|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 28, 2016 16:30:43 GMT
EP12 : My Every Single Wish ... Yozora Takatsuki
“โลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน แก่งแย่งชิงดี เห็นแก่ตัว อิจฉาคนที่เหนือกว่า เหยียดหยามคนที่ด้อยกว่า” "นี่นายไม่คิดจะทักกันบ้างเลยรึไงฮะ!! ถ้าจำชื่อไม่ได้ก็อ่านซะ จิโดริ ชิราซากิ น่ะ อ่านที่หน้าอกนี่เซ่!!!" "ไม่ได้หรอกจ่ะ เราไปไกลถึงตรงนั้นไม่ได้ คราวหน้าเราโตกว่านี้ พี่สัญญาจะพาไปนะจ๊ะ" "ทั้งๆ ที่ ทาคัตซึกิคุงฝันแบบนั้นมาตลอด ทำไมไม่ลองสืบหาเรื่องราวและลองตามหาเธอดูล่ะคะ บางทีมันอาจเป็นเรื่องจริงก็ได้" "คาถานี้ เป็นคาถาสายฟ้า...ยังไม่เคยมีใครเคยฝึกสำเร็จแต่ชั้นเชื่อว่าเธอจะสามารถฝึกจนสำเร็จได้ มันชื่อว่า.....พันปักษา....." "ถ้าเรื่องในฝันของนายเป็นเรื่องจริงแล้วล่ะก็ นายก็จงรู้ไว้ว่าทั้้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะนาย แค่นายก้าวเดินออกจากมุมมืดแล้วสู้!!" "ทาคัต...ซึกิคุง....ฝาก....ที่เหลือด้วย....นะคะ....." "ใช่....แต่ชั้นทนเห็นพวกเธอต้องตายไปทีละคนทีละคนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว" "ถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็น ยูกิจัง....ไม่ใช่ชั้น....นายจะเศร้าใจอย่างนี้มั้ย....." "ลาก่อน....โยโสะ....น้องรักของพี่......"
ประโยคต่างๆ วนเวียนอยู่ภายในหัวของ โยโซระ มันตีกันวุ่นวายชนิดที่จับใจความไม่ได้ กระทั่งภาพที่เขาเห็นเริ่มชัดเจนขึ้น "ตื่นแล้วหรอ โยโซะระ .... ชั้นน่ะเป็นห่วงเธอแทบแย่รู้มั้ย" ใบหน้าของ จิโดริ พร้อมๆ กับเสียงของเธอ เป็นสิ่งแรกที่ โยโซระ สัมผัสได้ เขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากท่านอนอยู่บนเตียงในห้องมืดๆ จากนั้นก็มองไปรอบตัวด้วยความมึนงงแล้วพบว่า เซย์มิ และ นามิ ได้อยู่ที่นั่นด้วย จิโดริ นั่งอยู่บนเตียงข้างๆ ตัว โยโซระ ในขณะที่ นามิ และ เซย์มิ กำลังแง้มมู่ลี่ที่หน้าต่างสอดส่องสายตาออกไปนอกตัวอาคาร "นี่ผม.....หลับไปนานแค่ไหนครับ" โยโซระ ถามขึ้นโดยผู้ที่ให้คำตอบแก่เขาคือ เซย์มิ "จนถึงตอนนี้ก็ราวๆ 18 ชั่วโมงเห็นจะได้" เขาพยักหน้าแล้วหันมองซ้ายทีขวาที "แล้วเราอยู่ที่ไหนกันครับ....แล้วของสิ่งนั้นอยู่ที่ไหนอย่างนั้นหรอครับ....."
นามิ เห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นว่า "นี่คือห้องพักของผมเอง ตอนนี้เราต้องอยู่ที่นี่ไปก่อนชั่วคราว เพราะสถานการณ์เราไม่ค่อยดีซะเท่าไร" "แล้วก็...เธอหาสิ่งนี่อยู่ใช่รึเปล่าล่ะ" นามิ พูดจบเขาก็หยิบเศษกระดาษเล็กๆ ที่อยู่ลับของ Hades ซึ่ง ไอริส ฉกมาจาก Slayer โยโซระ รับมันจากมือ นามิ แล้วเปิดขึ้นมาดู เขานึกถึงช่วงที่เขาเกี่ยวก้อยกับ ไอริส ในวินาทีนั้นเธอก็ส่งสิ่งนี้มาให้พร้อมกับทำบางอย่าง นามิ ค่อยๆ เลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างๆ เตียงของ โยโซระ แล้วจ้องหน้าเขา "ผมแปลกใจนิดๆ ที่คุณไม่ได้รู้สึกอะไรกับการตายของ ไอริส เลยนะ"
โยโซระ ส่ายหน้า แล้วเริ่มอธิบาย "ก่อนที่....พี่มายูมิ จะจากไป เธอได้ส่งความทรงจำ และความรู้สึกของเธอที่มีมาให้ผมผ่านทางดวงตา" "สำหรับน้องชายที่ฆ่าพี่สาวแท้ๆ กับมือ มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดเกินให้อภัย...แต่หากเข้าใจในสิ่งที่เธอทำแล้ว ผมจะมามัวเสียใจไม่ได้" "เธอทำทุกสิ่งก็เพื่อผม ความหวังสูงสุดของเธอก็คือผม เป้าหมายของเธอคือโค่นล้ม Hades และตอนนี้มันยังไม่สำเร็จ....ฉะนั้น...." "ผมจะต้องโค่นล้ม Hades เพื่อทำให้เป้าหมายของพี่มายูมิเป็นจริง....ล้างแค้นให้ยูกิจังกับรุ่นพี่เซบัสเตียน และช่วย ฮิเมะ ให้ได้" "และ Hades คนที่เราต้องหยุดยั้งเขาให้ได้ ตอนนี้ผมแน่ใจอย่างแจ่มแจ้งเลยว่า เขาก็คือ....จินได ริวงะ!!......"
จิโดริ ค่อยๆ กุมมือของ โยโซระ เอาไว้ "ชั้นจะช่วยนายอีกแรงนะ...ถึงชั้นไม่รู้ว่าคุณอายาโนะคิดอะไร แต่ชั้นเชื่อว่าที่ผ่านมา..." "สิ่งที่คุณอายาโนะทำ มันมาจากความรู้สึกที่แท้จริง เพราะว่าการที่ชั้นยังมีชีวิตอยู่มันเป็นสิ่งยืนยันตัวตนที่แท้จริงของเธอได้ดีที่สุด"
..............................
ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นเอง
เซย์มิ ก็เร่งเสียงโทรทัศน์ที่เปิดค้างไว้ขึ้นมา มันเป็นรายการข่าวที่สัมภาษณ์ จินได ริวงะ หลังจากที่เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี "ผมต้องขอบคุณประชาชนทุกคนที่ไว้วางใจผมและให้การสนับสนุนผมมาเป็นอย่างดี....ผมจะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนต้องผิดหวังแน่นอน" "ตอนนี้ก้าวแรกของผมเริ่มต้นได้อย่างน่าพอใจ เพราะทางการได้บุกทำลายรังโจรซึ่งเป็นฐานในการปฏิบัติการของกลุ่มคุโรฮิซึจิสำเร็จแล้ว" "โดยเราได้สังหารผู้ที่เชื่อว่าเป็นผู้นำของกลุ่มสำเร็จ ชื่อจริงของเธอคือ ทาคัตซึกิ มายูมิ เธอเป็นผู้สาปสูญจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญหลายปีก่อน" "ตอนนี้เราได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่าเธอเป็นผู้ป่วยทางจิต ลงมือสังการบิดาและมารดาตนเอง แต่ก็เป็นที่่น่าเสียดายที่เราต้องเสียตำรวจมือดีไปมาก" "หนึ่งในนั้นคือร้อยตำรวจตรีมาซากิโยะ มิโรซูมิ ส่วนแผนการต่อไปคือ ผมจะเร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ประเทศเราเจริญก้าวหน้าต่อไป"
เมื่อข่าวตัดไปยังข่าวอื่น เซย์มิ ก็ปิดโทรทัศน์ลง
นามิ ทำหน้าเซ็งๆ "นี่แหละครับ สาเหตุที่ทำให้เราลำบาก....เพราะดูเหมือนว่า Hades จะเล่นการเมืองเก่งกว่าที่ผมคิดเอาไว้มาก" "ตอนนี้เขารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นไปแล้ว อำนาจทุกอย่างอยู่ในกำมือเขา เราคงถูกทางการตามล่าตัวอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย" โยโซระ กำหมัดแน่น "ถ้าอย่างนั้นเราจะทำอะไรได้ล่ะครับ....เขาเป็นถึงนายกรัฐมนตรี จะบุกดุ่มๆ เข้าไปโจมตีมันไม่ใช้เรื่องดีแน่" สิ่งที่ทุกคนรู้ตอนนี้มันช่างเป็นทางเลือกที่ลำบาก เพราะถึงแม้สังหาร จินได ริวงะ ลงได้ พวกเขาก็ยังหาเหตุผลที่ดีในการฆ่าเขาไม่ได้
จิโดริ หรี่ตาลงเล็กน้อย "แล้วถ้าคนที่ฆ่านายกรัฐมนตรีไม่ใช่พวกเราล่ะคะ.....ถ้าคนที่ฆ่านายกรัฐมนตรีเป็นคนสวมชุดคลุมสีดำล่ะ" นามิ ยิ้มมุมปาก "เก่งมากสาวน้อย ถ้าคนที่ฆ่า จินได ริวงะ เป็นกลุ่มคุโรฮิซึจิ แล้วล่ะก็....ทุกอย่างมันก็จะลงตัวและดูง่ายไปเสียหมดเลยล่ะ" "นายกรัฐมนตรีถูกสังหารโดยกลุ่มคุโรฮิซึจิ ที่เหลืออยู่ ด้วยเหตุผลในการก่อการร้ายเดิมประกอบกับความแค้นที่บุกสังหารผู้นำของเขา" โยโซระ ได้ยินทั้งหมดก็เห็นด้วย แต่เขาค้านขึ้นมาว่า "แล้วสมาชิกกลุ่มคุโรฮิซึจิ คนไหนที่พอมีความสามารถสังหารเขาได้กันล่ะครับ"
เซย์มิ จึงพูดขึ้นว่า "ก็พวกเรายังไงล่ะ...." เขายืนเสื้อคลุมสีดำพร้อมหน้ากากให้แก่ โยโซระ และจิโดริ
..............................
|
|
|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 28, 2016 16:31:57 GMT
บ้านพักนายกรัฐมนตรี
บัดนี้เป็นที่พำนักของ จินได ริวงะ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รอบตัวบ้านมีทหารและตำรวจจำนวนมากทำการคุ้มกันอย่างแน่นหนา พวกเขาสวมชุดเกราะและอาวุธครบมือ ภายในเงามืดข้างรั้วบ้าน มีคนสวมชุดคลุมดำจำนวน 4 คนกระโดดเข้ามาหลบในพงหญ้า
"Marionette ดูเหมือนพวกมันจะคุ้มกันแน่นหนามาก ถ้าบุกเข้าไปตรงๆ คงต้องเกิดการปะทะครั้งใหญ่แน่" โยโซระ พูดขึ้น นามิ หรือ Marionette พยักหน้า "ถูกต้อง เราคงต้องลอบเข้าไป ถ้าคุณไม่อยากให้มีใครต้องตายนอกจาก ริวงะ นะ Iris..." เซย์มิ หรือ Vampire จึงถามขึ้นว่า "ถ้าอย่างนั้น เราจะเข้าไปข้างในโดยไม่ให้พวกมันรู้ตัวได้ยังไงกันล่ะ เธอมีแผนไหม...Slayer" คำตอบนั้นตอบโดย จิโดริ "ไว้ใจได้ Vampire ชั้นมีวิธี" เมื่อพูดจบ จิโดริ หรือ Slayer ก็ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้แก่ทุกคนคนละผืน
เมื่อทุกคนนำผ้ามาปิดปากและจมูกแล้ว จิโดริ ก็รีดเร้นจักระออกมา "คาถาไม้ บุปผาแห่งรัติกาล!!" ทันใดนั้น ต้นไม้ขนาดใหญ่ก็ผุดขึ้น มันเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วท่ามกลางพื้นดินที่สั่นสะเทือน ทำให้นายทหารและตำรวจที่อยู่บริเวณนั้นต้องหันมามอง มันสูงถึง 20 เมตร จากนั้นยอดของมันก็เกิดเป็นดอกไม้ตูม และค่อยๆ ผลิบานออกเป็นดอกไม้ มันดูสวยสดงดงามมาก มีระอองทะส้อนแสงจันทร์ปลิวตามลม ไม่นานนัก ทหารและตำรวจทั้งหมดก็เริ่มเกิดอาการมึนงง พวกเขาเริ่มเดินโซเซ ยืนไม่อยู่แล้วล้มลง ก่อนที่สติของพวกเขาจะดับไป จิโดริ ประสานอินที่มืออีกครั้งก่อนที่เธอจะทำให้ต้นไม้จากคาถาที่เธอสร้างขึ้นนั้นค่อยๆ เ่ยวเฉาและหดกลับลงสู่พื้นดินกระทั่งหายลับไป "เท่านี้เราก็ไม่ต้องทำให้ผู้บริสุทธิ์คนอื่นต้องเดือดร้อนแล้วล่ะนะ .... Iris Marionette Vampire ออกไปลุยกันเถอะ"
ไม่นานนักพวกเขาทั้ง 4 คนก็เข้ามาในตัวบ้านผ่านประตูไม้ทางเข้าบานใหญ่
และแล้วคนที่พวกเขาต้องการจะมาหยุดยั้งก็ยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาบนบันใหญ่ขนาดใหญ่ที่ปูด้วยพรมแดงราวกับราชวัง เขาสวมชุดสูทที่ดูดียืนหันหลังให้พวกของ โยโซระ แล้วกล่าวทักทาย "ผมกะเอาไว้อยู่แล้วว่าพวกคุณต้องมาที่นี่...คิดไม่ผิดจริงๆ"
