Post by jussaateen on Jun 24, 2017 12:51:44 GMT
"กำลังตามศัตรูไป"
"ระวังตัวด้วย เดวิด"
"รับทราบ" ตัวเดวิดสนทนาผ่านวิทยุกับเจค็อบในขณะที่ตัวเขากำลังวิ่งผ่านเปลวเพลิงตรงต่อไปอย่างเงียบกริบไล่ตามหน่วยทหารอีเกิลไป
เจค็อบในขณะเดียวกันก็เล็งธนูของเขาไปที่ทหารท้ายกลุ่มที่วิ่งช้ากว่าทุก ๆ คน เขาจัดการยิงธนูตรงไปโดยไม่ลังเล ลูกศรปักเข้ากลางร่าง ร่างของทหารลูกศรทะลุอกจากด้านหลัง ล้มลงไปกับพื้นในทันทีและพยายามหายใจเพื่อเอาชีวิตตัวเองให้รอดตามสัญชาตญาณ ทว่าเพียงไม่กี่ลมหายใจ ทหารคนนั้นก็สิ้นใจลงไปในทันที โดยที่ทหารคนอื่น ๆ ช่วยอะไรไม่ได้เลย ทำได้แค่หาที่ตั้งหลักใหม่อีกครั้งจากห่ากระสุนและเดวิดที่พวกเขาไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ตรงไหน
"บ้าเอ้ย ! ไหนบอกว่ามีแต่อัศวินกับนักธนูวะ !" หนึ่งในหน่วยทหารตะโกนสบถขึ้นมาเมื่อเขาและคนอื่น ๆ หาที่หลบได้สำเร็จ เสียงของห่ากระสุนฟาดฟันลงมาจากยอดกำแพงหยุดลงไปเมื่อมองไม่เห็นเป้าหมายอีกต่อไป
"ตอนนี้ไม่มีเวลาบ่นอะไรแล้ว .. ปฏิบัติตตามแผนต่อไป" หัวหน้าหน่วยพูดขึ้นกับทหารคนนั้นก่อนที่ตัวเขาจะเล็งปืนไรเฟิลของเขาตรงเข้าไปที่ด้านขวาของเขาตามสัญชาตญาณและหูโสดประสาทที่ทำงานได้ดีของเขาและจัดการลั่นไกขึ้นมาโดยไม่คิดสิ่งใด
"ปิ้ว ! ปิ้ว !"
"ห ่าเอ้ย !" เดวิดสบถขึ้นมา เมื่อหัวหน้าหน่วยยิงถูกจุดที่เดวิดประจำตำแหน่งอยู่
"ตึบ ! ตึบ !" ตัวเดวิดวิ่งหลบเลี้ยวออกไป หัวหน่าหน่วยา่งสัญญาณมือให้สังหารเดวิดทิ้งหากทำได้ในทันทีที่พบเห็น เฉกเช่นปัจจุบัน
เดวิดจัดการจักปืนลูกโม่ของเขาขึ้นมาในขณะที่เขาวิ่งไปหลบหลังต้นไม้อีกครั้งเพื่อตั้งมาธิในขณะที่กระสุนยิงเฉี่ยวผ่านตัวเขาและต้นไม้ไป
"ปัง !" เดวิดหันกลับมาและยิงตรงเข้าไปด้านหน้าในทันที พร้อมใช้มือเนื้อหนังของเขาบังท้องของเอาไว้
"ตุบ !" กระสุนปืนเข้ากลางกระบานทหารไปหนึ่งคน คนของหน่วยอีเกิลลดลงไป
"เปรี้ยง !" เสียงของประกายไฟออกมาจากมือของเดวิดดังราวกับสายฟ้าผ่า ตัวเดวิดก็วิ่งหลบไปหาต้นไม้ฝั่งตรงข้ามอีกคราวหนึ่งเมื่อมือของเขาไปบังโดนกระสุนอีกทีโดยบังเอิญอีกคราวหนึ่ง
"หน่วยวัลเจอร์จะบุกเข้าไปแล้ว เปลี่ยน" เสียงของวิทยุดังติดต่อมาหาหัวหน้าหน่วยอีเกิลในขณะที่เสียงของกระสุนแม้จะติดกระบอกเก็บเสียงแต่ก็ดังกลบเสียงของวิทยุได้อยู่จากห่ากระสุนนับสิบที่พุ่งตรงไปมาเพื่อพยายามคร่าสังหารชายคนเดียวผู้มีพลังวิเศษ
"รับทราบ ทางเราจะถ่วงเวลากำแพงด้านนี้เอง" หัวหน้าหน่วยอีเกิลติดต่อกลับไปก่อนจะจัดการหันหน้ากลับมาตามทางที่ทหารคนอื่น ๆ กำลังสาดกระสุนใส่อยู่ขึ้น
"หยุดยิง รอเป้าหมายเคลื่อนไหว"
หัวหน่วยหน่วยพูดสั่งการเบา ๆ เมื่อนั้นทหารคนอื่น ๆ ก็หยุดยิงตามคำสั่งและหลบหลังต้นไม้ ก้อนหินตามบริเวญป่าใกล้ ๆ กำแพง จากก่อนหน้านี้ที่เต็มไปด้วยเสียงกระสุนปืนแล่นผ่านหูกลับเงียบกริบมีเพียงเสียงของลมที่ปลิวสะบัดพัดผ่านบรรยากาศอันตึงเครียดในยามราตรี ตัวเดวิดที่จับผิดสังเกตุรอการเคลื่อนไหวมาหลายนาที จึงนึกขึ้นได้แล้วก็คว้าวิทยุของเขาขึ้นมาติดต่อกลับไปให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขณะที่มืออีกข้างกำลังนับกระสุนปืนอยู่
"ศัตรูฝั่งนี้หยุดยิงรอการเคลื่อนไหวของผมอยู่"
"อาจจะเป็นการถ่วงเวลา ส่งทหารบนกำแพงไปสำรวจด้านอื่นของกำแพงที เริ่มจากทางเหนือ"
"ทราบ" เจค็อบตอบกลับไปตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย
"อาร์มันโด้พาทหารคนอื่น ๆ ไปกำแพงทางเหนือ ตามด้วยตะวันตกเรียงตามลำดับ" ตัวเจ๕้อบหันกลับมาพูดกับอาร์มันโด้ เมื่ออาร์มันโด้ได้ยินดังนั้นจึงแบกปืนขึ้นบนไหล่และมองไปที่เจค็อบด้วยสายตาที่ดูไร้อารมณ์ใด ๆ ก่อนที่เขาจะหันไปมองทหารข้าง ๆ กายของเขาเองและสั่งให้เดินตามตนเองไปโดยไม่รอช้าใด ๆ
"แล้วด้านล่างให้ลงไปช่วยมั้ย?" เจค็อบถามเดวิดขึ้น
"ผมไม่รู้.. น่าจะพอไหว นี่ลงสนามครั้งแรกของผมด้วยนี่" เดวิดตอบกลับไปติดหัวเราะ ก่อนที่เขาจะยกปืนลูกโม่ขึ้นมาแกว่งเล่น
"เดี๋ยวฉันจะเปลี่ยนหามุมที่น่าจะช่วยเดวิดได้แล้วกัน" เจค็อบตอบกลับเดวิดไปเมื่อไ้ดยินคำพูดที่ดูกังวลของเขา
"ขอบใจ" เดวิดลุกขึ้นมายืนหลังตรงและกวาดสายตามองไปทางขวา มือเปล่าของเขาคว้าไปที่ข้างกางเกงของเขา มีระเบิดมืออยู่หนึ่งลูก เขาคว้าขึ้นมาและดึงสลักระเบิดออกแล้วจัดการวิ่งตรงผ่านไปที่บริเวญกว้างล่อสายตาราวกับจะฆ่าตัวตายในทันที
"อยู่นั่น !" ทหารคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา เขาเล็งปืนไปหาเดวิดและจัดการหลบจากหลังต้นไม้และยิงในทันที เดวิดที่ดึงสลักระเบิดแล้วจัดการขว้างตรงเข้าไปหาทหารคนนั้นในทันที
"ตู้ม !" แรงระเบิดกวาดเศษดินออกไปรอบด้าน ร่างของทหารขาดออกเป็นสองท่อนแล้วปลิวออกไปกระเด็นไปหยุดตรงหน้าทหารที่หลบอยู๋ใกล้ ๆ กันในทันที
ตัวเดวิดจัดการหยุดยืนตรงกลางเป็นเป้านิ่ง สูดลมหายใจใหญ่ ๆ ไปเฮือกหนึ่ง พร้อมกับยกมือเนื้อหนังของเขาไปด้านหน้า เขาพยายามรวบรวมสมาธิ เปลวไฟเริ่มคลุมแขนของเขา วิทยาศาสตร์ไม่มรีทางทำอะไรแบบนี้ได้ด้วยเพียงการคิดแน่แท้ ทหารคนอื่น ๆ เห็นดังนั้นจัดการเล็งปืนไปด้านหน้าด้วยความตกใจที่ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน หัวหน้าหน่วยดึงสลักระเบิดตามและจัดการปาตรงไปด้านหน้าในทันที
ทุก ๆ อย่างดูช้าลง เดวิดใช้ปืนลูกโม่ของเขาเล็งไปที่ระเบิดที่พึ่งถูกปาออกไป ยังไม่ห่างจากตัวหัวหน้าหน่วยนัก สัยชาตญาณอันรวดเร็วของเดวิดสั่งการให้เขาลั่นไกออกไป รอยยิ้มแสยะออกจากปากของเดวิดราวกับเขากำลังสนุกสนานกับความเก่งกาจของเขาในสมรภูมิ
"ปัง !"
