวตนเดิมที่ข้าเคยเป็นก่อนจะกลายมาเป็นพระเจ้า !! นี่คือตัวตนของมนุษย์ยุคโบราญในโลกเดิมนาม To The Ellas ที่เคยมีพระเจ้าชื่อจัซซาตีนอย่างไงล่ะ..
ริเอะ: .. อ่า.. ฮะ?
นาระลาสท์เทียร์: ข้าบอกได้เลยว่าโลกแห่งนี้นั้นกว้างใหญ่กว่าที่พวกเจ้าคิดไว้เยอะ.. เดี๋ยวข้าจะอธิบายให้ฟัง อะแฮ๋ม ! ..
ในจักรวาล Gunfiction แห่งนี้นั้น จะมีพระเจ้าอยู่ทั้งหมดทั้งสิ้น แปดองค์.. อย่างน้อยก็ที่ข้าได้เคยพบปะสัมพันธ์ด้วยแหละนะ..
โดยพระเจ้าทุก ๆคนนั้นจะได้รับพลังแห่งพล็อตในการสรรสร้างสิ่งมีชีวิต โลก และเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมา โดยปัจจุบันนั้นเท่าที่ข้าจะได้จะมีประมาณนี้
1. กูโดมานา โดยจักรวาลที่เขาสร้างนั้นคือ Amnesiac และ Chatroom .. ทว่าเขานั้นเป็นพระเจ้าที่ฟรีสไตลล์ย้ายจักรวาลไปทั่ว บ้างก็ Gunfiction แต่ส่วนมาก ผลานอันแข็งแกร่งของเขาอยู๋ในจักรวาล BWO..
2. เกรทบริเตน เขาได้สรรสร้างจักรวาลแห่งสงครามขึ้นมานั่นคือ Europe At War ซึ่งขอบอกเลยว่าสนุกมาก พวกเจ้าลองไปอ่านดูสิ..
3. คาซาโนวี่ เป็นพระเจ้าที่มีผู้ช่วยแห่งเอทีเอ็ม- หมายถึง เอทีเอ สร้างโลกแห่งซอมบี้ขึ้นมานั่นคือ Fear Evil นั่นเอง
4. เนเฟอร์พิโทว์ เขาได้สร้างอาณาจักรแฟนตาซีขนาดใหญ่พร้อมสเกลระดับพลการณ์นั่นคือ Cataclysm และ The Protonian นั่นเอง
5. คาตาวาเระ โดกิ เขาคือมิตรของข้าเอง เขาได้สรรสร้างจักรวาลแห่งแวมไพร์มาแล้วสองแห่ง นั่นคือ Resurrection of the Blood และ Lure ที่ข้าเป็นผู้ดูแลอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
6. อาคาซัน เขาคือผู้เต็มไปด้วยเปลวไฟอันร้อนฉาน สรรสร้างโลกแห่งฮีโร่อันสมบูรณ์แบบบกวาดรายได้ถล่มทลายไปด้วยเรื่อง Brave Corps! อันโด่งดัง
7. นาระลาสท์เทียร์ ข้าเอง.. ผู้สร้างโลกแห่งเรียล์ม โลกของพวกเจ้ายังไงล่ะ..
8. จัซซาตีน.. เขาถือกำเนิดขึ้นด้วยการทำลายจักรวาลอื่น ๆ ก่อนจะสร้างอาณาจักรของตนเองด้วย To The Ellas , The Blue Wyverns และ The Western Sinners นั่นเอง..
...
โดยข้าเรียกพวกเจ้ามาเพื่อการณ์เดียว.. พวกเรามีปัญหาบางอย่าง
"ปัญหา?" ฟรานซิสถามขึ้น
นาระลาสท์เทียร์: จัซซาตีนเกิดอินดี้ขึ้นมาจึงใช้พลังแห่งการบิดเบือนพล็อตบุกเข้าไปในจักรวาลอื่น ๆ ทำให้ทุก ๆ อย่างเกิดความยุ่งเหยิง.. ข้าจึงต้องรวมกำลังพลเรียกหาพี่น้องคนอื่น ๆ ให้ช่วยต่อสู้กับเขาให้ได้ !!
"อย่างไรล่ะ?" ริเอะถามขึ้นมา
นาระลาสท์เทียร์: แย่งชิงกาวจากจัซซาตีน ! เมื่อนั้นเราก็สามารถเอาชนะได้.. ทว่าในตอนนี้จัซซาตีนได้เกรทบริเตนที่มีพลังในการรบสูงไปเป็นพวกไปแล้ว.. คนอื่น ๆ ก็ยังไม่รู้ทราบข่าวเรื่องนี้ มีเพียงข้าเท่านั้นที่รู้ถึงการกบฏในครั้งนี้ ข้าจึงต้องหยุดจัซซาตีนซะ !!!
"แล้วเจ้าจะหยุดเขายังไงล่ะ ? ในเมื่อแย่งกาวมันไม่ง่ายน่ะ !?"
