|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 15, 2016 6:38:16 GMT
EP9 : The Fall of Radamanthys
ห้องประชุมลับ ฐานทัพ Aiacos
หลังจากที่คนร้ายได้ลอบสังหารประธานาธิบดีไฮเซ็นไทน์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงก็ถูกเรียกตัวมาประชุมร่วมกันเป็นการด่วน ทุกคนอยู่ในภาวะหวาดวิตก เอริค ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยประธานาธิบดีอยู่แล้ว จึงเข้ารักษาการประธานาธิบดีโดยปริยาย เขานั่งอยู่หัวโต๊ะ เป็นประธานในที่ประชุม เอริค ยังคงใช้ผู้บริหารหน้าเดิมๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง การประชุมเรื่องการบริหารจัดการบ้านเมืองก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นจนจบลงด้วยดี
ไซเฟอร์ ใช้สิทธิออกความเห็น "ผมขอเสนอให้มีการสอบสวนการลอบสังหารประธานาธิบดีครับ" "จากรูปการณ์แล้ว การตายของ ดร.โอคิตะ รินโด กับห้องทดลองที่ถูกเผาจะต้องเกี่ยวข้องด้วยแน่" ไฮดี้ ก็กดไมค์ข้างหน้าตนเองพูด "ดิฉันจะขอร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ไซเฟอร์ ในการสอบสวนครั้งนี้ค่ะ" เอริค มองไปรอบๆ ห้อง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงราว 15 คน "มีใครต้องการคัดค้านเรื่องนี้ไหมครับ" เขาทิ้งช่วงให้เจ้าหน้าที่ในห้องคิดสักพัก จึงสรุปว่า "เรื่องการสอบสวนได้รับอนุมัติ ฝากพวกคุณด้วย" ไฮดี้ ก้มหน้าลง เธอรู้สึกเศร้าใจที่ต้องเสียอาจารย์ไป ไซเฟอร์ ที่นั่งข้างกันปลอบโดยการลูบหัวเธอเบาๆ
เอริค เปิดเอกสารไปยังหน้าต่อไป "เราจะประกาศการตายของประธานาธิบดี และแจ้งว่าท่านถูกลอบสังหาร" ไซเฟอร์ ขมวดคิ้ว แล้วแย้งขึ้นทันที "ผมเห็นว่าเราไม่สมควรทำเช่นนั้นครับ ท่านรักษาการประธานาธิบดี" คำพูดของ ไซเฟอร์ ทำให้ เอริค รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทั้งห้อง หันมามอง สายตาพวกเขากำลังรอคำอธิบาย ไซเฟอร์ เห็นเช่นนั้น จึงพูดต่อไป "สถานการณ์ตอนนี้ ถ้าแจ้งไปจะยิ่งทำให้ประชาชนหวาดหวั่นมากขึ้น" "ผมเห็นว่า เราควรประกาศข่าวนี้ได้ก็ต่อเมื่อทางเราได้หาตัวคนร้ายมาลงโทษได้แล้วน่ะครับ" คำพูดของเขาฟังดูมีเหตุผล และมันก็มากพอที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงเกือบทั้งหมดเห็นด้วย ผลการลงมติเรื่องนี้จึงเป็นไปตามที่ ไซเฟอร์ เสนอ เอริค สรุปเสร็จก็แจ้งให้เลิกการประชุม
เมื่อ ไซเฟอร์ เดินออกจากห้อง เอริค กัดฟันแน่น เขามองตามหลัง ไซเฟอร์ ไปด้วยสายตาอาฆาต
................................................................
สวนสาธารณะกลางเมือง ภายในฐาน Aiacos
ไดสึเกะ กำลังนั่งอยู่ที่ม้านั่งด้วยท่าทางคอตก แสดงถึงความผิดหวังในตัวเองขึ้นมาชัดเจน ลินดา ที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้แต่ยิ้ม เธอไม่รู้จะปลอบใจเช่นไร เพราะเธอยังไม่ประสบเหตุการณ์แบบนั้น
"รู้ไหม ลินดา.... ผมเริ่มจากการถูกคนจำนวนมากดูถูกเหยียดหยาม ไม่เคยให้ความสำคัญในตัวผมเลย" "แม้ว่ามันดูเจ็บปวด....แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ และอาศัยในสังคมเดียวกันกับผม...." "มันเป็นแรงผลักดันให้ผมไม่ยอมแพ้...ผมจึงพยายามทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้ให้ดีที่สุด เพื่อปกป้องพวกเขา" "จนในที่สุดผมก็ทำได้...ใครๆ ก็ตั้งความหวังไว้ที่ผมมากมาย...รวมถึงตัวผมเองที่คาดหวังด้วยเช่นกัน" "ผมหวังว่าจะปกป้องทุกคนเอาไว้ให้ได้.....แต่ทำไมแค่คนๆ เดียวที่มีความสำคัญต่อผม...ผมกลับ....."
ลินดา ยิ้มบางๆ "แต่ว่าอย่างน้อย....ไดสึเกะ ก็ได้ลงมือทำอย่างเต็มที่แล้วไม่ใช่หรอคะ" คำพูดของ ลินดา สามารถปลอบใจ ไดสึเกะ ขึ้นมาได้บ้าง "นั่นสินะครับ....แค่มันยังไม่ดีพอ...." ช่วงนั้น นานาชิ ก็กระโจนเล่นหัวของ ไดสึเกะ เหมือนเช่นเคย มันทำเหมือนกำลังเล่นไหมพรมก็ไม่ปาน ไดสึเกะ หัวเราะออกมานิดๆ รอยยิ้มของเขาปรากฎขึ้นมาหน่อยๆ ขณะพยายามจับ นานาชิ ลงมา
เวลานั้น โซเนีย ที่กำลังเดินชะเง้อมองซ้ายมองขวาอยู่ ก็เหลือบมาเห็น ไดสึเกะ กับ ลินดา พอดี เธอยิ้มแล้วรีบเดินตรงเข้ามาหา โซเนีย มาหยุดยืนตรงหน้า ทำเอา ไดสึเกะ หน้าแดงนิดๆ "หาตัวซะทั่ว มาอยู่นี่เองหรอคะ คุณซาซากิ" โซเนีย ยิ้มพร้อมกับพูดเชิงบอกว่าตามหาตัวเขาอยู่ ไดสึเกะ มีอาการงงเล็กน้อย "ที่ว่าหาตัวซะทั่วเนี่ย คุณโซเนีย กำลังตามหาตัวผมอยู่หรอครับ" โซเนีย พยักหน้า เธอเปิดกระเป๋าสะพายข้าง แล้วค้นหาของบางสิ่ง ก่อนจะหยิบมันออกมา มันเป็นจดหมายฉบับหนึ่ง เธอยื่นมันให้ ไดสึเกะ ซึ่งตอนนั้นเขาหน้าแดงจนพูดอะไรไม่ออก ลินดา ก็หน้าแดง ความรู้สึกของเธอเหมือนถูกหักหน้าจนแทบอยากจะลุกออกจากตรงนั้น
"ของ พัชรี น่ะค่ะ...เธอบอกว่า ถ้าเธอต้องตาย ให้ชั้นช่วยส่งให้คุณซาซากิ แทนด้วย" โซเนีย พูด เมื่อฟังจบสีหน้าของ ไดสึเกะ ที่ดูเขินอายก็หายไป รวมไปถึงอาการหึงหวงของ ลินดา เช่นกัน โซเนีย ปิดกระเป๋าของเธอ "ปกติแล้วชั้นไม่ค่อยเห็น พัชรี มีเพื่อนซะเท่าไร อาจเพราะเป็นคนเงียบๆ" "แต่ไม่คิดมาก่อนเลยนะคะว่าคุณซาซากิ เป็นเพื่อนสนิทของเธอ ไม่ค่อยเห็นคุยกันเท่าไรเลย" คำพูดของ โซเนีย เป็นสิ่งที่ ไดสึเกะ ไม่รู้จะอธิบายออกไปเช่นไร ได้เพียงรู้สึกโชคดีที่มันไม่ใช่คำถาม "งั้นชั้นขอตัวก่อนนะคะ....แล้วเจอกันนะคะ คุณซาซากิ....คุณลินดา ก็ด้วย ดูแลตัวเองด้วยนะคะ" โซเนีย พูดจบปุ๊บ เธอก็เดินจากทั้งสองคนออกจากสวนสาธารณะแห่งนั้นไป
"สนิทกับนักบินคนนั้นหรอคะ....เธอกล้าหาญมากเลยนะคะที่ทำแบบนั้น" ลินดา ถามขึ้น ไดสึเกะ พยักหน้าตอบแบบเศร้าๆ "ครับ" ในใจเขากำลังคิดว่า "พัชรี...เธอเขียนอะไรเอาไว้นะ"
................................................................
ห้องทำงานประธานาธิบดี
ทีมสอบสวนกำลังเข้ามาค้นหาหลักฐานและเบาะแส ที่พอจะเชื่อมโยงไปหาตัวคนร้ายได้ ไซเฟอร์ เปิดคอมพิวเตอร์ที่ วอลเบิร์ต ใช้อยู่เป็นประจำขึ้นมา ปรากฎว่ามันถูกเข้ารหัสเอาไว้ ไฮดี้พยายามบอกรหัสที่เธอคาดเดาว่ามันอาจจะเป็นรหัสเปิดเครื่อง ทั้งวันเกิดหรือเลขสำคัญ แต่ทั้งสองก็ยังไม่สามารถที่จะทำการเข้ารหัสที่ถูกต้องได้จน ไซเฟอร์ ต้องทำการแฮคเครื่อง
"นายทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ ทำไมไม่สอนชั้นบ้างล่ะ" ไฮดี้ อึ้งกับความสามารถของ ไซเฟอร์ ไซเฟอร์ หัวเราะ "พอดีช่วงที่ไม่ได้ออกไปรบ ชั้นใช้เวลาในการศึกษาศาสตร์ที่เป็นประโยชน์น่ะ" "จริงๆ เรื่องอื่นๆ ชั้นก็สอนเธอไปหมดแล้วนะ แต่เรื่องนี้มันซับซ้อนน่ะ สมองน้อยๆ อาจจะไม่เข้าใจ" ไฮดี้ โมโห เธอหยิกแขน ไซเฟอร์ อย่างแรงจนเขาตะโกนว่า "ล้อเล่นๆ พอแล้วๆ เข้าเรื่องงานเถอะ"
ไซเฟอร์ คุ้ยข้อมูลล่าสุดที่ถูกเรียกใช้ขึ้นมาจาก Ram และ Hard-disk ของคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น "รายงานของ ดร.โอคิตะ รินโด ....Omnipotent อุปกรณ์สื่อสารกับ Arachna สร้างขึ้นสำเร็จ" "แต่ข้อมูลการใช้ไม่ได้ถูกส่งมาด้วย มันอาจจะอยู่ที่ห้องทดลองของ ดร.โอคิตะ ก็เป็นได้" ไฮดี้ จึงแจ้งไปว่า "ถ้าอย่างนั้นก็คงจะไม่เหลือแล้วล่ะ...ห้องทดลองถูกเผาไปหมดแล้ว"
"ข้อมูลชุดนี้นอกจากประธานาธิบดี ยังถูกส่งไปให้กับผู้บังคับการอีกชุด...เธอว่ามันเข้าเค้ามั้ย?" "หมอนั่นขัดแย้งกับอาจารย์มาตลอดเรื่องมุมมองที่มีต่อพวก Arachna พูดทีไรทะเลาะกันทุกที" "อาจารย์เห็นว่ามนุษย์จะต้องทำลายพวก Arachna ให้หมด คงคิดจะใช้ Omnipotent เพื่อการนั้น" "แต่ เอริค แซนเบิร์ก ต้องการที่จะสื่อสารกับ Arachna โดยหวังผลประโยชน์ที่จะได้จากพวกมัน" "แถมยังเคยพูดว่า...ถ้าตาแก่นั่นลงโลงเมื่อไหร่ ชั้นจะทำให้การสื่อสารกับ Arachna เป็นจริง" "ตอนนี้ Omnipotent ได้ถูกติดตั้งเอาไว้ที่ Valkyria Unit รุ่นทดสอบ VF-27 Lucifer...."