จากนั้นชายคนนั้นที่มีน้ำเสียงเหมือน Hades ก็หันกลับมาโดยไม่ต้องสงสัยว่าเขาคือใคร เขาคือ จินได ริวงะ ตามคาด "เรื่องราวทุกอย่างมันกระจ่างสำหรับผมแล้ว...เพราะถ้าหากพวกคุณยังไม่ตาย ก็แสดงว่า ไอริส คงเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังนี้ทั้งหมด" "คำภีร์ของบ้านมิโรซูมิที่หายสาปสูญ การหายตัวไปของสายเลือดเซ็นจู ทุกอย่างกระจ่างชัดแล้ว แต่มันก็คงไร้ความหมาย" "สิ่งที่ ไอริส ทำพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ....การควานหาเนตรวงแหวน และหยิบยื่นมันมาให้แก่ผม....ช่างน่าเศร้าใจยิ่งนัก" "และน่าเสียดายที่พวกคุณจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่ ราวกับแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟ...ทั้งๆ ที่หนีไปเงียบๆ ก็จบแล้วแท้ๆ"
"ดูพวกคุณสิ เด็กน้อยใต้บันได สาวน้อยสายเลือดเซ็นจู นามิผู้หลักแหลม และเซย์มิผู้อ่อนโยน พวกคุณช่างน่าสมเพชโดยแท้" "ผมต้องขอชมเชยพวกคุณทุกคน เจ้าเด็กน้อยใต้บันได ผู้ที่เกิดมาพร้อมกับความกลัว บัดนี้ก็กล้าที่จะเผชิญหน้าความกลัวแล้ว" "สาวน้อยสายเลือดเซ็นจู ผู้โชคดีที่ ไอริส ได้เคยช่วยชีวิตเอาไว้ บัดนี้กลับนำชีวิตตัวเองมามอบให้ผมอย่างที่ควรจะเป็น" "นามิ ผู้หลักแหลม ผู้ที่อ่านแผนผมออกก่อนที่จะตกหลุมพราง แต่ไม่วายกลับมาเพื่อร้องขอความตาย ไม่หลักแหลมสมชื่อ" "แล้วก็คนสุดท้าย....เซย์มิ ผู้อ่อนโยน...ถึงจะมีพละกำลังและร่างกายที่แข็งแกร่งอย่างหาที่สุดไม่ได้ แต่จิตใจเปราะบางยิ่งกว่าแก้ว" "เอาล่ะ ผมจะทำตามที่ทุกคนปรารถนา...ผมขอแนะนำให้พวกคุณรู้จักกับอาวุธทำลายล้างใหม่ของผมที่จะยึดครองโลกใบนี้..."
หลังจากที่ ริวงะ พูดจบ เขาก็ยกมือขวาขึ้น จากนั้นร่างของ ฮาคุโอกิ ฮิเมะ ก็ถูกเงาของเธอเองยกลอยมาจากด้านหลังของ ริวงะ เธอถูกวางลงต่อหน้า โยโซระ จิโดริ เซย์มิ และ นามิ ทันทีที่เห็น โยโซระ ก็พุ่งเข้าไปหา ฮิเมะ พร้อมตะโกนเรียกเธอ "ฮิเมะจัง!!" แต่เขาถูก นามิ ขวางไว้ด้วยการใช้มือจับไว้ที่ไหล่ขวา "ช้าก่อน Iris ผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ Hades ไม่น่าจะเล่นง่ายแบบนี้" เมื่อได้ยิน ริวงะ หรือ Hades ก็หัวเราะขึ้นมาทันที "ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ถูกต้องแล้วล่ะครับ" เขาเริ่มเปิดการใช้งานเนตรวงแหวน
ฮิเมะ ที่ก้มหน้าทรุดตัวอยู่เบื้องหน้าพวกของ โยโซระ เธอก็เงยหน้าขึ้นด้วยตาทั้งสองของที่กำลังเรืองแสงสีแดงวาบเป็นเนตรวงแหวน เธอยกนิ้วชี้ขวาของตัวเองขึ้นมากัดด้วยปาก ทำให้เลือดของเธอนั้นสาดกระเซ็น ก่อนจะวางทาบมือขวาของเธอลงบนพื้นเบื้่องหน้า ปรากฎอักขระโบราณสีดำวงใหญ่กว่าที่พวก โยโซระ เคยเห็น จากนั้นแสงสว่างเจิดจ้าก็ปรากฏขึ้น ตามมาด้วยการระเบิดอย่างรุนแรง มันทำให้หลังคาของตัวบ้านพังถล่มลงมา เซย์มิ และ นามิ ช่วยกันลากตัว โยโซระ และ จิโดริ หลบเศษโครงสร้างอาคารที่หล่นลงใส่ ท่ามกลางฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจาย มีเพียงแสงจันทร์ที่เป็นแสงสว่างในเวลาเช่นนี้ พวกเขาก็เห็นสิ่งที่ใหญ่โตมหึมา มันเป็นสิ่งมีชีวิต รูปร่างของมันแปลกประหลาด มันมีลักษณะเหมือนม้าสีขาวสูงร่วม 20 เมตร ที่แปลกคือ มันมีหางยาวรวมถึง 5 หางด้วยกัน
ท่ามกลางความตกตะลึง นามิ ก็พูดขึ้นว่า "ล้อเล่นน่ะ....โคคุโอะ....สัตว์ 5 หางในตำนาน....ไม่น่าเชื่อว่ามันจะมีอยู่จริง....." ทันใดนั้น ริวงะ ก็ประสานอินอีกครั้ง เขาพูดขึ้นว่า "Tsukuyomi!!" ดวงตาของ 5 หาง โคคุโอะ ก็กลายเป็นเนตรวงแหวน
มันดูกลืนร่างของ ฮาคุโอกิ ฮิเมะ ผู้ที่ใช้คาถาอัญเชิญนั้นเข้าไปในร่างของมัน แล้วคำรามเสียงดังสนั่น ระอองความร้อนแผ่พุ่งไปทั่ว "อึ๊ก!!....." ริวงะ ส่งเสียงร้องออกมาเล็กน้อย เขาหลับตาขวาของเขาลง เขาใช้มือกุมไว้ที่ศีรษะ ใบหน้าของเขาแสดงอาการเจ็บปวด เมื่ออาการเจ็บปวดลดลงแล้ว เขาเงยหน้าขึ้นยิ้ม "เอาล่ะ ผมว่าเราคุยกับมามากพอแล้ว ผมไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้....เข้ามาเลย..."
นามิ หรี่ตาลงเล็กน้อย "ดูเหมือนเราต้องแบ่งหน้าที่กันแล้วล่ะนะ....Slayer Vampire พวกคุณช่วยรับมือ โคคุโอะ ให้ทีก็แล้วกัน" จิโดริ และ เซย์มิ พยักหน้า ในขณะที่ โยโซระ มองหน้า นามิ แล้วพูดขึ้นว่า "เรามาทำให้มันจบๆ ลงตรงนี้กันเลยก็แล้วกันนะครับ...." โยโซระ และ นามิ ย่อตัวลงแล้วกระโดดข้ามหัวของ โคคุโอะ ไป พวกเขาลอยตัวเข้าโจมตีใส่ ริวงะ โดยตรง แต่ถูก ริวงะ ปัดออกไปได้ ริวงะ มองดู นามิ และ โยโซระ ที่กระโดดไปตั้งหลักข้างๆ กันที่ชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ระนาบเดียวกับตัวเขาแล้วแสยะยิ้มออกมา "อย่าหวังว่ามีกำลังเพียงเท่านี้แล้วจะล้มผมได้...คุณก็น่าจะรู้ว่าระดับความสามารถของเรานั้นมันต่างกันมาก ทำไมถึงคิดว่าจะชนะได้กัน?"