นาระลาสท์เทียร์: มันเพราะข้าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของนิยายเรื่องอื่นได้เฉกเช่นจัซซาตีน.. แต่ข้าสามารถส่งพวกเจ้าไปยังนิยายเรื่องอื่นแล้วติดต่อหาผู้สร้างโลกนั้นได้..
"พวกเจ้าจะส่งพวกเราไปเหรอ !!?? โลกอื่นน่ะ !!!??" มาจิลั่นวาจาขึ้นด้วยความตกใจ
นาระลาสท์เทียร์: ใช่แล้วล่ะ.. และตัวนาระที่ข้าสิงอยู่ก็จะไปกับพวกเจ้าด้วย..
"โดยที่ ๆ แรกที่พวกเราจะไปนั่นก็คือ.."
"Brave Corps! ยังไงล่ะ !!"
__________
Written by: Jussaateen
Producer: Naralasttear
ใครสนใจช่วยแต่งเพิ่มพลังกาวลงไปในเรื่องสามารถ Message มาได้นะครับ เนื่องด้วยโปรเจคนี้นั้นไม่มีอะไรตายตัว และผมก็แต่งเฉพาะตอนอินดี้ ๆ ฉะนั้นใครอยากช่วยแต่งหรืออะไรก็จัดมาครับ
เนื้อเรื่องของนิยายเรื่องนี้นั้นมิใช่เนื้อเรื่องจริงของเรื่องทุกเรื่องที่อยู๋ในนิยายเรื่องนี้ หากเป็นเพียงปริมาณการใช้กาวที่มากเกินไปของผู้แต่ง โดยผู้แต่งไม่ต้องการที่จะมาดูถูก ด่านิยายเรื่องอื่นใดโดยการล้อเลียนในเรื่องนี้ แต่เป็นการโปรโมทนิยายและสื่ออธิบายเนื้อเรื่องแบบมั่ว ๆ ฮา ๆ ในมุมมองผู้แต่งเท่านั้น ไม่มีเจตนาจะดูถูกหรือทำลายชื่อเสียงแต่อย่างใด เอาเป็นว่าแต่งเอาเล่น ๆ ไม่ได้เอามาประจาน คิดซะว่าเป็นการโปรโมทกับการอ่านเพลิน ๆ ไปในตัวนะครับ อย่ากระทืบผมเลยนะ นะ ๆๆ
"ที่นี่สินะ... หามาโคตรนานเลย" เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาอย่างภาคภูมิก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะขบขันอันดีใจและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขถึงการค้นพบอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ของเขา
ชายคนนั้นค่อย ๆ ขยับชุดสูทสีดำของเขาก้าวเดินออกมาจากเงามืดและมาหยุดอยู่ที่เบื้องหน้าของหลุมศพอันเก่าแก่แห่งหนึ่ง เขายิ้มหัวเราะออกมาก่อนจะดึงบุหรี่ออกจากปากของเขาและเป่าลมควันออกมาในขณะที่จรดสายตาอ่านตัวอักษรบนโลงศพนี้
"หลุมศพของราชินีแห่งเอลลาส.." เขาอ่านมันขึ้นมาอย่างแผ่วเบาและติด ๆ ขัด ๆ เล็กน้อยราวกับกำลังแปลภาษานั้นอยู่ในหัวของเขา
"นาระ... เมอร์ซิอ้อส.." ดวงตาภายใต้หมวกสีดำของเขาสื่อแววตาของผู้ชนะ เมื่อนั้นเขาจัดการเปิดโลงศพนั้นขึ้นมาในทันที
ครืดดดด !!
