Post by greatbritian on Jun 16, 2017 17:52:37 GMT
ห่างจากพวกเขาไปไม่ถึง 100 หลา ...... แถวทหารอีกแถวหนึ่งนั้นกำลังดาหน้าเขามาเช่นกัน พวกเขาเดินมาอย่างพร้อมเพียงและก็กำลังยืนประจัญหน้ากับ กองทัพฝรั่งเศส ธงสีเหลืองอร่าม ตรงกลางมีสัญลักษณ์อินทรีดำ 2 หัว อันเป็นสัญลักษณ์ตั้งแต่สมัยโรมันโบราณ... พวกเขาคือ กองทัพออสเตรีย!!! แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักสิทธิ์!!
"แถว............................หยุด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
เสียงของนายทหารสัญญาบัตรฝรั่งเศสสั่งการ!!!!!!!!!!!! ทหารหาญ ต่างชิดเท้าเสียดังพร้อมหยุดเดิน!!!!!! พวกเขารอคำสั่งงต่อไป!!!!!!!! นายทหารสัญญาบัตรชักดาบออก......
"พร้อม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
ทหารฝรั่งเศสต่างยกปืนขึ้นมาประทับที่บ่า!!!!
"เล็ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
สายตาพวกเขาต่างสอดส่องเป้าหมายที่อยู่ข้างหน้า.... เป้าหมายที่ว่านั้นคือ ทหารออสเตรีย!!!!!! พวกเขาง้างนก นิ้วชี้ของพวกเขาพร้อมจะลั่นไก เพียงรอแค่คำสั่งเท่านั้น!!!!
"ยิง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
ยุโรปที่สงคราม !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนน่ะครับ ว่าผมไม่เคยมีประสบการณ์ในการแต่งนิยายเลยแม้แต่น้อย จะมีเพียงประสบการณ์ในการแต่ง มวยปล้ำออนไลน์ (คนที่เล่นคงจะทราบดี) แต่ตัวผมนั้นอยากลองแต่งนิยายดูครับ.. ดีไม่ดียังไงติชมได้น่ะครับ
คือนิยายเรื่องนี้มันจะเป็นนิยายแนว อิงประวัติศาสตร์ + สงคราม จะเน้นเรื่องเกมส์การเมือง การวางแผนการรบ และเน้นความสมจริงสมจังให้มากที่สุดครับ คือตัวผมเป็นคนชอบ ประวัติศาสตร์สงครามอยู่แล้วเลยอยากลองแต่งนิยายแนวนี้ดู โดยเหตุการณ์จะเริ่มในช่วง ต้นคริศต์ศตวรรษที่ 19 ช่วงหลังจาก ยุคปฎิวัติฝรั่งเศส นโปเลียน โบร์นาร์บาร์ต ได้ขึ้นมาเป็น จักรพรรดิฝรั่งเศส ด้วยความทะเยอทะยานอยากจะเป็นเจ้าโลกของเขา เขาจึงได้ทำสงครามกับชาติต่างๆในยุโรปเพื่อหวังจะพิชิตและยึดครอง!!! มาดูกันว่าพวกท่านจะสามารถหยุดกองทัพของเขาได้หรือไม่ หรือ จะช่วยให้เขาได้เป็นจักรพรรดิผู้ครองโลกสมใจ
อันนี้เป็นแผนที่ของยุโรปในตอนนั้นครับ ดูเพื่อประกอบความเข้าใจ นิยายของผมจะมี 5 ชาติให้เลือกเล่นน่ะครับ
1.French Empire
ผู้นำ : Emperor Napoleon I