"ตู้ม !"
"ตุบ !"
"โครม !"
ทุก ๆ อย่างเกิดขึ้นเร็วมาก กระสุนปืนลูกโม่โดนเข้าที่ระเบิดอย่างรุนแรง ร่างของหัวหน้าหน่วยกระเด็นออก แรงระเบิดทำให้เศษดินกระจัดกระจายไปทั่ว เสียงของระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทหารอีกสองหรือสามนายที่เรียงหลบอยู่ใกล้เคียงกัน สายตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจกลัว ใครมันทำอะไรแบบนั้นได้วะ ทหารคนหนึ่งลุกขึ้นมาและเล็งปืนตรงไปด้านหน้า ทหารคนอื่น ๆ เริ่มเล็งปืนตามและจัดการยิงกราดกระสุนไปโดยไม่มีกระบอกเก็บเสียงติดตั้งอยู่ พวกเขายิงโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้นนอกจากต้องฆ๋าให้ได้ อสุรกายเบื้องหน้าของพวกเขา
"ปัง ๆๆๆๆๆ ! ปัง ๆๆๆๆๆ !"
"เปรี้ยง ๆๆๆๆๆ !" เปลวไฟที่คลุมแขนของเดวิดบดบังปัดกระสุนทุก ๆ นัดที่ตรงเข้าหา ราวกับเป็นโล่อันทรงพลัง
"ปัก !" กระสุนนัดหนึ่งยิงอัดเข้าที่ขาของเดวิด ตัวเดวิดล้มลงไปเปลวไฟหายตามตัวเดวิดที่เสียสมาธิ โชคดีที่กระสุนของทหาตรงหน้าหมดพอดี
ตัวเดวิดจัดการร้องออกมาเพื่อให้มีแรงลุกขึ้น เขาจัดการวิ่งตรงไปด้านหน้าอย่างคนขากระเผก และเล็งปืนตรงไปด้านหน้าทหารที่กำลังพยายามใส่กระสุนให้ทันเวลา
"ปัง ! ปัง ! ปัง !" เดวิดลั่นไกไปสามนัด ทหารสามคนล้มลงตายด้วยกระสุนที่หัวคนละนัดอย่างแม่นยำ ตัวเดวิดล้มลงไปนอน ทหารอีกคนหนึ่งวิ่งตรงเข้ามาหาเดวิดและเล็งปืนตรงไปหาเขา เดวิดเห็นดังนั้นจัดการยกปืนขึ้นและยิงในทันทีทันใดโดยมิได้เล็งยิง
"ปัง !"
"อ้า !" กระสนุเจาะทะลุหัวเข่าของทหารคนนั้น เขาล้มลงไปในขณะที่ปืนยังคงอยู่ที่มือของทหารคนนั้น ทว่ามิได้เล็งไปหาเดวิดแล้ว เดวิดจัดการเหนี่ยวไกไปอีกครั้ง
"กึก !" กระสุนหมด เดวิดเห็นดังนั้นจัดการโยนปืนลูกโม่อัดหน้าทหารด้านขวาที่กำลังจะวิ่งเข้ามาหาเขา ปืนอัดตรงไปที่ดั้งของทหารคนนั้นทำให้เขาล้มลงไปอย่างมึนเมาเล็กน้อย ตัวเดวิดก็คว้าปืนกลมือข้างกายเขาขึ้นมาและเล็งไปหาทหารคนนั้น เช่นเดียวกับทหารตรงหน้าเดวิดที่เล็งปืนไปหาเดวิดทันการพอดี ใครจะยิงใครก่อนกันล่ะ
"ปัง ๆๆๆๆๆ !"
"ตุบ !" ร่างของหทารล้มลงไป ตัวเดวิดพยุงตัวเองลุกขึ้นมาและเล็งปืนไปที่ทหารด้านขวาในทันที
"ปัง ๆๆๆๆๆ !"
"ค ว ย-!" ทหารคนนั้นด่าสบถเป็นคำสุดท้ายในขณะที่ร่างโดนกระสุนกราดทะลุจนเลือดกระเด็นไปทั่ว
"ตุบ !" ร่างล้มลงไปเป็นศพอีกรายหนึ่ง ตัวเดวิดจัดการเดินต่อไปและจัดการคว้าตัวทหารคนหนึ่งที่นอนคว่ำอยู่ราวกับคนตาย
"ส ัสเอ้ย !" หัวหน้าหน่วยอีเกิลด่าเดวิดขึ้นมาในขณะที่ตัวเดวิดจ่อปืนไปที่หลังตัวของหัวหน้าหน่วย ตัวเดวิดก็ดึงวิทยุออกจากเสื้อของหัวหน้าหน่วยอีเกิลก่อนจะจัดการพูดขึ้นมาในทันที
"แกเป็นคนของกองกำลังเอสเอสจริงใช่มั้ย ?" เดวิดถามคำถามที่ค้างคาใจเขาอยู่ขึ้น
"ช-.. ใช่" เขาพูดขึ้นมาอย่างตกใจกลัว
"แต่เดี๋ยวแกก็จะตายแล้ว !" หัวหน้าหน่วยจัดการหันหน้ามาหาเดวิดอย่างรวดเร็วบนมือของหัวหน้าหน่วยมีระเบิดอีกลูกหนึ่งที่ถูกปลดสลักแล้ว เขาอ้าปากยิ้มขึ้นราวกับคนเสียสติ
ตัวเดวิดจัดการโขกหัวของหัวหน้าหน่วยทิ้ง และคว้าระเบิดบนมือของหัวหน่วยมาอย่างรวดเร็วและปาอัดเข้าไปในป่าอีกคราวหนึ่ง
"ตู้ม !"
"โครม !"
ร่างของทหารอีกสามคนปลิวออกจากแรงระเบิด ตายในทันทีทันใด เมื่อนั้นเดวิดก็จัดการเล็งปืนไปที่หัวหน้าหน่วยอีกครั้งในทันทีทันใดพร้อมกับเปิดวิทยุขึ้นมา
"ว่าไง ไอแม่เย ็ด ! (Surprise Motherfucker !)"
"อย่า ๆๆ-!" หัวหน้าหน่วยอีเกิลร้องขอชีวิต
"ปัง ๆๆๆๆๆๆๆ-![" เดวิดสาดกระสุนไปโดยไม่คิดชีวิต
"กึก !" กระสุนของปืนกลบนมือเดวิดหมด
ตัวเดวิดขว้างมันทิ้งไปในทันทีทันใดและเก็บปืนไรเฟิลจู่โจมสีดำของหัวหน้าหน่วยขึ้นมาแทนพร้อมกับซองกระสุนอีกสองซองเห็นจะได้แล้วหาที่กำบังหลบในทันที ในขณะที่เสียงของวิทยุยังคงเงียบกริบราวกับพวกเขายังคงตกใจว่าหัวหน้าหน่วยอีเกิลจะถูกสังหารลงแล้ว เดวิดก็โยนวิทยุสื่อสารทิ้งไปบนพื้นและหันกลับไปเล็งหาศัตรูและสังหารทิ้งต่อไป
"ปัง ๆๆ ! ปัง ๆๆ !" เสียงของกระสุนปืนดังผ่านวิทยุให้หัวหน้าหน่วยคนอื่น ๆ ได้ยินถึงการสังหารในครั้งนี้
"ท่านราชินีครับ ! .."
"ท่านราชินี !" เสียงเรียกขานของทหารอัศวินในพระราชวังพยายามเรียกขานนาระที่กำลังพักผ่อนอยู่ในห้องของนาง
"เกิดการโจมตีขึ้นภายในเมือง.. ได้โปรดออกจากห้องเพื่อให้พวกเราพาท่านไปที่ปลอดภัยด้วยครับ !"