"...." ชายคนนั้นเงียบลงไป รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มค่อย ๆ หายไปราวกับเขารู้สึกถึงบางอย่าง นอกจากตรงหน้าของเขานั้นจะไร้ซึ่งศพของหญิงสาวที่เขาคาดการณ์ไว้แต่มันกลับมีความรู้สึกเหมือนบางอย่างอยู่ด้านหลังเขา ก่อนที่เขาจะรีบคว้าตัวหันกลับมามองด้านหลังของเขาในทันทีพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งคว้าปืนออกจากกระเป๋ากางเกง
"หยุดอยู๋ตรงนั้นแหละ มิสเตอร์เฟียร์ .. ปาปืนลงและอย่าคิดตุกติกเชียวนะ" ชายผมสีแดงพูดขึ้นพร้อมกับถือไพ่จ่อไปที่ชายนามมิสเตอร์เฟียร์ก่อนที่มิสเตอร์เฟียร์จะได้ทันดึงกระบอกปืนออกจากกางเกงแล้วหันเข้าใส่ชายผมสีแดงด้วยซ้ำไป เมื่อมิสเตอร์เฟียร์ได้ยินดัวนั้นก็หัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะดึงมือออกจากกระเป๋ากางเกง
มิสเตอร์เฟียร์: ... (มองไปที่ไพ่บนมือชายผมสีแดง)
มิสเตอร์เฟียร์: ไอหนุ่ม แกจะใช้คิงโพแดงฆ่าฉันเหรอ ฮ่า ๆๆๆ
ชายผมสีแดงเมื่อได้ยินดังนั้นก็แสยะยิ้มออกมา เขาจัดการโยนไพ่ขึ้นมาอยู๋ในระดับสายตาเล็กน้อยในทันทีทันใดทั้งรอยยิ้มบนใบหน้าและสายตาจรดมองไปที่มิสเตอร์เฟียร์ราวกับมีแผนการอยู๋ในหัว ในขณะที่มิสเตอร์เฟียร์กำลังคิดคำนวญว่าชายตรงหน้าเขาคิดจะทำอะไร
ไพ่ค่อย ๆ ตกกลับลงมาที่มือของชายผมสีแดง ทันใดนั้นเองชั่วพริบตาเดียวชายผมสีแดงคว้าไพ่และสะบัดออก มันแปรเปลี่ยนกลายเป็นปืนสีแดงฉานพร้อมสัญลักษณ์ของไพ่ คิง ข้างกระบอกปืนอย่างสวยงาม
ชายผมสีแดง: ด้วยเจ้านี่ต่างหาก.. เอาล่ะ ค่อย ๆ หันกลังกลับไปเหมือนเดิม มือเหนือศรีษะและคุกเข่าลงซะถ้าไม่เป็นการรบกวน
มิสเตอร์เฟียร์: (มองกลับไปอย่างพินิจคิด) ... ถ้าไม่จะยิงเรอะ
ปังง !!
มิสเตอร์เฟียร์: อ้า !!! ไอ[BEEP] เอ้ย !!!
ชายผมสีแดง: เตือนแล้ว.. ทีนี้ก็คุกเข่าลงซะ !!
มิสเตอร์เฟียร์ถูกชายผมสีแดงยิงเข้าไปที่กลางตีน ทำให้มิสเตอร์เฟียร์สูญเสียการทรงตัวและสบถด่าออกมา โชคดีที่นิยายเรื่องนี้เหมาะกับทุกเพศทุกวัยจึงมีเซ็นเซอร์คำหยาบอัตโนมัตินั่นเอง !
มิสเตอร์เฟียร์หันกลับไปและคุกเข่าลงพร้อมมือกุมศรีษะ เมื่อชายผมสีแดงเห็นดังนั้นก็จัดการจ่อปืนไปที่หลังหัวของมิสเตอร์เฟียร์และลั่นวาจาต่อในทันที
"ทีนี้ นายจะต้องส่งอัญมณีนั่นให้ฉัน" ชายผมสีแดงลั่นวาจาขึ้น มิสเตอร์เฟียร์ที่ได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นกวนตีนออกมา
มิสเตอร์เฟียร์: มือเหนือหัวจะหยิบอัญมณีของแกยังไงเหรอครับ ขอถามได้มั้ย?
ชายผมสีแดง: ... เออ จริงของแก บอกฉันมา มันอยู่ตรงไหน
มิสเตอร์เฟียร์: ในตูดของฉันเองน่ะ ลองค้นดูสิ
ป่าปป !!
ชายผมสีแดง: จริงจังหน่อย จริงจังหน่อย !!
มิสเตอร์เฟียร์ที่โดนกระบอกปืนตบหน้าคว่ำเหมือนหมาไป ก็ร้องแอ๋ง ๆ เบาเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ชี้นิ้วลงไปที่กระเป๋ากางเกงด้านซ้ายของเขาแล้วคว้ามือกลับขึ้นมาเหนือศรีษะดังเดิม ชายผมสีแดงที่ได้ยินดังนั้นก็รีบก้มลงไปค้นหาอัญมณีที่ว่านั่นในทันที
ชายผมสีแดง: ... ได้ละ
ชายผมสีแดงลุกขึ้นมาดังเดิม พร้อมมือข้างหนึ่งถืออัญมณีสีส้มนภายามรุ่งสาง เมื่อเขาลุกขึ้นยืนสุดตัวแล้วก็ค่อย ๆ ก้าวขาถอยออกมาในทันทีทันใด ส่วนมิสเตอร์เฟียร์ยังคงคุกเข่าแบะยกมือเหนือหัวอยู่ในท่าเดิม
ชายผมสีแดง: ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ
มิสเตอร์เฟียร์: ฉันไม่รู้หรอกนะว่าแกเป็นใคร ไอหนุ่ม.. แต่ฉันจะตามหาแก.. และฆ่าแกทิ้งซะ
ชายผมสีแดง: ...
"Good luck"
เมื่อสิ้นวาจา ชายผมสีแดงรีบวิ่งหนีออกไปในทันที ทว่าทันใดนั้นเองมิสเตอร์เฟียร์ดึงกระบอกปืนพลาสม่าขึ้นมาโดยไม่ลังเลและหันไปยิงใส่ชายผมสีแดงในทันที
ปังงง !! ปังงงง !!!