อาณาเขตและประชากร : จักรวรรดิฝรั่งเศสนั้นมีอาณาเขตกินบริเวณเนื้อที่ฝรั่งเศสทั้งหมด , เบลเยี่ยม , ลักเซมเบิร์ก , สเปนทางตอนเหนือ แถบ บาเซโล่น่าร์ อิตาลีทางตอนเหนือและกลาง ตั้งแต่มิลานถึงโรม อาณานิคมโพ้นทะเลแถบอเมริกาบริเวณ หลุยส์เซียนา ติดทะเลทั้งเหนือ ใต้ ตะวันตก สามารถเข้าถึงได้ทั้งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและมหาสมุทรแอตแลนติก มีประชากรประมาณ 32 ล้านคน (ชาวฝรั่งเศส 29 ล้าน , อิตาลี 1 ล้าน , สเปน 2 แสน , โปแลนด์ 5 แสน , อื่นๆ 1 ล้าน 3 แสน)
นโยบายทางการเมืองและอำนาจบนเวทีโลก : สำหรับฝรั่งเศสนั้นมีการปกครองแบบ จักรวรรดิโดยมี จักรพรรดิมีอำนาจสูงสุด อำนาจทุกอย่างจะรวบอยู่ในมือของจักรพรรดิแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งนโยบายของฝรั่งเศสในตอนนี้นั้นคือ การสร้าง "วงศ์ไพบูลย์แห่งยุโรป" โดยจักรพรรดิฝรั่งเศสต้องการรวมยุโรปให้เป็น 1 ด้วยวิธีทางการทหารและการเมือง เพื่อจะทำให้เกิดสันติภาพแห่งยุโรปภายใต้การนำของ ฝรั่งเศส คล้ายๆช่วงโรมัน อำนาจของฝรั่งเศสบนเวทีโลกนั้นถือว่าสูงมากเนื่องจากกองทัพที่แข็งแกร่งจนหลายๆชาติในยุโรปต่างเข็ดขยาย จนหลายประเทศยอมทำตามฝรั่งเศสแต่โดยดี
การทหาร : กองทัพของฝรั่งเศส หรือ Grande Armee นั้นถือว่าเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งและทันสมัยที่สุดในยุคนั้น ด้วยการจัดระบบกองทัพใหม่ของ นโปเลียน ทั้งระบบเกณฑฺ์ทหารและเรียกระดมพลที่มีประสิทธิภาพ การจัดกำลังพลเป็น กองพลย่อยๆหลายกอง แทนกองทัพใหญ่ๆกองเดียว และเทคนิคการใช้ปืนใหญ่ที่นำการคำนวณทางคณิตศาสตร์มาเกี่ยวข้อง ความหัวใหม่ของนโปเลียนที่เริ่มนำเทคโนโลยีต่างๆมาใช้ในสงคราม กอปรกับ ประชาชนฝรั่งเศสในยุคนั้นล้วนสนับสนุนจักรพรรดิอย่างเต็มที่ เนื่องจากพวกเขาต้องการผู้นำที่เข้มแข็งทำให้ทหารฝรั่งเศสทุกนายล้วนมีใจรุกรบ และสมัครใจมามากกว่าจะถูกบังคับ จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมกองทัพฝรั่งเศสในยุคนั้นจึงน่าสะพรึงกลัว ตรงกันข้ามกับทัพเรือ ซึ่งทหารเรือส่วนใหญ่ของฝรั่งเศสนั้นเป็นชนชั้นสูง (โดนประหารไปเกือบหมด 55) นั้นทำให้กองทัพเรือขาดบุคลากรที่มีคุณภาพ นอกจากนี้หลังจากศึก Trafalgar ฝรั่งเศสก็สูญเสียเรือรบไปจำนวนมาก จึงทำให้อำนาจทางทะเลของฝรั่งเศสนั้นมลายหายไปแทบสิ้น
2.British Empire
ผู้นำ : King George III
อาณาเขตและประชากร : จักรวรรดิอังกฤษนั้น มีอาณาเขตกินบริเวณ หมู่เกาะบริเตนใหญ๋ทั้งหมด , รวมถึงอาณานิคมโพ้นทะเลมากมาย ทั้งแคนนาดา , หมู่เกาะในแคริบเบียน , อียิปต์ , อินเดียบางส่วน , ไซปรัส , ยิบรอลตาร์ , มอลต้า , ฮันโนเวอร์ (อยู่ในสถานะร่อแร่) มีประชากรทั้งสิ้นราวๆ 51 ล้านคน (อังกฤษ 12 ล้าน , อินเดีย 32 ล้าน , มัมลุกร์ (แขกอาหรับ) 1 ล้าน , สก็อตแลนด์ ไอร์แลนด์ และ เวลส์ 5 ล้าน , อื่นๆ 1 ล้าน)