โยโซระ กำหมัดแน่นเขาเบิกเนตรวงแหวนพร้อมจักระที่แผ่พุ่งออกมาทั่วทั้งร่าง "เพราะว่าพวกผมต้องเอาชนะและล้มคุณลงให้ได้น่ะสิครับ" ในขณะที่ นามิ หยิบม้วนคำภีร์ออกมาแล้วกางออกก่อนจะปรากฏร่างของ Blood และ Plague "ตอนนี้พวกเราไม่ได้มีแค่ 2 คนแล้วนะครับ"
..............................
|
|
|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 28, 2016 16:33:16 GMT
การต่อสู้ที่ชั้น 1 ได้เริ่มต้นขึ้น
เมื่อ โคคุโอะ เริ่มพุ่งใส่ จิโดริ แต่เธอกระโดดหลบได้ทัน ทว่าละอองความร้อนที่แผ่พุ่งจากขา โคคุโอะ ที่เหยียบเข้ามานั้นรุนแรงมาก มันทำให้ร่างกายซีกซ้ายของ จิโดริ เกิดเป็นรอยไม้ขึ้นมาในพริบตา เธอกัดฟันด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่หน้าผากของเธอจะเกิดผลึกสีเขียว แผลของเธอเริ่มรักษาตัวเองกลับมาเป็นปกติ "ย๊าก!!!" จิโดริ ง้างหมัดจักระแล้วชกเข้าใส่ใบหน้าของ โคคุโอะ จนหน้าของมันสะบัด จังหวะนั้น เซย์มิ ก็งอกกรงเล็บแลวสะบัดปีกค้างคาวของเขาออกมา จากนั้นโผบินเข้าไปฟันใส่คอของ โคคุโอะ จบขาดสะบั้นในทีเดียว
เซย์มิ ร่อนลงมายืนข้างๆ จิโดริ ทั้งสองมองไปที่การต่อสู้ของ โยโซระ นามิ กับ ริวงะ ที่ชั้นสอง แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น จิโดริ เหลือบมาเห็นจึงรีบเตือน เซย์มิ "นี่นาย ดูนั่นสิ....นั่นมันอะไรกัน...." ที่พวกเขาเห็นคือ หัวของ โคคุโอะ ที่ขาด กำลังเชื่อมกลับเข้าที่ เมื่อมันเชื่อมหัวเข้ากับตัวเรียบร้อย มันก็พุ่งเข้าใส่ จิโดริ และ เซย์มิ ด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิมจนพวกเขาไม่สามารถหลบหลีกได้ทัน เซย์มิ ถูกหัวของ โคคุโอะ ขวิดจนกระเด็นทะลุกำแพงห้องไปอย่างแรง ในขณะที่ จิโดริ ถูก โคคุโอะ ใช้ขาเหยียบจนจมลงไปกับพื้น
โคคุโอะ ร้องคำรามสนั่นหวั่นไหว ก่อนที่ขาของมันจะถูกกระแทกขึ้นจนลอย จิโดริ ที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลลอยตัวตามขึ้นมา เธอชกเข้าใส่ โคคุโอะ ด้วยหมัดจักระจนมันเซไปอีกด้าน วินาทีต่อมา เซย์มิ ก็บินกลับมาด้วยความเร็วสูงและฟันเข้าที่ลำตัวของ โคคุโอะ แต่คราวนี้การโจมตีของทั้งสองกลับสร้างความเสียหายให้ โคคุโอะ ไม่ได้แม้แต่น้อย พวกเขาถูกหางมันฟาดใส่จนกลิ้งไปกับพื้น จิโดริ กัดฟันลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล "นี่มันตัวอะไรกัน....เราจะเอาชนะมันได้จริงๆ งั้นหรอ...." เซย์มิ ตอบขึ้นสั้นๆ ว่า "ผมไม่รู้เหมือนกัน"
และแล้วบางสิ่งก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อ โคคุโอะ อ้าปากของมันออก จากนั้นบอลจักระสีม่วงก็ปรากฏขึ้นที่ปากของมัน มันเป็นกระสุนสัตว์หาง เซย์มิ ทั้งท่ารับการโจมตี คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน "แย่ล่ะสิ....มันกำลังจะโจมตีเราด้วยลูกบอลจักระนั่น...เราจะต้านไหวรึเปล่านะ..." จิโดริ ไม่รอช้า เธอรีดเร้นจักระแล้วประสานอินทันที "คาถาไม้ กำแพงพฤกษา!!" กำแพงต้นไม้ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นขวางหน้าพวกเขา มันเป็นวินาทีเดียวกันกับที่ โคคุโอะ ปล่อยลูกบอลสีม่วงนั้นเข้าใส่ ทำให้มันกระทบกับกำแพงไม้ที่ จิโดริ สร้างขึ้นจนระเบิดอย่างแรง
แรงระเบิดทำลายบ้านลงทั้งหลังราบเป็นหน้ากลอง โยโซระ นามิ และ ริวงะ ก็ต้องกระโดดลอยตัวเพื่อหนีจากแรงระเบิดข้างล่าง
..............................
หลังจากที่บ้านทั้งหลังพังทลาย
การต่อสู้ระหว่าง โยโซระ นามิ กับ ริวงะ ก็ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ริวงะ ต้องรับมือการโจมตีที่รวดเร็วของ โยโซระ ปานสายฟ้า พร้อมๆ กับการโจมตีระยะประชิดจากร่างของ Blood และ Plague ที่ นามิ ควบคุม แต่เขาก็สามารถรับมือได้ไม่ยากเย็น จนถึงจังหวะที่ โยโซระ พุ่งเข้าประชิดด้วยหมัดสายฟ้า ริวงะ รับมันด้วยมือที่เคลือบด้วยเงาสีดำ ก่อนจะเตะใส่จน โยโซระ ปลิวออกไป จากนั้นเขาก็สร้างหอกสีดำขึ้นมาปัดการโจมตีจากดาบของ Plague และสร้างโล่เงาดำมารับหมัดของ Blood ที่มาจากอีกด้าน เขาสบัด Plague จนลอยออกพร้อมกับใช้โล่จับหมัดของ Blood เอาไว้จนมันระเบิดทำให้ Blood ลอยไปอีกด้าน ในวินาทีนั้น นามิ โผล่เข้ามาอยู่ข้างหลังพร้อมกับมีดที่อยู่ในมือ แต่ นามิ ต้องตะลึง เมื่อ ริวงะ ใช้ขาถีบกลับหลังทั้งที่ไม่ได้หันมามอง
ทั้ง โยโซระ และ นามิ กระเด็นออกมาด้วยสภาพที่สะบักสะบอม แม้จะยังไม่สามารถเข้าถึงตัวของ ริวงะ ได้เลย โยโซระ หลับตาของเขาลง "เอาล่ะ สงสัยเราจะต้องเปลี่ยนวิธีการโจมตีใหม่ซะแล้วล่ะ....ผมจะลองวิธีนี้ดูก็แล้วกันนะครับ...." จากนั้นไม่นาน โยโซระ ก็ลืมตาซ้ายขึ้น รูปร่างของเนตรวงแหวนก็เปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับพูดขึ้นว่า "Kuraokami!!"