กระสุนปืนเข้าเฉี่ยวกับผนังกำแพง แต่ไม่โดนชายผมสีแดงที่วิ่งหนีไปได้ทัน เมื่อนั้นมิสเตอร์เฟียร์จัดการดึงวิทยุติดต่อสื่อสารขึ้นมาและแจ้งหาคนของเขาในทันที
"พวกแก ได้ยินฉันมั้ย !? มีชายผมสีแดงหนีออกไปได้พร้อมอัญมณี และ-"
"ช้าไปค่ะ" เสียงของหญิงสาวที่เขาไม่รู้จักตอบกลับไปแทน ทันใดนั้นมิสเตอร์เฟียร์กัดฟันของเขาด้วยความเกรี้ยวโกรธในทันที ก่อนจะโยนวิทยุทิ้งไปในทันทีทันใด
"[BEEP]เอ้ย !!!" มิสเตอร์เฟียร์สบถขึ้นมา ทว่าทันใดนั้นเองมิสเตอร์เฟียร์ได้ยินเสียงบางอย่างเคลื่อนไหวด้านหลังเขา
"... แกคือ?" มิสเตอร์เฟียร์ที่เมื่อหันมาด้านหลังถึงกับต้องตกตะลึง
มันเป็นภาพของตัวเขาเองยืนยิ้มอยู่อย่างทะเล้ทะลั่นเยี่ยงคนเสียสติ สายตาจรดมองมาหาตัวเขาเองอย่างน่าหวาดกลัว
"ข้าคือผู้สร้างของเจ้า" เขาพูดขึ้นมาแก่มิสเตอร์เฟียร์
มิสเตอร์เฟียร์: ... wut?
"ข้าคือจัซซาตีน ผู้สร้างของเจ้า จูเลียส อัล์สเตอร์ และข้ามีข้อเสนอมายื่นให้เจ้า"
ควั่บ
ชั่วพริบตาเดียว ทันใดนั้นเองรอบตัวของมิสเตอร์เฟียร์และชายที่เรียกตนเองว่าจัซซาตีนก็กลายเป็นความว่างเปล่าสีขาวโพลน เมื่อมิสเตอร์เฟียร์เห็นดังนั้นก็เป็นอันต้องตกใจในทันทีทันใด ในขณะที่จัซซาตีนยังคงยืนนิ่งราวกับมันมิได้พิเศษหรือประหลาดตาเลยสำหรับเขา
"ก.. เกิดอะไรขึ้น?-"
"ข้าเป็นดังพระเจ้าในโลกแห่งนี้ เพราะข้ากุมพลังที่สามารถควบคุมพลังอันทรงพลังที่สุดขนานนามว่า 'การบิดเบือนพล็อต' ได้" จัซซาตีนลั่นวาจาขึ้นพร้อมมือข้างหนึ่งถือถุงกาวขึ้นมาอย่างเด่นชัดทำให้มิสเตอร์เฟียร์ต้องเอะใจเบา ๆ
"ด้วยพลังนี้ข้าสามารถเปิดช่องว่างระหว่างพล็อตและสร้างสิ่งใดก็ได้ขึ้นมาโดยไร้หลักการ.. นี่คือพลังของข้า และบังเอิญข้าก็กำลัง.."
"บ.. เบื่อก็ไม่ใช่ว่ะ.. ต้องเรียกว่าอินดี้.. ตอนนี้ข้ากำลังอินดี้อยู่พอดีจึงต้องการจะยื่นข้อเสนอบางอย่างให้เจ้า
มิสเตอร์เฟียร์: ข-.. ข้อเสนอ เหรอ ?
"ใช่แล้ว จูเลียสของข้า.. ข้าจะเปิดช่องว่างระหว่างพล็อตให้กับเจ้า.. ให้เจ้าได้ไปร่วมหาพลพันธมิตรเป็นหนึ่งและโจมีพวกจักรวรรดิเยี่ยว ยูเรีย จูเรียนั่นซะ !"
มิสเตอร์เฟียร์ยังคงฟังอย่างจดจ่อ
"สถานที่แรกที่เจ้าจะได้ไป.. คือแดนแห่งแวมไพร์"
"ที่นั้นนั้น เจ้าต้องระวังตัว เพราะผู้ถือพลังแห่งพล็อตในโลกนั้น มีนามว่า นาระลาสท์เทียร์ .. และยังมีผู้ช่วยนาม คาตาวาระ โดกิ อีกด้วย"จัซซาตีนอธิบายความอันตรายของแผนการนั้น
มิสเตอร์เฟียร์: จะให้ผมไปตามหาใครล่ะ?