ไฮดี้ มองหน้า ไซเฟอร์ "ถ้าเป็นอย่างที่เราคิด....เราจะให้หมอนั่นไปถึง VF-27 Lucifer ไม่ได้" ว่าแล้วเธอก็รีบต่อสายไปยังโรงเก็บทันที "นี่เจ้าหน้าที่คัทเซ็นเมเยอร์ มีใครไปที่ VF-27 รึเปล่า" เสียงในสายก็ตอบกลับมาว่า "ไม่ทราบครับ ช่วงนี้เป็นช่วงพักของเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงครับท่าน" ไซเฟอร์ ได้ยินเพราะเสียงดังมากพอไม่ต้องเอาหูไปแนบ "แย่ล่ะสิ!! หมอนั่นต้องลงมือตอนนี้แน่"
ไซเฟอร์ และ ไฮดี้ ไม่รอช้า พวดเขาสั่งการทีมสอบสวนให้ไปยังโรงเก็บ VF-27 Lucifer ทันที
................................................................
|
|
|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 15, 2016 6:43:45 GMT
ห่างออกไปจาก Aiacos หลายพันกิโลเมตร
บัดนี้ฐาน Radamanthys ได้ติดตั้ง Beholder ที่รับจาก Aiacos ไว้รอบรัศมีเรียบร้อยแล้ว แต่พวกเขาได้รับ Beholder ไปไม่มาก จึงต้องติดตั้งไว้ไม่ห่างจากฐาน มันอยู่ที่ระยะ 50 กิโลเมตร Radamanthys เป็นฐานที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่ง เพราะมีการทดลองอาวุธในทะเลอยู่บ่อยครั้ง พวกเขาเป็นฝ่ายที่ควบคุมปืนใหญ่วงโคจรทั้ง 3 กระบอก ซึ่งโคจรอยู่ 3 มุมรอบ Gliese
Beholder ที่ถูกติดตั้งไว้ ปกติแล้วจะแสดงสัญญาณไฟสีเขียว มันจะกระพริบเมื่อตรวจพบกลิ่น Arachna ทว่าจู่ๆ Beholder รอบฐาน Radamanthys ทั้งหมดก็มีสัญญาณไฟสีแดงเพิ่มขึ้นมา แล้วมันก็กระพริบ ไม่นานนัก สัญญาณไฟสีเขียวก็กระพริบตามอีก นั่นหมายถึงมีการบุกรุกของพวก Arachna อย่างแน่นอน
ฐานบัญชาการ Radamanthys พบสัญญาณ Arachna ขนาดใหญ่จำนวนมากกำลังมุ่งหน้าเข้ามา พวกเขารีบสั่งการนักบินทั้ง 180 นาย รวมไปถึงอาวุธของฐานทัพให้เข้าสู่สถานะพร้อมรบทันที นักบินของ Radamanthys ต่างรีบเข้าประจำที่ อาการของพวกเขาดูร้อนรนเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าฐาน Radamanthys ไม่เคยถูก Arachna เข้ามาประชิดเป็นจำนวนมากเช่นนี้มาก่อน
ณอง กอสลิ่ง ขึ้นประจำเครื่อง VF-19 EXS พร้อมออกบินด้วยท่าทางที่ใจเย็นและไม่ร้อนรนนัก "แปลกดีนะ...ตั้งแต่พวกมันเริ่มโจมตีมา มันไม่เคยมุ่งหน้าเข้าหา Radamanthys ในลักษณะแบบนี้" "ราวกับว่ามีบางอย่างบอกตำแหน่งกับพวกมันยังไงยังงั้น....หรือว่าจะเป็น...Beholder....."
"คิเมร่า ลีดเดอร์....ณองกอสลิ่ง....Excalibur Blade Wolf....ออกตัว!!"
................................................................
Radamanthys เข้าสู่สภาวะสงคราม
Arachna ยักษ์จำนวนกว่า 20 ตัวเข้าโจมตี Radamanthys จากทุกทิศทาง VF-19EX Wolf ทั้ง 179 ลำ พร้อมด้วย VF-19 EXS Excalibur BladeWolf เข้าทำการต่อสู้
ฌอง บินหลบน้ำกรดที่ Arachna พ่นใส่ จากนั้นบินควงรอบรยางค์ของมันพร้อมกับสาดกระสุนเข้าใส่ เขาพยายามหาจุดอ่อนของ Arachna ยักษ์นี้ เพราะ GPR ไม่สามารถยิงทำลายมันได้โดยตรง ระหว่างนั้น VF-19EX เครื่องอื่นก็เริ่มตกเพราะความแข็งแกร่งของ Arachna และจำนวนของมัน "ต้องมีสักที่ล่ะนะ ไม่งั้นล่ะก็ .... Radamanthys คงต้องจบสิ้นอย่างแน่นอน" ฌอง กัดฟันพูด เขาพูดขึ้นเพราะเขารู้ดีอยู่แล้วว่า ระยะการปะทะใกล้ฐาน Radamanthys มากจนเกินไป การยิงด้วยปืนใหญ่วงโคจรซึ่งเป็นคลื่นแรงโน้มถ่วง จะสร้างความเสียหายแก่ฐานไปด้วย แต่หากเขาหาจุดอ่อนของเกราะมันได้ เขาจะสามารถทำลายมันลงโดยลดความเสียหายไปได้มาก
ฌอง สังเกตุจังหวะที่ Arachna ยักษ์อ้าปากเพื่อพ่นน้ำกรดออกมา ดูเหมือนจะเป็นจุดอ่อนของมัน แต่กระสุนและ Missile ไม่สามารถยิงสวนไปได้แน่นอน มันจะถูกน้ำกรดย่อสลายก่อนจะถึงตัว ณอง จึงบินเข้าไปยิง Missile ใส่เพื่อล่อมันในระยะประชิด Missile ของ Radamanthys นั้นแรงมาก มันพอจะทำให้ Arachna ยักษ์รู้สึกได้มากกว่า Missile ของ Aiacos เขาจึงดึงความสนใจสำเร็จ ทันทีที่มันหันมาแล้วอ้าปากเพื่อพ่นน้ำกรดใส่ ณอง ก็ Shape-Shift เป็นโหมดบินและฉากหลบ ก่อนจะ Shape-Shift กลับมาเปิดระบบม่านลม เพื่อยิง GPR สวนเข้าไปในปากของ Arachna ทันที เนื่องจากสิ่งที่ถูกยิงใส่เป็นคลื่นไม่ใช่สสาร กรดจึงไม่สามารถสลายคลื่นแรงโน้มถ่วงได้ มันทะลุออกส่วนหลังของหัว Arachna ก่อนจะดูด Arachna ยักษ์หายไปได้ทั้งตัวในพริบตา
"ได้การล่ะ!! จากคิเมร่าลีดเดอร์ ปล่อย Koenig Monster ทั้งหมดออกมาได้" "ทำการยิงใส่ปากของมันด้วย Gravitational Pulsed Cannon!! เราถึงจะล้มมันได้ เล็งดีๆล่ะ" เมื่อ ณอง แจ้งไปเรียบร้อย สิ่งที่เขาเรียกว่า Koenig Monster ก็ถูกปล่อยออกจากฐาน
มันเป็นยานรบคล้าย Valkyria Unit แต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก เมื่อมัน Shape-Shift รูปร่างของมันเหมือนป้อมปืนใหญ่ที่ยืนด้วย 2 ขา ติดตั้งอาวุธปืนใหญ่ รวมไปถึง GPR Koenig Monster ทั้งหมด 10 เครื่อง เริ่มบินไปตั้งป้อมหาทำเลในการโจมตี VF-19EX และ VF-19 EXS ทำหน้าที่หลอกล่อให้มันอ้าปากเพื่อพ่นน้ำกรด บางเครื่องก็หลบน้ำกรดไม่พ้นถูกน้ำกรดย่อยสลายหายไป บางเครื่องก็ถูกรยางค์ฟาดใส่จนตก แต่พวกเขาก็สามารถเปิดช่องให้ Koenig Monster ยิงได้เป็นอย่างดี ฌอง กอสลิ่ง ยิ้มอย่างพอใจ
แค่ตัวเขาคนเดียว ก็ทำลาย Arachna ยักษ์ไปแล้วถึง 5 ตัว ดูเหมือนพวกเขากำลังได้เปรียบ
................................................................
ณ โรงเก็บ Valkyria Unit ของ Aiacos
ไฮดี้ และ ไซเฟอร์ วิ่งเข้ามาทางหลุมจอดของ VF-27 Lucifer พร้อมทีมสอบสวนอย่างรีบร้อน พวกเขาเห็นชายคนหนึ่งกำลังปีนขึ้นไปบนตัวเครื่อง VF-27 Lucifer ทว่าเห็นจากด้านหลังเท่านั้น
ไซเฟอร์ รีบชักปืนขึ้นมาแล้ววิ่งเข้าไปใกล้ทันที "หยุดอยู่ตรงนั้นล่ะ!! นายถูกจับแล้ว ลงมาซะ" เมื่อชายคนนั้นหัวเราะเบาๆ เขาหันกลับมาช้าๆ เมื่อหันกลับมาก็เป็นไปตามคาด "เอริค แซนเบิร์ก!!" ไซเฟอร์ ยิ้มมุมปาก "ไม่แปลกใจเลยจริงๆ ที่เป็นนาย....มันจบแล้ว เอริค มอบตัวซะ!!" ทีมสอบสวนควักปืนขึ้นมาล้อม VF-27 Lucifer เอาไว้ได้ ไฮดี้ หยิบกุญแจมือสำหรับนักโทษขึ้นมา มันเป็นโลหะที่แข็งแรงมาก ล็อคด้วยกุญแจไร้ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ ยกเว้นเซ็นเซอร์บอกตำแหน่ง
เธอเดินเข้าไปหา เอริค ก่อนจะประกาศ "เอริค แซนเบิร์ก คุณถูกจับข้อหาลอบสังหารประธานาธิบดี" เอริค ส่ายหัวแล้วยิ้มมุมปาก ก่อนจะยอมให้ ไฮดี้ สวมกุญแจมือใส่ข้อมือของเขาแบบไร้ซึ่งการขัดขืน
................................................................
|
|
|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 15, 2016 6:49:34 GMT
ห้องสอบสวนภายในฐานทัพ Aiacos
มันเป็นห้องโล่งขนาดกว้าง 5x5 เมตร มีโต๊ะอยู่ตัวหนึ่งตั้งตรงกลาง ไฟนีออนสว่างไปทั้งห้อง มีเก้าอี้สองตัวสำหรับใช้สอบสวน ข้างฝาเป็นกระจกที่มองจากด้านในเป็นกระจกเงา ติดตั้งกล้อง CCTV
ในห้องนั้น เอริค กำลังถูกสอบสวนอยู่ ไฮดี้ เธอถามหลายคำถาม แต่ เอริค ไม่ตอบสักคำถาม "นายเป็นคนฆ่าประธานาธิบดีใช่ไหม?" เอริค ยิ้มๆ แล้วมองหน้า ไฮดี้ โดยไม่พูดอะไร "แล้วนายเผาห้องทดลองในเวลาเดียวกับที่ลอบสังหารได้ยังไง? หรือมีคนคอยช่วยนาย?" เขาก็ไม่ตอบ "แล้วนายทำไปเพื่ออะไร? เพื่อพิสูจน์ว่านายถูก หรือนายคิดจะใช้ Arachna ปกครองผู้คนจริงๆ" เขายิ้ม คำถามเกี่ยวกับรูปคดีอีกมากมายรวมถึงการเล่นจิตวิทยา ไฮดี้ ไม่สามารถทำให้ เอริค เปิดปากได้เลย
ในที่สุดเธอก็หมดความอดทน เธอฟาดสมุดที่ เอริค พกติดตัวมาตลอดลงบนโต๊ะอย่างแรง "แล้วไอ้สมุดบันทึกประจำวันที่นายจดเอาไว้เล่มนี้ล่ะ!! ซ่อนบางอย่างเอาไว้ใช่รึเปล่า!!?" เอริค หัวเราะ ก่อนจะเปิดปากพูดว่า "อย่าบอกนะว่าเธอกำลังหาอะไรในไดอารี่อยู่ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ" ไฮดี้ ลุกขึ้นพูด "งั้นเชิญนายเขียนไดอารี่ต่อไปเถอะ อย่าลืมจดไว้ด้วยล่ะว่าในชีวิตในคุกเป็นยังไง"
ก่อนที่ ไฮดี้ ก้าวออกจากเก้าอี้ ฟองน้ำ ก็รีบเข้ามาในห้องสอบสวนด้วยอาการรีบร้อน เธอมองหน้า เอริค สายตาซึ่งปกติดูอ่อนโยนกลับกลายเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ในใจของ ฟองน้ำ คงมีหลายอย่างที่ต้องการคำตอบจาก เอริค ราวกับเธอโดนเขาหักหลัง แต่ด้วยความรับผิดชอบ เธอกัดฟันปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เธอเปิดเครื่องฉายภาพไปที่กระจกข้างห้องสอบสวน ภาพที่ฉายขึ้นทำเอาม่านตาของ ไฮดี้ หดเล็กลงด้วยความตกใจ ไซเฟอร์ ที่อยู่หลังกระจกก็ไม่ต่างกัน
มันเป็นภาพของฐาน Radamanthys ที่กำลังถูกโจมตีด้วย Arachna ยักษ์ราวๆ 8 ตัว ฌอง กอสลิ่ง ถามผ่านเข้ามาในตอนนั้นว่า "พวกคุณทำอะไรกับเครื่อง Beholder ไว้รึเปล่าครับ" ไฮดี้ ขมวดคิ้ว เธอตอบกลับไปว่า "เราก็ส่งให้ตามข้อตกลงแล้วนี่คะ มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ?" ฌอง ซึ่งกำลังบินอยู่ก็อธิบาย "พวกมันมาเยอะแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ต้องมีสิ่งที่ล่อมันเข้ามาแน่" เอริค ยิ้ม แล้วพูดเสริมขึ้นว่า "จากสถานการณ์ที่เห็น สิ่งที่คุณกอสลิ่ง พูดนั้นคงไม่มีสิ่งใดผิด" "การที่สร้าง Beholder ตรวจจับกลิ่นได้ เราก็สามารถสร้างให้มันส่งกลิ่นได้ อยู่ที่ว่าโปรแกรมมันยังไง"
ไฮดี้ กัดฟันแน่น เธอตบหลังมือเข้าใส่หน้าของ เอริค อย่างแรง ทำเอา ฌอง ที่มองผ่านกล้องอึ้งไป เธออธิบายว่า "เอริค แซนเบิร์ก ก่อความวุ่นวายที่นี่ไว้ และตอนนี้คงจะสร้างปัญหาให้พวกคุณด้วย" "แต่ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ตอนนี้ทางเราได้ควบคุมตัวเขาเอาไว้แล้ว กำลังสอบสวนและรอการลงโทษ"
................................................................