ไร้ซึ่งเสียงใด ๆ ตอบกลับขานไป บรรยากาศเริ่มแปลกไปตัวทหารจึงสูดลมหายใจและกล่าวขออนุญาติทำสิ่งที่ไร้มารยาทขึ้น
"ก-.. กระผมขออนุญาติเข้าไปนะครับ"
"แอด.." ตัวทหารเปิดประตูเข้ามา
ภายในห้องนั้นไม่มีตัวราชินีอยู่ ทว่าก็ไร้ซึ่งรอยเลือดหรืออะไรที่บอกว่านางถูกทำร้ายหรือลักพาตัวไป ทุก ๆ อย่างดูปกติ ไม่เรียบร้อยจนเกินไป ไม่มีอะไรผิดแปลกตาไปเลย ตัวทหารที่เห็นดังนั้นหลังจากค้นดูร่องรอยสองรอบเห็นจะได้จึงรีบวิ่งออกจากห้องไปในทันทีเพื่อแจ้งให้อัศวินคนอื่น ๆ รับรู้ แลละช่วยตามหาตัวราชินีที่จู่ ๆ ก็หายตัวไป
"นี่คือดาบของท่านพ่อสินะ"
ในอีกด้านหนึ่งภายในห้องคลังอาวุธใต้ดินของพระราชวัง ตัวนาระก็กำลังมองดูศาสตราของพ่อของนางอยู่ ดาบสีทองเปล่งประกายเจิดจรัส แสดงถึงยศถาบรรดาศักดิ์ของผู้ครอบครอง แม้จะไร้ซึ่งเวทมนตร์หรือคาถาวิญญาณใด ๆ สถิตในดาบเล่มนี้แต่มันก็เป็นดาบที่ถูกตีขึ้นมาด้วยหยาดเหงื่อของมนุษย์ทั่วไป เพื่อมอบให้แก่กษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ ดาบที่ถูกตีขึ้นด้วยโลหะพิเศษ เหล็กดำ คลุมด้้วยทองชั้นดี แน่นอนว่าทหาร นักรบทุกคนต้องอยากได้มัน
ตัวนาระยกมือของนางขึ้นมาตรงหน้าของนาง ตราวงแหวนเวทย์เปล่งออกมาในขณะที่ค้อนยักษ์ที่นางในคราวอดีตมักใช้เป็นอาวุธค่อย ๆ ลอยออกมาจากเวทมนตร์ติดตัวของนาง มันคือพลังเฟมที่สืบทอดจากบิดาของนาง พลังของเฟมแห่งศาสตราวุธ ที่สามารถใช้เพื่อบันดาล เสกอาวุธขึ้นมาจากอากาศได้ ทว่าอาวุธที่นาระสร้างขึ้นมาได้นั้นแตกต่างออกไป มันแข็งแกร่งและซับซ้อนกว่ามาก ต้องใช้อีกหลายปีกว่าจะชำนาญได้ และแน่นอนหญิงสาวเช่นนาระคงไม่ใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนกับอะไรแบบนี้แน่แท้นางจึงยังอ่อนหัดกับพลังของนางเอง
นาระคว้าค้อนของนางขึ้นมาและจรดสายตามองมันอย่างพิถีพิถัน
"อาวุธชิ้นแรกของตัวข้า.." นาระยิ้มขึ้นจากความหลังในอดีต นางวางมันลงบนแท่นอาวุธใกล้กับดาบของบิดาของนาง ก่อนที่นางจะลองใช้มือทั้งสองข้างจับดาบเล่มตรงหน้านางขึ้นมา
ดาบนั้นหนักกว่าที่นาระคิด ทว่านางก็พอที่จะยกมันขึ้นมาและกวัดแกว่งสองสามคราวได้ แต่มันก็ไร้ซึ่งเหตุผลที่จะกวัดแกว่งดาบในตอนนี้จริงมั้ย
นางค่อย ๆ ตั้งดาบบนพื้นและใช้มือข้างเดิมของนางจับไปที่ดาบด้วยมือเดียวขึ้นและหลับตาลง เมื่อนั้นดาบก็ค่อย ๆ ถูกวงแหวนเวทย์สีแดงกลืนกินลงไปในอากาศทีละเล็กทีละน้อยจนสุดด้าม ดาบของกษัตริย์คนเก่าได้กลายเป็นดาบของนาระแล้ว
"ตุบ !" เสียงเปิดประตูเสียงดังทำให้ตัวนาระตกใจและเพื่อร้องออกมาเล็กน้อยก่อนจะรีบปิดปากของตนเอง
"ขอบคุณพระเจ้า ท่านปลอดภัย" ตัวอัศวินที่เปิดประตูเข้ามาถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตัวนาระที่ได้ยินดังนั้นก็ทำหน้างุนงงเล็กน้อย ตัวนางยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นด้านนอกเลยแม้แต่น้อย
"ช ิบหายแล้วนั่นมัน พวกทหารอีซาน !" ชาวบ้านเข้าพบกับทหารเอสเอสหน่วยฟีนิกซ์
"ปิ้ว ๆๆ !" เสียงปืนติดกระบอกเก็บเสียงฆ่าชีวิตชางบ้านคนนั้นตามด้วยคนอื่น ๆ
"อย่า-!" เสียงกรีดร้องของชาวบ้านขอความช่วยเหลือดังไปทั่วก่อนจะต้องตายด้วยกระสุนของเหล่าผู้บุกรุก
ผู้คนในระแวกนั้นต่างพากันวิ่งหนีสุดชีวิต หาที่หลบภัย เอาชีวิตของพวกเขาเองให้รอดในขณะที่เหล่าทหารกำลังเดินทางมาช่วยให้เร็วที่สุด เหล่าทหารหน่วยเอสเอสเล็งปืนตรงไปด้านหน้าและค่อย ๆ ยิงไปทีละคน ภารกิจในครั้งนี้มิใช่การเอาชนะในคราวเดียว แต่เป็นการทำลายจิตใจมวลชน การสังหารครั้งนี้ก็เช่นกัน มิใช่การฆ๋าให้มากที่สุด แต่เป็นการฆ่าให้น่าเวทนาที่สุด
"พวกทหารมันหายไปไหนกันหมดฟะ !"
"มาข่วยพวกข้าด้วย !"
"ลูกของข้าอยู่ไหน !? อเล็กซ์ !?" เสียงกรีดร้องของชาวบ้านดังไปทั่วในขณะที่ผู้คนค่อย ๆ โดนยิงตายไปทีละสองสามคน
หัวหน้าหน่วยฟีนิกซ์ชี้ไปที่ด้านซ้ายของเขาให้ทหารเดินนำไปก่อน ทหารอีกสี่หรือห้าคนก็เดินผ่านหัวหน้าไปตามคำสั่งของเขา เบรุสก็เช่นกันเดินตามทหารคนอื่น ๆ ไป
"นั่นมันพวกนาซี !?"
เสียงของทหารคนหนึ่งเผลอตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นตราสัญลักษณ์บนชุดเกราะของทหารเหล่านั้น เมื่อนั้นทหารคนอื่น ๆ ก็หันไปมองทหารคนนั้นและเล็งปืนขึ้นไปบริเวญบนกำแพง
"เอาระเบิดไปกิน !" เสียงของอาร์มันโด้ดังออกมาจากด้านหลังบ้านเรือน พร้อมกับระเบิดมือสองลูกถูกปาเข้ามาหาทหารเหล่านั้นในทันที เบรุสที่เห็นดังนั้นไหวตัวทันรีบวิ่งเข้าหลบหลังตัวทหารข้าง ๆ เขาในทันทีทันใดเพื่อเป็นโล่กำบัง ในขณะที่ทหารคนอื่น ๆ ยังไม่ทันได้ตั้งตัวแต่อย่างใด
"ตู้ม !"
สะเก็ดระเบิดกระจัดกระจายไปทั่ว ในทันทีทันใดร่างของทหารสามคนก็ปลิวกระจัดกระจาไปทั่ว ตัวเบรุสที่ใช้ทหารอีกคนเป็นโล่ป้องกันปลิวออกและถูกศพของทหารทับร่างกายของเขาเอาไว้ เลือดเต็มร่างกายและใบหน้าของเขาราวกับคนตาย
"หาที่กำบัง !!" หัวหน้าหน่วยตะโกนสั่งการ
"ปิ้ว ๆๆๆๆๆๆ !" เขายิงปืนกลเข้าใส่อาร์มันโด้ที่หลบอยู๋หลังอาคารบ้านเรือนในทันทีทันใด ตัวอาร์มันโด้ก็จัดการผิวปากของเขาเสียงดังขึี้นมา เมื่อนั้นเองเงาของทหารนับสิบคนก็กระโจนลงมาจากกำแพงอย่างพร้อมเพรียง ทหารเอสเอสหน่วยฟีนิกซ์คนอื่น ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองก็จัดการเล็งปืนและจัดการยิงเข้าใส่ในทันทีทันใด
"บ้าเอ้ย-!"
"ปัง ๆๆๆๆๆๆๆๆ !" ทหารทั้งสองฝ่าย ฝ่ายยูเอ็นและเอสเอสถูกกระสุนฆ่าชีวิตของพวกเขาไปในทันที อาร์มันโด้ที่หลบอยู่หลังบ้านก็กระโดดทะลุผ่านหน้าต่างไปในทันทีและเล็งปืนไรเฟิลของเขาไปหาหัวหน้าหน่วยฟีนิกซ์ หัวหน้าหน่วยที่มองทันจากการยิงกลับเข้าใส่ทะลุกระจกในทันที
"ปิ้ว ๆๆๆๆ !"