ทันใดนั้น มังกรน้ำแข็งก็ปรากฎขึ้นต่อหน้า มันพุ่งเข้าใส่ ริวงะ ด้วยความเร็วในขณะที่ ริวงะ กำลังตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เขากระโดดหลบมังกรน้ำแข็งตัวแรกได้สำเร็จ แต่ก็ถูกมังกรน้ำแข็งพุ่งเข้าใส่เต็มๆ เขาใช้เงาสีดำกางขึ้นเป็นโล่ โง่เงานั้นก็ถูกแช่แข็ง ระหว่างที่กำลังกระโดดหลบมังกรน้ำแข็งอยู่นั้น ร่างของ Plague ก็พุ่งเข้าฟันเข้าใส่ลำตัวของ ริวงะ จนเกิดเป็นแผลลึกขึ้นที่ด้านขวา ตามด้วยการชกใส่จากอีกด้านโดยร่างของ Blood โดยคราวนี้เขาไม่ทันตั้งตัว เมื่อเกิดระเบิด แขนซ้ายของเขาก็ชุ่มไปด้วยเลือด วินาทีต่อมา เขาก็ถูกมังกร Kuraokami อีกตัวพุ่งเข้าชนใส่จากด้านหน้าเต็มๆ มันลากเขาไถลไปตามทางก่อนร่างทั้งร่างจะเป็นน้ำแข็ง
โยโซระ หลับตาซ้ายลง เขามีท่าทีที่เหนื่อยล้า ไม่ต่างไปจาก นามิ ที่ดึงร่างของ Plague และ Blood กลับมา ทว่ามันยังไม่จบเพียงเท่านั้น เมื่อน้ำแข็งที่กักขัง ริวงะ เกิดรอยริ้ว รอยร้าวนั้นมากขึ้น มากขึ้น จนในที่สุดมันก็แตกกระจายออก ริวงะ ยิ้มมุมปาก "ทำได้แค่นี้สินะ.....ถึงจะทำได้ดี แต่ก็ไม่ดีพอ......ดาราสวรรค์คืนพิภพ!!" ริวงะ ทำการประสานอินที่มือ จากนั้นมังกรน้ำแข็งที่ปะปนกับระเบิด รวมไปถึงรอยฟันจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากตัวของ ริวงะ มันพุ่งเข้าใส่ โยโซระ และ นามิ พวกเขาไม่สามารถหลบคาถาดาราสวรรค์คืนพิภพได้ มันสะท้อนพลังทั้งหมดของพวกเขากลับมาอย่างแรงทำให้เกิดระเบิดฟุ้งไปทั่ว
ริวงะ ค่อยๆ ถอดเสื้อสูทของเขาออกเพราะมันขาดจนไม่เหลือสภาพสวยงาม ก่อนจะเกิดอาการเจ็บปวดขึ้นที่ตาข้างซ้ายของเขาเฉียบพลัน
..............................
|
|
|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 28, 2016 16:34:50 GMT
ท่ามกลางซากอาคาร
จิโดริ และ เซย์มิ ค่อยๆ งัดซากปรักหักพังขึ้นมา ในขณะที่ โคคุโอะ กำลังตั้งท่าเพื่อเตรียมทำการโจมตีครั้งต่อไปใส่พวกเขา "ชั้นคิดอะไรบางอย่างออกแล้วล่ะ....ตอนฮิเมะ ใช้คาถาอัญเชิญน่ะ....ถ้าเธอหมดสติ คาถาก็จะคลายตัวลง" จิโดริ พูดขึ้น เซย์มิ จึงพยายามใช้ความคิด "ถ้าอย่างนั้นก็พอมีทางอยู่....ร่างของเจ้านั้นน่ะร้อนมาก แต่สามารถผ่านทะลุเข้าไปด้านในได้" "หากคุณหยุดการเคลื่อนไหวของมันได้ ด้วยร่างกายของผม คาดว่าจะสามารถทนฝ่าความร้อนภายในแล้วพาเพื่อนคุณออกมา" "แต่ถ้าหากเราไม่สามารถเรียกสติเธอกลับมาได้แล้วล่ะก็.....ผมอยากให้คุณเข้าใจก่อนว่า...ผมอาจจำเป็นต้องฆ่าเพื่อนคุณ..."
จิโดริ ดูเหมือนไม่มีทางเลือก เธอจึงตอบตกลง จากนั้นเธอก็เพ่งสมาธิไปที่ โคคุโอะ เพียงเสี้ยววินาทีที่ โคคุโอะ กระโจนเข้าใส่ จิโดริ ใช้หมัดของเธอชกลงไปที่พื้นตรงหน้า ก่อนที่รากไม้ขนาดใหญ่จะโผล่ขึ้นขัดขาของ โคคุโอะ จนล้มและกลิ้งกระดอนตามพื้น ระหว่างที่มันกระเด็นชนซากปรักหักพังและลอยขึ้น รากไม้อีกจำนวนขึ้นก็พุ่งขึ้นมารัดเอาขาทั้งหมดของมันเอาไว้ได้ทัน โคคุโอะ มีท่าทีขัดขืน มันพยายามจะฉีกรากไม้ แต่ จิโดริ ก็ไม่ยอมง่ายๆ เธอเพิ่มจักระเข้าใส่สร้างรากไม้ขึ้นมารัดเพิ่มเติม "ตอนนี้แหละ....ชั้น....รั้งมัน....เอาไว้....ได้อีกไม่นาน....ลุยเลย Vampire!!" จิโดริ พูดอย่างกระท่อนกระแท่น
เซย์มิ กระพือปีกแล้วพุ่งเข้าทะลุร่างของ โคคุโอะ เข้าไป "อ้าก!!!!" เขาร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดขณะพยายามบินฝ่าเข้าไปในตัวศัตรู เซย์มิ พุ่งหายเข้าไป ก่อนที่เขาจะทะลุผ่านออกจากแผ่นหลังของ โคคุโอะ ด้วยร่างที่พุพอง ในอ้อมแขนของเขามีร่างของ ฮิเมะ อยู่ "คุณฮิเมะ....คุณฮิเมะ!! ได้สติซะทีเถอะ!!" เซย์มิ ที่ร่อนอยู่พยายามเรียกสติของ ฮิเมะ ที่นัยน์ตาเป็นเนตรวงแหวนลืมตาค้างเติ่งอยู่ เขากัดฟันในในขณะที่ โคคุโอะ สลัดหลุดจากรากไม้แล้วพุ่งเข้าใส่ จิโดริ ทำให้ เซย์มิ ไม่มีทางเลือกเขางอกกรงเล็บขึ้นมาจี้ที่คอ ฮิเมะ "ผมขอโทษนะ คุณฮิเมะ!!!" เซย์มิ หลับตาหลบด้วยความเจ็บใจ แต่ก่อนที่เขาจะแทงใส่ลำคอเพื่อปลิดชีพ ฮิเมะ นั้นเอง "คะ!!!....."