สนามรบ Radamanthys ห่างจากฐานเพียง 10 กิโลเมตร
ขณะนี้ Arachna ยักษ์เหลือเพียง 3 ตัวเท่านั้น แต่กองกำลังของ Radamanthys เองก็เหลือไม่มาก Koenig Monster ที่มีอยู่ทั้งหมดตอนแรก 10 ลำ ถูกทำลายไปบางส่วนและยังใช้การได้อยู่ 4 ลำ หลังจากได้รับข้อมูลจาก ไฮดี้ เมื่อครู่ ณอง ก็สั่งให้ฝูงบินที่เหลือทำลาย Beholder ทิ้งให้หมด VF-19EX หลายเริ่มบินออกไปเพื่อทำลาย Beholder รอบๆ ที่ห่างออกไปราว 40 กิโลเมตร แต่ทว่าในจังหวะนั้นเอง มีวัตถุบางอย่างเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 60 เมตร ร่วงลงมากลางสนามรบ ทำให้เกิดฝุ่นตลบอบอวลไปทั่วในวินาทีนั้น สัญญาณ Valkria Unit กลับหายไปทีละลำอย่างรวดเร็ว
"มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย" ฌอง พูดขึ้น ขณะเขา Shape-Shift เป็นโหมดบิน แล้วบินหนีขึ้นไปมุมสูง เมื่อฝุ่นละอองจางลง มันปรากฏร่าง Arachna กึ่ง Humanoid เพศเมีย ขนาดสูง 60 เมตรขึ้นมา มันมีหัวคล้ายมนุษย์ มีแขนสองข้าง ร่างสีดำขลิปแดง ลำตัวท่อนบนเป็นมนุษย์ ท่อนล่างคล้ายแมลง มันมีขา 4 ข้างขนาดใหญ่ยักษ์ หากมองดูก็รู้ดีว่ามันสามารถกระโดดได้ไกลขนาดไหน
สิ่งที่ ณอง เห็น และสิ่งที่ ไฮดี้ ไซเฟอร์ เอริค และฟองน้ำ เห็นผ่านจอมันคือตัวนางพญาแน่นอน ไม่นานนัก Arachna ขนาดยักษ์อีกราวๆ 30 ตัว ก็ผุดขึ้นมาจากพื้นดินทำให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างแรง Arachna ยักษ์ใช้รยางค์ที่ยืดยาว ไล่ตวัดใส่ VF-19 EX ที่กำลังบินไปทำลาย Beholder ทิ้งจนหมด
"Queen Arachna..." ฌอง ไม่รอช้า เขาหันไปต่อสู้กับ Queen Arachna ทันที
เขาบินหลบรยางค์ของนางพญา ก่อนจะกระหน่ำปืนกลเข้าใส่หัวของนางพญาอย่างแม่นยำ แต่ดูเหมือนมันไม่สะทบสะท้าน ณอง ใช้แอร์เบรค ปล่อยรยางค์ที่พุ่งมาดักหน้า ให้ผ่านหน้าไป เขา Shape-Shift กลับเป็นหุ่นรบ เปิดรัง Missile ทั้งหมดแล้วกระหน่ำยิงใส่ส่วนลำตัวมนุษย์ของมัน แต่ Missile ที่ว่าทรงอานุภาพมากของ Radamanthys กลับไม่ระคายผิวของมันแม้แต่น้อย ในที่สุด ฌอง ก็ต้องใช้โหมดบิน ทะยานขึ้นไปบนที่สูง ก่อนละเปลี่ยนกลับเป็นหุ่นรบเพื่อเล็ง GPR
"เอาล่ะ ลองกินไอนี่ดูหน่อยเป็นไง เจ้านางพญาสุดสยอง" ณอง พูดขึ้นขณะบรรจงเล็ง GPR เขายิงคลื่น GPR ลงมาจากความสูงราวๆ 7 กิโลเมตร ซึ่งต้องใช้ความแม่นยำสูงมากๆ คลื่นที่พุ่งลงมาด้วยความเร็วสูงนั้นไม่พลาดเป้าแน่นอน มันตรงดิ่งเข้าหากลางหน้าอกของ Queen เป็นที่รู้กันดีว่า 10 ปีก่อน ไซเฟอร์ ผู้สังหาร Queen Arachna ค้นพบจุดอ่อนของมันว่าอยู่ที่ช่วงอก แต่สิ่งที่ ณอง กอสลิ่ง คาดไม่ถึงนั่นก็คือ Queen Arachna จะหลบคลื่นแรงโน้มถ่วงของ GPR ได้ มันใช้กำลังขาอันมหาศาล ดีดตัวเองขึ้นฟ้าหลบคลื่น GPR แล้วตรงดิ่งขึ้นมาหา ฌอง ทันที
"ระ....เร็ว...." ฌอง อึ้งปากค้างในขณะที่ Queen Arachna พุ่งขึ้นมาจับ VF-19 EXS ด้วยมือ แล้วทิ้งตัวกลับลงพื้น เมื่อนางพญาสัมผัสพื้น ฝุ่นละอองก็ฟุ้งอีกครั้งพร้อมกันการสั่นสะเทือนอย่างแรง Koenig Monster ที่พยายามยิงช่วยเหลือ ณอง ก็ไม่สามารถรับมือกับ Arachna ยักษ์ตัวอื่นที่มีมากได้ มันถูกลำลายทิ้งไปทั้งหมดอย่างรวดเร็ว และไม่ต่างกับ Valkyria Unit เครื่องอื่นที่โดนตบร่วงเหมือนยุง
เมื่อฝุ่นละอองจางลง นางพญาได้โยนเศษซากของ VF-19 EXS ลงบนพื้นดินด้านหน้าตัวมัน รยางค์ที่งอกจากปลายนิ้วของมัน รัดตัวและลำคอของ ฌอง กอสลิ่ง ไว้อย่างแน่จนเขาหายใจไม่ออก ดวงตาขอ ณอง เริ่มถลนออกจากเบ้าตา เลือดเริ่มไหลออกทั้งทางหู ใต้ตา และทางปาก มันรัดแน่นจนลำไส้ทะลักออกทางทวารหนักลงมากองอยู่ที่ก้นกางเกงนักบินของเขา เมื่อ ฌอง กอสลิ่ง สิ้นใจ Queen Arachna ก็หย่อนร่างของเขาเข้าไปในปากพร้อมกับกลืนหายไป
หลังจากบริโภคร่างของนักบินหนุ่มไปแล้ว นางพญาก็ทำการกระโดดอีกครั้ง คราวนี้มันกระโดดไปข้างหน้า จุดตกคือหลังคาโดม Radamanthys ที่ห่างออกไปถึง 10 กิโลเมตร เมื่อมันลงสัมผัสหลังตาโดมซึ่งเป็นโลหะแข็งชนิดพิเศษ มันกลับทะลุลงไปยืนอยู่ใจกลางโดม
ไฮดี้ ตกใจกับภาพที่จอแสดงขึ้นเธอพูดขึ้นด้วยเสี่ยงสั่นเทา “Radamanthys ล่มสลายแล้ว…”
................................................................
ที่ห้องพักนักบิน
ไดสึเกะ นอนอยู่บนเตียง เขาเปิดไฟหัวเตียงไว้ ในมือของเขามีจดหมายที่ พัชรี เขียนทิ้งไว้ เขาถอนหายใจก่อนจะฉีกซองออกแล้วเปิดตัวจดหมายที่พับไว้ขึ้นมาอ่าน
ถึง ซาซากิ ไดสึเกะ
-----------------------------------------ฉันคิดไว้แล้วว่าวันนี้คงมาถึง และนายเองคงจะต้องนั่งเศร้าใจเหมือนเคยอีกเป็นแน่ -----------------------------แต่คราวนี้ฉันคงไม่ได้อยู่เตือนสตินายอีกแล้ว เป็นหน้าที่ของสมองนายที่จะต้องคอยเตือนสติแทน -----------------------------นายเป็นคนที่มีความสามารถสูง ในสายตาพวกเราที่เป็นนักบินทุกคน นายเหมือนความหวัง -----------------------------ตัวนายเองมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง ซึ่งดูแล้วคงจะแก้ไม่ได้หากยังมีวิธีคิดแบบเดิมเช่นนี้อยู่ -----------------------------มันคือความห่วงใยคนอื่น จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องผิด แต่นายมีสิ่งนั้นมากจนเกินไป จนเป็นอันตราย -----------------------------นายพร้อมจะปกป้องทุกคนชนิดยอมแลกด้วยชีวิตโดยไม่คำถึงว่าคนที่นายช่วยเอาไว้เป็นใคร -----------------------------นี่เป็นข้อเสียที่ใหญ่มาก เพราะความเป็นจริงนายไม่สามารถแลกชีวิตเดียวของนายกับทุกชีวิตได้ -----------------------------ฉันขอแนะนำนายว่า "จงสละชีวิตของตนให้แก่คนที่มีความสำคัญและคุ้มค่าพอเท่านั้น" -----------------------------สุดท้ายแล้ว ขอบคุณที่อยู่ข้างฉันในเวลาที่ฉันเดียวดาย ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะ -----------------------------ฉันไม่เคยเสียใจเลยสักนิดที่ได้รู้จักกับนาย ซาซากิ ไดสึเกะ
-------------------------------------------------------------------------------------------พัชรี เอราเมนทัล
つづく.
|
|
|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 15, 2016 7:00:37 GMT
EP10 : The Omnipotent
ภายหลังจากที่ Radamanthys ฐานทัพที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดล่มได้สลายลงไป รัฐบาลแห่ง Aiacos ก็ไม่มีทางเลือก พวกเขาให้ ไฮดี้ คัทเซ็นเมเยอร์ รับตำแหน่งรักษาการ เธอตัดสินใจประกาศการล่มสลายของ Radamanthys พร้อมกับการปรากฎตัวของนางพญา เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมความพร้อมและซักซ้อมการหลบภัยภายใน Shelter ของฐาน
มุมอับแห่งหนึ่งภายในฐานทัพ Aiacos
"โยฮัน น่ะหรอครับ!! หมอนั่นไม่น่าจะเป็นคนเผาห้องทดลองได้นะครับ" ไดสึเกะ พูดขึ้น คู่สนทนาของเขาก็คือ ไฮดี้ คัทเซ็นเมเยอร์ เธอตัดสินใจบอก ไดสึเกะ เรื่องที่ เอริค ได้ก่อไว้ เธอพยักหน้า "ใช่แล้วล่ะ จากการสอบข้อเท็จจริง โยฮัน เฮลซิงเกอร์ ถือว่าเป็นผู้ต้องสงสัย" "เขาเป็นคนที่ เอริค แซนเบิร์ก ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ แถมเคยมีการสนทนาลับกันอยู่บ้าง" "ประกอบกับ โยฮัน เฮลซิงเกอร์ เป็นคนที่ค่อนข้างจะเลือดเย็น และมีความทะเยอะทะยานสูงมาก" "แต่เพราะว่าทางเรายังหาหลักฐานมาฟันธงไม่ได้ จึงขอให้เธอช่วยจับตาดูเขาไว้ให้หน่อย"
ไดสึเกะ ขมวดคิ้ว "ครับ....ทราบแล้วครับ แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ยังไม่ปักใจเชื่อเด็ดขาด" เมื่อบทสนทนาจบลง ไฮดี้ ก็เดินจากไป ทิ้งความสงสัยเอาไว้ให้ ไดสึเกะ มากมาย
................................................................