นโยบายทางการเมืองและอำนาจบนเวทีโลก : จักรวรรดิอังกฤษนั้นปกครองโดยระบอบหษัตริย์ซึ่งมีอำนาจอยู่ใต้รัฐสภา แน่นอนว่ากษัตริย์จะทำอะไรตามอำเภอใจไม่ได้ เพราะต้องตัดสินผ่านสภาก่อน ทั้งทำสงคราม ขึ้นภาษีอื่นๆ ซึ่งมักทำให้เหล่านักการเมืองหลายกลุ่มขึ้นมางัดข้อกับอำนาจของกษัตริย์เสมอ แต่อย่างไรก็ตาม นโยบายที่อังกฤษดำเนินมาโดยตลอดนั้นก็คือการรักษา "สมุทรานุภาพของตน และ ดุลย์อำนาจของโลกโดยเสมอ" โดยอังกฤษนั้นไม่ต้องการไม่ให้มีชาติใดชาติหนึ่งก้าวขึ้นมามีอำนาจสูงสุดเพียงชาติเดียว เพราะฉะนั้นสิ่งที่อังกฤษทำนั้นคือการตัดไฟแต่ต้นลม โดยการบ่อนทำลายชาติๆนั้นไม่ว่าจะโดยวิธีการใดก็ตาม เช่นให้เงินสนับสนุนชาติอื่นๆให้ทำสงครามกับชาตินั้น ใช้การปิดกั้นบอยคอตทางทะเล สำหรับอำนาจในเวทีโลกนั้นไม่ต้องพูดถึง ด้วยความที่เกือบทั้งโลกต้องการสินค้าจากอังกฤษทำให้ชาติต่างๆในโลกส่วนใหญ่นั้นยอมทำตามอังกฤษ (ยกเว้นไอ้ นโปเลียน)
การทหาร : กองทัพ "เชิ้ตแดง" ของอังกฤษนั้นได้รับการขนานนามว่าเป็น กองทัพที่ดีที่สุดในโลก ทั้งด้วยการฝึกอันเข้มงวดและวินัยอันยอดเยี่ยมทำให้พวกเขามีประสิทธิภาพมาก จนกล่าวได้ว่า ทหารอังกฤษเพียง 3 กองสามารถรับมือทหารของชาติอื่นที่มีมากถึง 6 กองได้สบายๆ แต่ข้อเสียของอังกฤษนั้นคือ จำนวนที่น้อยของชาวอังกฤษนั้นเองทำให้การเรียกระดมพลหรือกองทหารประจำการของอังกฤษนั้นจัดว่าน้อยมาก เปรียบเทียบง่ายๆ ฝรั่งเศสสามารถระดมพลได้มากสุดถึง 3 แสน ใน ขณะที่ อังกฤษทำได้เพียงแค่ 5 หมื่น (กองทัพ 5 หมื่นถือว่าใหญ่โตสำหรับอังกฤษ) สังเกตุได้ว่า อังกฤษเวลาทำสงครามทางบกนั้นไม่เคยพึ่งกำลังเพียวๆของตนเอง แต่ใช้กำลังอาณานิคมและชาติอื่นช่วยด้วยตลอด แต่กองทัพเรือของอังกฤษนั้นได้ชื่อว่า ใหญ่โตและเกรียงไกรที่สุดนับตั้งแต่มีมา ชาวอังกฤษนั้นถูกปลูกฝังให้รักในทะเลและรักในท้องทะเลของตน จึงทำให้พวกเขาเหล่านั้นมีจิตใจของความเป็นชาวเรือ สามารถเรียกระดมพลทหารเรือได้อย่างรวดเร็ว และเนื่องจากมีกองทัพบกไม่ใหญ่ งบประมาณกองทัพจึงถูกส่งมาบำรุงกองทัพเรือเต็มที่ จนกองทัพเรืออังกฤษนั้นมีเรือรบ จำนวนมาก มากกว่าเรือรบของชาติอื่นๆทั้งหมดรวมกันเสียอีก และด้วยความที่มีอาณานิคมเกือบทั่วทุกมุมโลกจึงทำให้ ฐานทัพเรือของอังกฤษกระจายอยู่ทั่วโลก กองทัพเรืออังกฤษสามารถปฎิบัติการณ์ได้ทั่วทุกย่านน้ำ และดำเนินนโยบายการทหารครอบคลุมทั่วทุกมุมโลก!!