เสียงของ ฮิเมะ พูดขึ้นแล้วหมดสติไป พร้อมกับการหายวับไปของ โคคุโอะ 5 หาง Vampire ค่อยๆ ร่อนลงอย่างหมดสภาพ จิโดริ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอรีบวิ่งไปดู ฮิเมะ แล้วเช็คอาการ "ดูเหมือนแค่สลบไป....ค่อยยังชั่วไปที....ฝากดูแล ฮิเมะจัง ด้วยนะคะ" เซย์มิ ที่มีอาการบาดเจ็บสาหัสเอะใจขึ้นมา จึงถามขึ้นว่า "หมายความว่ายังไงกัน Slayer....หรือว่าเธอคิดที่จะ....." จิโดริ ยิ้มแล้วพยักหน้า "ใช่แล้วล่ะค่ะ....ชั้นจะไปช่วย โยโซระ....เพราะชั้น....สัญญาเอาไว้แล้วว่าจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไปน่ะ...."
..............................
จิโดริ เข้ามาร่วมในการต่อสู้
เธอค่อยๆ ประคอง โยโซระ ให้ลุกขึ้น เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก จิโดริ จึงไม่รอช้าที่จะใช้จักระของเธอในการรักษาเขา นามิ เองก็ได้รับบาดเจ็บ แต่เขาหันมาด้วยการยิ้มที่มุมปาก "ผมรู้ความจริงบางอย่างที่เป็นวิธีเอาชนะ Hades แล้วล่ะครับ..."
โยโซระ และ จิโดริ ก็ต้องประหลาดใจ นามิ จึงอธิบาย "ทุกครั้งที่หมอนั่นใช้ความสามารถจากเนตรวงแหวน หมอนั่นจะได้รับบาดเจ็บ" "นั่นก็แปลว่า ถ้าเราบีบให้หมอนั่นใช้พลังจากเนตรวงแหวนจนถึงขีดจำกัดแล้วล่ะก็....เราก็จะสามารถโค่นหมอนั่นลงได้อย่างแน่นอน" "ถึงแม้ว่าหมอนั่นจะกินเปลือกผลจักระเข้าทั้งหมดแล้วแจกจ่ายจักระให้พวกผมในปริมาณที่น้อยนิด ทำให้ไม่มีทางต่อกรกับเขาได้ก็ตาม" "แต่เท่าที่ผมเห็นตอนนี้คือ การใช้เนตรวงแหวนทั้งที่ไม่ได้เป็นเจ้าของเนตรนั้นมาโดยกำเนิดจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงขึ้น" "และสิ่งนั้นดูเหมือน ไอริส จะรู้ดีตั้งแต่ต้นแล้ว มันจึงเป็นเหตุผลที่เธอยอมมอบเนตรวงแหวนให้แก่ Hades...." "ตอนนี้ผมต้องมองการตัดสินใจของ ไอริส ในเรื่องนี้ใหม่เสียแล้ว....เธอไม่ได้ทำให้เขาแข่งแกร่งขึ้น แต่ทำให้เขามีจุดอ่อน..."
ว่าแล้ว นามิ ก็รวบรวมพลังจักระทั้งหมดแล้วเปิดผ้าคลุมสีดำของเขาออก ทำให้เห็นร่างที่แท้จริงของเขา ร่างของเขาเป็นเหมือนหุ่นยนต์ จากนั้น เขาเปิดฉากโจมตี ริวงะ ด้วยการควบคุมร่างของ Blood และ Plague นามิ ใช้สมาธิเร่งความเร็วการโจมตีให้เต็มพิกัดของเขา Plague ใช้ดาบฟันเข้าใส่ ริวงะ ในขณะที่ ริวงะ ใช้หอกเงาสีดำขึ้นมากัน แต่ดาบของ Plague นั้นได้ดื่มเลือดของ ริวงะ ไปแล้ว มันคมกริบจนสามารถฟันหอกสีดำจนขาดสะบั้น แล้วยังฟันใส่อย่างต่อเนื่องทำให้ ริวงะ กัดฟันแน่น เขาจึงสร้างหอกสีดำที่ใหญ่ขึ้นกว่าเก่า จากนั้นก็ปาเข้าใส่หน้าอกของร่าง Plague จนกระเบิดกระจายกลายเป็นฝุ่นผง ต่อมาคือการโจมตีของ Blood ที่เป็นหมัดระเบิด ริวงะ รู้ดีว่าเขาไม่สามารถสัมผัสกับหมัดของ Blood ได้ เขาจึงสร้างแผ่นเงาสีดำขนาดใหญ่คลุมตัวของ Blood ทั้งร่างเอาไว้ จากนั้น ร่างของ Blood ก็ระเบิดภายในการห่อหุ้มด้วยเงา เมื่อแผ่นนั้นคลายตัว ร่างของ Blood แตกกระจายเป็นชิ้นไม่เหลือรูปร่างเดิม
นามิ สบัดเส้นจักระทิ้งไปแล้วยกแขนสองข้างขึ้น ข้อมือของเขาเปิดออกกลายเป็นกระบอกปืนยาว ปากของเขาอ้าออกเป็นช่องปืนใหญ่ ลำตัวของเขาแหวกกลางแล้วเปิดออกข้าง กลางลำตัวมีเป็นรูขนาดเล็กรวมทั้งหมดกว่า 30 รู มันเหมือนช่องยิงจรวดมิซไซล์ขนาดเล็ก และสุดท้ายแผ่นหลังของเขาก็มีก้านสีเงินชูขึ้นพร้อมใบเลื่อยที่เป็นจานกงจักร มันเริ่มหมุนด้วยความเร็วที่สูงจนเกิดเสียงสั่นสะท้านไปทั่ว "เอาล่ะ รับนี่ไปซะ!!" นามิ พูดด้วยเสียงที่เหมือนหุ่นยนต์ จากนั้นกระสุนจักระจำนวนมากก็ถูกยิงออกจากปากและข้อมืดของเขา ตามไปด้วยจรวดจักระที่ออกจากช่องตามลำตัว ประกอบกับกงจักรโลหะที่ถูกเหวี่ยงออกไปให้หมุนโค้ง มันทำให้ ริวงะ ต้องลำบาก
"ดาราสวรรค์ระเบิดพิภพ" ริวงะ พูดขึ้นก่อนที่จะโยนลูกบอลดำๆ ขึ้นเหนือหัวและมันดูดกลืนการโจมตีทั้งหมดของ นามิ เข้าไว้ด้วยกัน จากนั้น ริวงะ ก็ประสานอินอีกครั้ง "ดาราสวรรค์คืนพิภพ!!" การโจมตีที่ถูกดูดรวมไว้ก็ปล่อยกลับคืนมาใส่ นามิ เขาไม่มีทีท่าจะลบ นามิ ยิ้มอย่างพอใจ "นี่แหละที่ต้องการ" จิโดริ เห็นเช่นนั้น เธอจึงปล่อยการรักษา โยโซระ แล้วสร้างกำแพงไม้ขึ้นมาขวางกั้นทันที กำแพงไม้ถูกทำลายภายในพริบตา แรงปะทะและแรงระเบิดทำให้ นามิ ถูกซัดกลิ้งไปไกลกับพื้น เขาหมดสภาพในการต่อสู้ทันที ริวงะ ยิ้มมุมปาก "เอาล่ะทีนี้ก็เหลือแค่เธอสองคนแล้วสินะ.....อึ๊ก!!!" เขาพูดยังไม่จบดี อาการเจ็บปวดที่ตาทั้งสองข้างก็กำเริบอีกครั้ง
..............................