โรงเก็บ Valkria Unit รุ่นต้นแบบ
อีวาน มาโกะ และ โซเนีย กำลังตั้งค่า Valkyria Unit ของตัวเอง ดูเหมือนพวกเขากำลังวุ่น เนื่องจากการล่มสลายของ Radamanthys ทำให้ข้อมูลทั้งหมดถูก Back-Up มาที่ Aiacos ฝ่ายช่างจึงทำการปรับปรุงทั้งอาวุธปืนกลหัวระเบิด รวมไปถึง Missile รุ่นใหม่ที่เพิ่งผลิตขึ้น แต่สำหรับ Gravitational Pulsed Rifle นั้น ทาง Aiacos ยังไม่สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ทัน นักบินจึงจำเป็นต้องมาตั้งค่าอาวุธที่ถูกติดตั้งใหม่ ให้เข้ากับระบบปฏิบัติการของเครื่องตนเอง แต่พวกเขาก็ยังไม่แน่ใจนักว่า สิ่งที่พวกเขาได้เพิ่มมาจะรับมือกับกองทัพ Arachna นั้นได้
มาโกะ มีสีหน้าวิตกนิดๆ เธอถามขึ้นว่า "รุ่นพี่คิดว่าอีกนานไหมคะ กว่า Arachna จะมาที่นี่" ในบริเวณนั้นก็มีแต่ VF-1 ของ โซเนีย และ VF-25S Armored Messiah ของอีวาน ที่จอดอยู่ อีวาน จึงหยุดปรับแต่งแล้วตอบ "คงไม่นานหรอก ดูเหมือนว่านางพญาจะพร้อมออกล่าแล้วล่ะ" "ช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา Arachna มันรอเวลานี้มาโดยตลอด ในสายตาพวกมัน เราก็เหมือนศัตรู" "สำหรับพวกแมลงทำรัง หากมีสองอาณาจักรอยู่ในพิ้นที่เดียวกันแล้วล่ะก็ มันก็จะแย่งชิงพื้นที่กันเอง" "พวกเราก็เหมือนแมลงอีกรังหนึ่ง ที่มาอยู่บนดาว Gliese ซึ่งก็เหมือนพื้นที่ในการทำรัง" มาโกะ ฟังจบก็ถามต่อไปอีก "แล้วคราวนี้จะมี Arachna แบบไหนที่จะมาโจมตีเราบ้างนะ" อีวาน ถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ผมคิดว่าคงมาทุกรูปแบบ ยกเว้นพวกที่มาตามโพรงใต้ดิน" "ถือว่าเรายังโชคดีที่สาร DDT เมื่อคราวก่อนสามารถป้องกัน Arachna ใต้ฐานได้นานกว่า 3 ปี"
โซเนีย นั่งฟังอยู่เงียบๆ ถึงกับเหงื่อตก "มาหมดทุกรูปแบบเลยหรอ...ขออย่าเป็นแบบนั้นเลย"
................................................................
และแล้วสิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวก็มาถึง
Beholder ส่งสัญญาณพบ Arachna จำนวนมาก กำลังมุ่งหน้าเข้ามาทางตะวันตก แน่นอนว่ามันเป็นทิศที่มาจากฐาน Radamanthys ซึ่งได้ล่มสลายไปก่อนหน้านี้ ทั้งประเภทของ Arachna ที่ตรวจพบมีหลากหลาย จำนวนก็มีมากมายมหาศาลอย่างคาดไม่ถึง
ฟองน้ำ ซึ่งประจำการอยู่ที่ตำแหน่ง operator มีสีหน้าไม่ดีนัก "เอาไงดีคะท่านผู้บังคับการ" ในขณะนั้น ไฮดี้ คัทเซ็นเมเยอร์ ได้เข้าประจำตำแหน่งผู้บังคับการ เธอสั่งให้ถ่ายทอดแผนการทันที ทว่าคำสั่งของเธอก็เป็นคำสั่งที่ดูปกติมาก เนื่องจากเธอเองก็ไม่รู้จะรับมือกับมันอย่างไร
"พิกุล จามจุรี ถ่ายทอดคำสั่งผู้บังคับการคัทเซ็นเมเยอร์ ขอให้นักบินทุกนายเข้าประจำที่" "เราตรวจพบสัญญาณ Arachna จำนวนมากหลายรูปแบบ บุกเข้ามาจากทางทิศตะวันตก" "ปล่อยฝูงบินยูนิคอร์นออกไปก่อน ภารกิจการสกัดกั้นและเปิดทางให้ปืนใหญ่สลายมวลสาร" "ฝูงบินเพกาซัส รอคำสั่งออกสนับสนุนฝูงบินยูนิคอร์น...ย้ำอีกครั้ง!! เหตุการณ์ฉุกเฉินค่ะ!!"
เมื่อได้ยินเสียงประกาศ
นักบินทุกคนต่างเข้าประจำเครื่องของตัวเองอย่างไม่รีรอ เพราะรู้ว่ายังไงมันต้องเกิดขึ้นแน่ สภาพเหตุการณ์ภายในโรงเก็บกับหลุมจอดชุลมุนวุ่นวายมาก เจ้าหน้าที่วิ่งกันเพ่นพ่านไปหมด โยฮัน และ อีวาน ได้เข้าประจำเครื่องของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เพราะพวกเขาไม่ได้ไปไหนไกล ส่วนทาง ไดสึเกะ ก็กำลังวิ่งเข้ามา ลินดา และเจ้าแมวน้อยก็ตามมาส่งเขาด้วยเช่นกัน
"ไดสึเกะ!!" ลินดา เรียกชื่อเขาในขณะที่เธอหยุดวิ่ง เพราะมันสุดเขตของประชาชนธรรมดา ที่พื้นนั้น มีเส้นที่แดงขีดคั่นอยู่มันเขียนไว้ชัดเจนว่า Prohibited Area เธอจึงก้าวข้ามไปไม่ได้ ไดสึเกะ หยุดวิ่งแล้วหันกลับมามอง เขาก้าวย้อนไปหา ลินดา "มีอะไรงั้นหรอ ลินดา" ลินดา โผเข้ากอด ไดสึเกะ ตัวของเธอล้ำเข้าไปในเขต แต่ขาของเธอไม่ยอมก้าวข้ามมา ไดสึเกะ หน้าแดง เขามองซ้ายมองขวาก็พบว่า สายตาคนรอบข้างกำลังจับจ้องพวกเขาอยู่ เขาจึงค่อยๆ ดึงตัวของ ลินดา ออกห่างอย่างช้าๆ "ไม่ต้องกลัว ผมจะปกป้องทุกๆ คนเอง"
ลินดา ยิ้มบางๆ เธอพูดพร้อมทั้งดวงตาที่เริ่มชุ่มไปด้วยน้ำตา "สัญญาก่อนว่าจะไม่ตาย" ไดสึเกะ พยักหน้า "ครับ พวกเราได้อาวุธใหม่มามากมาย เราจะกำจัดมันให้หมด" ระหว่างนั้น โซเนีย ก็วิ่งตามเข้ามา เธอวิ่งผ่าน ไดสึเกะ ไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดว่า "เร็วเข้าค่ะคุณซาซากิ ชักช้าไม่ได้แล้ว ฝูงบินยูนิคอร์นจะต้องพร้อมออกบินเป็นฝูงแรกนะคะ"
"ผมไปก่อนนะ ลินดา..." ไดสึเกะ พูดจบก็รีบวิ่งตามไป ทิ้ง ลินดา กับ นานาชิ ไว้ที่เส้นแบ่งเขต ไม่นานนัก Valkyria Unit ฝูงบินยูนิคอร์นที่มี 80 ลำสุดท้าย ก็ทะยานออกไป ในขณะที่ฝูงบินเพกาซัสอีก 9 ลำ กำลังเข้าสู่หลุมจอดเพื่อออกไปทำการสนับสนุน
................................................................
|
|
|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 15, 2016 7:02:44 GMT
และแล้วการปะทะก็เริ่มต้น
เมื่อ Arachna จำนวนมหาศาลเข้ามาในเขต 6 กิโลมตรห่างจาก Aiacos ฟองน้ำ ถ่ายทอดคำสั่งของ ไฮดี้ ออกไปทันทีในการวางแผนการรบครั้งนี้ "ฝูงบินยูนิคอร์นที่กำหนดไว้ 50 นาย แบ่งกลุ่มกันเข้าปะทะกับ Arachna ขนาดกลาง" "ส่วนนักบินที่เหลือช่วยกันกำจัด Arachna ขนาดกลางที่มีลักษณะคล้ายหอยทาก" "ปล่อยฝูงบินเพกาซัสเข้าร่วมกับ Messiah และ Chronos ทำลาย Arachna ขนาดใหญ่" "ปืนใหญ่สลายมวลสารทุกกระบอกเริ่มทำการยิง เป้าหมายเป็น Arachna ชนิดหอยทาก!!"
เมื่อสิ้นคำสั่ง ปืนใหญ่สลายมวลสารที่ถูกติดตั้งไว้บนโดมทั้ง 8 กระบอกก็เริ่มยิงเข้าใส่ฝูง Arachna มันยิงทำลาย Arachna ชนิดหอยทากไปรวดเดียวถึง 6 ตัว จึงเหลืออีกราวๆ 36 ตัวด้วยกัน Arachna ขนาดกลางที่กลายร่างจาก Bullosaurus ราว 100 ตัว ก็กำลังต่อสู้กับยูนิคอร์น 50 ลำ พวกเขาสามารถทำการต่อสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม เนื่องจากประสบการณ์ตอนนี้มีมากเพียงพอแล้ว
ไฮดี้ มองเห็นการรบที่ยังไม่ได้เปรียบนัก เธอก็กดช่องสื่อสารเพื่อติดต่อไปยัง VF-27 Lucifer "ทางนั้นเป็นยังไงบ้างคะ เจ้าหน้าที่ ไซเฟอร์" เธอพูดเข้ามาในห้องนักบินของ VF-27 Lucifer ไซเฟอร์ ที่กำลังสวมอุปกรณ์เหมือนกิ๊บหนีบผมไว้ที่ศีรษะแสดงสีหน้าเจ็บแปร๊บขึ้นมา ก่อนตอบไป "ยังไม่พร้อมดีเลยครับท่านผู้บังคับการ ผมขอเวลาอีกหน่อยให้แน่ใจว่า Omnipotent ทำงานยังไง" ไฮดี้ พยักหน้าด้วยสีหน้าวิตก "เร็วๆ เข้าล่ะ ตอนนี้ฝ่ายเรายังไม่ได้เปรียบพวกมันเท่าไรนัก"
ขณะนั้น อีวาน โซเนีย และ มาโกะ พร้อมกับนักบินอื่น 26 เข้าปะทะ Arachna หอยทาก โซเนีย ใช้ความแม่นยำในกลางยิงอยู่วงนอก เธอยิงเข้าส่วนสำคัญของมันอย่างไม่พลาดเป้า โดยมีการยิง Missile ชนิดพิเศษของ อีวาน จาก VF-25S Armored Messiah สนับสนุน ทางด้าน มาโกะ เธอก็สามารถบังคับ VF-19 Excalibur ได้อย่างยอดเยี่ยม เธอบินวนหลอกล่อ ฝูงบินนี้นี้สามารถรับมือกับ Arachna ชนิดหอยทากได้อย่างไม่ยากเย็นนัก จนมีความได้เปรียบ
ส่วนทางด้าน Arachna ยักษ์จำนวน 10 ตัว เป็นความรับผิดชอบของฝูงบิน เพกาซัส 9 ลำ พวกเขาใช้ Missile ยิงยั่วโมโหให้มันพ่นน้ำกรดออกมา แต่การหลบหลีกก็มีผู้เคราะห์ร้ายกันบ้าง โยฮัน ทำการ Half-Shift โยกหลบน้ำกรดพร้อมกับรยางค์ที่โจมตีใส่อย่างไม่ยากเย็น เขาเปลี่ยนการนำวิถีของ Missile มาควบคุมด้วยมือ เพื่อให้มันหลบน้ำกรดที่ออกจากปาก Arachna Missile มุดลอดช่องว่างของน้ำกรดเข้าไปในปาก เขาล้ม Arachna ยักษ์ลงได้อย่างเหลือเชื่อ ส่วน ไดสึเกะ ใช้วิธี Shape-Shift สลับไปมาอย่างที่เขาถนัด หลบน้ำกรดและรยางค์ในระยะประชิด เขาเข้าใกล้หัวของมันมากจนน่ากลัว ทันทีที่พบช่องว่างก็กรอก Missile เข้าไปในช่องปาก
ระหว่างที่ล้ม Arachna ไปด้วยนั้น สายตาของเขาเหลือบไปมองท่าทีของ Chronos ตลอดเวลา "หวังว่านายคงจะไม่ใช่คนๆ นั้น...คนที่อาจารย์คัทเซ็นเมเยอร์ ตั้งข้อสงสัยไว้นะ โยฮัน!!" ไดสึเกะ คิดในใจ ในขณะที่ โยฮัน เองก็เหลือบมอง Messiah ไปด้วยเช่นเดียวกัน
ผ่านไปไม่นาน
ยูนิคอร์นทีมที่แทบไม่เสียนักบิน สามารถกำจัด Arachna ที่กลายร่างจาก Bullosauris ได้สำเร็จ ส่วนทางด้าน อีวาน มาโกะ และ โซเนีย ยังไม่เสียนักบินแถมทำลาย Arachna ชนิดหอยทากลงได้หมด โยฮัน ไดสึเกะ และ ฝูงบินเพกาซัส สามารถกำจัด Arachna ยักษ์ลงไปได้ 4 ตัวเหลืออีก 6 ตัว ในจังหวะนั้นเองก็มีฝูง Arachna บินได้จำนวนหลายหมื่นตัว บินเข้ามายังพื้นที่ปะทะราวกับพายุฝน โซเนีย เหลือบไปเห็นถึงกับหน้าซีด "แย่แล้วสิ....เจอศัตรูแบบนี้แถมเราไม่มี DDT แล้วด้วย"
อีวาน จึงพูดแทรกขึ้นทันที "ใจเย็นๆ ครับรุ่นพี่ VF-25S เครื่องนี้ออกมาแบบเพื่อมันโดยเฉพาะ" เมื่อพูดจบ VF-25S Armored Messiah ก็เปิดลัง Missile ลูกใหญ่ที่แบกไว้ในส่วนด้านหลังออก มันส่ง Missile ยักษ์ออกไป 2 ลูก ก่อนจะกระจายออกเป็น Missile ลูกเล็กหลายร้อยลูกอีกทอดหนึ่ง Micro Missile พุ่งเข้าใส่ฝูง Arachna บินได้แล้วระเบิดทั่วท้องฟ้าทำให้เกิดฟ้าสว่างสไวขึ้นชั่วครู่ ก่อนที่จะเหลือเพียงละอองน้ำกรดกับเศษซาก Arachna จิ๋วมากมายร่วงหล่นลงส่งพื้นดิน มาโกะ ต้องบินหลบละอองน้ำกรดอย่างร้อนรน "สุดยอดจริงๆ แต่จะยิงแบบนี้บอกกันก่อนบ้างนะคะ"
................................................................