"ปัง ๆๆๆ !" สองฝ่ายลั่นกระสุนใส่กันและกัน กระสุนบินผ่านกระจกบ้านหลังนั้นในขณะที่หญิงสาวเจ้ของบ้านหลังนั้นกรีดลั่นไปทั่วในขณะที่เศษกระจกและเสียงปืนบินลั่นผ่านหัวนางทำลายข้าวของในบ้างของนาง
"อ่ะ-!" หัวหน้าหน่วยถูกกระสุนเข้าเต็ม ๆ กระโหลก ตัวเขาล้มลงไปนอนเป็นร่างไร้วิญญาณลงไปเช่นเดียวกับทหารคนอื่น ๆ ตัวทหารยูเอ็นที่เหลืออยู่สองถึงสามคนก็ค่อย ๆ ลงมาจตรวจเช็คทหารคนอื่น ๆ ที่พวกเขาพึ่งยิงตายไป ตัวเบรุสที่ตื่นขึ้นมารู้สึกได้ว่ามีคนเดินผ่านจึงลุกขึ้นมาในทันทีทันใดพร้อมกับชักปืนพกสีดำของเขาจากขากางเกงขึ้นมา
"ปัง ! ปัง ๆ !" เบรุสยิงขาของทหารคนหนึ่งให้ล้มลงไป และจัดการยิงซ้ำเข้าที่กระโหลกของทหารคนนั้นอีกสองนัดตายในคราวเดียว
"ปัง ๆๆ ! ปัง !" เบรุสจัดการยิงทหารอีกสองคนที่พยายามจะยิงเขากลับทันเวลา ทหารอีกสองคนล้มลงไปนอนตายด้วยกระสุนคากระโหลกของเขา
"อ่า... แม ่งเอ้ย.." เบรุสสบถขึ้นมาในขณะที่เขาค่อย ๆ ยกตัวเองขึ้นมายืนสุดตัว
"ปัง !" เสียงปืนบินลั่นผ่านหัวของเบรุสไป เบรุสได้ยินดังนั้นจึงรีบกระโจนหลบกระสุนออกไปในทันทีอย่างหวุดหวิด
ตัวเบรุสหายใจหืดหาดเสียงดังออกมา ตัวเขาพยายามหาทางมองหาศัตรูที่ยิงผ่านหัวเขาไปอย่างพอดิบพอดีเมื่อสักครู่ ในขณะที่อาร์มันโด้นั้นกระโดดผ่านหน้าต่างออกมาเบา ๆ และจัดการกระโดดขึ้นไป ปีนขึ้นไปบนหลังคาของบ้านหลังหนึ่งและวิ่งบนหลังคาตรงเข้าไปอย่างรวดเร็ว
"ตึก ตึก" เสียงของฝีเท้าเหนือหัวเบรุส เบรุสที่ได้ยินดังนั้นก็เล็งปืนพกของเขาขึ้นเหนือหัว อาร์มันโด้ทิ้งตัวลงมาจากหลังคาพร้อมกับหันกลับมาหาเบรุสและเล็งปืนไรเฟิลของงเขากลางอากาศ
"ปัง ๆๆๆ-!"
"ปัง ๆๆๆๆๆๆ-!" ทั้งสองฝ่ายกราดกระสุนใส่กัน ไม่มีใครโดนใคร
อาร์มันโด้ลงมาคุกเข่ากับพื้น ปืนลงไปเล็งต่ำ ส่วนเบรุสกระสุนปืนพกหมดพอดิบพอดี เขาจัดการวิ่งตรงเข้าหาอาร์มันโด้ในทันทีทันใด อาร์มันโด้ยกปืนขึ้นมาคิดจะสังหารเบรุสที่วิ่งตรงเข้ามาหาเขา แต่เบรุสจัดการชกเข้าไปตรงหน้าของอาร์มันโด้ทันเวลา ตัวอาร์มันโด้ถอยออกมาเล็กน้อย เบรุสแย่งปืนออกมาจากมือของอาร์มันโด้ได้ ตัวอาร์มันโด้จัดกายกปืนพกของเขาขึ้นมาและยิงเข้าไปที่อกของเบรุส
"ปัด !" เบรุสเอียงตัวหลบและใช้ปืนไรเฟิลรับกระสุนแทน
เบรุสก้าวขาเข้าหาอาร์มันโด้พร้อมกับขว้างปืนไรเฟิลเข้าใส่อาร์มันโด้ ตัวอาร์มันโด้ใช้แขนของเขาตีปืนออกจากสายตาและเล็งปืนเข้าหาเบรุสให้เร็วที่สุด ทว่าตัวเบรุสที่เข้าประชิดตัวทันจัดการบิดแขนของอาร์มันโด้ในทันทีทันใด หวังจะทำให้ปืนบนมือของอาร์มันโด้หลุดออก ทวย่าตัวอาร์มันโด้ก็บิดตัวตามและจัดการชกรัวหมัดเข้าใส่ท้องของเบรุสในทันทีทันใด
ตัวเบรุสก้าวถอยออกและจัดการหัวโขกอาร์มันโด้ไปอย่างรุนแรง ตัวอาร์มันโด้เซออกมาเล็กน้อยแต่ก็ยังกำปืนไว้แน่น เขาจัดการดึงมีดของเขาขึ้นมาและพุ่งมีดเข้าหาอกของเบรุส
"ฉึก !"เบรุสใช้แขนข้างหนึ่งของเขารับมีดแทน มีดปักทะลุแขนของเบรุสไป ในขณะที่มืออีกข้างยังคงยกแขนอาร์มันโด้ขึ้นเหนือหัวมิให้เขาลั่นไกสังหารตัวเขาเอง
"อ้า !" เบรุสร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
อาร์มันโด้ใช้จังหวะนี้สกัดขาของเบรุสลไงปกับพื้นในทันทีทันใด ตัวเบรุสล้มลงไปกับพื้น อาร์มันโด้คว้าปืนลงมาเล็งเข้าหาหัวของเบรุส ตัวเบรุสดึงมีดออกจากแขนและจัดการดึงตัวเองหลบปืนออกและพุ่งมีดเข้าหาคอของอาร์มันโด้อย่างรวดเร็ว
"ควั่บ !" เสียงของมีดเคลื่อนเข้าหาอาร์มันโด้อย่างรวดเร็ว ทว่าอาร์มันโด้ที่มองการโจมตีทันก็เอียงตัวของเขาออกและใช้แขนอีกข้างของเขาล็อคแขนของเบรุสที่ถือมีดอยู่ มิให้มันแทงอาร์มันโด้ที่คอหอย ในจังหวะเดียวกันอาร์มันโด้ก็ใช้จังหวะที่เบรุสโดนล็อคแขน เล็งกระบอกปืนเ้าประชิดข้างหัวของเบรุส
"ปัง !" เสียงปืนดังขึ้นข้างหูอาร์มันโด้ สมองของเบรุสโดนระเบิดออกในทันทีทันใด
"วิ้ง !" หูของอาร์มันโด้นั้นมิได้ยินเสียงใด ๆ ไปชั่วขณะหนึ่ง ในขณะที่ตัวอาร์มันโด้พลิกตัวออกมาจากศพของเบรุสมานั่งพักถอนหายใจเล็กน้อยหลังจากที่ตนเกือบจะตายไปเมื่อครู่ก่อน แล้วค่อยลุกขึ้นไปลุยต่ออีกคราวหนึ่ง
"หน่วยวัลเจอร์กำลังจะไปช่วยหน่วยไนท์เอาล์ เปลี่ยน"
"ไนท์เอาล์รับทราบ"
"...." ไร้ซึ่งเสียงอื่นตอบกลับมาผ่านวิทยุ
"หน่วยฟีนิกซ์ ได้ยินมั้ย" หน่วยวัลเจอร์ถามขึ้นมา
"..." ไร้ซึ่งเสียงใดตอบกลับเพิ่มเติม
"ห ่าเอ้ย !" หน่วยวัลเจอร์สบถขึ้นมาด้วยอารมณ์เสียและความหวาดกลัว
"มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นวะ !?"
"ก่อนหน้านี้หน่วยอีเกิลติดต่อมาว่าศัตรูมีกองกำลังแบกอาวุธเช่นเดียวกับเรา น่าจะเป็นเพราะเหตุผลนั้นแหละ"
"ข้ารู้แล้ว !.. บ ัดซบเอ้ย.." หัวหน้าหน่วยทั้งสองติดต่อพูดคุยกันถึงสาเหตุที่ว่า อย่างไรสองหน่วยฟีนิกซ์ และอีเกิลจึงถูกกำจัดไปได้โดยง่าย
"ด- เดี๋ยวนะ.."
"นั่นมัน นั่นมันบ้าอะไร !?"
"เฮลิคอปเตอร์สองลำกำลังบินไปที่กำแพง เปลี่ยน ! เฮลิคอปเตอร์สอ-"
"ปัง !"
"ตุบ !"
"หาที่กำบัง !"
"ปัง ๆๆๆๆๆๆ !"
"อ้า เย ็ดแม่เอ้ย !"
"ปัง ๆๆๆๆๆ !"
"ตู้ม !"
"ช่วยด้วย ใครก็ได้-!"