3.Kingdom of Prussia
อาณาเขตและประชากร : ราชอาณาจักรปรัสเซีย กินพื้นที่บริเวณ เยอรมันตะวันออกทั้งหมด รวมถึงบริเวณ โปร์แลนด์ และ ลิธัวเนีย มีประชากรทั้งสิ้น 11 ล้านคน (ชาวเยอรมัน 10 ล้าน , โปร์แลนด์ 1 ล้าน)
นโยบายทางการเมืองและอำนาจบนเวทีโลก : ราชอาณาจักรปรัสเซีย นั้นเป็นชาติที่เพิ่งเกิดใหม่และเป็น ชาติของชาวเยอรมันที่เข้มแข็งที่สุดในตอนนั้น (เยอรมันสมัยก่อนไม่ได้รวมเป็นประเทศ) ทำให้มีอำนาจเหนือบริเวณแถบเยอรมันและยุโรปตอนกลางเกือบทั้งหมด มีระบอบกษัตริย์ปกครองและไม่อยู่ใต้อำนาจรัฐสภา แต่ด้วยนิสัยของ ไกเซอร์ Frederick William III ที่ไม่ชอบการทำสงครามและต้องการขยายดินแดนโดย นโยบายการเมืองมากกว่า จึงทำให้นโยบายของปรัสเซียนั้นค่อนข้างโอนอ่อนและละมุนละม่อนไปตามสภาพการเมืองในยุโรป ชาติไหนแข็งแกร่งก็ยอมเป็นพวก ชาติไหนทำท่าจะแย่ก็รีบเสียบ อำนาจอยู่บนิเวณยุโรปตอนกลาง
การทหาร : กองทัพบก "Landwehr" ของปรัสเซีย นั้นถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้า Frederick The Great กษัตริย์นักรบผู้มากความสามารถของปรัสเซีย (นโปเลียนในยุคนั้นแหละว่าง่ายๆ) ถือว่าเป็นกองทัพที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพกองทัพ 1 ในยุโรป ด้วยการฝึกทหารอันทรหด และการจัดระบบกองทัพที่เป็นระเบียบทำให้กองทัพบกของปรัสเซียนั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก แต่หลังสมัย Frederick The Great ปรัสเซียก็ไม่ได้ทำสงครามอีกเลย จึงทำให้ในตอนนี้กองทัพของพวกเขาอาจจะขึ้นสนิมบ้าง... ปรัสเซียนั้นเป็นชาติที่เพิ่งเกิดใหม่และมีทางออกทะเลไม่กี่ทางทำให้พวกเขาไม่มีกองทัพเรือ
4 .Austrian Empire
ผู้นำ : Emperor Francis II
อาณาเขตและประชากร : จักรวรรดิออสเตรีย นั้นกินอาณาบริเวณ ออสเตรีย , ฮังการี , เช็ค , ยูเครนบางส่วน , เยอรมันทางตอนใต้บางส่วน , และอิตาลีทางตอนเหนือ มีประชากรราวๆ 21 ล้านคน (ออสเตรีย 10 ล้าน , เยอรมัน 5 ล้าน , ฮังการี 3 ล้าน , อิตาลี 2 แสน ,อื่นๆ 2 ล้าน 8 แสน)
นโยบายทางการเมืองและอำนาจบนเวทีโลก : จักรวรรดิออสเตรียนั้นมีอำนาจและบทบาทบนเวทียุโรปมาอย่างยาวนาน โดยพวกเขาปกครองโดยระบอบจักรพรรดิมีอำนาจเบ็ดเสร็จ และ นโยบายของพวกเขานั้นส่วนใหญ่คือการขยายอำนาจในภาคพิ้นทวีป โดยการทำสงครามและการดอง (แต่งงานกันนั้้นแหละ) ทำให้จักรวรรดิออสเตรีย มีอาณาเขตในภาคพื้นทวีปใหญ่โตและมากด้วยหลายเชื้อชาติ