|
|
|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 28, 2016 16:35:48 GMT
ในช่วงที่ ริวงะ ไม่ทันตั้งตัวนั้นเอง
โยโซระ พุ่งเข้าประชิดตัว ริวงะ ด้วยหมัดจักระ เขาชกเข้าใส่เต็มลำตัวจน ริวงะ กระเด็นถอยหลัง แล้วเขาก็ตามเข้าซ้ำต่อเนื่อง ริวงะ ถูกคอมโบหมัดจักระสายฟ้าของ โยโซระ ชกกระเด็นกระดอนไปมาจนเขาเริ่มกระอักเลือด แต่ในที่สุดเขาก็ดึงสติกลับมาได้ "จะมากเกินไปหน่อยแล้ว...คุโรฮิซึจิ!!" ริวงะ ยกฝ่ามือไปที่ร่างของ โยโซระ ทำให้ร่างของ โยโซระ ก็ถูกปกคลุมด้วยเงาดำเฉียบพลัน
ท่ามกลางความตกตะลึงของ จิโดริ และรอยยิ้มอย่างมีชัยของ ริวงะ เสียง โยโซระ ก็พูดขึ้นในโลงศพสีดำ "Susano'O" สิ้นเสียงของ โยโซระ โลงศพสีดำก็แตกสลาย และสิ่งที่อยู่ภายในมันเป็นร่างขนาดใหญ่ของอัศวินสายฟ้า Susano'O
ริวงะ รีบกระโดดถอยออกมาตั้งหลัก เขาขมวดคิ้วด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนที่หลังจักระมหาศาลทั้งหมดที่เขามีจะระเบิดออกมา แรงดันของจักระของ ริวงะ นั้นรุนแรงมาก มันโค่นต้นไม้ที่อยู่ในพื้นที่ของตัวบ้านราบเป็นหน้ากลาง และแหวกเมฆบนฟ้าออกเป็นโพรง "ไม่น่าเชื่อ......ว่าคุณจะสามารถใช้พลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้......ถ้าเดาไม่ผิดแล้วล่ะก็....มันคงเป็นพลังที่ได้มาจาก ไอริส อย่างนั้นสินะ" "ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมก็จะแสดงพลังที่แท้จริงทั้งหมดที่ผมมีให้คุณเห็น และใช้มันในการกำจัดคุณเสียให้สิ้นซาก....เตรียมใจรับมันเอาไว้ให้ดี" จักระทั้งหมดลอยลงมาล้อมรอบตัว ริวงะ แล้วแปลงสภาพกลายเป็นหอก 2 ง่าม ของเทพแห่งความตาย Hades จำนวนนับพันอัน
จากนั้น ทั้งสองก็โจมตีเข้าใส่กัน โยโซระ สร้างดาบสายฟ้าขึ้นมาแล้วให้ Susano'O ถือ เขาแทงมันออกไปขณะเข้าปะทะ ทางด้าน ริวงะ ก็สั่งให้หอกสีดำจำนวนนับพันทั้งหมดพุ่งเข้าโจมตี Susano'O ที่กำลังพุ่งสวนเข้ามา และการปะทะก็เกิดขึ้น หอกสีดำค่อยๆ พุ่งชนใส่ Susano'O จนทำให้ร่างของ Susano'O แตกสลายออกไปทีละนิด ระหว่างที่มันเข้าใกล้เรื่อยๆ สภาพที่เห็นเหมือน Susano'O กำลังพุ่งสวนเพื่อผ่าดงกระสุนที่เป็นหอกสีดำ และสระแสของหอกนั้นไม่มีทีท่าว่าจะจบลงเลย จนในที่สุดดาบของ Susano'O ก็ถึงตัวและแทงเข้าใส่ ริวงะ จนเขาปลิวกระเด็น แต่ทาง Susano'O เองก็ระเบิดกระจายไปเช่นกัน
โยโซระ ถูกแรงระเบิดจนตกกระแทกและจมลมในกองดินลึกลงไปในพื้นข้างๆ จิโดริ ส่วนทางด้าน ริวงะ ยังสามารถลุกขึ้นมาได้ แม้สภาพเขาจะดูไม่ดีนักก็ตาม เขาสร้างหอกสีดำขึ้นมาถือไว้ในมือ "อ้าก!!!!" ยังไม่วายที่อาการปวดดวงตาจะกำเริบขึ้นอีกครั้ง โยโซระ ลุกขึ้นมายืนข้างๆ จิโดริ เขามองหน้าเธอ "เอาล่ะ....ชั้นว่าเจ้าหมอนั่นก็ใช้จักระไปจนแทบไม่เหลือแล้วเหมือนกันล่ะนะ" จิโดริ พยักหน้า "นายยังไหวอยู่ใช่มั้ย โยโซระ...." โยโซระ พยักหน้า "ไปจบเรื่องนี้กัน จิโดริ!!" ทั้งคู่จับมือกันกระโดดพุ่งตัวออกไป
ริวงะ รับมือจากการโจมตีระยะประชิดของ จิโดริ และ โยโซระ พร้อมๆ กัน เขาไม่สามารถหลบมันได้อย่างเช่นตอนแรกแล้ว ทำให้เขาเริ่มโดนหมัดของทั้งสองคนโจมตีเข้าส่วนต่างๆ ของร่างกาย ริวงะ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนอาการบาดเจ็บของเขามากขึ้่นเรื่อยๆ และจังหวะนั้น จิโดริ กระโดดลอยตัวขึ้นสูงก่อนปล่อยหมัดจักระเฮือกสุดท้ายของเธอเขาใส่ ส่วน ริวงะ ก็ยกแขนซ้ายขึ้นมากัน "กร๊อบ..." เสียงกระดูกแขนที่แตกหักจนแทงทะลุเนื้อออกมาดังขึ้นชัดเจน ตามมาด้วยการกระโดดชกของ โยโซระ ทว่าคราวนี้ ริวงะ ปาหอกออกไป หอกนั้นแทงทะลุตัว โยโซระ นัยน์ตาของ โยโซระ เบิกโพรง ปากเขาอ้าอ้าง มันสร้างรอยยิ้มแห่งชัยชนะให้ปรากฏบนใบหน้า ริวงะ อีกครั้ง
"พันปักษา!!" ............... ซึ่บ!!!................. สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นมือ ริวงะ ถูกพันปักษาแทงเข้าจากด้านหลังตรงหัวใจพอดี
ร่างของ โยโซระ ที่โดนหอกแทง เริ่มกลายสภาพเป็นน้ำแข็งกลางอากาศ จากนั้นก็ระเบิดกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยหายไป ริวงะ ค่อยๆ หันกลับหลังมาเขาก็พบว่าเขายืนอยู่หน้าหลุมดินที่ โยโซระ พุ่งจมหายไป "บ่ะ....บ้าน่ะ....คาถา....แยกเงา....น้ำแข็ง...." "มัน....มี...คาถา....แบบนี้....อยู่ด้วย.....งั้นหรอ....." ริวงะ พูดอย่ากระท่อนกระแท่น ในขณะที่ โยโซระ ดึงมือออกจากร่างของ ริวงะ "มันจบแล้ว....ความฝันของคุณน่ะ....จบลงเท่านี้ล่ะ....." โยโซระ พูดขึ้น และนั่นคือประโยคสุดท้ายที่ ริวงะ ได้ยินก่อนสิ้นใจตาย
"พี่มายูมิ....เรื่องทั้งหมด....มันจบลงแล้วนะครับ........" โยโซระ เงยหน้ามองดวงจันทร์แล้วพูดขึ้น ในขณะที่ จิโดริ โผเข้ามากอดเขาเอาไว้
..............................
