Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 14, 2016 7:51:42 GMT
☬ THE LEGEND OF AIACOS ☬ [アヤコス - の伝説]
Intro : On the left side, nothing is right. On the right side, nothing is left.
ในอวกาศอันมืดมิดและหนาวเหน็บอันไกลโพ้น...ระบบสุริยะแห่งหนึ่งมีดาวเคราะดวงหนึ่งเหมาะกับสิ่งมีชีวิตจะอาศัยอยู่
มนุษย์.......เดินทางมายังที่แห่งนี้ และได้ลงหลักปักฐานอยู่มาร่วม 300 ปีแล้ว
โลกสีครามใบเดิมที่คุ้นเคยกลายเป็นเพียงแค่ความฝันในนิทานก่อนนอนของเด็กๆ ที่พ่อและแม่เล่าให้ฟัง เท่านั้น
โลกใบเดิมถูกทำลายไปหมดแล้ว จากน้ำมือของมนุษย์เองนี่แหละหลังจากที่หมดที่อยู่อาศัยและสิ้นหวัง
มนุษย์โลกพากันอพยพมายังดาวอันแสนไกลแห่งนี้
Gliese 667Cc
คือชื่อของดาวดวงใหม่ที่ถูกตั้งขึ้นมา แม้สภาพอากาศที่นี่จะโหดร้ายและทารุณกว่าโลกเดิม แต่แค่มันสามารถจะอยู่อาศัยได้ก็ดีเกินพอ
ด้วยแรงโน้มถ่วงมากกว่าโลกมนุษย์ 2 เท่า และออกซิเจนมีไม่มากพอ ดังนั้น มนุษย์จึงต้องอาศัยการอาศัยอยู่ในฐานซึ่งเป็นโดมปิดขนาดยักษ์
การออกนอกโดมจะต้องสวมชุดเดินทางที่ประกอบไปด้วยหน้ากากออกซิเจน เครื่องพยุงตัวต่อต้านแรงโน้มถ่วงและระบบปรับความดัน
หรืออีกนัยหนึ่ง คือ ขณะนี้มนุษย์ยังคงต้องอาศัยชุดอวกาศที่ถูกปรับแต่งให้สามารถใช้งานได้ภายนอกของตัวโดมซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย
ไม่เพียงแต่สภาวะแวดล้อมที่ยังไม่นิ่งสงบที่จะเป็นอุปสรรคต่อมนุษย์เท่านั้น
ที่แห่งนี้มนุษย์ได้พบกับศัตรูตัวใหม่ที่พวกเขาไม่เคยพบเจอมาก่อน พวกมันมาจาก อวกาศที่ห่างไกลเช่นกัน
และมนุษย์ไม่เคยรู้ข้อมูลอะไรเกียวกับมันเลย เท่าที่รู้คือ พวกมันเข้าจู่โจมมนุษย์อย่างไร้เหตุผล
และเพราะการกระทำของพวกมัน จึงทำให้มนุษย์กว่า 50% ที่อยู่บน Gliese ต้องล้มตาย
กลุ่มคนที่เหลือรอด เรียกพวกมันว่า Arachna และเริ่มจัดตั้งกองกำลังขึ้นมาต่อต้านพวกมันอย่างจริงจัง
พวกเขาใช้เครื่องจักรสงครามรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่เรียกว่า Valkyria Unit มันคือชื่อเรียกรวมๆ ของเครื่องจักรชนิดนี้
มันสามารถแปลงสภาพเป็นยานรบความเร็วสูงได้ และก็สามารถแปลงสภาพเป็นเครื่องจักรสังหารรูปแบบมนุษย์ได้
มันถูกติดตั้งอาวุธร้ายแรงรูปแบบต่างๆมากมายพวก และถูกสร้างขึ้นเพื่อต่อกรและกำจัดผู้รุกรานจากอวกาศ
แต่หลังจากที่ Arachna โจมตีมนุษย์ครั้งที่แล้วเมือ 10 ปีก่อน จนถึงตอนนี้