เมื่อจัซซาตีนได้ยินคำถามนั้นเขาก็มองกลับไปที่มิสเตอร์เฟียร์ด้วยสายตาอันเต็มไปด้วยความสนุก
"พวกเนเวียธาน.. เจ้าต้องสนุกมากแน่"
--------------------------------------------------------------
ริเอะ: แล้วนี่.. นี่น่ะเหรอ คือสิ่งที่พวกเราวุ่นตามหามาทั้งวันน่ะ
มาจิ (ชายผมสีแดง): ใช่.. จากที่เจ้าทอมมี่ดักฟังแกะสัญญาณมา.. เนี่ยน่ะแหละ สิ่งที่สามารถหยุดสงครามของพวกเราได้
ฟรานซิส: หมายถึงซากโคตรงกระดูกเก่า ๆ กับอัญมณีอะไรก็ไม่รู้เนี่ยอ่ะนะ !?
ริเอะ: แล้วต้องทำยังไงกับมันล่ะ ?
มาจิ: ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน มีไอเดียมั้ย ฟรานซิส?
ฟรานซิส: คิดว่ามี..
มาจิ: นายมีเหรอ ฟรานซิส !!??
ทอมมี่: ทอมมี่ ไอ[BEEP] !!!
ทอมมี่ ริเอะ และมาจิ สามคนกำลังวุ่นอยู่กับการพยายามถกเถียงถึงสิ่งลึกลับโบราญตรงหน้าของพวกเขา ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลยแม้แต่น้อย เมื่อนั้นตัวทอมมี่ค่อย ๆ ก้าวออกมาและจัดการคว้าอัญมณีขึ้นมาอย่างเบา ๆ พร้อมกับพยายามพินิจอ่านดูว่าอะไรมีอะไรอยู่ภายในอัญมณีนั้นมั้ย
ทอมมี่: ดูจะเป็นภาษาโบราญ.. โบราญมากเลยล่ะ
มาจิ: พอจะอ่านได้มั้ย ?
ทอมมี่: คิดว่าได้ .. ถ้าไม่ได้ก็นำกลับไปให้อาจารย์ใหญ่ช่วยแปลก็ได้ น่าจะมีในฐานข้อมูลอยู่หน่อยนึงแหละ
"ฝากด้วยนะ ทอมมี่ ความหวังอยู่ที่นายแล้ว"
มาจิพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เชื่อมั่นในทอมมี่ เพื่อนชายของเขาพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้สื่อแววมอบกำลังใจ ในขณะที่ริเอะกอดอกยืนมองอยู่ข้าง ๆ พร้อมสีหน้าที่กำลังคิดแปลก ๆ ถึงวาจานั้น ว่ามันแอบสื่ออะไรแอบแฝงรึเปล่า ซึ่งจริง ๆ ก็คงไม่ได้สื่ออะไร นางคงจะเมากาวมาไปเองนั่นแหละ ไม่ก็คนเขียนบทเมากาว เอาป็นว่าข้าม ๆ ไป ไอหำ
"อ่า" ทอมมี่อ้าปากตอบกลับไปแต่มิได้หันมามอง เขากำลังพยายามเพ่งสมาธิมองดูอัญมณีนั้นเมื่อเขาจับจังหวะได้แล้วว่ามันมีตัวอักษรเขียนอยู๋
"ถ้าให้ผมเดา มันก็จะอ่านว่า.."
"หยดน้ำตาสุดท้าย.." ทอมมี่พูดขึ้นมา ทว่าเมื่อเขาอ่านออกแล้วมันกลับตึงเครียดกว่าเดิมเนื่องจากคำว่า หยดน้ำตาสุดท้ายนั้นจะหมายความเช่นไรกัน?
"หรือว่า !?" ริเอะที่นึกขึ้นได้จึงจัดการรีบดึงอัญมณีนั้นออกจากมือของทอมมี่อย่างรวดเร็ว
"เฮ้! คิดจะทำอะไรของเธอ ริเอะ!" ทอมมี่หันมาตะคอกถาม
ริเอะจัดการใช้ปืนของนางเล็งไปที่อัญมณีนั้นและจัดการลั่นไกโดยไม่ลังเล
ปังงง !!!
"\(O.O)/" ทอมมี่ถึงกับยกมือขึ้นมาในทันทีทันใด
"เอิ่ม.. ริเอะ?" มาจิถามขึ้นมาด้วยความงุนงงถึงกิริยาของนาง
อัญมณีนั้นแตกออกเป็นรอยร้าว เมื่อนั้นเองก็มีของเหลวบางอย่างค่อย ๆ ไหลออกจากรอยร้าวนั้น ริเอะจึงรีบดึงอัญมณีนั้นมาและยกมันเหนือศพโบราญที่พวกเขาขโมยมาก่อนหน้านี้มาไว้ในยานของพวกเขา ณ ตรงนี้ภายในห้องแล็ป อย่าถามทำไมพึ่งบอกเชียวนะ!
หยดของเหลวค่อย ๆ ตกลงไปยังร่างของศพนั้น และหยดลงไปเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ..
ร่างกายเริ่มขยับ !!
"อะไรน่ะ !!??" มาจิถึงกับล้มลงไปเลย
"เป็นไปได้ !!!?"