การทหาร : กองทัพบกของออสเตรียนั้น สามารถเรียกระดมพลได้มากเนื่องจากมีประชากรมากและมีพื้นที่ติดกันบนภาคพื้นทวีป ทำให้กองทัพบกของพวกเขาทีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากรัสเซียและฝรั่งเศส แต่ด้วยความไม่เป็นเอกภาพของเชื้อชาติกอปรกับความที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รักชาติสักเท่าไหร่ทำให้กองทัพของพวกเขาอยู่ในสภาพถูกบังคับมารบ มากกว่ามาด้วยใจ ส่วนกองทัพเรือนั้น ออสเตรียมีกองทัพเรือที่ไม่ใหญ่โตเนื่องจาก มีทางออกทะเลไม่กีทาง
5. Russian Empire
ผู้นำ : Tsar Alexander I
อาณาเขตและประชากร : จักรวรรดิรัสเซียนั้นใหญ๋โต มโหฬาร (และกันดารมาก) 55 โดยกินเนื้อที่ นั้นคือ รัสเซียทั้งหมด , อเมริกาแถบอลาสก้า , จอร์เจีย , เอชียกลาง มีประชากรประมาณ 45 ล้านคน (ชาวสลาฟ รัสเซียนั้นแหละ 40 ล้าน , คอสแซค รัสเซียสายมองโกล 3 ล้าน และอื่นๆ 2 ล้าน)
นโยบายทางการเมืองและอำนาจบนเวทีโลก : จักรวรรดิรัสเซียนั้นปกครองโดยระบบ ซาร์ หรือ จักรพรรดิ ซึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมาก กอปรกับความล้าหลังของรัสเซีย ทำให้ประชาชนรัสเซียยังไม่ได้รับการศึกษา และยังตกเป็นทาสอยู่จำนวนมาก ทำให้พวกเขาถูกปกครองอย่างเบ็จเสร็จไร้การโต้แย้ง เป็นลูกหมาในกำมือของ Tsar ในขณะเดียวอำนาจของรัสเซียนั้นก็จะกินบริเวณแถบยุโรปตะวันออก จรดไปยันจีนนู่น นโยบายขงรัสเซียในช่วงแรกๆนั้นคือการพัฒนาประเทศให้ทันสมัยทำให้พวกเขาคบมิตรกับอังกฤษ จนกระทั่ง นโปเลียนผงาดขึ้นมาทำท่าจะเป็นภัยกับอังกฤษ รัสเซียจึงต้องเขาร่วมสงครามเพื่อปกป้องเสถียรภาพของอังกฤษ.... (โดนจูงจมูกนั้นเอง 55)
การทหาร : กองทัพบกรัสเซียนั้นถือว่าใหญ่โตที่สุดในบรรดาชาติทั้งหมด เพราะมีประชากรมากสุด (ไม่นับอังกฤษเพราะมันเกรียนประชากรอาณานิคมมากกว่า ประเทศแม่ 55) สามารถระดมพลได้มากสุดกว่า ล้านนาย เพราะประชากรส่วนใหญ่นั้นยังไม่มีการศึกษาเขาสั่งให้ทำอะไรก็ทำ แต่ด้วยความล้าหลังของประเทศจึงทำให้กองทัพรัสเซียนั้นมีมากก็จริง แต่ล้าหลังและได้รับการฝึกแบบโบราณ ทำให้พวกเขานั้นเน้นจำนวนมากกว่าปริมาณ 55 มีเพียงกองทหารม้าของรัสเซียเช่น คอสแซค ซึ่งมีศักยภาพในการรบบนหลังม้าค่อนข้างสูง เนื่องจากพวกเขามีเชื้อสายมองโกล ส่วนด้านทัพเรือนั้น รัสเซียได้ปฎิรูปทัพเรือใหม่ให้ทัดเทียมกับชาติอื่นเนื่องด้วยเห็นความสำคัญของผลประโยชน์ทางทะเลจึงได้สร้างกองเรืออันแข็งแกร่งขึ้นมา 2 กองนั้นคือ กองเรือทะเลดำ และ กองเรือทะเลบอลติก ซึ่งกล่าวได้ว่ารัสเซียนั้นมีทัพเรือที่แข็งแกร่งกว่าฝรั่งเศสซะอีก แต่ยังเป็นรองอังกฤษอยู่หลายขุมอยู่ดี