ทว่าฝันร้ายก็มาถึง
เมื่อนางพญาปรากฎตัว มันกระโดดมาจากไหนก็ไม่มีใครทราบ แต่มันตกลงมากลางจุดปะทะ ตามมาด้วย Arachna ยักษ์อีกกว่า 18 ตัว ที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินจนส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหว
"มาแล้วหรอ? นางพญา!! ทุกคนระวังตัวด้วยนะคะ การเคลื่อนไหวของมันเร็วมาก" ฟองน้ำ พูด "หึ....กำลังรออยู่พอดีเลยล่ะ" โยฮัน ยิ้ม ก่อนจะบินนำเข้าไปโจมตี Queen Arachna อย่างไม่รอช้า ไดสึเกะ เห็นเช่นนั้น ก็รีบตามเข้าไปสมทบทันที พวกเขารู้ดีว่าจุดอ่อนของมันอยู่ช่องกลางที่หน้าออก แต่ความคล่องตัวประกอบกับรยางค์ที่ตวัดอย่างรวดเร็ว ทำให้ โยฮัน และ ไดสึเกะ เข้าใกล้ไม่ได้ กลับกัน นางพญาเริ่มตบฝูงบิน เพกาซัส ร่วงไปทีละลำสองลำ โดยที่พวกเขาทำอะไรไม่ได้เลย กระสุนปืนใหญ่สลายมวลสารก็ยิงเข้าใส่ Queen Arachna แต่มันใช้ท่อนขาอันใหญ่โตปัดได้ออกหมด
ในขณะนั้น Arachna ยักษ์ ที่มีรวมกันตอนนี้ 24 ตัว ก็เริ่มออกอาละวาดเต็มที่ มันไล่ตบ Valkyria Unit ร่วงไปทะละ 2 ถึง 3 ลำ ท่ามกลางความตื่นตระหนกของเหล่านักบิน "บ้าจริง!! ทำไมมันถึงแข็งแกร่งแบบนี้ แถมยังมีจำนวนเยอะอีกด้วย" โซเนีย พูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างท้อ มาโกะ ที่บินอยู่ใกล้ๆ พยายามหาจังหวะยิง "อย่าท้อเด็ดขาดนะคะรุ่นพี่ เราต้องสู้ให้ถึงที่สุด" ทันใดนั้น มาโกะ ก็ปล่อย Missile ลอดผ่านกระแสน้ำกรดซึ่งถูกพ่นออกมา แล้วล้ม Arachna ลงได้ โซเนีย ถึงกับอึ้ง รอยยิ้มแห่งความมั่นใจของเธอเริ่มกลับมา "นั่นสินะ!! จะท้อไม่ได้เด็ดขาด" โซเนีย และ อีวาน ก็พยายามสู้กับ Arachna ยักษ์ 23 ตัวต่อไปอย่างเต็มความสามารถที่พวกเขามี แต่ยิ่งพวกเขาสู้ไป ก็ยิ่งเสียเปรียบ Valkyria Unit ที่ถูกโจมตีและร่วงลงมีมากขึ้นเรื่อยๆ พวกของ ไดสึเกะ กับ โยฮัน ก็ยังไม่สามารถโจมตีใส่ Queen Arachna ได้เข้าเป้าสักครั้งเดียว
ทว่าในวินาทีนั้นเอง Valkyria Unit สีเลือดได้บินโฉบผ่านกลางระหว่าง Chronos และ Messiah ไป
ความเร็วของมันมีสูงมาก มันตรงดิ่งเข้าหา Queen Arachna ในขณะที่นางพญาเริ่มเคลื่อนไหว โยฮัน อึ้งจนตาค้าง "นั่นมัน VF-27 Lucifer....ความเร็วแบบนั้นใครเป็นนักบินกันนะ" ไดสึเกะ ยิ้มมุมปาก " ไปกันเถอะ โยฮัน พวกเราต้องช่วยให้ Lucifer ไปถึงส่วนอกของนางพญา" Messiah และ Chronos ทำการ Shape-Shift เป็นโหมดบิน แล้วบินตาม Lucifer ไปทันที
ขณะนั้น Queen Arachna ปล่อย Arachna บินได้ตัวจิ๋วออกมาอีกราวๆ 1000 ตัวจากส่วนก้นของมัน Arachna จิ๋วพวกนี้บินเข้าหา Lucifer ที่อยู่หน้าสุดก่อนเพื่อน มันบินล้อมมาจากทุกทิศทุกทาง
Lucifer เริ่มยิงปืนกลเข้าใส่ด้วยความแม่นยำ ก่อนจะบินควงทำ Half-Shift ปล่อย Missile ตามออกไป เขาแหวกส่วนกลางของฝูง Arachna จิ๋วเป็นโพรง หลังจาดนั้นก็ Shift กลับมาเป็นโหมดบินเพื่อบินทะลวง Messiah และ Chronos ปล่อย Missile ทั้งหมดออกไปทางด้านซ้ายและขวาของ Lucifer Missile ที่พวกเขายิงไป เป็นกำแพงระเบิดที่สะกัดกั้น Arachna จิ๋วไม่ให้บินขนาบข้าง Lucifer ได้ การเคลื่อนไหวของ Lucifer ในการหลบรยางค์ของ Queen Arachna ที่มีความเร็วสูงที่สุดนั้นอัศจรรย์ยิ่ง จนในที่สุด Lucifer ก็บินมา Shift เป็นหุ่นรบต่อหน้านางพญา มันเอา GPR จ่อไปที่ช่วงอกของนางพญา
Messiah และ Chronos บินกลับมารวมกลุ่มกับฝูงบินยูนิคอร์น ขณะนั้น Arachna ทุกตัวก็หยุดเคลื่อนไหว
................................................................
|
|
|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 15, 2016 7:04:57 GMT
ในวินาทีที่ชาว Aiacos ทุกคนมองเห็นชัยชนะ
Lucifer กลับไม่ฆ่านางพญา มันค่อยๆ หันกลับมาช้าๆ แล้วลดปืนลงท่ามกลางความสับสน นัยน์ตาของ ไฮดี้ หดเล็กลง "ไม่จริงน่ะ....ไซเฟอร์!! นายคิดจะทำอะไรของนาย!!"
ไซเฟอร์ ผู้เป็นนักบินของ VF-27 Lucifer ก็เปิดการสื่อสารหลักแบบแสดงใบหน้าของตน เขายิ้มที่มุมปากด้วยสีหน้าแววตาราวกับปีศาจซึ่งไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน "อ่า-------!! ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงเสียที...พวกแกรู้รึเปล่าว่าชั้นรอเวลานี้มานานแค่ไหนกัน" "วันที่พวกแกจะชาว Aiacos จะต้องตาย.....วันแห่งการชำระบาปทั้งหมดที่ก่อเอาไว้" "ต้องขอบคุณพวกแกทุกคนมากที่ช่วยเดินตามแผนการจนลุล่วง...ไม่งั้นคงจะไม่มีวันนี้แน่" "วันที่ชั้นได้ครอบครอง Omnipotent วันที่ได้เป็นผู้ทรงอำนาจมากที่สุดบนดาวดวงนี้"
ไฮดี้ พูดขึ้นด้วยเสียงที่สั่นเทาจากห้องบัญชาการ "มะ...ไม่จริง...เป็นนายได้ยังไง...." "ทำไมถึงต้องเป็นนายด้วย ไซเฟอร์!!....คนที่สังหารประธานาธิบดี...คือนายงั้นหรอ!!" คำพูดของเธอทำเอาคนที่ไม่รู้เรื่องถึงกับตกใจ เพราะยังไม่มีการเปิดเผยการตายของ วอลเบิร์ต "ไม่จริงใช่มั้ย!!.....ที่ผ่านมานายไม่ใช่คนแบบนี้นะ ไซเฟอร์!!" น้ำตาเริ่มซึมออกมาจากดวงตา ขณะเดียวกัน ฟองน้ำ ก็ก้มหน้าแล้วลุกขึ้น เธอรีบวิ่งออกไปจากห้องบังคับการโดยไม่พูดไม่จา
"ผิดแล้วล่ะ ไฮดี้....ชั้นน่ะเป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว....และเป็นแบบนี้มาโดยตลอด" "ชั้นเกลียดความเห็นแก่ตัวของผู้คนที่อยู่ใน Aiacos ทั้งหมด...มนุษย์ต่างเห็นแก่ตัวทั้งนั้น" "ถ้าเห็นใครที่ไม่มีประโยชน์ก็จะไม่ให้ความสำคัญ เขี่ยทิ้ง ซ้ำเติม ดูถูก กลั่นแกล้งสารพัด" "แต่พอเห็นใครที่เป็นประโยชน์ต่อตน ก็ยกยอปอปั้น สรรเสริญเฉกเช่นวีรบุรุษ...น่ารังเกียจ" "ชั้นจึงต้องเอาตัวรอดมาจนถึงทุกวันนี้ เพื่อรอคอยวันที่จะได้อำนาจเหนือเหล่ามวลมนุษย์" "และตอนนี้ทุกอย่างก็อยู่ในมือชั้นแล้วล่ะ....จงพินาศไปเสียเถอะมนุษย์ชั้นต่ำแห่ง Aiacos!!" เมื่อ ไซเฟอร์ พูดจบ Arachna ยักษ์ ทั้ง 23 ตัวก็เริ่มโจมตีใส่ Valkyria Unit อีกครั้ง ในขณะที่นางพญากลับทำการกระโดดไปทางทิศตะวันออกและถอนตัวจากการรบ
ในจังหวะนั้นเอง VF-25S Armored Messiah ที่อยู่ด้านหลัง ก็ยิงปืนกลถล่มใส่ VF-30 Chronos Chronos ถูกยิงจนพรุน มันค่อยๆ ร่วงลงไปอย่างหมดสภาพ โยฮัน ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เขาไม่สามารถจะขยับตัวได้ เลือดจำนวนมากกระอั่กออกจากปาก กระเซ็นเลอะ Shield ของหมวก "บ้า...ชิป....." โยฮัน กัดฟันพูดขึ้นด้วยดวงตาขวาที่ปิดไปข้างหนึ่ง เขาทำอะไรไม่ได้อีกต่อไป อีวาน เล็งปืนไปที่ Chronos เพื่อจะยิงทำลายให้สิ้นซาก แต่ VF-1 ของโซเนีย ก็ยิงขวางไว้
"นายทำอะไรของนายน่ะ อีวาน เดโคเช่!!" โซเนีย ตะโกนถามขึ้นพร้อมกับยิงไล่ต้อน อีวาน ยิ้มมุมปาก "ก็ทำตามแผนของท่านไซเฟอร์ น่ะสิ...มีแต่ท่านเท่านั้นที่เติมเต็มฝันของผมได้!!" VF-25S Shift เป็นโหมดบินแล้วเริ่มตีวงออกห่างฝูงบินยูนิคอร์น โดยมี VF-1ของ โซเนีย บินตาม มาโกะ ไม่รอช้า เธอเร่ง Thruster ตาม VF-1 ของ โซเนีย ไปทันทีเพื่อช่วยยิงสนับสนุน
ไดสึเกะ ที่เห็น Chronos ร่วงลงไปกองกับพื้น เขาไม่รีรอในการเข้าต่อสู้กับ ไซเฟอร์ VF-25F บินเข้าใส่ VF-27 แล้วเริ่มทำการ Dog-Fight แบบตัวต่อตัวด้วยความเร็วที่สูงมาก "ทำได้ไม่เลวนี่ ซาซากิ ไดสึเกะ!!" ไซเฟอร์ พูดขึ้นพร้อมทำ Shaft-Shift 90 องศาที่ความเร็วสูง เขาหลบขึ้นด้านบนเพื่อปล่อยให้ Messiah บินลอดไป แล้วยิงปืนกลใส่จากด้านหลัง Messiah โฉบหลบออกด้านข้างก่อนจะ Shift กลับเป็นหุ่นรบแล้วยิงส่วนไปเช่นเดียวกัน แต่ความเร็วของ Lucifer นั้นเหนือกว่ามาก ทำให้ Messiah ได้รับความเสียหายที่แขนซ้าย
ไดสึเกะ ไม่ยอมแพ้เพียงเท่านั้น เขาพุ่งเข้าหา Lucifer แบบตรงๆ แล้วดึงอาวุธมีดออกมา แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง Lucifer กลับเล็ง GPR ไปที่ VF-30 Chronos ซึ่งนอนกองอยู่ด้านล่างแทน "ไหนลองเลือกดูซิ ซาซากิ ไดสึเกะ ว่านายจะเลือกโจมตีชั้น หรือช่วยเพื่อนที่รอความตายอยู่" ไซเฟอร์ พูดจบ เขาก็ยิงคลื่นแรงโถ้มถ่วงไปยัง Chronos โดย โยฮัน ได้แต่รอดูความตายของตัวเอง
ถ้อยคำในจดหมายของ พัชรี กลับลอยขึ้นมาในหัวของ ไดสึเกะ มันเป็นเสียงพูดของ พัชรี เสียงนั้นบอกกับ ไดสึเกะ ว่า "จงสละชีวิตของตนให้แก่คนที่มีความสำคัญและคุ้มค่าพอเท่านั้น"
Messiah บินเข้ามาขวางคลื่นแรงดึงดูดก่อนที่มันจะพุ่งไปหา Chronos โยฮัน ตกใจเมื่อได้เห็นสิ่งที่ไม่คาดฝันมาก่อน "นาย....ทำบ้า....อะไรฟะ...ซาซากิ...ไดสึเกะ!!" ไดสึเกะ ยิ้มแล้วพูดว่า "มีคนคนหนึ่งเคยบอกกับผมว่า ผมไม่สามารถสละชีวิตของผมเพื่อทุกคนได้" "ผมต้องรู้ว่าใครคือคนสำคัญที่สุดเสียก่อน.....และคนคนนั้นมีค่ามากพอที่จะสละชีวิตของผมให้ไปได้" "สำหรับผมแล้ว....คนที่สำคัญที่สุดก็คือทุกๆ คนใน Aiacos....คุณเป็นคนเดียวที่จะปกป้องพวกเขาได้" "และผมมั่นใจว่าคุณปกป้องพวกเขาได้ดีกว่าคนอย่างผม...ดังนั้น...ฝากทำความฝันของผมต่อด้วย...."