วิทยุดับลงด้วยความโกลาหลที่กำลังเกิดขึ้นจากการความผิดพลาดของการสืบข้อมูลของกองกำลังเอสเอส ความพ่ายแพ้ครั้งนี้เกิดจากความประมาทของอีซาน ทว่าก็เป็นการสูญเสียที่มอบข้อมูลให้การโจมตีครั้งหน้าของพวกเขาแข็งแกร่งและอันตรายมากขึ้น
"ท่านเออร์วิน.. ท่านเออร์วิน"
"ว่าไง.. หัวหน้าหน่วยโจมตี-"
"กองกำลังเราถูกกำจัดสิ้นเลยครับ"
"พวกมันไม่ต่างอะไรกับเราเลยครับ"
"ระวังตัวด้วย เดวิด"
"รับทราบ" ตัวเดวิดสนทนาผ่านวิทยุกับเจค็อบในขณะที่ตัวเขากำลังวิ่งผ่านเปลวเพลิงตรงต่อไปอย่างเงียบกริบไล่ตามหน่วยทหารอีเกิลไป
เจค็อบในขณะเดียวกันก็เล็งธนูของเขาไปที่ทหารท้ายกลุ่มที่วิ่งช้ากว่าทุก ๆ คน เขาจัดการยิงธนูตรงไปโดยไม่ลังเล ลูกศรปักเข้ากลางร่าง ร่างของทหารลูกศรทะลุอกจากด้านหลัง ล้มลงไปกับพื้นในทันทีและพยายามหายใจเพื่อเอาชีวิตตัวเองให้รอดตามสัญชาตญาณ ทว่าเพียงไม่กี่ลมหายใจ ทหารคนนั้นก็สิ้นใจลงไปในทันที โดยที่ทหารคนอื่น ๆ ช่วยอะไรไม่ได้เลย ทำได้แค่หาที่ตั้งหลักใหม่อีกครั้งจากห่ากระสุนและเดวิดที่พวกเขาไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ตรงไหน
"บ้าเอ้ย ! ไหนบอกว่ามีแต่อัศวินกับนักธนูวะ !" หนึ่งในหน่วยทหารตะโกนสบถขึ้นมาเมื่อเขาและคนอื่น ๆ หาที่หลบได้สำเร็จ เสียงของห่ากระสุนฟาดฟันลงมาจากยอดกำแพงหยุดลงไปเมื่อมองไม่เห็นเป้าหมายอีกต่อไป
"ตอนนี้ไม่มีเวลาบ่นอะไรแล้ว .. ปฏิบัติตตามแผนต่อไป" หัวหน้าหน่วยพูดขึ้นกับทหารคนนั้นก่อนที่ตัวเขาจะเล็งปืนไรเฟิลของเขาตรงเข้าไปที่ด้านขวาของเขาตามสัญชาตญาณและหูโสดประสาทที่ทำงานได้ดีของเขาและจัดการลั่นไกขึ้นมาโดยไม่คิดสิ่งใด
"ปิ้ว ! ปิ้ว !"
"ห ่าเอ้ย !" เดวิดสบถขึ้นมา เมื่อหัวหน้าหน่วยยิงถูกจุดที่เดวิดประจำตำแหน่งอยู่
"ตึบ ! ตึบ !" ตัวเดวิดวิ่งหลบเลี้ยวออกไป หัวหน่าหน่วยา่งสัญญาณมือให้สังหารเดวิดทิ้งหากทำได้ในทันทีที่พบเห็น เฉกเช่นปัจจุบัน
เดวิดจัดการจักปืนลูกโม่ของเขาขึ้นมาในขณะที่เขาวิ่งไปหลบหลังต้นไม้อีกครั้งเพื่อตั้งมาธิในขณะที่กระสุนยิงเฉี่ยวผ่านตัวเขาและต้นไม้ไป
"ปัง !" เดวิดหันกลับมาและยิงตรงเข้าไปด้านหน้าในทันที พร้อมใช้มือเนื้อหนังของเขาบังท้องของเอาไว้
"ตุบ !" กระสุนปืนเข้ากลางกระบานทหารไปหนึ่งคน คนของหน่วยอีเกิลลดลงไป
"เปรี้ยง !" เสียงของประกายไฟออกมาจากมือของเดวิดดังราวกับสายฟ้าผ่า ตัวเดวิดก็วิ่งหลบไปหาต้นไม้ฝั่งตรงข้ามอีกคราวหนึ่งเมื่อมือของเขาไปบังโดนกระสุนอีกทีโดยบังเอิญอีกคราวหนึ่ง
"หน่วยวัลเจอร์จะบุกเข้าไปแล้ว เปลี่ยน" เสียงของวิทยุดังติดต่อมาหาหัวหน้าหน่วยอีเกิลในขณะที่เสียงของกระสุนแม้จะติดกระบอกเก็บเสียงแต่ก็ดังกลบเสียงของวิทยุได้อยู่จากห่ากระสุนนับสิบที่พุ่งตรงไปมาเพื่อพยายามคร่าสังหารชายคนเดียวผู้มีพลังวิเศษ
"รับทราบ ทางเราจะถ่วงเวลากำแพงด้านนี้เอง" หัวหน้าหน่วยอีเกิลติดต่อกลับไปก่อนจะจัดการหันหน้ากลับมาตามทางที่ทหารคนอื่น ๆ กำลังสาดกระสุนใส่อยู่ขึ้น
"หยุดยิง รอเป้าหมายเคลื่อนไหว"
หัวหน่วยหน่วยพูดสั่งการเบา ๆ เมื่อนั้นทหารคนอื่น ๆ ก็หยุดยิงตามคำสั่งและหลบหลังต้นไม้ ก้อนหินตามบริเวญป่าใกล้ ๆ กำแพง จากก่อนหน้านี้ที่เต็มไปด้วยเสียงกระสุนปืนแล่นผ่านหูกลับเงียบกริบมีเพียงเสียงของลมที่ปลิวสะบัดพัดผ่านบรรยากาศอันตึงเครียดในยามราตรี ตัวเดวิดที่จับผิดสังเกตุรอการเคลื่อนไหวมาหลายนาที จึงนึกขึ้นได้แล้วก็คว้าวิทยุของเขาขึ้นมาติดต่อกลับไปให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขณะที่มืออีกข้างกำลังนับกระสุนปืนอยู่
"ศัตรูฝั่งนี้หยุดยิงรอการเคลื่อนไหวของผมอยู่"
"อาจจะเป็นการถ่วงเวลา ส่งทหารบนกำแพงไปสำรวจด้านอื่นของกำแพงที เริ่มจากทางเหนือ"
"ทราบ" เจค็อบตอบกลับไปตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย
"อาร์มันโด้พาทหารคนอื่น ๆ ไปกำแพงทางเหนือ ตามด้วยตะวันตกเรียงตามลำดับ" ตัวเจ๕้อบหันกลับมาพูดกับอาร์มันโด้ เมื่ออาร์มันโด้ได้ยินดังนั้นจึงแบกปืนขึ้นบนไหล่และมองไปที่เจค็อบด้วยสายตาที่ดูไร้อารมณ์ใด ๆ ก่อนที่เขาจะหันไปมองทหารข้าง ๆ กายของเขาเองและสั่งให้เดินตามตนเองไปโดยไม่รอช้าใด ๆ
"แล้วด้านล่างให้ลงไปช่วยมั้ย?" เจค็อบถามเดวิดขึ้น
"ผมไม่รู้.. น่าจะพอไหว นี่ลงสนามครั้งแรกของผมด้วยนี่" เดวิดตอบกลับไปติดหัวเราะ ก่อนที่เขาจะยกปืนลูกโม่ขึ้นมาแกว่งเล่น
"เดี๋ยวฉันจะเปลี่ยนหามุมที่น่าจะช่วยเดวิดได้แล้วกัน" เจค็อบตอบกลับเดวิดไปเมื่อไ้ดยินคำพูดที่ดูกังวลของเขา
"ขอบใจ" เดวิดลุกขึ้นมายืนหลังตรงและกวาดสายตามองไปทางขวา มือเปล่าของเขาคว้าไปที่ข้างกางเกงของเขา มีระเบิดมืออยู่หนึ่งลูก เขาคว้าขึ้นมาและดึงสลักระเบิดออกแล้วจัดการวิ่งตรงผ่านไปที่บริเวญกว้างล่อสายตาราวกับจะฆ่าตัวตายในทันที
"อยู่นั่น !" ทหารคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา เขาเล็งปืนไปหาเดวิดและจัดการหลบจากหลังต้นไม้และยิงในทันที เดวิดที่ดึงสลักระเบิดแล้วจัดการขว้างตรงเข้าไปหาทหารคนนั้นในทันที
"ตู้ม !" แรงระเบิดกวาดเศษดินออกไปรอบด้าน ร่างของทหารขาดออกเป็นสองท่อนแล้วปลิวออกไปกระเด็นไปหยุดตรงหน้าทหารที่หลบอยู๋ใกล้ ๆ กันในทันที
ตัวเดวิดจัดการหยุดยืนตรงกลางเป็นเป้านิ่ง สูดลมหายใจใหญ่ ๆ ไปเฮือกหนึ่ง พร้อมกับยกมือเนื้อหนังของเขาไปด้านหน้า เขาพยายามรวบรวมสมาธิ เปลวไฟเริ่มคลุมแขนของเขา วิทยาศาสตร์ไม่มรีทางทำอะไรแบบนี้ได้ด้วยเพียงการคิดแน่แท้ ทหารคนอื่น ๆ เห็นดังนั้นจัดการเล็งปืนไปด้านหน้าด้วยความตกใจที่ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน หัวหน้าหน่วยดึงสลักระเบิดตามและจัดการปาตรงไปด้านหน้าในทันที
ทุก ๆ อย่างดูช้าลง เดวิดใช้ปืนลูกโม่ของเขาเล็งไปที่ระเบิดที่พึ่งถูกปาออกไป ยังไม่ห่างจากตัวหัวหน้าหน่วยนัก สัยชาตญาณอันรวดเร็วของเดวิดสั่งการให้เขาลั่นไกออกไป รอยยิ้มแสยะออกจากปากของเดวิดราวกับเขากำลังสนุกสนานกับความเก่งกาจของเขาในสมรภูมิ
"ปัง !"