มนุษย์ยังไม่พบกับการปรากฎตัวของพวกมันอีกเลย
ปัจจุบันฐานทัพของมนุษย์บน Gliese มีอยู่ 3 แห่ง แต่ละแห่งมีบทบาทหน้าที่ไม่เหมือนกัน
Radamanthys ทำหน้าที่ป้องกันภัยจากนอกอวกาศ ทั้งดาวหางและภัยคุกคามอื่นๆ
Minos พัฒนาระบบนิเวศน์บนดาวดวงนี้ให้มนุษย์อาศัยอยู่ได้ แม้มันอาจใช้เวลานับร้อยปีก็ตาม
Aiacos หาทรัพยากรที่จำเป็นนำมาแปรรูป และสำรวจพื้นที่ของดาวดวงนี้
ที่นี่ Aiacos ฐานซึ่งทำหน้าที่หาทรัพยากรที่จำเป็นและแปรรูปส่งไปยังฐานทัพอีก 2 แห่ง
เปรียบเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำของมนุษยชาติ พวกเรามีหน้าที่เสาะหาวัตถุดิบใหม่ๆ สำรวจดาวที่เราอาศัย ทำความรู้จักกับมัน
ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมเหล่านักบินของ Valkyria Unit ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
และพวกเรายังให้ความรู้และฝึกสอนเพื่อผลิตนักบินรุ่นถัดๆ ไปของกองบิน Valkyria Unit
จัดได้ว่า Aiacos แห่งนี้คือประตูสู่อนาคตของมวลมนุษยชาติ
..........................................................................................
ภายในอาคารฝึกอบรมของ Aiacos
ครูฝึกสาวกำลังฉายภาพที่บันทึกการปรากฎตัวของ Arachna เมื่อ 10 ปีก่อนให้นักบินฝึกหัดในห้องได้รับชม
บนพื้นผิวดวงดาว Gliese ถูกอุกกาบาตลูกหนึ่งชนเข้า อุกาบาตนั้นไม่ได้สร้างความเสียหายให้แก่ Gliese มากนัก
แต่สิ่งที่มากับมันเริ่มย่างกลายออกมาจากกลุ่มควันทีเกิดจากการเผาไหม้ รูปร่างของมันเหมือนแมลงสีเทาดำมี ขา 2 คู่
มีแขนที่เหมือนแมลงอีก 2 ข้าง ขนาดของมันนั้นใหญ่โต การเคลื่อนไหวรวดเร็ว แม้จะดูเชื่องช้าหากเทียบกับสัดส่วนก็ตาม
มันสามารถทรงตัวได้ในสภาพที่มีแรงโน้มถ่วงสูง ปากของมันมีรยางค์ที่สามารถจับสิ่งมีชีวิตเป็นอาหารได้
และของเหลวที่ออกมาจากร่างกายของมันเป็นกรดที่รุนแรง
พวกเราพบมันตอนที่มันออกมาจากอุกาบาตลูกแรก ตอนนั้นจำนวนพวกมันมีด้วยกัน 8 ตัว
และพวกมันบุกเข้าโจมตีฐานที่ตั้งของมนุษย์ที่ไกล้ที่สุด จากจุดที่มันตก นั่นก็คือ Aiacos
ครูฝึกอธิบายอย่างเรียบๆ ถึงการกระทำของ Arachna ไม่นานนัก ภาพที่ถูกบันทึกชุดที่สองก็ถูกฉาย
เมื่อพวกมันบุกเข้ามาถึงใจกลางเมือง มนุษย์ทำการต่อสู้ด้วยอาวุธที่พวกเรามีในตอนนั้น
แต่ว่าอาวุธเหล่านั้นไม่สามารถที่จะฆ่าพวกมันได้ พวกมันมีการพื้นฟูตัวเองที่รวดเร็ว ซ้ำยังมีเกราะที่แข็งและหนา