อาณาเขตและประชากร : จักรวรรดิรัสเซียนั้นใหญ๋โต มโหฬาร (และกันดารมาก) 55 โดยกินเนื้อที่ นั้นคือ รัสเซียทั้งหมด , อเมริกาแถบอลาสก้า , จอร์เจีย , เอชียกลาง มีประชากรประมาณ 45 ล้านคน (ชาวสลาฟ รัสเซียนั้นแหละ 40 ล้าน , คอสแซค รัสเซียสายมองโกล 3 ล้าน และอื่นๆ 2 ล้าน)
นโยบายทางการเมืองและอำนาจบนเวทีโลก : จักรวรรดิรัสเซียนั้นปกครองโดยระบบ ซาร์ หรือ จักรพรรดิ ซึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมาก กอปรกับความล้าหลังของรัสเซีย ทำให้ประชาชนรัสเซียยังไม่ได้รับการศึกษา และยังตกเป็นทาสอยู่จำนวนมาก ทำให้พวกเขาถูกปกครองอย่างเบ็จเสร็จไร้การโต้แย้ง เป็นลูกหมาในกำมือของ Tsar ในขณะเดียวอำนาจของรัสเซียนั้นก็จะกินบริเวณแถบยุโรปตะวันออก จรดไปยันจีนนู่น นโยบายขงรัสเซียในช่วงแรกๆนั้นคือการพัฒนาประเทศให้ทันสมัยทำให้พวกเขาคบมิตรกับอังกฤษ จนกระทั่ง นโปเลียนผงาดขึ้นมาทำท่าจะเป็นภัยกับอังกฤษ รัสเซียจึงต้องเขาร่วมสงครามเพื่อปกป้องเสถียรภาพของอังกฤษ.... (โดนจูงจมูกนั้นเอง 55)
การทหาร : กองทัพบกรัสเซียนั้นถือว่าใหญ่โตที่สุดในบรรดาชาติทั้งหมด เพราะมีประชากรมากสุด (ไม่นับอังกฤษเพราะมันเกรียนประชากรอาณานิคมมากกว่า ประเทศแม่ 55) สามารถระดมพลได้มากสุดกว่า ล้านนาย เพราะประชากรส่วนใหญ่นั้นยังไม่มีการศึกษาเขาสั่งให้ทำอะไรก็ทำ แต่ด้วยความล้าหลังของประเทศจึงทำให้กองทัพรัสเซียนั้นมีมากก็จริง แต่ล้าหลังและได้รับการฝึกแบบโบราณ ทำให้พวกเขานั้นเน้นจำนวนมากกว่าปริมาณ 55 มีเพียงกองทหารม้าของรัสเซียเช่น คอสแซค ซึ่งมีศักยภาพในการรบบนหลังม้าค่อนข้างสูง เนื่องจากพวกเขามีเชื้อสายมองโกล ส่วนด้านทัพเรือนั้น รัสเซียได้ปฎิรูปทัพเรือใหม่ให้ทัดเทียมกับชาติอื่นเนื่องด้วยเห็นความสำคัญของผลประโยชน์ทางทะเลจึงได้สร้างกองเรืออันแข็งแกร่งขึ้นมา 2 กองนั้นคือ กองเรือทะเลดำ และ กองเรือทะเลบอลติก ซึ่งกล่าวได้ว่ารัสเซียนั้นมีทัพเรือที่แข็งแกร่งกว่าฝรั่งเศสซะอีก แต่ยังเป็นรองอังกฤษอยู่หลายขุมอยู่ดี
Europe At War Character Cards
1. French Empire
Leader
Noble & Politicians
Noble & Politicians
กลุ่มประเทศที่เข้าร่วมสงครามในปี 1806
1. พันธมิตร - ฝรั่งเศส ประกอบด้วย ฝรั่งเศส , สหพันธรัฐแห่งลุ่มแม่น้ำไรน์ (เยอรมันโปรฝรั่งเศส), อิตาลี , เนเปิลส์ , ฮอลแลนด์ , สเปน , ออสเตรีย,นอย์เวย์
2. กลุ่มสหพันธมิตร ประกอบด้วย อังกฤษ ,รัสเซีย , สวีเดน , โปรตุเกส , ซิซิลี , ฮันโนเวอร์ และ นัสซอ (เยอรมันโปรอังกฤษ)
3. ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ปรัสเซีย (สถานะค่อนข้างจะเอนเอียงไปได้ทั้ง 2 ฝ่าย) , ออตโตมัน (เอนเอียงไปทางฝรั่งเศส)