"ตู้ม !"
"ตุบ !"
"โครม !"
ทุก ๆ อย่างเกิดขึ้นเร็วมาก กระสุนปืนลูกโม่โดนเข้าที่ระเบิดอย่างรุนแรง ร่างของหัวหน้าหน่วยกระเด็นออก แรงระเบิดทำให้เศษดินกระจัดกระจายไปทั่ว เสียงของระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทหารอีกสองหรือสามนายที่เรียงหลบอยู่ใกล้เคียงกัน สายตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจกลัว ใครมันทำอะไรแบบนั้นได้วะ ทหารคนหนึ่งลุกขึ้นมาและเล็งปืนตรงไปด้านหน้า ทหารคนอื่น ๆ เริ่มเล็งปืนตามและจัดการยิงกราดกระสุนไปโดยไม่มีกระบอกเก็บเสียงติดตั้งอยู่ พวกเขายิงโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้นนอกจากต้องฆ๋าให้ได้ อสุรกายเบื้องหน้าของพวกเขา
"ปัง ๆๆๆๆๆ ! ปัง ๆๆๆๆๆ !"
"เปรี้ยง ๆๆๆๆๆ !" เปลวไฟที่คลุมแขนของเดวิดบดบังปัดกระสุนทุก ๆ นัดที่ตรงเข้าหา ราวกับเป็นโล่อันทรงพลัง
"ปัก !" กระสุนนัดหนึ่งยิงอัดเข้าที่ขาของเดวิด ตัวเดวิดล้มลงไปเปลวไฟหายตามตัวเดวิดที่เสียสมาธิ โชคดีที่กระสุนของทหาตรงหน้าหมดพอดี
ตัวเดวิดจัดการร้องออกมาเพื่อให้มีแรงลุกขึ้น เขาจัดการวิ่งตรงไปด้านหน้าอย่างคนขากระเผก และเล็งปืนตรงไปด้านหน้าทหารที่กำลังพยายามใส่กระสุนให้ทันเวลา
"ปัง ! ปัง ! ปัง !" เดวิดลั่นไกไปสามนัด ทหารสามคนล้มลงตายด้วยกระสุนที่หัวคนละนัดอย่างแม่นยำ ตัวเดวิดล้มลงไปนอน ทหารอีกคนหนึ่งวิ่งตรงเข้ามาหาเดวิดและเล็งปืนตรงไปหาเขา เดวิดเห็นดังนั้นจัดการยกปืนขึ้นและยิงในทันทีทันใดโดยมิได้เล็งยิง
"ปัง !"
"อ้า !" กระสนุเจาะทะลุหัวเข่าของทหารคนนั้น เขาล้มลงไปในขณะที่ปืนยังคงอยู่ที่มือของทหารคนนั้น ทว่ามิได้เล็งไปหาเดวิดแล้ว เดวิดจัดการเหนี่ยวไกไปอีกครั้ง
"กึก !" กระสุนหมด เดวิดเห็นดังนั้นจัดการโยนปืนลูกโม่อัดหน้าทหารด้านขวาที่กำลังจะวิ่งเข้ามาหาเขา ปืนอัดตรงไปที่ดั้งของทหารคนนั้นทำให้เขาล้มลงไปอย่างมึนเมาเล็กน้อย ตัวเดวิดก็คว้าปืนกลมือข้างกายเขาขึ้นมาและเล็งไปหาทหารคนนั้น เช่นเดียวกับทหารตรงหน้าเดวิดที่เล็งปืนไปหาเดวิดทันการพอดี ใครจะยิงใครก่อนกันล่ะ
"ปัง ๆๆๆๆๆ !"
"ตุบ !" ร่างของหทารล้มลงไป ตัวเดวิดพยุงตัวเองลุกขึ้นมาและเล็งปืนไปที่ทหารด้านขวาในทันที
"ปัง ๆๆๆๆๆ !"
"ค ว ย-!" ทหารคนนั้นด่าสบถเป็นคำสุดท้ายในขณะที่ร่างโดนกระสุนกราดทะลุจนเลือดกระเด็นไปทั่ว
"ตุบ !" ร่างล้มลงไปเป็นศพอีกรายหนึ่ง ตัวเดวิดจัดการเดินต่อไปและจัดการคว้าตัวทหารคนหนึ่งที่นอนคว่ำอยู่ราวกับคนตาย
"ส ัสเอ้ย !" หัวหน้าหน่วยอีเกิลด่าเดวิดขึ้นมาในขณะที่ตัวเดวิดจ่อปืนไปที่หลังตัวของหัวหน้าหน่วย ตัวเดวิดก็ดึงวิทยุออกจากเสื้อของหัวหน้าหน่วยอีเกิลก่อนจะจัดการพูดขึ้นมาในทันที
"แกเป็นคนของกองกำลังเอสเอสจริงใช่มั้ย ?" เดวิดถามคำถามที่ค้างคาใจเขาอยู่ขึ้น
"ช-.. ใช่" เขาพูดขึ้นมาอย่างตกใจกลัว
"แต่เดี๋ยวแกก็จะตายแล้ว !" หัวหน้าหน่วยจัดการหันหน้ามาหาเดวิดอย่างรวดเร็วบนมือของหัวหน้าหน่วยมีระเบิดอีกลูกหนึ่งที่ถูกปลดสลักแล้ว เขาอ้าปากยิ้มขึ้นราวกับคนเสียสติ
ตัวเดวิดจัดการโขกหัวของหัวหน้าหน่วยทิ้ง และคว้าระเบิดบนมือของหัวหน่วยมาอย่างรวดเร็วและปาอัดเข้าไปในป่าอีกคราวหนึ่ง
"ตู้ม !"
"โครม !"
ร่างของทหารอีกสามคนปลิวออกจากแรงระเบิด ตายในทันทีทันใด เมื่อนั้นเดวิดก็จัดการเล็งปืนไปที่หัวหน้าหน่วยอีกครั้งในทันทีทันใดพร้อมกับเปิดวิทยุขึ้นมา
"ว่าไง ไอแม่เย ็ด ! (Surprise Motherfucker !)"
"อย่า ๆๆ-!" หัวหน้าหน่วยอีเกิลร้องขอชีวิต
"ปัง ๆๆๆๆๆๆๆ-![" เดวิดสาดกระสุนไปโดยไม่คิดชีวิต
"กึก !" กระสุนของปืนกลบนมือเดวิดหมด
ตัวเดวิดขว้างมันทิ้งไปในทันทีทันใดและเก็บปืนไรเฟิลจู่โจมสีดำของหัวหน้าหน่วยขึ้นมาแทนพร้อมกับซองกระสุนอีกสองซองเห็นจะได้แล้วหาที่กำบังหลบในทันที ในขณะที่เสียงของวิทยุยังคงเงียบกริบราวกับพวกเขายังคงตกใจว่าหัวหน้าหน่วยอีเกิลจะถูกสังหารลงแล้ว เดวิดก็โยนวิทยุสื่อสารทิ้งไปบนพื้นและหันกลับไปเล็งหาศัตรูและสังหารทิ้งต่อไป
"ปัง ๆๆ ! ปัง ๆๆ !" เสียงของกระสุนปืนดังผ่านวิทยุให้หัวหน้าหน่วยคนอื่น ๆ ได้ยินถึงการสังหารในครั้งนี้
"ท่านราชินีครับ ! .."
"ท่านราชินี !" เสียงเรียกขานของทหารอัศวินในพระราชวังพยายามเรียกขานนาระที่กำลังพักผ่อนอยู่ในห้องของนาง
"เกิดการโจมตีขึ้นภายในเมือง.. ได้โปรดออกจากห้องเพื่อให้พวกเราพาท่านไปที่ปลอดภัยด้วยครับ !"