เราเสียประชากรไปประมาณ 50% ของจำนวนทั้งหมด พวกมันกินมนุษย์เป็นอาหาร และใช้มนุษย์เป็นที่วางและฟักใข่
ครูฝึกพูดพร้อมกับ ฉายภาพให้ดู ขณะที่พวก Arachna ใช้รยางค์จับคนกินเข้าไปและคนบางคนถูกพวกมันวางใข่ใส่ในร่างกาย
เมื่อไข่ฝักออก ตัวอ่อนของมันจะกินมนุษย์คนนั้นเป็นอาหารมื้อแรก มันน่าสยดสยองมาก ครูฝึกพูดด้วยท่าทางไม่ค่อยดีนัก
"แล้วเรากำจัดพวกมันยังไงล่ะ" นักบินฝึกหัดคนหนึ่งถามขึ้นมาด้วยความสงสัยที่เกินจะระงับไว้ได้
ครูฝึกยิ้มบางๆ ก่อนจะตอบคำถามนั้นว่า
"อาวุธสุดท้ายของมนุษยฺ์ในตอนนั้น Valkyria Unit รุ่นแรก ที่ติดอาวุธรูปแบบใหม่ และนักบินที่มีความสามารถ"
"ได้กำจัดนางพญาของพวกมันในตอนนั้นได้ ทำให้ที่เหลือก็ล่าถอยไป" เธอพูดพลางกวาดสายตามองนักบินฝึกหัดทุกคนในห้องอบรม"
"แม้จากตอนนั้นถึงตอนนี้ มนุษย์จะไม่ได้เจอพวกมันมา 10 ปีแล้ว แต่เรายังวางใจไม่ได้ ดังนั้น Valkyria Unit ถูกพัฒนาให้ทรงพลังขึ้น"
"ติดตั้งอาวุธที่ดีขึ้น หากต้องเจอกับพวกมันอีก เราจะแพ้ย่อยยับแบบ 10 ปีก่อนไม่ได้!!"
"ความหวังของมนุษยชาติอยู่ในกำมือของพวกเธอแล้วนะ......"
Classified : Science Fiction
Genre : Alien Apocalypse , Mecha , Action , Romance , Drama
Written by by Saraphina and Senjumaru
Presented by Moonlight® 2014
Intro : On the left side, nothing is right. On the right side, nothing is left.
ในอวกาศอันมืดมิดและหนาวเหน็บอันไกลโพ้น...ระบบสุริยะแห่งหนึ่งมีดาวเคราะดวงหนึ่งเหมาะกับสิ่งมีชีวิตจะอาศัยอยู่
มนุษย์.......เดินทางมายังที่แห่งนี้ และได้ลงหลักปักฐานอยู่มาร่วม 300 ปีแล้ว
โลกสีครามใบเดิมที่คุ้นเคยกลายเป็นเพียงแค่ความฝันในนิทานก่อนนอนของเด็กๆ ที่พ่อและแม่เล่าให้ฟัง เท่านั้น
โลกใบเดิมถูกทำลายไปหมดแล้ว จากน้ำมือของมนุษย์เองนี่แหละหลังจากที่หมดที่อยู่อาศัยและสิ้นหวัง
มนุษย์โลกพากันอพยพมายังดาวอันแสนไกลแห่งนี้
Gliese 667Cc
คือชื่อของดาวดวงใหม่ที่ถูกตั้งขึ้นมา แม้สภาพอากาศที่นี่จะโหดร้ายและทารุณกว่าโลกเดิม แต่แค่มันสามารถจะอยู่อาศัยได้ก็ดีเกินพอ
ด้วยแรงโน้มถ่วงมากกว่าโลกมนุษย์ 2 เท่า และออกซิเจนมีไม่มากพอ ดังนั้น มนุษย์จึงต้องอาศัยการอาศัยอยู่ในฐานซึ่งเป็นโดมปิดขนาดยักษ์
การออกนอกโดมจะต้องสวมชุดเดินทางที่ประกอบไปด้วยหน้ากากออกซิเจน เครื่องพยุงตัวต่อต้านแรงโน้มถ่วงและระบบปรับความดัน