|
|
|
Post by ❀ Senjumaru ❀ on Nov 28, 2016 16:38:13 GMT
10 ปีต่อมา (ถ้าแค่ 5 ปีจะเจอผึ้งแทน)
นายตำรวจสวมแว่น เส้นผมสีเทาควันบุหรี่กำลังไล่จับคนร้ายมีอาวุธปืนอยู่ เขาวิ่งตามไปในขณะที่คนร้ายหันกลับมายิงใส่ "บ้าเอ้ย!!......ถ้าเข้ามุมลับตาคนแล้วล่ะก็แกเสร็จชั้นแน่ล่ะ" นายตำรวจหนุ่มคนนั้นกัดฟันอย่างเจ็บใจ จนคนร้ายวิ่งเข้ามุมอับ "ดีล่ะ!!" เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก ก่อนที่เขาจะสะบัดกรงเล็บยาวและคมกริบออกมาขณะวิ่งตามคนร้ายเข้าไปในตรอก
ทว่าเมื่อเขาวิ่งพ้นมุมตรอกเข้ามา สิ่งที่เขาเห็นคือ มีลูกกรงขนาดใหญ่ครอบตัวคนร้ายรายนั้น แล้วอาวุธปืนก็ไม่อยู่ในมือเขาแล้ว บนลูกกรงเหล็กมีตำรวจสาวคนหนึ่งนั่งไขว่ห้างถือปืนมองลงมาที่เขา "สิบตรีนาโอกิ เซย์มิ....คุณช้าไปนะคะ ทีหลังต้องไวกว่านี้" เซย์มิ ยิ้มโดยมุมปากของเขากระตุกๆ "ก็ไหนเราตกลงกันแล้วว่าจะไม่ใช้จักระในการจับกุมคนร้ายไงล่ะร้อยโทฮาคุโอกิ"
ฮาคุโอกิ ฮิเมะ กระโดดลงมายิ้มอย่างน่าเอ็นดูแล้วเดินผ่านเขาไป "แต่ดิชั้นว่าคุณก็กำลังจะใช้จักระเหมือนกันนะคะ คุณเซย์มิ..." เซย์มิ สะอึกขึ้นทันที เพราะเขาเพิ่งรู้ตัวว่าเขาลืมเก็บกรงเล็บของเขา ฮิเมะ จึงพูดต่อว่า "อย่าลืมใส่กุญแจคนร้ายมือด้วยนะคะ" "คนร้ายรายนี้ดิชั้นจะยกให้เป็นเครดิตของคุณก็แล้วกันค่ะ....ชั้นจะบอกกับผู้กำกับนามิ โคบายาชิ ว่าคุณจับคนร้ายได้ด้วยตัวเอง" เซย์มิ ทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อย "จะทำแบบนี้ทำไมกันหรอครับ?" ฮิเมะ หันมายิ้ม "ก็คุณต้องเลี้ยงข้าวดิชั้นเป็นการตอบแทนยังไงล่ะ"
..............................
โรงเรียนแห่งหนึ่ง กรุงโตเกียว
มันเป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว แต่ห้องเรียนห้องหนึ่งอาจารย์กำลังทำการสอนเรื่องคุณธรรมความดีให้กับนักเรียนจนเกินเวลาการสอน ระหว่างที่อาจารย์หนุ่มเส้นผมสีดำรูปร่างปราดเปรียวกำลังสอนอย่างสนุกสนานท่ามกลางใบหน้าอันเหนื่อยหน่ายของลูกศิษย์ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ทำให้เขาต้องหยุดการสอนลง อาจารย์หญิงเส้นผมสีเขียวที่มาเคาะห้องพูดขึ้นว่า "เลิกเรียนแล้ว ทุกคนกลับได้จ้า"
อาจารย์หนุ่มตกใจจนเหลือบดูนาฬิกาข้อมือ "ไอหยา สอนเกินเวลาอีกจนได้แฮะ ถ้า จิโดริ ไม่มาเตือนเนี่ย ชั้นคงสอนเลยเป็นชั่วโมงแน่เลย" อาจารย์สาวจิโดริ เดินเข้าเขายืนข้างๆ อาจารย์หนุ่ม แล้วปัดฝุ่นชอล์คที่ไหล่เขาเบาๆ "โยโสะ ก็เป็นแบบนี้ทุกทีสิน่า สอนไม่เคยดูเวลาเลย" อาจารย์หนุ่มคนนั้นก็คือ โยโซระ ของเรานั่นเอง เขาเกาหัวตัวเองเบาๆ "ว่าแต่ จู่ๆ ก็เดินเข้ามาแบบนี้ มีอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า...จิโดริ?"
ทันใดนั้น โยโซระ ก็สัมผัสได้ถึงจิตรสังหารอันแรงกล้าของ จิโดริ "นี่นายอย่าบอกนะว่านายลืมว่าวันนี้เป็นวันอะไร!!..........?" เมื่อได้ยินเท่านั้น สีหน้า โยโซระ ก็ซีดเหลือแค่ 2 นิ้ว "ชิหายล่ะ....วันนี้เป็นวันเกิดของยูกิจัง....ยังไม่ได้ซื้อของขวัญเอาไว้เลยด้วย!!"
....โครม!!..... ร่างของ โยโซระ ลอยทะลุหน้าต่างอาคารเรียนชั้นที่ 3 ออกมา พร้อมเสียงตะโดนของ จิโดริ "ริอาจลืมวันเกิดลูกหรอเฮาะ!!!"
"ถึงแม้ความเศร้าโศกเสียใจ เรื่องเลวร้ายมากมาย....จะเกิดขึ้นกับผม.....และผมไม่อาจจะลืมสิ่งเหล่านั้นไปได้....."
"แต่ผมก็เลือกที่จะก้าวเดินต่อไป....ใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีที่สุด....เพราะมันยังมีสิ่งที่ดีงามและแสนสุขรออยู่อีกด้านหนึ่งเสมอ...." The End...
Thanks For ReadingPlotted by Senjumaru
Written by Senjumaru
Characters
Takatsuki Yozora - helel666 Shirasaki Jidori - feliona Mizunashi Yuki - Saito Kokuo Sebastian - tonklaaaaaawow Masakiyo Mirosumi - eisengard Miura Ayano - Senjumaru Hakuoki Hime - aranea Hayano Rika - C.C.Quinn Uchiha Raiha - leaver She Man - dendu Jindai Ryuga - Saraphina Iris (Takatsuki Mayumi) - Senjumaru Kamisato Mitsuha - revolverknight Olelov Nagasa - kiwada Kobayashi Nami - cptalex Sao - lidynamasaki Naoki Seymi - Niruma ณ จังงัง
|
|