ไร้ซึ่งเสียงใด ๆ ตอบกลับขานไป บรรยากาศเริ่มแปลกไปตัวทหารจึงสูดลมหายใจและกล่าวขออนุญาติทำสิ่งที่ไร้มารยาทขึ้น
"ก-.. กระผมขออนุญาติเข้าไปนะครับ"
"แอด.." ตัวทหารเปิดประตูเข้ามา
ภายในห้องนั้นไม่มีตัวราชินีอยู่ ทว่าก็ไร้ซึ่งรอยเลือดหรืออะไรที่บอกว่านางถูกทำร้ายหรือลักพาตัวไป ทุก ๆ อย่างดูปกติ ไม่เรียบร้อยจนเกินไป ไม่มีอะไรผิดแปลกตาไปเลย ตัวทหารที่เห็นดังนั้นหลังจากค้นดูร่องรอยสองรอบเห็นจะได้จึงรีบวิ่งออกจากห้องไปในทันทีเพื่อแจ้งให้อัศวินคนอื่น ๆ รับรู้ แลละช่วยตามหาตัวราชินีที่จู่ ๆ ก็หายตัวไป
"นี่คือดาบของท่านพ่อสินะ"
ในอีกด้านหนึ่งภายในห้องคลังอาวุธใต้ดินของพระราชวัง ตัวนาระก็กำลังมองดูศาสตราของพ่อของนางอยู่ ดาบสีทองเปล่งประกายเจิดจรัส แสดงถึงยศถาบรรดาศักดิ์ของผู้ครอบครอง แม้จะไร้ซึ่งเวทมนตร์หรือคาถาวิญญาณใด ๆ สถิตในดาบเล่มนี้แต่มันก็เป็นดาบที่ถูกตีขึ้นมาด้วยหยาดเหงื่อของมนุษย์ทั่วไป เพื่อมอบให้แก่กษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ ดาบที่ถูกตีขึ้นด้วยโลหะพิเศษ เหล็กดำ คลุมด้้วยทองชั้นดี แน่นอนว่าทหาร นักรบทุกคนต้องอยากได้มัน
ตัวนาระยกมือของนางขึ้นมาตรงหน้าของนาง ตราวงแหวนเวทย์เปล่งออกมาในขณะที่ค้อนยักษ์ที่นางในคราวอดีตมักใช้เป็นอาวุธค่อย ๆ ลอยออกมาจากเวทมนตร์ติดตัวของนาง มันคือพลังเฟมที่สืบทอดจากบิดาของนาง พลังของเฟมแห่งศาสตราวุธ ที่สามารถใช้เพื่อบันดาล เสกอาวุธขึ้นมาจากอากาศได้ ทว่าอาวุธที่นาระสร้างขึ้นมาได้นั้นแตกต่างออกไป มันแข็งแกร่งและซับซ้อนกว่ามาก ต้องใช้อีกหลายปีกว่าจะชำนาญได้ และแน่นอนหญิงสาวเช่นนาระคงไม่ใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนกับอะไรแบบนี้แน่แท้นางจึงยังอ่อนหัดกับพลังของนางเอง
นาระคว้าค้อนของนางขึ้นมาและจรดสายตามองมันอย่างพิถีพิถัน
"อาวุธชิ้นแรกของตัวข้า.." นาระยิ้มขึ้นจากความหลังในอดีต นางวางมันลงบนแท่นอาวุธใกล้กับดาบของบิดาของนาง ก่อนที่นางจะลองใช้มือทั้งสองข้างจับดาบเล่มตรงหน้านางขึ้นมา
ดาบนั้นหนักกว่าที่นาระคิด ทว่านางก็พอที่จะยกมันขึ้นมาและกวัดแกว่งสองสามคราวได้ แต่มันก็ไร้ซึ่งเหตุผลที่จะกวัดแกว่งดาบในตอนนี้จริงมั้ย
นางค่อย ๆ ตั้งดาบบนพื้นและใช้มือข้างเดิมของนางจับไปที่ดาบด้วยมือเดียวขึ้นและหลับตาลง เมื่อนั้นดาบก็ค่อย ๆ ถูกวงแหวนเวทย์สีแดงกลืนกินลงไปในอากาศทีละเล็กทีละน้อยจนสุดด้าม ดาบของกษัตริย์คนเก่าได้กลายเป็นดาบของนาระแล้ว
"ตุบ !" เสียงเปิดประตูเสียงดังทำให้ตัวนาระตกใจและเพื่อร้องออกมาเล็กน้อยก่อนจะรีบปิดปากของตนเอง
"ขอบคุณพระเจ้า ท่านปลอดภัย" ตัวอัศวินที่เปิดประตูเข้ามาถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตัวนาระที่ได้ยินดังนั้นก็ทำหน้างุนงงเล็กน้อย ตัวนางยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นด้านนอกเลยแม้แต่น้อย
"ช ิบหายแล้วนั่นมัน พวกทหารอีซาน !" ชาวบ้านเข้าพบกับทหารเอสเอสหน่วยฟีนิกซ์
"ปิ้ว ๆๆ !" เสียงปืนติดกระบอกเก็บเสียงฆ่าชีวิตชางบ้านคนนั้นตามด้วยคนอื่น ๆ
"อย่า-!" เสียงกรีดร้องของชาวบ้านขอความช่วยเหลือดังไปทั่วก่อนจะต้องตายด้วยกระสุนของเหล่าผู้บุกรุก
ผู้คนในระแวกนั้นต่างพากันวิ่งหนีสุดชีวิต หาที่หลบภัย เอาชีวิตของพวกเขาเองให้รอดในขณะที่เหล่าทหารกำลังเดินทางมาช่วยให้เร็วที่สุด เหล่าทหารหน่วยเอสเอสเล็งปืนตรงไปด้านหน้าและค่อย ๆ ยิงไปทีละคน ภารกิจในครั้งนี้มิใช่การเอาชนะในคราวเดียว แต่เป็นการทำลายจิตใจมวลชน การสังหารครั้งนี้ก็เช่นกัน มิใช่การฆ๋าให้มากที่สุด แต่เป็นการฆ่าให้น่าเวทนาที่สุด
"พวกทหารมันหายไปไหนกันหมดฟะ !"
"มาข่วยพวกข้าด้วย !"
"ลูกของข้าอยู่ไหน !? อเล็กซ์ !?" เสียงกรีดร้องของชาวบ้านดังไปทั่วในขณะที่ผู้คนค่อย ๆ โดนยิงตายไปทีละสองสามคน
หัวหน้าหน่วยฟีนิกซ์ชี้ไปที่ด้านซ้ายของเขาให้ทหารเดินนำไปก่อน ทหารอีกสี่หรือห้าคนก็เดินผ่านหัวหน้าไปตามคำสั่งของเขา เบรุสก็เช่นกันเดินตามทหารคนอื่น ๆ ไป
"นั่นมันพวกนาซี !?"
เสียงของทหารคนหนึ่งเผลอตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นตราสัญลักษณ์บนชุดเกราะของทหารเหล่านั้น เมื่อนั้นทหารคนอื่น ๆ ก็หันไปมองทหารคนนั้นและเล็งปืนขึ้นไปบริเวญบนกำแพง
"เอาระเบิดไปกิน !" เสียงของอาร์มันโด้ดังออกมาจากด้านหลังบ้านเรือน พร้อมกับระเบิดมือสองลูกถูกปาเข้ามาหาทหารเหล่านั้นในทันที เบรุสที่เห็นดังนั้นไหวตัวทันรีบวิ่งเข้าหลบหลังตัวทหารข้าง ๆ เขาในทันทีทันใดเพื่อเป็นโล่กำบัง ในขณะที่ทหารคนอื่น ๆ ยังไม่ทันได้ตั้งตัวแต่อย่างใด
"ตู้ม !"
สะเก็ดระเบิดกระจัดกระจายไปทั่ว ในทันทีทันใดร่างของทหารสามคนก็ปลิวกระจัดกระจาไปทั่ว ตัวเบรุสที่ใช้ทหารอีกคนเป็นโล่ป้องกันปลิวออกและถูกศพของทหารทับร่างกายของเขาเอาไว้ เลือดเต็มร่างกายและใบหน้าของเขาราวกับคนตาย
"หาที่กำบัง !!" หัวหน้าหน่วยตะโกนสั่งการ
"ปิ้ว ๆๆๆๆๆๆ !" เขายิงปืนกลเข้าใส่อาร์มันโด้ที่หลบอยู๋หลังอาคารบ้านเรือนในทันทีทันใด ตัวอาร์มันโด้ก็จัดการผิวปากของเขาเสียงดังขึี้นมา เมื่อนั้นเองเงาของทหารนับสิบคนก็กระโจนลงมาจากกำแพงอย่างพร้อมเพรียง ทหารเอสเอสหน่วยฟีนิกซ์คนอื่น ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองก็จัดการเล็งปืนและจัดการยิงเข้าใส่ในทันทีทันใด
"บ้าเอ้ย-!"
"ปัง ๆๆๆๆๆๆๆๆ !" ทหารทั้งสองฝ่าย ฝ่ายยูเอ็นและเอสเอสถูกกระสุนฆ่าชีวิตของพวกเขาไปในทันที อาร์มันโด้ที่หลบอยู่หลังบ้านก็กระโดดทะลุผ่านหน้าต่างไปในทันทีและเล็งปืนไรเฟิลของเขาไปหาหัวหน้าหน่วยฟีนิกซ์ หัวหน้าหน่วยที่มองทันจากการยิงกลับเข้าใส่ทะลุกระจกในทันที
"ปิ้ว ๆๆๆๆ !"