หรืออีกนัยหนึ่ง คือ ขณะนี้มนุษย์ยังคงต้องอาศัยชุดอวกาศที่ถูกปรับแต่งให้สามารถใช้งานได้ภายนอกของตัวโดมซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย
ไม่เพียงแต่สภาวะแวดล้อมที่ยังไม่นิ่งสงบที่จะเป็นอุปสรรคต่อมนุษย์เท่านั้น
ที่แห่งนี้มนุษย์ได้พบกับศัตรูตัวใหม่ที่พวกเขาไม่เคยพบเจอมาก่อน พวกมันมาจาก อวกาศที่ห่างไกลเช่นกัน
และมนุษย์ไม่เคยรู้ข้อมูลอะไรเกียวกับมันเลย เท่าที่รู้คือ พวกมันเข้าจู่โจมมนุษย์อย่างไร้เหตุผล
และเพราะการกระทำของพวกมัน จึงทำให้มนุษย์กว่า 50% ที่อยู่บน Gliese ต้องล้มตาย
กลุ่มคนที่เหลือรอด เรียกพวกมันว่า Arachna และเริ่มจัดตั้งกองกำลังขึ้นมาต่อต้านพวกมันอย่างจริงจัง
พวกเขาใช้เครื่องจักรสงครามรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่เรียกว่า Valkyria Unit มันคือชื่อเรียกรวมๆ ของเครื่องจักรชนิดนี้
มันสามารถแปลงสภาพเป็นยานรบความเร็วสูงได้ และก็สามารถแปลงสภาพเป็นเครื่องจักรสังหารรูปแบบมนุษย์ได้
มันถูกติดตั้งอาวุธร้ายแรงรูปแบบต่างๆมากมายพวก และถูกสร้างขึ้นเพื่อต่อกรและกำจัดผู้รุกรานจากอวกาศ
แต่หลังจากที่ Arachna โจมตีมนุษย์ครั้งที่แล้วเมือ 10 ปีก่อน จนถึงตอนนี้
มนุษย์ยังไม่พบกับการปรากฎตัวของพวกมันอีกเลย
ปัจจุบันฐานทัพของมนุษย์บน Gliese มีอยู่ 3 แห่ง แต่ละแห่งมีบทบาทหน้าที่ไม่เหมือนกัน
Radamanthys ทำหน้าที่ป้องกันภัยจากนอกอวกาศ ทั้งดาวหางและภัยคุกคามอื่นๆ
Minos พัฒนาระบบนิเวศน์บนดาวดวงนี้ให้มนุษย์อาศัยอยู่ได้ แม้มันอาจใช้เวลานับร้อยปีก็ตาม
Aiacos หาทรัพยากรที่จำเป็นนำมาแปรรูป และสำรวจพื้นที่ของดาวดวงนี้
ที่นี่ Aiacos ฐานซึ่งทำหน้าที่หาทรัพยากรที่จำเป็นและแปรรูปส่งไปยังฐานทัพอีก 2 แห่ง
เปรียบเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำของมนุษยชาติ พวกเรามีหน้าที่เสาะหาวัตถุดิบใหม่ๆ สำรวจดาวที่เราอาศัย ทำความรู้จักกับมัน
ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมเหล่านักบินของ Valkyria Unit ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
และพวกเรายังให้ความรู้และฝึกสอนเพื่อผลิตนักบินรุ่นถัดๆ ไปของกองบิน Valkyria Unit
จัดได้ว่า Aiacos แห่งนี้คือประตูสู่อนาคตของมวลมนุษยชาติ
..........................................................................................