ศพตัวนั้นวิ่งเข้าไปดึงอัญมณีออกจากมือของริเอะในทันทีทันใด
"กรี๊ด !!" ริเอะกรี๊ดลั่นด้วยความตกใจ มาจิรีบวิ่งเข้าไปบังริเอะในทันทีทันใด ในขณะที่ศพหญิงสาวคนนั้นค่อย ๆ คลานหนีออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับโอบกอดอัญมณีนั้นเอาไว้กับตัวของนาง
ร่างกายของศพที่เหี่ยวย่นเริ่มค่อย ๆ แปรเปลี่ยน มันค่อย ๆ พัฒนให้กลายเป็นผิวหนังมีชีวิตของมนุษย์ดังเดิม สีผิวสีขาวสะอาด ผมสีดำผสมหงอกสีขาวค่อย ๆ กลายเป็นผมสีบลอนด์ ดวงตาทั้งสองข้างของนางค่อย ๆ แปรเปลี่ยนกลับมาเป็นปกติ ร่างกายค่อย ๆ กลับมาดูเป็นเด็กในขณะที่มาจิ ริเอะ และทอมมี่ยังคงยืนตะลึงตกใจอยู่ถึงภาพที่พวกตนเห็น
"มันเป็นไปได้ยังไงวะน่ะ.. ศพมนุษย์นับแสนปีกลับมาเป็นสาว.."
หญิงสาวคนนั้นร่างเปลือย ตัวนางสั่นไปทั้งตัว พร้อมดวงตาสีฟ้ามองตรงไปที่พวกมาจิ
"หน-.. หนาว" นางพูดขึ้น เมื่อนั้นมาจิดึงสรับไพ่ของเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนเขาจะยังมองหญิงสาวปริศนาคนนรี้ที่จู่ ๆ ก็โชว์อภินิหารขึ้นมาให้เห็นว่าเป็นภัยอันตรายอยู่
"มาจิ ทำบ้าอะไรน่ะ !"
"เพื่อความปลอดภัยไง !!" มาจิตะโกนแย้งกลับ
"นางเป็นแค่เด็กนะ !!" ริเอะพูดเสียงดังขึ้นเตือนสติมาจิ
"อ-.. เอลลาสล่ะ.." จู๋ ๆ หญิงสาวก็พูดกับตนเองขึ้นมาในขณะที่นางขยับสายตามองไปรอบ ๆ
"เอลลาสของข้าล่ะ !?" น้ำตาเริ่มผุดออกมาจากดวงตาทั้งสองของหญิงสาวคนนี้
"อ-.. เอลลาสเหรอ.. อย่าบอกนะว่ามันมีจริง" ทอมมี่ที่ได้ยินชื่อของเอลลาสก็ถึงกับตกใจขึ้นมาในทันที เมื่อนั้นมาจิ และริเอะก็ขยับสายตาหันมามองทอมมี่ในทันที
"นายต้องเริ่มอธิบายเหมือนในหนังให้เราฟังแล้วล่ะ" มาจิลั่นวาจาขึ้น
"อืม" ริเอะเห็นตาม
"พวกนายไม่เคยอ่านเหรอ ? ฝ่ามิติสู่แดนแฟนตาซีนั่นน่ะ ?"
มาจิ & ริเอะ: yes
"เอาเป็นว่ามันยาวมากอ่ะ คลิกกูแล้วลองอ่านดูละกัน"
"แล้วสรุป.. เอลลาสมีอยู่จริงหรือ..?" ทอมมี่ถามขึ้นมาแก่หญิงสาวคนนั้น
เมื่อหญิงสาวผมสีบลอนด์ได้ยินดังนั้นก็มองไปที่ทอมมี่ในทันทีทันใด แววตาดูกำลังครุ่นสงสัยว่าคนตรงหน้านางเหล่านี้คือผู้ใคจากแห่งใด
"มีสิ..-"
"อ๊าาก !!!" จู่ ๆ หญิงสาวก็ร้องลั่นออกมาก่อนที่ตัวของนางจะสั่นไปทั่วเช่นเดียวกับยานอวกาศยานนี้ ตัวยานสั่นครอนไปทั่วอย่างไร้สาเหตุ ตอนนี้เครื่องก็ไม่ได้บินอยู๋หรืออะไร แต่กำลังหลบซ่อนภายในสักบริเวญแห่งดาวนี้ หากจะบอกว่ามีแผ่นดินไหวก็คงไม่ใช่
"เกิดอะไรขึ้น !"