เมื่อสิ้นประโยค VF-25F Messiah ที่ถูก GRP ยิงเข้าใส่กลางลำ ก็ถูกดูดสลายกลายเป็นธุลี.....
"คุณซาซากิ!!" โซเนีย ที่ถูกยิงร่วงไปกับพื้นตะโกนขึ้นด้วยความตกใจอย่างถึงที่สุด
"ไม่จริงน่ะ!! รุ่นพี่ไดสึเกะ!!" มาโกะ หันกลับไปมอง มันทำให้เธอนั้นแทบเสียสมาธิ กระทั่งถูก อีวาน ยิงร่วงตามไปอีกลำ
................................................................
ระหว่างนั้น กองบินของ Aiacos และฝ่าย Arachna เริ่มสู้กันได้อย่างสูสี
แม้ว่า โซเนีย และ มาโกะ จะถูก อีวาน ยิงตกไปจนขยับไม่ได้แล้วก็ตาม แต่นักบินคนอื่นเริ่มทำลาย Arachna ยักษ์ ลงไปได้เหลือเพียง 8 ตัวเท่านั้น พวกเขากลับได้เปรียบ "หึ!! ดูเหมือนจะเก่งกว่าที่คาดการณ์เอาไว้หน่อยนะ ไอ้พวกมือใหม่" ไซเฟอร์ พูดขึ้นเบาๆ VF-27 Lucifer จึงเล็ง GPR ไปที่ฐาน Aiacos เขาหมายจะยิงทำลายฐานให้หายไปในนัดเดียว ขณะนั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนในห้องบัญชาการหน้าซีดเหลือเพียง 2 นิ้ว พวกเขาทำอะไรไม่ได้เลย
"Svein Farstadt!!" เสียงเรียกชื่อชายคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับ Valkyria Unit สีน้ำเงินที่บินเข้ามา ไซเฟอร์ สะดุ้งเฮือก ก่อนจะบินหลบกระสุนของ Valkyria Unit สีน้ำเงินลำนั้นได้อย่างเฉียดฉิว การโจมตีแบบสายฟ้าแลบนี้ทำให้ Lucifer ต้องยกเลิกการสะสมพลังงานของ GPR ไปในทันที
"VF-171 Nightmare Plus....เอริค แซนเบิร์ค!!...ออกมาได้ไวกว่าที่คิดนะ!!" "ทำไมไม่มาร่วมมือกันชั้นล่ะ เอริค....ไหนๆ นายก็มีเป้าหมายในการใช้งาน Arachna อยู่แล้ว" ไซเฟอร์ ถาม "ถึงชั้นจะต้องการใช้งาน Arachna แต่ชั้นก็ไม่ใช่คนที่จะทรยศพวกพ้องได้แบบแก" เอริค ตอบกลับ Nightmare เข้าโจมตี Lucifer อย่างดุดัน เอริค ยิงกระสุนสลับกับ Missile ไปตามจุดต่างๆ Lucifer ถูกกระสุนยิงเข้าใส่ส่วนปีกบ้างเล็กน้อย แต่ไม่สามารถโจมตีกลับไปยัง Nightmare ได้เลย ราวกับว่า เอริค รู้ทันการเคลื่อนไหวของ Lucifer เป็นอย่างดี จึงยิงดักไม่ให้โจมตีสวนกลับมาได้
ไซเฟอร์ นำ Lucifer ถอยกลับออกมาตั้งหลัก พร้อมกับการสมทบของ VF-25S Armored Messiah แล้วทั้งสองก็ Shift เป็นโหมดบิน ก่อนจะเร่งท่อขับดันเต็มกำลัง ถอนตัวจากแนวรบไปทางตะวันออก นักบินฝูงบินยูนิคอร์นที่เหลือทำการกำจัด Arachna ยักษ์ได้จนหมด แต่เหลือรอดเพียง 41 เครื่องเท่านั้น
................................................................
ที่เส้นแบ่งเขตเจ้าหน้าที่ภายในฐานทัพ Aiacos
ลินดา ยืนนิ่ง เธอเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจนพูดอะไรไม่ออก น้ำตาของเธอไหลนองเต็มใบหน้า
"ทำไม...ไหนว่าจะกลับมา...ทำไมถึงไม่รักษาสัญญา.....ทำไมกัน....ไดสึเกะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
ลินดา ทรุดตัวลงกับพื้น เธอก้มหน้าร้องไห้ดังลั่นโรงเก็บ Valkyria Unit ด้วยความเศร้าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
つづく.
|
|
|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 15, 2016 7:12:05 GMT
EP11 : Svein Farstadt
โรงพยาบาลฐานทัพ Aiacos
ภายหลังจากการสู้รบกับกองทัพของนางพญา Arachna และถูก ไซเฟอร์ หักหลัง VF-30 Chronos ถูกทำลาย โยฮัน เฮลซิงเกอร์ ได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้ารับการรักษา เขานอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยโดยมีผ้าก๊อสปิดตาข้างขวาตา ลำตัวมีรอยฟกช้ำเต็มไปหมด แพทย์ผู้รักษาแจ้งว่านอกจากอาการบาดเจ็บที่เห็นจากภายนอก เขายังมีอาการช้ำในอีกด้วย
โซเนีย นั่งปอกเปลือกผลไม้สังเคราะห์อยู่ข้างๆ เธอได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เธอมอง โยฮัน ที่นอนไม่ได้สติและหวังว่าเขาจะฟื้นคืนสติมาในไม่ช้านี้ และก็เป็นไปตามที่เธอหวัง โยฮัน เริ่มมีอาการตอบสนอง เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ "ฟื้นแล้วหรอ เป็นห่วงเสียแทบแย่ เจ็บตรงไหนรึเปล่าน่ะ โยฮัน" โซเนีย ทักแล้ววางผลไม้ลง โยฮัน พยายามลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก "เจ็บสิ...เจ็บไปทั้งตัวเลยล่ะ อึ้ก!!......" เขาเอามือซ้ายมาจับตาข้างขวาก็พบว่ามันถูกปิดผ้าเอาไว้ "ตาชั้น....หมอว่าไงบ้าง...." โซเนีย เงียบไปครู่หนึ่ง เธอค่อยๆ พูดช้าๆ "หมอบอกว่าถูกเศษกระจกบาด...จนบอดสนิท" แม้เธอคาดว่า โยฮัน จะต้องไม่พอใจ แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เขาถอนหายใจแล้วปล่อยมือลง
"เหตุการณ์ตอนนี้เป็นไงบ้าง....พวกเราเหลือรอดมาเยอะรึเปล่า" โยฮัน ถามขึ้น "Valkyria Unit เหลือรอดมา 46 เครื่อง มาโกะจัง ที่ถูกยิงตกก็ไม่เป็นอะไร" โซเนีย อธิบาย "อ่า....อย่างนั้นหรอกหรอ....แต่เจ้านั่น...ทำไมมันถึงยอมตายแทนชั้นได้นะ" โยฮัน พึมพำ โซเนีย ยิ้มบางๆ "นั่นก็คงจะเป็นเพราะว่า ที่ผ่านมา โยฮัน มองคุณซาซากิ เป็นคู่แข่งมาโดยตลอด" "แต่สำหรับคุญซาซากิ แล้ว เขากลับมอง โยฮัน เป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่งที่มีสำคัญต่อ Aiacos" "ชั้นเชื่อว่าที่คุณซาซากิ ทำเพื่อปกป้อง โยฮัน เอาไว้ คงจะเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในตัวคุณค่ะ" แม้ โซเนีย จะพูดได้สวยหรูจับใจมากแค่ไหน แต่ดูเหมือน โยฮัน ก็ยังไม่เข้าใจมันอยู่ดี
โซเนีย เห็นสีหน้าของ โยฮัน ยังดูสับสน เธอจึงพูดสิ่งที่เธอเคยได้ยินจากปากของ ไดสึเกะ ซึ่งเขาบอกกับเธอ ณ ห้องผู้ป่วยแห่งนี้ "คุณซาซากิ เคยบอกว่าถ้าไม่เราไม่ยอมลงมือทำอะไรสักอย่าง" "แล้วพวกเราทั้งหมดก็จะต้องตาย การที่จะลองบางสิ่งดูบ้างเพื่อสร้างความหวัง มันคงไม่เสียหายอะไร" "ถึงแม้ว่าทำไปแล้วจะไม่ได้ผล ก็ยังดีกว่าไม่ได้ลองทำเลย จะได้ไม่ต้องมาเสียใจที่ไม่ได้ทำในภายหลัง" "คุณซาซากิ น่ะ ชอบการบินมาก เขาบอกว่าให้คิดว่าเราเป็นสัตว์ปีกที่กำลังร่อนอยู่กลางเวหา" "การยึดติดกับตำราต่างๆ ที่เป็นเพียงทฤษฎี ไม่ได้ทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้เสมอไป"
โยฮัน หัวเราะออกมาเบาๆ "ความคิดในหัวของนายมันช่างไร้สาระซะจริงนะ ซาซากิ ไดสึเกะ....."
................................................................