ภายในอาคารฝึกอบรมของ Aiacos
ครูฝึกสาวกำลังฉายภาพที่บันทึกการปรากฎตัวของ Arachna เมื่อ 10 ปีก่อนให้นักบินฝึกหัดในห้องได้รับชม
บนพื้นผิวดวงดาว Gliese ถูกอุกกาบาตลูกหนึ่งชนเข้า อุกาบาตนั้นไม่ได้สร้างความเสียหายให้แก่ Gliese มากนัก
แต่สิ่งที่มากับมันเริ่มย่างกลายออกมาจากกลุ่มควันทีเกิดจากการเผาไหม้ รูปร่างของมันเหมือนแมลงสีเทาดำมี ขา 2 คู่
มีแขนที่เหมือนแมลงอีก 2 ข้าง ขนาดของมันนั้นใหญ่โต การเคลื่อนไหวรวดเร็ว แม้จะดูเชื่องช้าหากเทียบกับสัดส่วนก็ตาม
มันสามารถทรงตัวได้ในสภาพที่มีแรงโน้มถ่วงสูง ปากของมันมีรยางค์ที่สามารถจับสิ่งมีชีวิตเป็นอาหารได้
และของเหลวที่ออกมาจากร่างกายของมันเป็นกรดที่รุนแรง
พวกเราพบมันตอนที่มันออกมาจากอุกาบาตลูกแรก ตอนนั้นจำนวนพวกมันมีด้วยกัน 8 ตัว
และพวกมันบุกเข้าโจมตีฐานที่ตั้งของมนุษย์ที่ไกล้ที่สุด จากจุดที่มันตก นั่นก็คือ Aiacos
ครูฝึกอธิบายอย่างเรียบๆ ถึงการกระทำของ Arachna ไม่นานนัก ภาพที่ถูกบันทึกชุดที่สองก็ถูกฉาย
เมื่อพวกมันบุกเข้ามาถึงใจกลางเมือง มนุษย์ทำการต่อสู้ด้วยอาวุธที่พวกเรามีในตอนนั้น
แต่ว่าอาวุธเหล่านั้นไม่สามารถที่จะฆ่าพวกมันได้ พวกมันมีการพื้นฟูตัวเองที่รวดเร็ว ซ้ำยังมีเกราะที่แข็งและหนา
เราเสียประชากรไปประมาณ 50% ของจำนวนทั้งหมด พวกมันกินมนุษย์เป็นอาหาร และใช้มนุษย์เป็นที่วางและฟักใข่
ครูฝึกพูดพร้อมกับ ฉายภาพให้ดู ขณะที่พวก Arachna ใช้รยางค์จับคนกินเข้าไปและคนบางคนถูกพวกมันวางใข่ใส่ในร่างกาย
เมื่อไข่ฝักออก ตัวอ่อนของมันจะกินมนุษย์คนนั้นเป็นอาหารมื้อแรก มันน่าสยดสยองมาก ครูฝึกพูดด้วยท่าทางไม่ค่อยดีนัก
"แล้วเรากำจัดพวกมันยังไงล่ะ" นักบินฝึกหัดคนหนึ่งถามขึ้นมาด้วยความสงสัยที่เกินจะระงับไว้ได้
ครูฝึกยิ้มบางๆ ก่อนจะตอบคำถามนั้นว่า
"อาวุธสุดท้ายของมนุษยฺ์ในตอนนั้น Valkyria Unit รุ่นแรก ที่ติดอาวุธรูปแบบใหม่ และนักบินที่มีความสามารถ"
"ได้กำจัดนางพญาของพวกมันในตอนนั้นได้ ทำให้ที่เหลือก็ล่าถอยไป" เธอพูดพลางกวาดสายตามองนักบินฝึกหัดทุกคนในห้องอบรม"
"แม้จากตอนนั้นถึงตอนนี้ มนุษย์จะไม่ได้เจอพวกมันมา 10 ปีแล้ว แต่เรายังวางใจไม่ได้ ดังนั้น Valkyria Unit ถูกพัฒนาให้ทรงพลังขึ้น"
"ติดตั้งอาวุธที่ดีขึ้น หากต้องเจอกับพวกมันอีก เราจะแพ้ย่อยยับแบบ 10 ปีก่อนไม่ได้!!"
"ความหวังของมนุษยชาติอยู่ในกำมือของพวกเธอแล้วนะ......"
Classified : Science Fiction
Genre : Alien Apocalypse , Mecha , Action , Romance , Drama
Written by by Saraphina and Senjumaru
Presented by Moonlight® 2014