"ริเอะ !! ไปเช็คดูซิ !!" มาจิลั่นวาจาขึ้น
"โอเค-!!.. อะไรน่ะ" ริเอะที่กำลังจะวิ่งออกไปที่ห้องอื่นเห็นร่างของหญิงสาวคนนั้นลอยขึ้นกลางอากาศ
"ข้าคือ นาระลาสท์เทียร์ !!!" เสียงดุจปีศาจคำรามออกจากร่างของหญิงสาว เมื่อนั้นมาจิ ทอมมี่และริเอะก็ถูกซัดปลิวออกไปร่างติดอยู่ที่ผนังห้องทดลอง
จู่ ๆ ทั้งสามก็กลับมายืนในท่าปกติแต่สถานที่กลับเปลี่ยนไป จากห้องแล็ปทดลองมันกลับแปรเปลี่ยนกลายเป็นกลางอากาศ บนนภาเหนือเมืองขนาดใหญ่อันสวยงาม โดยนอกเหนือจากพวกเขาสามคนก็ยังมีหญิงสาวผมสีบลอนด์คนนั้นยืนอยู่เช่นกัน
"ในที่สุด ! ... ข้าก็สามารถควบคุมร่างนี้อีกครั้งได้เสียที.. ขอบใจพวกเจ้ามาก !!" หญิงสาวคนนั้นพูดขึ้น เสียงยังคงประหลาดไม่เข้ากับหน้าตาของหญิงสาวน่ารัก ๆ เช่นเคย
ทอมมี่: [BEEP]ไรวะ !!
มาจิ: กลับมาแล้วเหรอ ฟรานซิส !?
ฟรานซิส: เออ ดิ[BEEP] !!
"เอาล่ะ ๆ ไหน ๆ ข้าก็ได้ร่างกลับคืนแล้วมายืนอยู๋ต่อหน้าพวกเจ้าแล้ว.. ข้าก็ขอพูดอะไรหน่อยแล้วกัน.."
นาระลาสท์เทียร์ (พูดกะมาจิ) : อย่างแรกเลยนะเว้ยย... โปรของมึงก็ไม่ดี รูปตัวละครมึงก็หายาก... แต่ที่มึงได้บทดีก็เพราะกูหาคนมาเป็นแฟนริเอะไม่ได้อีกแล้ว เรียกได้ว่ามึงมันหนูตกถังข้าวสาร
นาระลาสท์เทียร์ (พูดกะฟรานซิส) : มึงเป็นตัวละครที่โปรดีเกินไป ดีจนยาก ไว้กูแตกฉานก่อนแล้วเดี๋ยวบทจะเด่นเอง
นาระลาสท์เทียร์ (หันมามองริเอะ) : ส่วนมึงไว้ทีหลัง
ริเอะ & มาจิ & ฟรานซิส: ...
นาระลาสท์เทียร์: อ้อ ๆ ลืมแนะนำตัว.. ข้าคือผู้สร้างโลกแห่งนี้ด้วยพลังแห่งพล็อต.. ข้าคือนาระลาสท์เทียร์ ผู้ดูแลโลกแห่ง RE@LMMASTER..
นาระลาสท์เทียร์: ส่วนร่างนี้นั้นเป็นตัวตนเดิมที่ข้าเคยเป็นก่อนจะกลายมาเป็นพระเจ้า !! นี่คือตัวตนของมนุษย์ยุคโบราญในโลกเดิมนาม To The Ellas ที่เคยมีพระเจ้าชื่อจัซซาตีนอย่างไงล่ะ..
ริเอะ: .. อ่า.. ฮะ?
นาระลาสท์เทียร์: ข้าบอกได้เลยว่าโลกแห่งนี้นั้นกว้างใหญ่กว่าที่พวกเจ้าคิดไว้เยอะ.. เดี๋ยวข้าจะอธิบายให้ฟัง อะแฮ๋ม ! ..
ในจักรวาล Gunfiction แห่งนี้นั้น จะมีพระเจ้าอยู่ทั้งหมดทั้งสิ้น แปดองค์.. อย่างน้อยก็ที่ข้าได้เคยพบปะสัมพันธ์ด้วยแหละนะ..
โดยพระเจ้าทุก ๆคนนั้นจะได้รับพลังแห่งพล็อตในการสรรสร้างสิ่งมีชีวิต โลก และเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมา โดยปัจจุบันนั้นเท่าที่ข้าจะได้จะมีประมาณนี้
1. กูโดมานา โดยจักรวาลที่เขาสร้างนั้นคือ Amnesiac และ Chatroom .. ทว่าเขานั้นเป็นพระเจ้าที่ฟรีสไตลล์ย้ายจักรวาลไปทั่ว บ้างก็ Gunfiction แต่ส่วนมาก ผลานอันแข็งแกร่งของเขาอยู๋ในจักรวาล BWO..
2. เกรทบริเตน เขาได้สรรสร้างจักรวาลแห่งสงครามขึ้นมานั่นคือ Europe At War ซึ่งขอบอกเลยว่าสนุกมาก พวกเจ้าลองไปอ่านดูสิ..