"ปัง ๆๆๆ !" สองฝ่ายลั่นกระสุนใส่กันและกัน กระสุนบินผ่านกระจกบ้านหลังนั้นในขณะที่หญิงสาวเจ้ของบ้านหลังนั้นกรีดลั่นไปทั่วในขณะที่เศษกระจกและเสียงปืนบินลั่นผ่านหัวนางทำลายข้าวของในบ้างของนาง
"อ่ะ-!" หัวหน้าหน่วยถูกกระสุนเข้าเต็ม ๆ กระโหลก ตัวเขาล้มลงไปนอนเป็นร่างไร้วิญญาณลงไปเช่นเดียวกับทหารคนอื่น ๆ ตัวทหารยูเอ็นที่เหลืออยู่สองถึงสามคนก็ค่อย ๆ ลงมาจตรวจเช็คทหารคนอื่น ๆ ที่พวกเขาพึ่งยิงตายไป ตัวเบรุสที่ตื่นขึ้นมารู้สึกได้ว่ามีคนเดินผ่านจึงลุกขึ้นมาในทันทีทันใดพร้อมกับชักปืนพกสีดำของเขาจากขากางเกงขึ้นมา
"ปัง ! ปัง ๆ !" เบรุสยิงขาของทหารคนหนึ่งให้ล้มลงไป และจัดการยิงซ้ำเข้าที่กระโหลกของทหารคนนั้นอีกสองนัดตายในคราวเดียว
"ปัง ๆๆ ! ปัง !" เบรุสจัดการยิงทหารอีกสองคนที่พยายามจะยิงเขากลับทันเวลา ทหารอีกสองคนล้มลงไปนอนตายด้วยกระสุนคากระโหลกของเขา
"อ่า... แม ่งเอ้ย.." เบรุสสบถขึ้นมาในขณะที่เขาค่อย ๆ ยกตัวเองขึ้นมายืนสุดตัว
"ปัง !" เสียงปืนบินลั่นผ่านหัวของเบรุสไป เบรุสได้ยินดังนั้นจึงรีบกระโจนหลบกระสุนออกไปในทันทีอย่างหวุดหวิด
ตัวเบรุสหายใจหืดหาดเสียงดังออกมา ตัวเขาพยายามหาทางมองหาศัตรูที่ยิงผ่านหัวเขาไปอย่างพอดิบพอดีเมื่อสักครู่ ในขณะที่อาร์มันโด้นั้นกระโดดผ่านหน้าต่างออกมาเบา ๆ และจัดการกระโดดขึ้นไป ปีนขึ้นไปบนหลังคาของบ้านหลังหนึ่งและวิ่งบนหลังคาตรงเข้าไปอย่างรวดเร็ว
"ตึก ตึก" เสียงของฝีเท้าเหนือหัวเบรุส เบรุสที่ได้ยินดังนั้นก็เล็งปืนพกของเขาขึ้นเหนือหัว อาร์มันโด้ทิ้งตัวลงมาจากหลังคาพร้อมกับหันกลับมาหาเบรุสและเล็งปืนไรเฟิลของงเขากลางอากาศ
"ปัง ๆๆๆ-!"
"ปัง ๆๆๆๆๆๆ-!" ทั้งสองฝ่ายกราดกระสุนใส่กัน ไม่มีใครโดนใคร
อาร์มันโด้ลงมาคุกเข่ากับพื้น ปืนลงไปเล็งต่ำ ส่วนเบรุสกระสุนปืนพกหมดพอดิบพอดี เขาจัดการวิ่งตรงเข้าหาอาร์มันโด้ในทันทีทันใด อาร์มันโด้ยกปืนขึ้นมาคิดจะสังหารเบรุสที่วิ่งตรงเข้ามาหาเขา แต่เบรุสจัดการชกเข้าไปตรงหน้าของอาร์มันโด้ทันเวลา ตัวอาร์มันโด้ถอยออกมาเล็กน้อย เบรุสแย่งปืนออกมาจากมือของอาร์มันโด้ได้ ตัวอาร์มันโด้จัดกายกปืนพกของเขาขึ้นมาและยิงเข้าไปที่อกของเบรุส
"ปัด !" เบรุสเอียงตัวหลบและใช้ปืนไรเฟิลรับกระสุนแทน
เบรุสก้าวขาเข้าหาอาร์มันโด้พร้อมกับขว้างปืนไรเฟิลเข้าใส่อาร์มันโด้ ตัวอาร์มันโด้ใช้แขนของเขาตีปืนออกจากสายตาและเล็งปืนเข้าหาเบรุสให้เร็วที่สุด ทว่าตัวเบรุสที่เข้าประชิดตัวทันจัดการบิดแขนของอาร์มันโด้ในทันทีทันใด หวังจะทำให้ปืนบนมือของอาร์มันโด้หลุดออก ทวย่าตัวอาร์มันโด้ก็บิดตัวตามและจัดการชกรัวหมัดเข้าใส่ท้องของเบรุสในทันทีทันใด
ตัวเบรุสก้าวถอยออกและจัดการหัวโขกอาร์มันโด้ไปอย่างรุนแรง ตัวอาร์มันโด้เซออกมาเล็กน้อยแต่ก็ยังกำปืนไว้แน่น เขาจัดการดึงมีดของเขาขึ้นมาและพุ่งมีดเข้าหาอกของเบรุส
"ฉึก !"เบรุสใช้แขนข้างหนึ่งของเขารับมีดแทน มีดปักทะลุแขนของเบรุสไป ในขณะที่มืออีกข้างยังคงยกแขนอาร์มันโด้ขึ้นเหนือหัวมิให้เขาลั่นไกสังหารตัวเขาเอง
"อ้า !" เบรุสร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
อาร์มันโด้ใช้จังหวะนี้สกัดขาของเบรุสลไงปกับพื้นในทันทีทันใด ตัวเบรุสล้มลงไปกับพื้น อาร์มันโด้คว้าปืนลงมาเล็งเข้าหาหัวของเบรุส ตัวเบรุสดึงมีดออกจากแขนและจัดการดึงตัวเองหลบปืนออกและพุ่งมีดเข้าหาคอของอาร์มันโด้อย่างรวดเร็ว
"ควั่บ !" เสียงของมีดเคลื่อนเข้าหาอาร์มันโด้อย่างรวดเร็ว ทว่าอาร์มันโด้ที่มองการโจมตีทันก็เอียงตัวของเขาออกและใช้แขนอีกข้างของเขาล็อคแขนของเบรุสที่ถือมีดอยู่ มิให้มันแทงอาร์มันโด้ที่คอหอย ในจังหวะเดียวกันอาร์มันโด้ก็ใช้จังหวะที่เบรุสโดนล็อคแขน เล็งกระบอกปืนเ้าประชิดข้างหัวของเบรุส
"ปัง !" เสียงปืนดังขึ้นข้างหูอาร์มันโด้ สมองของเบรุสโดนระเบิดออกในทันทีทันใด
"วิ้ง !" หูของอาร์มันโด้นั้นมิได้ยินเสียงใด ๆ ไปชั่วขณะหนึ่ง ในขณะที่ตัวอาร์มันโด้พลิกตัวออกมาจากศพของเบรุสมานั่งพักถอนหายใจเล็กน้อยหลังจากที่ตนเกือบจะตายไปเมื่อครู่ก่อน แล้วค่อยลุกขึ้นไปลุยต่ออีกคราวหนึ่ง
"หน่วยวัลเจอร์กำลังจะไปช่วยหน่วยไนท์เอาล์ เปลี่ยน"
"ไนท์เอาล์รับทราบ"
"...." ไร้ซึ่งเสียงอื่นตอบกลับมาผ่านวิทยุ
"หน่วยฟีนิกซ์ ได้ยินมั้ย" หน่วยวัลเจอร์ถามขึ้นมา
"..." ไร้ซึ่งเสียงใดตอบกลับเพิ่มเติม
"ห ่าเอ้ย !" หน่วยวัลเจอร์สบถขึ้นมาด้วยอารมณ์เสียและความหวาดกลัว
"มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นวะ !?"
"ก่อนหน้านี้หน่วยอีเกิลติดต่อมาว่าศัตรูมีกองกำลังแบกอาวุธเช่นเดียวกับเรา น่าจะเป็นเพราะเหตุผลนั้นแหละ"
"ข้ารู้แล้ว !.. บ ัดซบเอ้ย.." หัวหน้าหน่วยทั้งสองติดต่อพูดคุยกันถึงสาเหตุที่ว่า อย่างไรสองหน่วยฟีนิกซ์ และอีเกิลจึงถูกกำจัดไปได้โดยง่าย
"ด- เดี๋ยวนะ.."
"นั่นมัน นั่นมันบ้าอะไร !?"
"เฮลิคอปเตอร์สองลำกำลังบินไปที่กำแพง เปลี่ยน ! เฮลิคอปเตอร์สอ-"
"ปัง !"
"ตุบ !"
"หาที่กำบัง !"
"ปัง ๆๆๆๆๆๆ !"
"อ้า เย ็ดแม่เอ้ย !"
"ปัง ๆๆๆๆๆ !"
"ตู้ม !"
"ช่วยด้วย ใครก็ได้-!"
วิทยุดับลงด้วยความโกลาหลที่กำลังเกิดขึ้นจากการความผิดพลาดของการสืบข้อมูลของกองกำลังเอสเอส ความพ่ายแพ้ครั้งนี้เกิดจากความประมาทของอีซาน ทว่าก็เป็นการสูญเสียที่มอบข้อมูลให้การโจมตีครั้งหน้าของพวกเขาแข็งแกร่งและอันตรายมากขึ้น
รุ่งสาง
"ท่านเออร์วิน.. ท่านเออร์วิน"
"ว่าไง.. หัวหน้าหน่วยโจมตี-"
"กองกำลังเราถูกกำจัดสิ้นเลยครับ"
"พวกมันไม่ต่างอะไรกับเราเลยครับ"