ฐาน Minos ห่างออกไปจาก Aiacos ทางทิศตะวันออก
ฐาน Minos เป็นฐานที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวบนที่ราบสูง มันเป็นเขตุที่แห้งแล้งไม่ค่อยมีสิ่งทีชีวิตโดยรอบ ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ ส่วนมากจะเป็นนักชีววิทยา พวกเขามีหน้าที่หลักในการปรับสภาพระบบนิเวศน์ กองกำลังทางทหารมีอยู่เป็นปริมาณพอควร เนื่องจากจะต้องออกล่าสัตว์พื้นเมืองขนาดใหญ่มาทดลอง
ระหว่างที่เกิดเหตุความวุ่นวาย พวกเขาก็ได้รับแจ้งข่าวจาก Aiacos มาโดยตลอด และแน่นอนว่าการเดินทางของนางพญาไปทางตะวันออกของ Aiacos เป้าหมายคือที่แห่งนี้ เอริค แจ้งว่าให้ใช้กำลังรบเต็มอัตราศึกมาทำการคุ้มกันทางทิศตะวันตกของ Minos Valkyria Unit รุ่น VF-1 ของ Minos ทุกลำจึงกระจายตัวรอบๆ Minos เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ และในที่สุด VF-1 ฝูงบินที่ทำหน้าที่ลาดตระเวนจำนวน 20 ลำ ก็ขาดการติดต่ออย่างฉับพลัน
ไม่นานนัก VF-27 Lucifer และ VF-25S Armored Messiah ก็เข้าประชิดแนวป้องกัน "แจ้งถึงฐาน Minos พวกเราเหล่า Omnipotent จะทำการยึดฐานแห่งนี้" ไซเฟอร์ ติดต่อเข้าไป แต่ผู้บัญชาการฐาน Minos ไม่ยอมเช่นนั้น เขาสั่ง VF-1 ทั้ง 200 เครื่องให้เข้าต่อสู้ทันที ไซเฟอร์ มีสีหน้าที่ไม่ได้ตกใจอะไรนัก "อีวาน....ช่วยแสดงพลังให้พวกมันเห็นหน่อยซิ" "ครับ...ท่านไซเฟอร์" ทันทีที่ อีวาน ตอบรับ เขาก็เปิดชุด Missile ชุดสุดท้ายที่หลังออก Micro Missile จำนวนมากถูกปล่อยออกมาโดย ล็อคเป้าไปที่ VF-1 อย่างละ 1 ลูก มันพุ่งเข้าทำลาย VF-1 อย่างไม่พลาดเป้าสักลูก ทำให้เกิดระเบิดเจิดจ้าทั่วน่านฟ้า VF-1 ที่มีจำนวนมากกว่า 200 ลำ ถูกทำลายหายถึง 100 ลำภายในการยิงเพียงครั้งเดียว
ไซเฟอร์ ยิ้มมุมปาก "เจ้าพวกนี้ดื้อด้านเสียจริง สงสัยจะต้องแสดงพลังให้มันเห็นอีกหน่อย" VF-27 Lucifer เล็ง GPR ไประหว่างกลางของแนวตั้งรับ เพื่อพลังงานถึงจุดวิกฤตเขาก็ลั่นไก คลื่นโปร่งใส่พุ่งเข้าผ่านกลางของฝูงบิน VF-1 ไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับแรงดูดมหาศาล มันดูด VF-1 เข้าหาแนวที่คลื่นพุ่งผ่าน VF-1 ที่อยู่ใกล้ถูกคลื่นดูดหายไปอย่างราวๆ 30 ลำ ส่วน VF-1 ที่อยู่ห่างออกไป ถูกแรงดูดจนเข้าปะทะกับเอง และหมดสภาพก่อนร่วงลงสู่พื้น แม้จะเสียกำลังรบไปถึง 150 ลำ แต่ดูเหมือน Minos ก็ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พวกเขาโจมตีสวนมา Missile ที่พุ่งเข้ามา ถูก VF-25S ยิงทำลายทิ้งไปจนหมดสิ้นเป็นการยิงที่เปล่าประโยชน์
ฐาน Minos จึงตัดสินใจใช้ปืนใหญ่สลายมวลสารทั้ง 8 กระบอกที่เหมือนกับอีก 2 ฐาน เล็งไปที่ Lucifer และ Armored Messiah มันยิงพร้อมกันโดยคำนวณทุกระยะหากมีการหลบ แต่แล้วนางพญาก็กระโดดลงมาขวางหน้ารับเอากระสุนสลายมวลสารแทน ไซเฟอร์ และ อีวาน เมื่อเห็นเช่นนั้นฐาน Minos ก็รู้ชะตากรรมตัวเองแล้วว่า พวกเขาไม่สามารถขัดขืนได้อีกต่อไป นางพญาเริ่มไล่ทำลาย VF-1 โดยกระชากนักบินออกมาด้วยรยางค์ก่อนจะกินไปทีละคนทีละคน ประกอบกับ Phoenixaurus ทั้ง 7 ตัวซึ่ง ไซเฟอร์ เลี้ยงเอาไว้ ก็เข้าโจมตีสนับสนุนอีกแรง
ไซเฟอร์ และ อีวาน สามารถยึดครอง Minos เอาไว้ได้สำเร็จอย่างไม่ยากเย็น
................................................................
|
|
|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 15, 2016 7:14:15 GMT
ห้องประชุมใหญ่ Aiacos
เอริค ที่กลับมารับตำแหน่งเดิม หลังจากที่เขาพ้นมลทินจากข้อกล่าวหาแล้ว ก็ได้เรียกประชุม เจ้าหน้าที่ระดับสูงทุกคนรวมไปถึง ไฮดี้ โซเนีย มาโกะ และ ฟองน้ำ เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย เอริคหันไปมอง โซเนีย และถามขึ้นว่า "โยฮัน เฮลซิงเกอร์ เป็นอย่างไรบ้าง อาการดีขึ้นรึยัง" "เจ้าหน้าที่เฮลซิงเกอร์ ดีขึ้นบ้างแล้วค่ะ ได้สติแต่ร่างกายยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ" โซเนีย ตอบ เอริค ถึงหันไปถาม ไฮดี้ บ้าง "แล้วเธอล่ะเจ้าหน้าที่คัทเซ็นเมเยอร์...ทำใจกับเรื่องนี้ได้รึเปล่า" อาการของ ไฮดี้ ดูเหมือนยังรับไม่ค่อยได้ แต่เธอก็ตอบไปว่าเธอไม่เป็นอะไร หลังจากนั้น เอริค ก็แบมือไปทาง ฟองน้ำ ซึ่งเป็นเหมือนเลขานุการในที่ประชุมเริ่มทำหน้าที่
ฟองน้ำ เปิดข้อมูลล่าสุดที่เพิ่งได้รับมา มันคือรายงานการถูกยึดของฐาน Minos ทุกคนถึงกับตกตะลึงเพียงแค่ Valkyria Unit สองเครื่องก็สามารถจัดการกองบินได้เกือบหมด Phoenixaurus เข้าไปในตัวเมือง มันทำหน้าที่เหมือนยามคุมคนคุก ไล่ต้อนผู้คนไปในที่กักขัง ส่วนนางพญาก็เลือกใจกลางฐาน Minos เป็นที่วางไข่ ก่อนจะเริ่มจับมนุษย์ไปวางไข่
เอริค จึงเริ่มอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นจากหลักฐานทั้งหมดที่เขารวบรวมมาได้ เขาเปิดสมุดที่เขาถือติดมืออยู่เป็นประจำ ก่อนจะเปิดไปมาและเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมด "เพื่อสร้างความเข้าใจให้ตรงกัน ผมขอเริ่มจากตัวการของเรื่องนี้ก่อนเลย นั่นก็คือ ไซเฟอร์" "หมอนี่เดิมมีชื่อว่า Svein Farstadt เกิดเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ตามประวัติเป็นเด็กกำพร้า" "เสียพ่อและแม่ไปตั้งแต่ยังเล็ก โตมาในบ้านเด็กกำพร้า มีความฝันที่จะเป็นนักบินตั้งแต่เด็กๆ" "แต่ที่จริงแล้วพ่อแม่ของเขาเพิ่งจะเสียไปเมื่อ 10 ปีก่อน ในเหตุการณ์ Arachna บุกโจมตี" "นั่นหมายความว่า หมอนั่นถูกพ่อแม่แท้ๆ ทิ้งไปตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก ซึ่งอาจเป็นปมอย่างแรก" "เมื่อเข้ากองบินเขาใช้ชื่อว่า ไซเฟอร์ นั่นก็อาจเพราะอยากจะลืมเรื่องร้ายๆ ในอดีต" "นั่นคือความผิดพลาดอย่างแรกของผม ที่คิดว่าหมอนั่นจะลืมเรื่องราวในอดีตได้หมดจด"
"เมื่อเข้ากองบิน ความสามารถที่โดดเด่นของเขากลับถูกเพื่อนในกองบินอิจฉาและตั้งข้อรังเกียจ" "หมอนั่นเคยถูกกลั่นแกล้งสารพัด ผมเองในตอนนั้นเห็นใจเขา แม้ว่าจะช่วยอะไรไม่ได้มาก" "จนกระทั่ง Arachna บุกเข้ามาในฐาน Aiacos หมอนั่นก็ได้ใช้ความสามารถของตนให้เห็น" "ผู้คนต่างพากันยอมรับในตัวเขามากขึ้นและยกย่องให้เป็นตำนานจากการกำจัดนางพญาได้" "ความผิดพลาดอย่างที่สองของผมก็คือ คิดว่าหมอนั่นจะลืมสิ่งที่คนอื่นๆ ทำเอาไว้ได้แล้ว"
"ตั้งแต่นั้น เขาคอยจับตามองการพัฒนา Omnipotent มาโดยตลอดด้วยการแฮคข้อมูล" "เขาสนับสนุน ซาซากิ ไดสึเกะ ให้เป็นความหวังในกองบินเพื่อตัวเองได้มีเวลาวางแผนการ" "ประกอบกับการใช้จุดอ่อนของ อีวาน เดโคเช่ ที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองและขาดที่พึ่ง" "ไซเฟอร์ ได้จี้จุดตายของ อีวาน ได้สำเร็จ ผมเห็นได้จากความสนิทสนมในการสอบของ อีวาน" "เขาตั้งตารอกระทั่ง Aiacos อ่อนแอลง ตั้งแต่การใช้สารพิษ จำนวนนักบินที่ลดลง" "แถมยังใช้ไอพ่นครั้งสุดท้ายในการฉีดสารพิษลงดิน ทำให้ฐานไม่สามารถทำการเคลื่อนย้ายได้อีก"
"และความผิดพลาดอย่างที่สามของผมก็คือ คาดไม่ถึงว่าหมอนั่นจะมีความชำนาญด้านแฮคกิ้งขนาดนี้" "หมอนั่นวางแผนทำลาย Radamanthys ด้วย Beholder ใช้เวลาที่ไม่ได้ออกบิน ไปโปรแกรมมันใหม่" "เมื่อ Radamanthys ล่มสลาย จำนวนคู่ต่อสู้ก็ลดลง และทำให้ปืนใหญ่วงโคจรไม่สามารถใช้การได้" "หมอนั่นรู้ดีกว่า Arachna จะสื่อสารกันด้วยกลิ่น แต่นางพญาจะควมคุมด้วยคลื่นความถี่จากสมอง" "Omnipotent เป็นเครื่องแปลงคลื่นสมองของมนุษย์ส่งเป็นคลื่นความถี่ที่จะสื่อสารกับนางพญาได้" "แต่นางพญาก็ไม่ได้ปราศเปลื่อง มันมีเพียงบางสิ่งที่มันจะเข้าใจ ซึ่งอยู่ในคู่มือของ ดร.รินโด"
"ความผิดพลาดอย่างสุดท้ายของผมก็คือ คาดไม่ถึงว่า อีวาน เดโคเช่ จะร่วมมือกับเขา" "เพราะหากประธานาธิบดีถูกสังหาร ยังพอมีเวลาให้ผมทำการคุ้มกันห้องทดลองของ ดร.รินโด" "หมอนั่นรู้ดีว่า หากคนใดคนหนึ่งในสองคนนี้ตาย ผมจะต้องชิง Omnipotent มาก่อนเขาแน่"
"ทันทีที่อดีตประธานาธิบดีถูกสอบสังหาร ผมก็รู้ทันทีว่าคนที่ทำเรื่องแบบนี้ได้คือ ไซเฟอร์ เท่านั้น"
"เขาบีบบังคับให้ผมไม่มีทางเลือก และต้องไปให้ถึง Omnipotent ก่อนที่เขาจะได้มันไป" "เขาใช้แผนหลอกให้เจ้าหน้าที่คัทเซ็นเมเยอร์ เป็นเสียงสนับสนุนเพื่อโยนความผิดมาที่ผม" "ทันทีที่ผมเข้าถึง Omnipotent หลักฐานทุกอย่างมันก็เลยประจวบเหมาะในการบอกว่าผมเป็นคนร้าย" "สุดท้ายทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนที่หมอนั่นวางไว้ เขาได้คู่มือไป เข้าถึง Omnipotent และได้ใช้มัน"
..............................................................
เมื่อ ไฮดี้ ได้ยินสิ่งที่ เอริค เล่ามาทั้งหมด
เธอก็ถามขึ้นทันทีว่า "แล้วทำไมคุณถึงไม่ให้ปากคำ...ทั้งๆ ที่ตอนทำการสอบสวน....." "คุณก็สามารถให้ปากคำเหล่านี้ได้แท้ๆ!! เหตุการณ์ทั้งหมดก็จะไม่เกิดขึ้น!!" เสียงของเธอดูไม่พอใจมาก
เอริค ส่ายหัว "มันไม่ง่ายอย่างนั้นครับ เจ้าหน้าที่คัทเซ็นเมเยอร์ ผมขอถามกลับสักสองสามคำถาม" "การสอบสวนตอนนั้น ไซเฟอร์ ก็อยู่ด้วย เขาเฝ้ามองอยู่หลังกระจกใช่รึเปล่า...เขาจะโต้แย้งผมทันที" "ประกอบกับตัวคุณเองในตอนนั้นที่รับผิดชอบการสอบสวน ก็เชื่อใจเขามากกว่าเชื่อใจผมไม่ใช่หรอครับ" "แถมเรื่องที่ผมพูดมายังไม่สามารถพิสูจน์ได้ในตอนนั้น เพราะมันจะมีน้ำหนักต่อเมื่อเรื่องนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว"
มาโกะ ที่ยืนครุ่นคิดอยู่ก็ถามขึ้น "ท่านผู้บังคับการคิดอย่างไรกับการบุกยึดฐาน Minos ล่ะคะ" เอริค พยักหน้า "เป็นคำถามที่ดี ผมคิดอยู่นานมาก เพราะมีหลายความเป็นไปได้ที่หมอนั่นจะทำ" "อย่างแรก หากหมอนั่นอยากทำลายมนุษย์ทั้งหมด หมอนั่นก็คงจะทำลาย Minos ไม่เหลือซากแน่" "เขาจะใช้มนุษย์ที่อยู่ที่นั่นทั้งหมดเพาะพันธุ์ Arachna...โดยเป็นแผนฆ่าตัวตายมาตั้งแต่ต้น" "อย่างที่สอง หากหมอนั่นเคียดแค้นเฉพาะมนุษย์ที่อาศัยอยู่ใน Aiacos หมอนั่นจะใช้ฐานนั่นต่อไป" "จะใช้แรงงานมนุษย์เพื่อที่เขาจะได้เป็นราชา ใช้ร่างมนุษย์เพาะ Arachna ในจำนวนที่เหมาะสม" "เขาจะทำลาย Aiacos ให้สิ้นซาก และกลับไปอยู่ที่ Minos ทำทุกสิ่งที่เขาต้องการอยากทำ" "ดูจากรูปการณ์ที่เจ้าหน้าที่จามจุรี รายงานมาแล้ว ผมคิดว่าคงจะเป็นแนวทางที่สองเสียมากกว่า"
โซเนีย ฉุกคิดขึ้นมาได้ เธอจึงถาม "แล้ว อีวาน เดโคเช่ ล่ะค่ะ...เขาเป็นชาว Aiacos นะคะ" เอริค หันกลับมามอง โซเนีย "เรื่องนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ........"