3. คาซาโนวี่ เป็นพระเจ้าที่มีผู้ช่วยแห่งเอทีเอ็ม- หมายถึง เอทีเอ สร้างโลกแห่งซอมบี้ขึ้นมานั่นคือ Fear Evil นั่นเอง
4. เนเฟอร์พิโทว์ เขาได้สร้างอาณาจักรแฟนตาซีขนาดใหญ่พร้อมสเกลระดับพลการณ์นั่นคือ Cataclysm และ The Protonian นั่นเอง
5. คาตาวาเระ โดกิ เขาคือมิตรของข้าเอง เขาได้สรรสร้างจักรวาลแห่งแวมไพร์มาแล้วสองแห่ง นั่นคือ Resurrection of the Blood และ Lure ที่ข้าเป็นผู้ดูแลอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
6. อาคาซัน เขาคือผู้เต็มไปด้วยเปลวไฟอันร้อนฉาน สรรสร้างโลกแห่งฮีโร่อันสมบูรณ์แบบบกวาดรายได้ถล่มทลายไปด้วยเรื่อง Brave Corps! อันโด่งดัง
7. นาระลาสท์เทียร์ ข้าเอง.. ผู้สร้างโลกแห่งเรียล์ม โลกของพวกเจ้ายังไงล่ะ..
8. จัซซาตีน.. เขาถือกำเนิดขึ้นด้วยการทำลายจักรวาลอื่น ๆ ก่อนจะสร้างอาณาจักรของตนเองด้วย To The Ellas , The Blue Wyverns และ The Western Sinners นั่นเอง..
...
โดยข้าเรียกพวกเจ้ามาเพื่อการณ์เดียว.. พวกเรามีปัญหาบางอย่าง
"ปัญหา?" ฟรานซิสถามขึ้น
นาระลาสท์เทียร์: จัซซาตีนเกิดอินดี้ขึ้นมาจึงใช้พลังแห่งการบิดเบือนพล็อตบุกเข้าไปในจักรวาลอื่น ๆ ทำให้ทุก ๆ อย่างเกิดความยุ่งเหยิง.. ข้าจึงต้องรวมกำลังพลเรียกหาพี่น้องคนอื่น ๆ ให้ช่วยต่อสู้กับเขาให้ได้ !!
"อย่างไรล่ะ?" ริเอะถามขึ้นมา
นาระลาสท์เทียร์: แย่งชิงกาวจากจัซซาตีน ! เมื่อนั้นเราก็สามารถเอาชนะได้.. ทว่าในตอนนี้จัซซาตีนได้เกรทบริเตนที่มีพลังในการรบสูงไปเป็นพวกไปแล้ว.. คนอื่น ๆ ก็ยังไม่รู้ทราบข่าวเรื่องนี้ มีเพียงข้าเท่านั้นที่รู้ถึงการกบฏในครั้งนี้ ข้าจึงต้องหยุดจัซซาตีนซะ !!!
"แล้วเจ้าจะหยุดเขายังไงล่ะ ? ในเมื่อแย่งกาวมันไม่ง่ายน่ะ !?"
นาระลาสท์เทียร์: มันเพราะข้าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของนิยายเรื่องอื่นได้เฉกเช่นจัซซาตีน.. แต่ข้าสามารถส่งพวกเจ้าไปยังนิยายเรื่องอื่นแล้วติดต่อหาผู้สร้างโลกนั้นได้..
"พวกเจ้าจะส่งพวกเราไปเหรอ !!?? โลกอื่นน่ะ !!!??" มาจิลั่นวาจาขึ้นด้วยความตกใจ
นาระลาสท์เทียร์: ใช่แล้วล่ะ.. และตัวนาระที่ข้าสิงอยู่ก็จะไปกับพวกเจ้าด้วย..
"โดยที่ ๆ แรกที่พวกเราจะไปนั่นก็คือ.."
"Brave Corps! ยังไงล่ะ !!"
__________
Written by: Jussaateen
Producer: Naralasttear
ใครสนใจช่วยแต่งเพิ่มพลังกาวลงไปในเรื่องสามารถ Message มาได้นะครับ เนื่องด้วยโปรเจคนี้นั้นไม่มีอะไรตายตัว และผมก็แต่งเฉพาะตอนอินดี้ ๆ ฉะนั้นใครอยากช่วยแต่งหรืออะไรก็จัดมาครับ
เนื้อเรื่องของนิยายเรื่องนี้นั้นมิใช่เนื้อเรื่องจริงของเรื่องทุกเรื่องที่อยู๋ในนิยายเรื่องนี้ หากเป็นเพียงปริมาณการใช้กาวที่มากเกินไปของผู้แต่ง โดยผู้แต่งไม่ต้องการที่จะมาดูถูก ด่านิยายเรื่องอื่นใดโดยการล้อเลียนในเรื่องนี้ แต่เป็นการโปรโมทนิยายและสื่ออธิบายเนื้อเรื่องแบบมั่ว ๆ ฮา ๆ ในมุมมองผู้แต่งเท่านั้น ไม่มีเจตนาจะดูถูกหรือทำลายชื่อเสียงแต่อย่างใด เอาเป็นว่าแต่งเอาเล่น ๆ ไม่ได้เอามาประจาน คิดซะว่าเป็นการโปรโมทกับการอ่านเพลิน ๆ ไปในตัวนะครับ อย่ากระทืบผมเลยนะ นะ ๆๆ
- Jussaateen