................................................................
|
|
|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 15, 2016 7:16:16 GMT
ณ ฐาน Minos
บัดนี้ ผู้คนที่ทำหน้าที่เดินระบบของฐานยังทำหน้าที่ต่อไปเพื่อรักษาระบบต่างๆ เอาไว้ ส่วนผู้คนที่อยู่อาศัยทั่วไป ถูกกวาดต้อนไปขังเอาไว้และบางคนก็ถูกจับไปให้นางพญาวางไข่ รอบพื้นที่ของ Minos นางพญาได้เรียก Arachna ฝูงสุดท้ายมากบดาลอยู่รอบๆ มันเป็น Arachna ขนาดยักษ์ราวๆ 15 ตัว และ Arachna ขนาดกลางและขนาดเล็กมากมาย ดูเหมือนว่าในตอนนี้ ไซเฟอร์ จะได้ป้อมปราการชั้นยอดพร้อมด้วยกองทัพชั้นดีมาแล้ว
ภายในห้องบัญชาการซึ่งมี ไซเฟอร์ และเจ้าหน้าที่ของฐานผู้จำใจต้องทำตามคำสั่ง พวกเขายังต้องควบคุมปืนใหญ่สลายมวลสารพร้อมกับทำหน้าที่ตรวจตราอยู่เช่นเคย ในขณะที่ฝูงบิน Valkyria Unit ของ Minos ถูกทำลายลงจนหมดสิ้นไปก่อนหน้านั้นแล้ว
อีวาน เดินเข้ามาพร้อมกับขวดวอดก้า เขาเดินตรงเข้ามาทำความเคารพ ไซเฟอร์ ก่อนที่ ไซเฟอร์ จะลุกออกจากเก้าอี้บัญชาการ แล้วนำ อีวาน ไปยังโต๊ะรับแขกด้านข้าง มันเป็นโซฟาล้อมรอบด้วยโต๊ะกระจกเล็กๆ ทุกอย่างทำมาจากวัสดุอย่างดีทั้งนั้น ไซเฟอร์ เรียกเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเข้ามา เขามาพร้อมกับผลไม้ที่มีชื่อว่า Alchofruit "ชั้นเห็นนายชอบดื่ม ก็เลยสั่งผลไม้นี่มาให้น่ะ ผลไม้แอลกอฮอล์" ไซเฟอร์ พูดขึ้น อีวาน จึงตอบกลับ "ผมเคยดื่มแต่วอดก้าที่คุณพ่อทิ้งไว้ให้ ผลไม้นี่ผมยังไม่เคยทานเลยครับ" ไซเฟอร์ ยิ้มอย่างเป็นมิตร "นั่นล่ะ ชั้นถึงอยากให้เธอลองทานดู รสชาติของมันดีเลยทีเดียว" ว่าแล้ว อีวาน ที่กระดกวอดก้าอยู่ ก็เริ่มลงมือทานผลไม้ที่ถูกจัดมาวางไว้ให้เขาและ ไซเฟอร์
ไซเฟอร์ จึงเริ่มพูดขึ้นว่า "นายรู้รึเปล่าว่า วลาดิเมียร์...พ่อของนายน่ะเป็นนักบินที่ยอดมาก" "เมื่อ10 ปีก่อน เขาเป็นนักบินที่เก่งที่สุดของ Aiacos ชั้นเคยอยู่หน่วยเดียวกับเขามาก่อน" "แล้วก็.....หนึ่งในคนที่ดูถูกชั้น กลั่นแกล้งชั้น และเป็นคนแรกที่ทำอย่างนั้น...คือพ่อของนาย"
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น นัยน์ตาของ อีวาน ก็หดเล็กลง เขาวางผลไม้นั่นลงบนโต๊ะช้าๆ "หมายความว่า....ยังไงหรอครับ....ท่านไซเฟอร์" อีวาน พูดขึ้น และดูเหมือนเขาพูดเริ่มลำบาก ไซเฟอร์ ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าต่างกระจกข้างๆ "หมวกที่ชั้นให้นายน่ะ เป็นหมวกใบเก่งของเขา" "เขาเชื่อว่ามันจะนำโชคมาให้เขา....ชั้นเป็นคนขโมยมันมา เพื่อทำให้เขาเสียกำลังใจในการรบ" "แล้วก็เป็นหนึ่งในคนที่ชั้นเกลียดมากที่สุด....เสียดายที่ไม่ได้ฆ่าเขาด้วยตัวเอง....เงียบทำไมล่ะ" "อ้อใช่สิ ชั้นลืมบอกเธอไปว่า Alchofruit จะทำปฏิกิริยาอย่างรุ่นแรงกับข้าวสาลีจนเป็นพิษ" "วอดก้า ของเธอน่ะหมักจากข้าวสาลีใช่มั้ย...อ่า...ใช่สินะตอนนี้มันคงเริ่มก่อสารไซยาไนด์ขึ้นแล้ว "ขอบใจมากสำหรับความช่วยเหลืออันสุดแสนจะวิเศษนะ อีวาน เดโคเช่ ฝากไปบอกพ่อของเธอด้วย" "ว่าของขวัญจากชั้น...ก็คือการได้ส่งลูกชายสุดที่รักไปหาเขาในยมโลก...ลาก่อนนะ....อีวาน"
เมื่อ ไซเฟอร์ พูดจบเขาเดินไปหยิบวอดก้าของ อีวาน ขึ้นมาดื่ม ส่วน อีวาน ก็ล้มลงไปกองกับโต๊ะ
................................................................
ห้องประชุมใหญ่ฐาน Aiacos
มาถึงช่วงสุดท้ายของการประชุม ทุกคนต่างได้รับฟังเรื่องราวที่ เอริค กล่าวมาจนจบ เอริค ก็เปิดภาพโฮโลแกรมขึ้นบนโต๊ะกลางห้องขนาดใหญ่ เป็นรูปทางภูมิศาสตร์ มันระบุตำแหน่งเป็นพื้นที่ระหว่างฐาน Aiacos และฐาน Minos พร้อมรายละเอียดของ Arachna
เพื่อข้อมูลขึ้นมาครบ เอริค แซนเบิร์ก ก็เริ่มอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง "จากที่ได้วิเคราะห์ไปแล้ว ไซเฟอร์ คงกำลังเร่งเพาะพันธุ์ Arachna สร้างเป็นกำลังรบอยู่แน่" "เพราะการรบครั้งล่าสุด เขาทราบดีกว่าถ้ายังดึงดันสู้ต่อไป เขามีโอกาสพลาดพลั้งอยู่พอควร" "ดังนั้น หากเราจะรอตั้งรับการโจมตีอยู่แบบนี้ต่อไป ผมขอบอกได้เลยว่าเป็นการรอวันพินาศของ Aiacos" "ในตอนนี้ ทางเราสามารถซ่อมแซม Valkyria Unit ให้กลับมาพร้อมรบได้ภายใน 2 วัน" "เราจะต้องชิงโจมตี Minos ไม่ให้ ไซเฟอร์ สร้างกองกำลังได้มากไปกว่านี้ แถมยังมีอีกอย่าง" "ผมคาดว่า ไซเฟอร์ คงใช้ Omnipotent สั่งการให้นางพญาส่งกลิ่นเรียก Arachna ทั้งหมดมารวมตัว" "จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะทำลาย Arachna ทั้งหมดนั้นไป....ซึ่งผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยแต่ก็ไม่มีทางเลือก" "ความคิดของผมที่คิดจะใช้ Arachna เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ ดูเหมือนจะกลับเป็นพิษภัยซะแล้ว"
"ส่วน VF-27 Lucifer ที่ ไซเฟอร์ ขโมยไปด้วยนั้น เดิมทีทางเราออกแบบมาให้ โยฮัน เฮลซิงเกอร์" "มันเป็น Unit ที่ใช้ปืน GPR ที่มีความรุนแรงสูง เป็นรุ่น Commander มีความแม่นยำในการยิงมาก" "และทางเราได้สร้าง YF-29 Durandal ขึ้นเพื่อหวังจะให้ ซาซากิ ไดสึเกะ เป็นนักบินของมัน" "Duradal มีความคล่องตัวที่สูงมาก โดยติดตั้ง GPR ที่ไม่ได้รุนแรงเท่า Lucifer แต่ยิงได้บ่อยกว่า" "น่าเสียดาย.....ที่เขาไม่อยู่แล้ว และด้วยพละกำลังของมัน คงจะไม่มีใครคนไหนจะบังคับมันได้"
วินาทีนั้น ประตูห้องประชุมก็เปิดออกพร้อมกับเสียงที่พูดว่า "มีสิครับ....ผมจะเป็นนักบินของมันเอง..." "โยฮัน!!" โซเนีย พูดขึ้นด้วยความตกใจ เพราะสภาพของ โยฮัน นั้นยังมีอาการบาดเจ็บให้เห็นชัดเจน เอริค มองสภาพของ โยฮัน แล้วพูดขึ้น "สารรูปแบบนี้อย่าฝืนดีกว่าน่ะ เฮลซิงเกอร์ ....จะตายซะเปล่าๆ" แต่สายตาข้างซ้ายข้างเดียวของ โยฮัน แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า และไม่ยอมแพ้ง่ายๆ "ท่านพูดเองไม่ใช่หรอครับว่าเป็นเครื่องของ ไดสึเกะ....แบบนั้นก็คงจะมีแค่ผมคนเดียวที่ใช้มันได้" "มอบ Durandal ของหมอนั่นให้ผมเถอะครับ.....ผมจะสานต่อความตั้งใจของหมอนั่นให้เอง" คราวนี้ เอริค จะเป็นฝ่ายยอมแพ้ เขาพยักหน้าแล้วบอกเลิกประชุม ให้ทุกคนแยกย้ายกันไป
"เตรียมกระสวยให้พร้อมด้วยล่ะ" เอริค หันไปสั่งเจ้าหน้าที่แล้วหันกลับมาทาง ฟองน้ำ ที่ยืนข้างๆ "เธอพร้อมรึเปล่า....แล้วเธอแน่ใจแล้วนะ......" คำตอบของ ฟองน้ำ สั้นๆ ง่ายๆ "พร้อมค่ะท่าน"
................................................................
|
|
|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 15, 2016 7:19:15 GMT
หลังเลิกประชุม
ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับไปยังห้องพักของตนเองรวมไปถึง โซเนีย ด้วยเช่นกัน เธอเดินใจลอยเอาแต่จินตนาการถึงความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นขณะสู้รบ อีกทั้งการบินด้วย Durandal ซึ่งมีความเร็วและความคล่องตัวสูงของ โยฮัน ที่ยังบาดเจ็บ
เธอเดินผ่านมาบริเวณสวนสาธารณะ ในใจของเธอก็มีเรื่องของ ไดสึเกะ แวบเข้ามา เพราะเธอเคยหา ไดสึเกะ พบที่นี่ในวันที่เธอนำจดหมายของ พัชรี มาให้แก่เขา "เอ๊ะ!! นั่นมัน...นานาชิ นี่นา" โซเนีย เห็นแมวตัวหนึ่งเดินไปเดินมาอยู่แถวนั้น โซเนีย จึงเดินเข้ามาตั้งใจจะเล่นกับมัน แต่ นานาชิ กลับเดินหนีเธอไปเสียเฉยๆ
โซเนีย เดินตาม นานาชิ เข้ามาในสวนสาธารณะ เพราะแปลกใจที่ไม่พบ ลินดา เจ้าแมวน้อยนานาชิ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าม้านั่งที่ ไดสึเกะ กับ ลินดา เคยนั่งเล่นกัน โซเนีย จึงค่อยๆ อุ้ม นานาชิ ขึ้นมาลูบอย่างอ่อนโยน "โอ๋ๆ นานาชิ ทำไมมาเล่นแถวนี้ล่ะ" "คุณลินดา ไปไหนล่ะฮึ? รึว่าแอบออกมาวิ่งเล่น ซนเหมือนกันนะ" โซเนีย พูดหยอกล้อ เจ้านานาชิ ใช้มือของมันเกาหน้า โซเนีย ก่อนจะแกว่งไปทางเก้าอี้ม้านั่งอยู่หลายครั้ง จน โซเนีย รู้สึกผิดสังเกตจนต้องหันไปมอง หน้าของเธอซีดผาก ขาของเธอก้าวไม่ออก
เพราะสิ่งที่เธอเห็นคือ ร่างของ คาลาฟิน่า ลินดา กำลังห้อยต่องแต่งอยู่กับต้นไม้ เธอใช้เชือกผูกคอฆ่าตัวตายบนต้นไม้ด้านหลังม้านั่งแห่งความทรงจำของเธอตัวนั้น
つづく.
|
|